ตอนที่แล้วChapter 117 เมาร้อยวัน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 119 การเปลี่ยนแปลงของชิงซือ.

Chapter 118 รักษา.


ระหว่างที่จงซานอุ้มเป่ยชิงซือวิ่งหนีนั้น ท้ายที่สุดหลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง เขาก็สามารถพบสถานะที่เหมาะเจาะ สถานที่ดังกล่าวเป็นหุบเขาที่มีภูเขาหลายลูกปิดบัง และยังมีถ้ำอยู่ด้านในอีกด้วย แม้ว่าด้านในจะค่อนข้างขรุขระก็ตาม อย่างไรก็ตามมันหาได้สำคัญ ตราบเท่าที่ใช้เป็นที่ลี้ภัยได้ก็เพียงพอ.

จงซานวางเป่ยชิงซือเบา ๆ ลงบนโขดหินภายในถ้ำ จ้องมองยังอกของนางที่ถูกศรปราณยิง จงซานที่สูดหายใจลึกทันที.

ศรปราณทะลวงนั้น ดูเหมือนว่าจะเหมือนกับศรไม้ไผ่ทั่วไป แต่ดูเหมือนว่าจะสร้างขึ้นมาด้วยวิธีการที่พิเศษ นอกจากนี้ยังมีอักษรรูนมากมายสลักอยู่ มันได้ปักตรงเข้าไปบนอกด้านซ้ายของเป่ยชิงซือ ปักไปจนถึงด้านหลัง โลหิตของนางที่ไหลซึมออกมาไม่หยุด.

ทว่าด้วยร่างของนางนั้นถูกมอมด้วยฤทธิ์เมาร้อยวัน ทำให้นางหมดสติ อีกหนึ่งร้อยวันนางถึงจะฟื้น.

จงซานที่หายใจลึก ไม่สามารถพิถีพิถันเรื่องข้อห้ามหญิงชายในเวลานี้ได้แล้ว ชีวิตของเป่ยชิงซือนั้นสำคัญมากกว่า.

"แฮก แฮก"

จงซานที่ฉีกเสื้อผ้าของนางบริเวณอกด้านซ้ายออกรวมทั้งปลดเสื้อชั้นในที่ขาดวิ่น ซึ่งเผยให้เห็นผิวกายนางที่ถูกย้อมไปด้วยโลหิต.

ผิวกายที่ละเอียดอ่อน บอบบาง ถูกโลหิตไหลอาบ ๆ  ดูงดงามชวนให้คิดทำให้ใจไขว้เขวเหมือนกัน แม้ว่าตอนแรกจงซานจะไม่มอง ทว่าก็ต้องแข็งใจกวาดตามองออกไป.

คิ้วของเขาที่ขมวดไปมา จงซานจ้องมองไปยังตำแหน่งอกด้านซ้ายของนาง.

โลหิตที่ไหลอาบปทุมถันของนางทั้งสองข้าง ผิวที่กระจ่างใส บริเวณระหว่างเขาสูงที่ถูกย้อมเป็นสีแดง จงซานเวลานี้ไม่กล้าที่จะถอนศรดังกล่าวนี้ออกมาในทันที ตอนนี้เขาทำการสำรวจลูกศรดังกล่าวให้ระเอียด.

มือของเขาที่สัมผัสกับความยืดหยุ่นผิวกายของนาง ที่กำลังปิดตาแน่น ก่อนที่จะส่งแก่นแท้ออกไปเพื่อที่จะสำรวจผลที่เกิดจากลูกศรดังกล่าวว่ามีผลอะไรหรือไม่.

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเป่ยชิงซือจะหลับใหล ทว่าร่างกายของนางก็ป้องกันตัวตามสัญญาณ แกนแท้ของจงซานที่แผ่ออกไปนั้นถูกแกนแท้ของนางปิดกั้นเอาไว้หลายส่วน ทำให้จงซานไม่สามารถตรวจสอบลูกศรดังกล่าวที่ปักอยู่ในนั้นได้ง่ายนัก.

ด้วยแกนแท้ของเขาถูกแกนแท้นางต้านเอาไว้ ถึงแม้ว่าเขาพยายาที่จะตรวจสอบจุดปราณของนางทั้งหมด แต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งต่อต้าน จนทำให้จงซานตื่นตระหนกทีเดียว.

