ตอนที่แล้วChapter 120 ลูกหลานเซียน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 122 หนีปูซาผู้ลึกลับ.

Chapter 121 ชิงซือ


"ย้อมผมอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของเป่ยชิงซือที่แข็งค้าง ภายในดวงตาเผยท่าทางประหลาดใจอย่างชัดเจน.

จงซานไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก ทว่าเขาได้นำชามของเหลวสีดำมาด้านหน้าของนาง ก่อนที่จะค่อย ๆ ใช้แปลงจุ่มลงไปในของเหลวสีดำ พร้อมกับเริ่มเช็ดชโลมไปยังผมสีเงินที่เงางามของนางช้า ๆ .

ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงขมวดคิ้วเป็นแน่ เป่ยชิงซือที่ดูสะอาดสะอ้าน ด้วยผมสีขาวบริสุทธิ์ ทว่าเมื่อถูกย้อมเป็นสีดำ ย่อมทำให้ความงดงามราวเทพธิดาต้องกลับกลายมาเป็นคนธรรมดา.

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ๆ  เป่ยชิงซือคงปล่อยฝ่ามือออกไปแล้ว ด้วยการนำของเหลวสีดำที่ดูสกปรกมาทาระบายผมของนาง ทว่าเมื่อเป็นจงซานทำให้เป่ยชิงซือทำได้แค่เพียงขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ดิ้นรนอะไร.

จงซานที่ค่อยนำของเหลวสีดำในชามย้อมผมของเป่ยชิงซือระบายชโลมผมของนางทีละน้อยซ้ำ ๆ ไป ย้อมผมนางอย่างระมัดระวัง ด้วยความนุ่มนวล ด้วยหวั่นเกรงว่านางจะระคายเคือง.

ด้วยการระบายย้อมผมของนางอย่างนุ่มนวล เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาตอนแรก ตอนนี้เริ่มรู้สึกสบาย ดวงตาของนางที่หลับตาแน่น สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของจงซานที่ทำการย้อมผมของนาง ความสบายที่ทำให้นางรู้สึกอบอุ่น.

ผมยาวของเป่ยชิงซือ ตอนนี้กำลังถูกย้อมช้า ๆ  ด้วยการใช้แปลงย้อมสีของเขา ผ่านไปราว ๆ ชั่วโมงหนึ่ง จงซานก็จ้องมองอย่างพอใจ ทว่าดูเหมือนว่ายังขาดอะไรหน่อย.

เป่ยชิงซือที่สัมผัสได้ว่าจงซานได้หยุดลง นางลืมตาขึ้นมาช้า ๆ .

สายตาของเขาที่จ้องมายังนาง ดูเหมือนว่ากำลังมีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ?

เขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของนาง.

"หลับตาสิ."จงซานเอ่ย.

"อืม."เป่ยชิงซือหลับตาเบา ๆ  ภายในใจที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

จงซานที่นำแปลงขนาดเล็กออกมา เขาที่เหลือของเหลวสีดำไม่มากนัก ก่อนที่จะเริ่มระบายลงไปคิ้วคู่งามสีเงินของนาง ด้วยการกระทำอย่างระมัดระวัง นุ่มนวลอ่อนโยน ทำให้เป่ยชิงซือสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของจงซานในทุกครั้งที่เขาระบายลงมา ราวกับว่าขนแปลงที่อ่อนโยนนั่นได้ลูบไล้ลงบนหัวใจของนาง ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เป่ยชิงซือรู้สึกไม่อยากลืมตาขึ้นมาเลย.

"เอาล่ะ"จงซานที่วงชามลงเบา ๆ  พร้อมกับหัวเราะชอบใจ.

นางที่ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ  ภายในดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแสงความสงสัย.

"รออีกซักหนึ่งชั่วโมงก็ใช้ได้แล้ว."จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

เป่ยชิงซือพยักหน้า ทว่าจงซานก็เดินตรงไปยังทะเลสาบก่อนที่จะใช้ดาบของเขาผ่าตัดแต่งหินข้าง ๆ ทะเลสาบ.

ก้อนหินที่เขาผ่าออกมานั้นเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด เป่ยชิงซือที่เพ่งพิศจ้องมองอยู่ชั่วขณะ ไม่รู้ว่าจงซานตัดแบ่งหั่นหินออกมาเป็นรูปร่างเช่นนั้นเพื่ออะไร.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง จงซานก็กล่าวออกมา "มานอนลงตรงนี้สิ."

"หืม?"เป่ยชิงซือที่สงสัยเล็กน้อย ทว่าจงซานก็เข้ามาประคองนางแล้ว ให้นางมานั่งบนแท่นหินซึ่งฝั่งด้านหนึ่งอยู่ติดกับทะเลสาบ ท้ายที่สุดเป่ยชิงซือก็เข้าใจว่าทำไม.

เพื่อชำระล้างผมที่ย้อมของนางนั่นเอง เป่ยชิงซือที่นอนลงบนแท่นหินที่ลาดชันลงไป ซึ่งส่วนด้านศีรษะของนางโน้มลงไปยังทะเลสาบ.

จงซานที่นำผ้าเช็ดหน้าออกมาพร้อมกับซับน้ำบนทะเลสาบ ก่อนที่จะค่อย ๆ นำมาเช็ดทำความสะอาดผมสีดำที่ย้อมของเป่ยชิงซือ.

เขาที่ทำการล้างและเช็ดผมของนางเบา ๆ .

เป่ยชิงซือที่อดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ขณะที่นางนอนนิ่งไม่ขยับ กัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับหลับตา.

จงซานที่ทำความสะอาดผมยาวของเป่ยชิงซือ ทำความสะอาดช้า ๆ ด้วยน้ำใสในลำธาร เช็ดไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

"เมื่อย้อมแล้ว ต้องรอสักพักและทำความสะอาดมัน เมื่อทำความสะอาดมันแล้ว จะทำให้มันไม่เปื้อนเสื้อผ้าของเจ้า แต่ผมขอเจ้าก็ยังคงเป็นสีดำ และจะไม่เปลี่ยนสีจนกว่าที่มันจะงอกออกมาใหม่."จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .

"อืม."เป่ยชิงซือที่ตอบรับเบา ๆ .

จงซานที่เช็ดไปยังเส้นผมที่ล้างเสร็จอย่างนุ่มนวล เช็ดไประว่างคิ้วของนางอย่างอ่อนโยน หัวใจของนางที่เต้นโครมคราม ในเวลานี้ ใจหนึ่งของนางที่คิดว่ามันคงจะดีหากสามารถหยุดเวลาเอาไว้ได้ตลอดกาล ทว่าอีกใจหนึ่งก็ถูกกดดันว่านางจะต้องแก้แค้นให้ได้.

"อืม เสร็จแล้วเจ้าไปส่องดูตัวเองได้."จงซานที่กล่าวต่อเป่ยชิงซือด้วยรอยยิ้มที่ไร้กังวล.

ผมของนาง คิ้วของนางที่เปลี่ยนเป็นสีดำ ก่อนหน้าเส้นผมสีเงินที่เผยให้เห็นความงามน่าดึงดูด ทว่าเมื่อเป็นสีดำ ก็ทำให้ดูงดงามลึกลับน่าค้นหาอีกแบบเช่นกัน.

ด้วยนำกระจกออกมาจากกำไลเก็บของ ตอนนี้มันอยู่ในมือของเป่ยชิงซือแล้ว นางที่จับจ้องมองไปยังแผ่นผ้าที่ปิดบังตำแหน่งลำคอและหน้าผากของนางไม่ให้ถูกย้อม.พร้อมกับแกะมันออกมา.

เป่ยชิงซือที่จ้องมองตัวนางในกระจก สายตาของนางไม่ได้แสดงความตื่นเต้นอะไรนัก ทว่าหัวใจของนางกับสั่นไหว สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เอ่อล้นพลุ่งพล่านออกมา เรื่องที่น่าดีใจเช่นนี้ จะไม่ทำให้นางประหลาดใจได้อย่างไร.

"ขอบคุณ ข้าต้องการไปบำเพ็ญ."เป่ยชิงซือที่วางกระจกลง ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปในถ้ำก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว.

จงซานที่ถือกระจก จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือที่วิ่งเข้าไปในถ้ำ จงซานที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถอนหายใจเบา ๆ .

เมื่อเป่ยชิงซือวิ่งเข้าไปในถ้ำ น้ำตาของนางที่ไหลออกมาไม่หยุด มันพลั่งพรูทะลักราวกับก๊อกแตก.

ผ่านไปสองก้านธูป เป่ยชิงซือก็เช็ดน้ำตาของนาง พร้อมกับสะบัดมือครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะปรากฏน้ำแข็งขึ้นมาบานหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนกับกระจกที่ส่องเงาร่างของนาง คิ้วเป็นสีดำ ผมเป็นสีดำ ดูลึกลับเป็นอย่างมาก.

นางที่สัมผัสผมของนางไปมา แววตาของนางที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย นางที่แทบไม่ได้มองตัวเองในกระจกน้ำแข็งด้วยซ้ำ แต่นึกถึงขั้นตอนที่จงซานทำให้นางแล้วก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาด้วยความอบอุ่น.

หลังจากครุ่นคิดไปมาอยู่สักพักหนึ่ง ทันใดนั้นเป่ยชิงซือก็สะดุ้งขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่านางจะดูอ่อนไหวไปหน่อย นางที่ถอนหายใจเบา ๆ  ก่อนที่จะเก็บกระจกน้ำแข็งไป.

.......

จากวันนั้นถึงวันนี้สองร้อยวัน ที่ด้านนอกเขตแดนหมาป่า กลุ่มคนที่ไล่ตามเป่ยชิงซือได้รวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมกับยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.

"ต้าเหริน ผ่านมาสองร้อยวันแล้ว พวกเราได้แยกไปทั่วทุกสารทิศ เฝ้ามองทุกเขตแดนหมาป่า แต่ก็ไม่เห็นสองคนนั่นเลย"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งที่นั่งคุกเขาอยู่บนพื้น.

ชายในชุดบัณฑิตหรี่ตาลงเล็กน้อย พยายามวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น.

"ต้าเหรินก่อนหน้านี้พวกเราได้พบชิ้นส่วนของเสื้อผ้าเมื่อห้าสิบวันที่แล้ว ในเขตของหมาป่าอัคคี เห็นได้อย่างชัดเจนว่าว่าชายคนนั้นและเป่ยชิงซือน่าจะตายไปแล้ว จึงไม่เห็นศพ ตอนนี้อาจจะอยู่ในท้องหมาป่าไปแล้วก็ได้."ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวรายงานออกมา.

ชายในชุดบัณฑิตที่ดูเหมือนไม่แยแส จ้องมองไปยังคนทั้งสอง ก่อนที่จะหรี่ตาและกล่าวออกมาว่า"บางทีอาจจะตายไปแล้วจริง ๆ  เฝ้าระวังไว้อีกสิบวัน หากสิบวันหลังจากนี้ ไม่พบร่องรอยใด ๆ  พวกเจ้าค่อยกลับมารายงาน.

"ขอรับ"ทุกคนที่รับคำสั่งและกระจายตัวกันไปอย่างรวดเร็ว เข้าไปประจำการในตำแหน่งต่าง ๆ .

ผ่านมาแล้ว 220 วัน จงซานที่นั่งฝึกฝนบำเพ็ญอยู่ข้าง ๆ ทะเลสาบ นั่งอยู่บนเนินหินที่รอบ ๆ นั้นมีศิลาวิญญาณมากมาย ร่างกายของเขากำลังควบคุมปรับแต่งลมหายใจ.

ตลอดสองร้อยวันมานี้ จงซานที่ตั้งหน้าตั้งตาทะลวงผ่านจุดชีพจร ซึ่งมีเป่ยชิงซือที่ออกมาช่วยจงซานทะลวงชีพจรอยู่บ้างเป็นบางครั้งบางคราว แก่นแท้เวลานี้ได้ถูกกระตุ้นอยู่เป็นระยะ ทำให้พลังฝึกตนของจงซานพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด แน่นอนว่ามันอาจเทียบไม่ได้กับผู้ที่เปี่ยมพรสวรรค์ ทว่าก็ยังนับว่าก้าวหน้าอยู่ไม่น้อย.

ท้ายที่สุดก็มาถึงขั้นปลายที่เขาสามารถที่จะทะลวงระดับไปยังขั้นต่อไปได้ ตอนนี้เขากำลังใช้ทะเลสาบแห่งนี้เพื่อช่วยในการเลื่อนระดับ เขาเลือกลงไปยังด้านล่างของทะเลสาบแห่งนี้ เพื่อที่จะใช้แรงกดดันของน้ำในทะเลสาบ เพื่อทะลวงผ่านระดับไปยังระดับเจ็ดเซียนเทียน.

เป่ยชิงซือที่ยืนอยู่บนฝั่งเฝ้ามองด้วยความเป็นกังวล นางที่จับจ้องมองลงไปยังทะเลสาบ ใช้สัมผัสเทวะกวาดตามองลงไปด้านล่าง เฝ้ามองจงซานอยู่ไม่ห่าง.

ก่อนหน้านี้ 180 วันนั้น จงซานได้จัดเตรียมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นไว้ที่ชายขอบดินแดนหมาป่า และหลังจากผ่านมาอีก 200 วัน ตามที่จงซานคาดการณ์ เขายังคงรออย่างอดทน จนท้ายที่สุดก็เข้าใกล้การเลื่อนระดับของเขา ทำให้เขาได้รั้งรออีกห้าสิบวัน.

ด้วยความคิดดังกล่าวเป่ยชิงซือก็เห็นด้วยที่พวกเขาจะใช้เวลาแปดเดือน พวกเขาทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกัน ภายในใจของเป่ยชิงซือนั้นเกิดสายใยความห่วงใยขึ้น ไม่เพียงแต่เป่ยชิงซือเท่านั้น ภายในใจของจงซานเองก็มีสายใยความผูกพันด้วยเช่นกัน ทว่าระหว่างสองคนนั้น ก็ยังมีกำแพงที่กั้นเอาไว้อยู่ ไม่ว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีความรู้สึกต่อกันอย่างไร แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีความแค้นหนักหนาที่ต้องชำระ ไม่สามารถที่จะคิดถึงความรักของชายหญิงได้ ซึ่งทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถสานสัมพันธ์ก้าวล้ำเกินกว่าที่ควรจะเป็น.

อย่างไรก็ตามภายในใจของเป่ยชิงซือเคยชินกับจงซานซะแล้ว หากไม่มีเรื่องของตระกูล เป่ยชิงซือคิดและคาดหวังจริง ๆ ว่า ขอได้อยู่เคียงข้างจงซาน ทุก ๆ วันกินข้าวร่วมกัน ทุกวันช่วยจงซานเตรียมอาหาร มันก็คงจะดี ถึงแม้ว่ามันจะทำไม่ได้ก็ตาม.

นางที่กวาดตามองลงไปยังทะเลสาบ ดวงตาของเป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวล จ้องมองไปยังจงซานที่กำลังพยายามทะลวงผ่านระดับ.

จงซานที่หลับตา มีกลิ่นอายพลังหมุนวนอยู่รอบ ๆ ร่าง ทะเลสาบที่ส่องประกายวับ ๆ  แม้แต่มีปราณสีแดงที่หมุนวนออกไปด้วย เป็นราวกับกลุ่มก้อนเปลวเพลิง ที่กำลังลุกไหม้ทะเลสาบแห่งนี้อยู่.

รอบ ๆ ร่างกายของจงซานนั้นเกิดก๊าซขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นฟองน้ำขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นบนผิวน้ำไม่หยุดหย่อน.

ร่างกายของจงซานนั้นเป็นเหมือนกับกลุ่มก้อนเปลวเพลิง ดูเหมือนกับดวงตะวัน ที่ส่องประกายแสงอยู่ใต้น้ำ.

จงซานที่หลับตาแน่น เส้นโลหิตที่ปูดขึ้นทั่วหน้าผาก.

"อ๊าก."

จงซานที่อยู่ใต้ทะเลสาบที่ คำรามออกมา ดวงตาส่องประกายแสง ปากของเขาพ่นเปลวเพลิงออกมา ร่างกายที่ส่งแรงกดดันออกไปรอบ ๆ .

เสียงคำรามของจงซานที่ดังก้องอยู่ใต้น้ำ ก่อให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่.

"ตูมมม" "ตุมมมม"

หลังจากที่คำรามเสียงดัง จงซานก็เงียบลง ปิดตา และจมจ่อมโคจรพลังในร่างกายของตัวเองอีกครั้ง.

ทว่าที่บนฝั่ง เป่ยชิงซือที่เฝ้ามองหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขา ภายในดวงตาก็เปี่ยมไปด้วยประกายแสงความอ่อนโยน ที่มุมปากของนางเผยยิ้มออกมา และแล้ว จงซานก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้ นางที่เดินไปยังตำแหน่งบนฝัง ที่จงซานเคยทำต้มซุปปลา จงซานที่อยู่ใต้น้ำมาห้าวัน ตอนนี้เขาควรที่จะหิวแล้ว.

จงซานที่สามารถทะลวงผ่านระดับ แรงกดดันพลังที่เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย ด้วยการก้าวไปยังระดับเจ็ดเซียนเทียน ทว่าทำให้สามารถเปิดจุดชีพจรเพิ่มขึ้นอีกสองจุด นับว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยมที่เดียว.

จงซานที่กำลังดูดซับแกนแท้เข้ามารอบ ๆ จากทุกทิศทุกทางสร้างแกนแท้กับเก็บไว้ในจุดชีพจรที่เปิดได้ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนทำให้จุดชีพจรคงที่และเก็บแก่นแท้ ซึ่งจำเป็นต้องรวบรวมพลังฟ้าดินรอบ ๆ เข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน.

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง จงซานที่ค่อย ๆ ลุกขึ้น พร้อมกับเก็บศิลาวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ  จากนั้นก็เคลื่อนกายพร้อมกับขึ้นมาจากผิวน้ำ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด