Chapter 130 อัญเชิญ สัญลักษณ์ฟ้าดิน.
ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง ตำหนักฉางเซี่งเตียน.
เข้าตรู เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนมากและกองกำลังทหารที่ยืนตั้งแถวเป็นสองแถว.
ในเวลานี้ แม่ทัพหยิงหลานที่ก้าวเข้ามาตรงกลาง.
"เหนือหัว เหล่าอาณาจักรต้าคุนที่แตกพ่ายตอนนี้ถูกกำราบเรียบร้อยแล้ว อาณาจักรต้าเจิ้งของพวกเรามั่นคงเป็นปึกแผ่นแล้ว ตอนนี้พวกเราพร้อมแล้วที่จะรวมอาณาจักรทั้งห้าเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวแล้ว."หยิงหลานที่กล่าวออกมาด้วยความอ่อนโยน.
ร่างแยกเงาของจงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ จ้องมองไปยังหยิงหลาน เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล "อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนเวลานี้ยังไม่มั่นคง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เจ้าจงไปฝึกฝนทหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น.
"แต่ว่า"หยิงหลานที่เอ่ยออกมาในทันที.
ในเวลาเดียวกัน จงซานก็ขมวดคิ้วไปมา สายตาของเขาที่จ้องมองไปรอบ ๆ ห้องโถงในทันที.
"ออกไปด้านนอกให้หมด."จงซานที่ออกคำสั่งออกมาทันที.
ออกไปให้หมดอย่างงั้นรึ? เหล่าข้าราชบริพารต่างก็จ้องมองมายังจงซานด้วยท่าทางตื่นตะลึง เกิดอะไรขึ้น?ให้ออกไปด้านนอกให้หมดเลยรึ? ไม่คิดที่จะบอกกล่าวเลยรึ?
เหนือหัวเวลานี้กำลังเข้าใจอะไรผิดหรือผิดสำแดงหรือไม่?
"หยิงหลาน รับคำสั่ง."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"รับด้วยเกล้า."หยิงหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคารพ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าด้วยท่าทางของกู่เหยี่ยเยี่ยเปลี่ยนไปในทันที นางเข้าใจได้ว่าเกิดเรื่องสำคัญบางอย่างขึ้น.
"ให้องค์รักษ์ทุกนายประจำการล้อมรอบตำหนักแห่งนี้เอาไว้ ให้ทุกคนรออยู่ด้านนอกตำหนักทั้งหมด หากใครกล้าก้าวเข้ามา สังหารอย่าได้ปราณี."จงซานที่ออกคำสั่งออกไปอย่างรวดเร็ว.
เมื่อทุกคนที่ได้ยินคำพูดของจงซาน พวกเขาไม่เข้าใจคำสั่งของหวงตี้พวกเขาเลย.
"ค่ะ "หยิงหลานที่รับคำสั่งในทันที.
หลังจากนั้นเหล่าราชบริพารทั้งหมดก็ออกไปจากห้องโถงทั้งหมด หยิงหลานที่จัดการจัดทีมปกป้องตำหนักเอาไว้ มีทหารประจำการกว่า ครึ่งหนึ่งรอบ ๆ กำแพงตำหนังเลยทีเดียว.
ห้องโถงหลัก ร่างแยกเงาที่นั่งอยู่บนกำแพง สะบัดมือหนึ่งครั้ง นำตราลัญจกรหยกครรลองเก้ามังกรสวรรค์และโองการฟ้าออกมา.
สิ่งของดังกล่าววางอยู่ในมุมมืด คิดอีกคราหนึ่ง เขาได้ตัดแขนสร้างโลหิตใส่ลงไปในชาม ก่อนที่จะมองไปยังรอบ ๆ ร่างกายที่เปลี่ยนเป็นร่างเงาและจมลงใต้พื้นดิน จากนั้นก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วไปยังทิศทางหนึ่งหลบไปจากตำหนักเฉิงซ่างเตียน.
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง รอบ ๆ ประตูเมือง ต่างก็เงียบ ทุกคนต่างก็รอคอยอะไรบางอย่าง แม้แต่เหว่ยไท่จง ยังถูกไล่ออกมาด้านนอก ทุกคนตอนนี้อยู่ด้านนอกกำแพงเมือง ต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่มีใครรู้ว่าหวงตี้ของพวกเขาต้องการทำอะไร?
ที่ด้านนอกตำหนักนั้น หยิงหลานที่ทำการตรวจตราพื้นที่รอบ ๆ เมื่อเหล่านายทหารมองเห็นแม่ทัพหยิงหลาน ทุกคนต่างก็เผยท่าทางเคารพเป็นอย่างมาก แม่ทัพลำดับสองของราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง หยิงหลานนั้น ด้วยทักษะในการรบของนาง ที่ได้แสดงออกมานั้น ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าทักษะของหลินเซียวแม่ทัพลำดับหนึ่งเลย.
หยิงหลานที่นำคนตรวจตราไปยังประตูทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศใต้ของตำหนัก ที่แห่งนั้นมีเหว่ยไท่จงที่นำกลุ่มขันทีรอคอยอยู่.
เห็นหยิงหลานเดินมา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของเหว่ยไท่จงก็เปลี่ยนไปมีความสุขและอ่อนโยนในทันที.
"แม่ทัพหยิงหลาน."เหว่ยไท่จงที่เดินออกมาในทันที.
"หืม ขันทีเหว่ย?"หยิงหลานที่จ้องมองไปยังเหว่ยไท่จง ตลอดหนึ่งปีที่ทำงานร่วมกันมา หยิงหลานสามารถมองเห็นความหวังดีของเขาได้ โดยเฉพาะความปรารถนาดีที่มีต่อนางมากกว่าใคร ๆ .
"แม่ทัพหยิงหลาน ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าต้องการฉากกั้นรูปปะการังหมื่นปี ข้าได้ทำการร้องขอกับคนรู้จัก อีกไม่กี่วันก็จะส่งไปยังตำหนักของท่านแล้ว."เหว่ยไทจงที่กล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน.
"จริง ๆ รึ? เช่นนั้นต้องของคุณขันทีเหว่ยแล้ว."หยิงหลานที่กล่าวออกมาด้วยความดีใจ.
เห็นท่าทางดีใจของหยิงหลานแล้ว เหว่ยไท่จงก็เผยยิ้มอย่างพึงพอใจ ขอเพียงแค่หยิงหลานมีความสุข เขาก็มีความสุขเช่นกัน.
ขณะที่หยิงหลานและเหว่ยไท่จงกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ที่ตำหนักเฉิงซ่างเตียนของราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งนั้น ทันใดนั้นบนอากาศก็มีคนสามคนหนึ่งหมาป่า ซึ่งเป็นจงซานที่นำจือจุ้นเผ่าหมาป่า ชิงอวิ๋นหลางเจียงพร้อมกับหมาป่าน้อยเซียนเซียน มาถึงตำหนักเฉิงซ่างเตียนแล้ว.
แม้ว่ามาถึงตำหนักซ่างเฉิงเตียน ชิงอวิ๋นหลางเจียงก็ยังคงคุกเขาอยู่เช่นเดิม ทุกคนที่ได้ออกไปแล้ว จงซานที่ก้าวไปยังมุมมือแห่งหนึ่ง พร้อมกับนำแก่นโลหิตใส่เข้าไปในกำไลเก็บของ พร้อมกับหยิบตราลัญจกรหยกครรลองเก้ามังกรสวรรค์และโองการฟ้าขึ้นมา พร้อมกับถือมันเอาไว้ในมือ.
จือจุ้นเผ่าหมาป่าที่จ้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็จ้องมองไปยังจงซาน.
"เจ้าให้เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาเตรียมการเอาไว้ทั้งหมดได้อย่างไร?"จื่อจุ้นที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
เพราะว่าจื่อจุ้นสามารถมองเห็นได้ ว่ามีคนมากมายที่เตรียมการอยู่ด้านนอก ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังรอคอยอยู่ด้านนอก หมายความว่าอย่างไรกัน?
"ต้องขออภัยอาวุโสด้วย เรื่องนี้เป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้เยาว์."จงซานที่เอ่ยปากออกมา เขาไม่สามารถบอกออกมาได้ว่าเขาเตรียมการได้อย่างไร เขาไม่สามารถบอกการมีอยู่ของร่างแยกเงาได้.
"โอ้ว?"จื่อจุ้นที่ค่อนข้างประหลาดใจเป็นอย่างมากจ้องมองไปยังจงซาน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขามีความน่าสนใจมากขึ้นและก็มากขึ้น.
"อาวุโส นี่คือโองการฟ้า โปรดยล."
จากนั้น จงซานก็คลี่โองการฟ้าออกมาช้า ๆ เป็นรูปลักษณ์ของไหมเก้าสีต่อหน้าของจื่อจุ้น.
โองการฟ้าที่ถูกเปิดออก จื่อจุ้นที่จ้องมองไปยังตำแหน่งของจงซาน.
"จงซาน?โอ้ว?"จื่อจุ้นที่อ่านชื่อของจงซานและแสดงท่าทางประหลาดใจ.
"ตราประทับนี้?"จื่อจุ้นที่ตื่นตะลึงเมื่อเห็นตราประทับขนาดใหญ่.
รับโองการสวรรค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!
[***受命于天,即寿永昌Shòumìng yú tiān jì shòu yǒngchāng แปลเป็นไทยได้ว่า “รับโองการสวรรค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”**]
อักขระแปดตัว แปดตัวอักษรที่ทรงพลัง ทันใดนั้นจือจุ้นชำเลืองมองตาค้างเลยทีเดียว.
จงซานที่ชำเลืองมองด้วยความประหลาดใจกับสายตาของจื่อจุ้น.
"เจิ้ง เห็นได้ชัดเจนว่านี้คือราชวงศ์กษัตริย์ ทำไมตราประทับของเจ้า ถึงมีลักษณะเหมือนกับราชวงศ์จักรพรรดิด้วยล่ะ? ไม่ใช่ ไม่น่าใช่ ราชวงศ์ของเจ้ายังคงอ่อนแอ โชควาสนาของประเทศนี้ยังคงมีน้อยอยู่ เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีตราประทับของจักรพรรดิกัน? ทำไมตราประทับโองการฟ้าของเจ้า ถึงได้มีกลิ่นอายของราชวงศ์จักรพรรดิกัน?"หวงตี้ที่รู้สึกแปลกประหลาดกับตราประทับเป็นอย่างมาก.
ได้ยินคำพูดของจื่อจุ้นทำให้ดวงตาของเขาส่องประกายแสงวับวาว ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามังกรเก้าตนที่กำลังไขว่คว้ายึดครองมุกลูกหนึ่ง น่าจะเป็นมุกสีแดงนั่นอย่างแน่นอน.
"ข้าขอดูตราลัญจกรหยกครรลองเก้ามังกรสวรรค์ของเจ้าหน่อย."จื่อจุ้นที่กล่าวต่อจงซาน.
เขาที่จ้องมองไปยังจื่อจุ้นก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาอย่างนุ่มนวล "นี่คือตราลัญจกรหยกครรลองเก้ามังกรสวรรค์ ตราราชวงศ์ของผู้เยาว์ ทว่านอกจากข้าแล้ว คนอื่น ๆ ไม่สามารถสัมผัสมันได้."
ได้ยินคำพูดของจงซานแล้วจื่อจุ้นก็ตกใจเล็กน้อย.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"ทันใดนั้นจือจุ้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง.
"ดี ข้าเห็นแล้ว ข้าจะตั้งตารอราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งของเจ้า."จื่อจุ้นที่เผยยิ้มออกมาอย่างตรงไปตรงมา.
ได้ยินคำพูดของจื่อจุ้นเช่นนั้นจงซานก็รู้สึกเบาใจเล็กน้อย ที่จริงภายในใจเขานั้นเต็มไปด้วยความวิตกกังวล.
เกี่ยวกับจงซานนั้น จื่อจุ้นรู้สึกสนใจเขาขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเห็นพรสวรรค์ทางร่างกายของจงซานที่ย่ำแย่ ทำให้เขาไม่สบอารมณ์อยู่เหมือนกัน ทว่าเซียนเซียนกับไปทำพันธสัญญาก่อกำเนิดกับเขา แน่นอนนี่เป็นเหมือนกับคำมั่นสัญญา นอกจากนี้เขาก็ยังช่วยเหลือชีวิตของเซียนเซียน.
และขณะที่เขาตรวจสอบร่างของจงซาน ที่จริงก็พบว่าพลังฝึกตนของเขานับว่าแย่มาก ทว่ากลับมีสิ่งที่คาดไม่ถึง แปลกประหลาด ไม่ชัดเจน และเริ่มไม่สามารถเข้าใจได้ในที่สุด จื่อจุ้นนั้นไม่ได้ต้องการรับรู้ว่าในสระแห่งหนึ่งนั้นมีปลาอยู่หรือไม่ การค่อย ๆ ค้นหามันนับว่าดูลึกลับน่าสนใจกว่าไม่ใช่รึ?
"ครับ อาวุโส."จงซานที่ตอบรับในทันที.
"เจ้ารู้วิธีใช้พันธสัญญาเผ่าหมาป่าหรือไม่?"จื่อจุ้นสอบถาม.
"ผู้เยาว์ไม่รู้."จงซานที่กล่าวออกมาทันที.
"นี่เป็นครั้งแรกสินะ!"จือจุ้นเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
ด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง ที่กลางอากาศ ปรากฏม้วนคัมภีร์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา รูปร่างของคัมภีร์ดังกล่าว รูปร่างคล้ายกับ"โองการฟ้า"ทว่าไม่ได้ดูโอ่อ่าหรูหราเท่า ม้วนคัมภีร์ดูค่อนข้างโปร่งใส จนแทบจะมองทะลุผ่านไปได้ มันกำลังโบกสะบัดร่ายรำอยู่ด้านหน้าจงซาน ดูลึกล้ำเป็นอย่างมาก.
ที่ด้านหลังคัมภีร์ มีอักษรห้าตัวขนาดใหญ่.
คัมภีร์พันธสัญญาตระกูลหมาป่า.
***狼族契约书 Láng zú qìyuē shū(อักษรจีนห้าตัว)
ห้าตัวอักษรขนาดใหญ่ไม่ธรรมดา ทว่าที่ด้านหน้านั้น มีอักระปรากฏขึ้นสามแถว.
บรรทัดแรก : อวี้ถัง กงเต๋อหมิง
บรรทัดสอง : เหยียนหวงเจียน.
บรรทัดสาม : โจวหรูอวี (ก้าวหน้าสมความมุ่งมาดปรารถนา)
ทั้งสามแถว ถูกเขียนขึ้นมาด้วยอักขระสีแดงที่แปลกตา บรรทัดแรกดูคล้ายกับชื่อราชวงศ์ บรรทัดถัดมาดูเหมือนว่าจะเป็นชื่อสกุล และด้านล่างสุดเป็นตราประทับ ทว่าทั้งสามบรรทัดต่างก็ราวกับเขียนขึ้นมาด้วยโลหิต.
"พันธสัญญา ชื่อราชวงศ์ ถัดมาเป็นชื่อผู้ปกครอง และตราลัญจกร"จื่อจุ้นเป็นคนเอ่ยออกมา.
"พันธสัญญานี้ถูกสร้างขึ้นมาแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สูดหายใจยาว.
"อืม พันธสัญญานี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อสามพันปีก่อน เป็นพันธสัญญากับเผ่าหมาป่า เพื่อที่จะบรรลุเป็นราชวงศ์สวรรค์ ประกอบด้วย ราชวงศ์สวรรค์อวี้ถัง ราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยียน และราชวงศ์สวรรค์ต้าโจว จวบจนถึงตอนนี้ได้หายไปไม่เหลือร่องรอย เหลือเพียงแค่ตระกูลหมาป่าของข้าที่ยังคงเหลืออยู่"
จงซานที่จ้องมองจือจุ้น พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทว่าหมาป่าน้อยเซียน ๆ ตอนนี้เข้ามาถูไถจงซานไปมา ราวกับบอกว่าให้จงซานรีบ ๆ ทำ.
จงซานที่ใช้มีดกรีดนิ้วมือ พร้อมกับผสมโลหิตดังกล่าวพร้อมกับโลหิตร่างเงา พร้อมกับเขียนมันลงไป.
เจิ้ง จงซาน.
เป็นบรรทัดที่สี่ เจิ้ง จงซาน.
ด้วยการสะบัดมือ พร้อมกับยกตราลัญจกรหยกครรลองเก้ามังกรสวรรค์ ขึ้น ซึ่งฝ่ามือของเขาที่กุมไปยังมุกมังกร.
ตราลัญจกรหยกครรลองเก้ามังกรสวรรค์ ไม่จำเป็นต้องประทับหมึกก่อน ด้วยหมึกที่แท้จริงนั้นเกิดจากเส้นวาสนาที่ถักทอขึ้นที่ตราประทับของมันนั่นเอง.
"ครืนนนน"
ตราลัญจกรหยกและคัมภีร์พันธสัญญาเผ่าหมาป่าถูกประทับลงไป เกิดเสียงดังสนั่น พื้นของตำหนักที่สั่นสะเทือน เกิดเสียงดังลั่นราวกับสายฟ้าฟาด.
"ครืนนนนนน"
ทุก ๆ คนต่างก็ตื่นตะลึงหวาดผวากับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น.
จงซานที่ประทับตราลัญจกรหยกลงไป และยกมันขึ้นมา พันธสัญญาตระกูลหมาป่า ที่กำลังส่องประกายแสงสีแดง ดูเหมือนว่าตัวอักษรที่จงซานเขียนและประทับของตัวเองลงไปนั้นจะดูสีสดใสมากกว่าของคนอื่น ๆ .
จือจุ้นที่จ้องมองไปยังตราลัญจกรหยก ดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตราลัญจกรนี้มันคืออะไรกัน.
ทว่าในเวลาเดียวกัน จงซานก็สามารถสัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาราวกับว่าเชื่อมต่อกับอะไรบางอย่าง.
จื่อจุ้นที่หายใจเข้า จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะสะบัดมือหนึ่งครั้ง พันธสัญญาหมาป่าก็ถูกม้วนเก็บ.
"รู้สึกอย่างไรบ้าง?"จื่อจุ้นที่เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่นุ่มนวล.
"รู้สึกแปลกประหลาด เหมือนสัมผัสของข้ากำลังเชื่อมต่อกับบางสิ่ง."จงซานที่เอ่ยออกมาอย่างนุ่นนวล ก่อนที่จะนำโองการฟ้าออกมา ซึ่งถัดมาจากแถวของไท่จื่อนั้น ได้ปรากฏตัวอักษรเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแถว.
อาณาจักรสัตว์:หมาป่า.
เห็นท่าทางของจงซานแล้ว จื่อจุ้นพยักหน้าพึงพอใจ.
จื่อจุ้นที่ขยับนิ้วชี้ออกไปอย่างนุ่มนวล ปรากฏเป็นแสงสีเขียว พุ่งตรงไปยังร่างของจงซาน.
เมื่อเห็นแสดงสีเขียว จงซานที่คว้ามันเอาไว้ที่ฝ่ามือ แสงสีเขียวนั่นรวบเข้ากับฝ่ามือ จงซานก็หลับตาในทันที.
จากนั้นก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของจงซานที่ตื่นตะลึงตกใจขึ้นมาทันที จากนั้นก็กล่าวต่อจื่อจุ้นด้วยความเคารพ "ขอบคุณจือจุ้น."
"เจ้าไม่ลองทดสอบอย่างงั้นรึ?"จื่อจื่อที่กล่าวและยิ้มอย่างนุ่มนวล.
"อืม."จงซานที่พยักหน้า เขาที่ทำการเก็บโองการฟ้าไปในทันที.
เขาที่เดินตรงไปยังใจกลางห้องโถง หยดโลหิตลงที่ฝ่ามือเล็กน้อย.
ฝ่ามือขวาของเขาที่ประทับลงบนพื้นตำหนักอย่างรวดเร็ว และเอ่ยคำพูดออกมาทันที" อัญเชิญ สัญลักษณ์ฟ้าดิน."