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบขั้นต้นก็สามารถตรวจสอบได้ระดับหนึ่ง.

หลังจากตรวจสอบในส่วนที่ตรวจสอบได้ จงซานก็ต้องถอนหายใจยาว เส้นทางของลูกธนูนั้นเลยผ่านหัวใจของนางออกไป นอกจากนี้ยังโชคดีมากที่ไม่ตัดเส้นเลือดใหญ่และเส้นชีพจรอย่างคาดไม่ถึง มีเพียงแค่กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายเท่านั้น.

เขาที่ใช้ผ้าผืนหนึ่งวางตรงปากแผลของนาง และวางมือลงไปตำแหน่งของแผลที่ถูกธนูปราณทะลวง.

ก่อนที่จะพยายามตัดลูกธนูปราณดังกล่าว ไม่คิดเลยว่ามันจะเหนียวแน่นไม่ได้รับความเสียหาย.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา หักไม่ได้ ต้องถอนออกทั้งเช่นนี้อย่างงั้นรึ?

จงซานคิดใครครวญก่อนที่จะนำกระบี่ที่อยู่ข้างกายของนางขึ้นมา กระบี่สีขาวของนาง เขาที่แผ่แกนแท้ลงไป แม้ว่าเขาจะเพิ่งเคยใช้เป็นครั้งแรก ทว่าด้วยเป็นกระบี่คุณภาพสูง สุดท้ายก็สามารถที่จะตัดปลายธนูได้.

"ฉับบ."

ธนูที่ขาดเป็นสองท่อน ทว่ายังมีส่วนหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ในร่างของเป่ยชิงซือ.

จงซานที่นำยาห้ามโลหิตออกมาจากกำไลเก็บของ ใส่ลงไปในแผลของนางเพื่อห้ามเลือด ซึ่งตอนนี้ปลายธนูโชกไปด้วยโลหิต.

จงซานที่จ้องมองไปยังร่างของเป่ยชิงซือที่ยังหลับใหล ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล "ข้าจะดึงลูกศรส่วนที่เหลือออกแล้ว เจ้าอดทนเอาไว้นะ."

แน่นอน เป่ยชิงซือที่กำลังหลับ นางจะได้ยินเสียงของเขาอย่างงั้นรึ?

จงซานที่พยุงร่างของนาง ก่อนที่จะกุมไปที่หัวธนูที่เลยออกมาด้านหลังของนาง ก่อนที่จะพยายามดึงมันออก.

"พรึด!"

โลหิตที่ไหลออกมาตามลูกศรที่เขาดึงออกมา ซึ่งตอนนี้มันถูกดึงออกมาจากร่างกายของนางหมดแล้ว.

"เครง!"

ลูกศรดังกล่าวที่ถูกทำลายไป.

จงซานที่ใช้สุรารสแรงอาบไปที่แผลของนาง พร้อมกับห้ามโลหิต ซึ่งก็ยังมีโลหิตซึมออกมาอยู่เป็นระยะ เขาเริ่มเช็ดโลหิตที่ไหลอาบไปบนร่างของนางออก.

จงซานที่นำนางไปวางที่ผนังของถ้ำ ร่างกายของนางที่เผยออกมาให้เห็นส่วนด้านซ้ายมือ หน้าอกที่ขาวชูชนขนานกับพื้นเมื่อวางนางพิงกับผนัง เขาที่นำผ้าผืนหนึ่งไปปิดตรงไหลซ้ายของนางเอาไว้.

เห็นใบหน้าที่ขาวซีดไร้เรี่ยวแรงของเป่ยชิงซือ มือขวาของจงซานที่สะบัดหนึ่งครั้ง.

ขวดยาขนาดเล็กใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่มือของจงซานในทันที.

เป็นเม็ดยาหุ่ยชุน ซึ่งจงซานได้มาจากเป่ยชิงซือที่ได้มาเมื่อครั้งพบกันเป็นครั้งแรก เป็นยาที่เป่ยชิงซือให้เขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่นางได้ทำร้ายเขา.

จ้องมองดูยาที่อยู่ในมือแล้ว ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาด "ยาหุ่ยชุน ข้าไม่ได้ใช้มัน ไม่คาดเลยว่ามันจะกลับมาเพื่อใช้รักษากายของเจ้า."

จากนั้นเขาก็นำเม็ดยาที่มีเพียงหนึ่งเม็ดออกมา เป็นเม็ดยาสีขาวเหมือนกับหิมะ.

แน่นอนว่านี่นับว่าเป็นเม็ดยาที่ถือว่าเป็นสมบัติหายากเลยก็ว่าได้ เรื่องนี้แน่นอนว่าทุกคนต่างก็รู้ดี.

จงซานที่ทำการแบ่งเม็ดยาเห่ยชุนออกเป็นสามส่วนในทันที.

ก่อนที่จะนำชิ้นที่ใหญ่ที่สุด ใส่เข้าไปในปากของเป่ยชิงซือเบา ๆ  ทว่าปากของนางนั้นปิดแน่น ทว่าด้วยเกรงว่าเป่ยชิงซือจะไม่กลืนลงไป เข้าที่ใช้นิ้วแงะสอดนิ้วชี้ลงไปในปากของนาง พร้อมกับผลักดันให้เม็ดยาลงไปด้านใน..

ด้วยการพยายามผลักเข้าไปด้านในหลายครั้ง จนมั่นใจว่ามันได้ลงไปในลำคอนางแล้ว ก่อนที่จะถอนนิ้วของเขาออกมา.

ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด จงซานที่ส่ายหน้าไปมาชั่วขณะ พร้อมกับสลัดความคิดต่าง ๆ  ถอนหายใจยาว ขณะที่จ้องมองไปยังบาดแผลของเป่ยชิงซือ.

เม็ดยาส่วนที่สองนั้น เขาได้บดพร้อมกับโรยไปที่บาดแผลของนางด้านหน้า ซึ่งตอนนี้โลหิตของนางเริ่มไหลช้าลงแล้ว.

และส่วนสุดท้าย โรยไปที่แผลด้านหลัง ส่วนที่ปลายธนูทะลุผ่านนั่นเอง.

ในเวลาเดียวกัน โลหิตที่ไหลออกมาก็หยุดได้ในที่สุด.

"แฮก ๆ "

โลหิตหยุดไหลแล้ว จงซานที่ถอนหายใจเจ้า ทว่าเป่ยชิงซือยังดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นางยังต้องหลับไปอีกถึงหนึ่งร้อยวัน นับว่าเป็นปัญหาทีเดียว.

พวกเขาต้องอยู่ที่นี่ชั่วคราวไม่สามารถออกไปใหนได้ จงซานเชื่อว่าคนชุดแดงนั้น ไม่กล้าเข้ามาในเขตแดนหมาป่าอย่างแน่นอน ด้วยมีพื้นที่หมาป่าปิดล้อมพื้นที่แห่งนี้ และยังมีภูเขาหลายลูกที่เหมาะแก่การซ่อนตัว.

มองไปยังหน้าอกของเป่ยชิงซือ ทั่วทั้งร่างของจงซานก็ร้อนขึ้นมาเหมือนกัน เนื่องด้วยจงซานที่ได้ถอดชุดของนางออกมาซีกหนึ่ง ก่อนที่จะนำนางไปพิงกำแพงไว้นั่นเอง.

จงซานที่สำรวจพื้นที่รอบ ๆ  และได้ทำความสะอาดโขดหินแห่งหนึ่ง พร้อมกับนำผ้าห่มขนสัตว์ออกมาปู นำศิลาวิญญาณออกมาวางรอบ ๆ  เพื่อที่จะช่วยทำให้นางดูดซับพลังวิญญาณตามสัญญาติญาณขณะนางหลับ.

หลังจากที่จัดแจงทุกอย่างแล้วจงซานที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ.

บนร่างของนางนั้นเปื้อนไปด้วยโลหิต และมีหลายแห่งที่แห้งเกรอะกรังเขาที่ขมวดคิ้วไปมา ถอนหายใจออกมาเบา ๆ  จงซานที่ออกนอกถ้ำไป ก่อนที่จะนำเหยือกน้ำออกมาจากกำไลเก็บของ พร้อมกับตักน้ำเข้ามาภายในถ้ำ.

ก่อนที่จะใช้ผ้าขาวซับน้ำ เช็ดไปทั่วร่างของนาง.

ทุกตารางนิ้วที่เปื้อนไปด้วยโลหิตเขาจะเช็ดมันออกทั้งหมด ซึ่งเขาได้ออกไปตักน้ำเข้ามาหลายรอบเหมือนกัน ก่อนที่จะสามารถทำความสะอาดไปทั่วร่างเป่ยชิงซือ ตั้งแต่หัวจรดเท้าตอนนี้ไม่มีคราบโลหิตเหลืออยู่แล้ว.

ส่วนเสื้อผ้าของนางที่เปื้อนโลหิตไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถสวมใส่ได้แล้วจงซานจึงได้ถอดชุดของนางออก พร้อมกับนำชุดของเขาออกมาสวมให้กับนาง ก่อนที่จะนำนางที่พิงผนังถ้ำอยู่ไปนอนยังโขดหินที่เขาได้เตรียมไว้แล้ว เพื่อทำให้นางหลับสบายขึ้น.

จากนั้น ก็รอคอยแค่ให้นางฟื้นคืนสติ.

ในตอนกลางวัน จงซานก็จะออกไปเก็บสมุนไพรในหุบเขา ซึ่งเขาได้โสมพันปีกลับมาด้วย ก่อนที่จะนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ  พร้อมกับใส่เข้าไปในปากของนาง ซึ่งทุกครั้งเข้าได้ป้อนน้ำให้กับนางไปด้วย เพื่อที่จะให้เป่ยชิงซือสามารถได้รับน้ำและสารอาหารเพียงพอ.

จงซานที่ดูแลเป่ยชิงซือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันเขาก็บำเพ็ญเพียร ฝึกตน พร้อมกับพยายามทะลวงจุดชีพจรไปด้วยเช่นกัน.

จุดชีพจรนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 361  ซึ่งทุกคนต่างก็มี 361 เห็นจุดด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งจุดตานเถียนนั้นจะถูกเปิดออกมาก่อนตั้งแต่แรก ๆ  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเปิดออกอีกจำนวน 360 จุด ซึ่งจุดต่าง ๆ ก็เหมือนกับจุดตานเถียน เป็นสถานที่กักเก็บแก่นแท้ เมื่อแกนแท้สามารถสะสมพลังได้ทั้งหมด เมื่อนั้นก็จะสามารถทะลวงไปยังระดับแกนทองได้.

ตอนนี้เขาอยู่ในระดับหกเซียนเทียน หากสามารถเปิดชีพจรได้ 90 แห่งก็จะสามารถเลื่อนระดับไปได้อีกขั้น.

จากที่เทียนซวินจื่อได้ทำการตรวจสอบร่างกายของเขา การที่จงซานจะสามารถทะลวงชีพจรได้นั้น ระดับในการทะลวงของเขายากกว่าคนอื่นอยู่มาก ด้วยพรสวรรค์ด้านร่างกายที่เทียบคนอื่น ๆ ไม่ได้ ดังนั้นหากต้องการทะลวงผ่านระดับจำเป็นต้องใช้วิธีที่พิเศษกว่าคนอื่น.

เขาที่พยายามที่จะทะลวงจุดชีพจรทุกวัน แม้ว่ามันจะไม่คืบหน้าก็ตามที เวลานี้เขาที่บำเพ็ญพลังจากผ่านมาสามวันแล้ว ซึ่งทุก ๆ วันเขาจะทำการหั่นโสมพันปีป้อนเป่ยชิงซือไม่หยุด ทว่าทันใดนั้น ที่หน้าอกด้านซ้ายของเป่ยชิงซือนั้น ดูเหมือนว่ามันจะเปียกชื้นออกมาเล็กน้อย.

เกิดอะไรขึ้น?จงซานที่เปิดเสื้อผ้าของนางออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเผยให้เห็นบาดแผล.

แม้ว่าจะไม่มีโลหิตไหลออกมาแล้ว ทว่ากลับมีน้ำหนองเกิดขึ้นรึอย่างไร?

ไม่ได้การแล้ว.

จงซานรู้ดีว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแล้ว เขาเร่งรีบใช้แก่นแท้ของเขาตรวจสอบบาดแผลอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นกัน? ทั้งที่ร่างกายของเป่ยชิงซือ ควรที่จะฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว!

หลังจากที่ทำการตรวจสอบ ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็กลง ขมวดคิ้วไปมา.

บริเวณบาดแผลนั้นมีพลังที่แปลกประหลาดแทรกอยู่ พลังดังกล่าวนั่นพยายามป้องกันการฟื้นฟูร่างกายของนางไม่หยุดหย่อน.

ที่จริงจงซานก็สัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่นำศรปราณทะลวงออกมา เมื่อแกนแท้เขาทำการตรวจสอบ ก็พบพลังงานประหลาดนี้ในบาดแผลของนาง เป็นปราณที่มาจากธนูนั่นเอง.

แน่นอนหากว่าเป่ยชิงซือตื่นอยู่ละก็ นางสามารถขับมันออกมาอย่างรวดเร็ว ทว่าตอนนี้ปัญหาหลักคือนางต้องนอนพักไปอีกกว่าเก้าสิบวัน.

จงซานเองพยายามที่จะช่วยขับมันออกไป ทว่าแกนแท้ของเป่ยชิงซือนั้นได้ต่อต้านแกนแท้ของจงซานเอาไว้ เมื่อแกนแท้ของเขาที่พยายามล่วงล้ำไปในร่างกาย ในทุกครั้ง แกนแท้ของเป่ยชิงซือก็จะออกมาขัดขวางในทุก ๆ ครั้ง จงซานที่วางมือไปบนหน้าอกของเป่ยชิงซือ พยายามที่จะส่งแกนแท้ออกไปอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาถึงสี่ชั่วโมง ทว่าก็สามารถขับไล่ปราณลูกศรได้แค่นิดหน่อยเท่านั้น.

ที่หน้าผากของจงซานที่เหงื่อชโลมออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เขาเพียงแค่พักชั่วคราวเท่านั้น เขาจะค่อย ๆ นำมันออกมาทีละน้อย ๆ  ตอนนี้ปล่อยให้เป่ยชิงซือนอนพักอยู่เหมือนเดิม และเขาก็เริ่มนั่งบำเพ็ญโคจรพลังต่อไป วันถัดมา เขาก็ใช้แกนแท้ของเขาขับปราณธนูออกไปได้อีกเล็กน้อย แน่นอนเนื่องจากมีแกนแท้ของเป่ยชิงซือต้านเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถกระทำการได้ในครั้งเดียว.

แม้ว่าในทุกครั้งนั้นจะทำให้เขาหมดเรี่ยวแรง ทว่าหลังจากได้พัก แกนแท้ของเขาก็เพิ่มขึ้นมามากกว่าเดิม นอกจากนี้จงซานยังสามารถขับปราณประหลาดนั้นได้มากขึ้นเรื่อย ด้วยต้องรักษาบาดแผลของนางในทุก ๆ วัน ทำให้แกนแท้ของเขาเติบโตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน.

หนึ่งเดือนมานี้ด้วยการใช้แกนแท้ของเขาช่วยรักษานาง ทำให้จงซานสามารถเปิดจุดชีพจารได้ถึง 30 จุดอย่างคาดไม่ถึง และรวมที่เขาเปิดได้ที่สำนักไคหยาง 10 จุด ตอนนี้เปิดชีพจรไปแล้ว 40 จุด.

หนึ่งเดือนมานี้ด้วยการดูแลจากจงซาน บาดแผลของเป่ยชิงซือค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นเรื่อย ๆ  ผิวกายของนางเริ่มกลับมามีน้ำมีนวลงดงามเหมือนเดิมแล้ว บาดแผลของนางที่ค่อย ๆ เล็กลงอย่างคาดไม่ถึง ตอนนี้มันเริ่มกลับมาเนียนนุ่มเหมือนเมื่อก่อนแล้ว.

จงซานเชื่อว่าวันนี้น่าจะเป็นวันสุดท้ายเขาจะสามารถขับปราณประหลาดของศรปราณทะลวงออกไปได้หมด.

เขาที่ทำการตักน้ำจากทะเลสาบแห่งหนึ่งก่อนจะกลับไปยังถ้ำ ทว่าจงซานที่ก้าวเข้ามาในปากถ้ำ ราวกับรู้สึกว่าเป่ยชิงซือที่นอนอยู่นั้น ดวงตาของนางสั่นไหวไปมาเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด