ตอนที่แล้วChapter 114 พบกับหลางเจียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 116 ศรปราณทะลวง.

Chapter 115 ความอัศจรรย์ใจของหลางเจียง


ต้าหลางเจียง มีพลังฝึกตนที่น่าเกรงขาม เพราะว่าเขามีพลังฝึกตนสูง ดังนั้นเขาจึงมีเหตุผล ไม่ได้เข้าสังหารคนทั้งสามตั้งแต่ต้น.

"ข้าและคนอื่น ๆ นั้น ได้รับคำสั่งจากท่านประมุขสำนักไคหยาง ให้เดินทางมายังเขตแดนหมาป่าเพื่อค้นหาอาวุโสคนหนึ่ง ขอให้หลางเจียงได้อนุญาตด้วย."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

สถานที่แห่งนี้คือดินแดนหมาป่า จำต้องระมัดระวัง ด้วยพลังฝึกตนที่มากล้นของหลางเจียง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่มนุษย์ ทว่าด้วยความแข็งแกร่งที่มีก็ควรค่าที่จะต้องให้ความเคารพแล้ว.

"ประมุขสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ? พวกเจ้าไม่ใช่ประมุขซักหน่อย หากต้องการเข้าไปล่ะก็ จะต้องถูกหมาป่าสังหารอย่างแน่นอน เว้นแต่เจ้าจะมีตราหมาป่า."หลางเจียงที่ราวกับเป็นผู้ดูแล ไม่ต้องการที่จะให้สิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาสร้างปัญหา.

เห็นได้อย่างชัดเจน หลางเจียงที่ไม่ต้องการส่งพวกเขาเข้าไปสร้างปัญหา นี่ถือว่าเป็นการเตือน ขวางกั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด.

แน่นอน ในคือเขตแดนของเขา เขาย่อมมีสิทธิ์ หากว่านี่เป็นประมุขของสำนักไคหยาง หลางเจียงย่อมไม่เคร่งครัดขนาดนี้.

ที่จริงหลางเจียงต้องการไล่คนทั้งสามออกไป ดังนั้นเป่ยชิงซือจึงได้สะบัดมือหนึ่งครั้งนำตราศีรษะหมาป่าออกมา ซึ่งเป็นสิ่งของที่นางได้ขอมาจากเทียนซวินจื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนี้ได้ปรากฏที่ฝ่ามือของนางแล้ว.

"มีอย่างงั้นรึ?"หลางเจียงที่ตื่นตกใจ พวกเขาได้เตรียมมาอย่างงั้นรึ?

"นี่เป็นตราหมาป่าที่ท่านประมุขมอบมาให้ ขอให้หลางเจียงโปรดตรวจสอบ."เป่ยชิงซือที่กล่าวอกมาในทันที.

ท่าทางของหลางเจียงที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าก็กล่าวออกมาว่า"อืม นำมาให้ข้าดู."

เป่ยชิงซือที่เหยียบบนกระบี่เหินตรงไปในทันที ก่อนที่จะถือตราหมาป่าชูขึ้น.

"ฟุดฟิด ..ฟุดฟุด..ฟุดฟิต."

หลางเจียงที่ใช้จมูกดมกลิ่น ดูเหมือนว่าจะเป็นของจริง เขาที่จดจ้องไปยังเป่ยชิงซือ ซึ่งนางมีตราหมาป่า ทว่า หากปล่อยให้คนทั้งสามผ่านเข้าไป เขาไม่ต้องเสียหน้าหรอกรึ?

"อืม ดี เป็นตราหมาป่าจริง ทว่าตราหมาป่านี้ สามารถอนุญาตให้เข้าไปได้คนเดียว พวกเจ้าสองคนกลับไปซะ."หลางเจียงที่กวาดตามองอย่างไม่แยแส กันเทียนชาและจงซานออกไป.

"อาจารย์ได้กำชับมา ให้ข้าและคนอื่น ๆ เข้าไปหาอาวุโส ทว่าขอให้หลางเจียงอย่าได้ห้ามเลย ปล่อยพวกเราเข้าไปเถอะ."เทียนชาที่กล่าวออกมาทันที ต้องไม่ลืมว่าเทียนซวินจื่อได้กล่าวมาก่อนแล้ว ว่าต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ.

"ข้าบอกว่าให้เจ้ากลับไป ที่นี่คือดินแดนหมาป่าที่เจ้าไม่สามารถที่จะมาเดินยุ่มย่ามได้ ไปให้พ้น."หลางเจียงที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"พวกเราที่ต้องการเข้าไปด้านใน มันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ขอให้หลางเจียงโปรดเห็นใจปล่อยข้าและคนอื่น ๆ เข้าไปด้วยเถอะ."เทียนชายังคงกล่าวออกมาอีกครั้ง.

ได้ยินคำพูดของเทียนชาที่ขัดขืน หลางเจียงที่หรี่ตาเล็กลง สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาจ้องมองไปยังเทียนชา "หึ ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้คือเข้าไม่ได้ ข้าไม่ให้เข้าไปคือไม่ให้เข้าไป ไสหัวไป!"

"ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าจะเข้าไปก่อน เมื่อออกมาแล้ว ค่อยมอบตราหมาป่า ให้ท่านเข้าไปอีกครั้งก็ได้."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาพลางขมวดคิ้ว.

"เดี๋ยวก่อน!"ต้าหลางเจียงที่กล่าวออกมาทันที หยุดการสนทนาของพวกเขา.

ทั้งสามที่หันหน้ามาจ้องมองไปยังหลางเจียง ทว่าหลางเจียงเวลานี้ถึงกับดวงตาเบิกกว้างกลมโตจ้องมองไปยังจงซาน นี่มัน ดวงตาที่จ้องเขม็งผิดปรกติ.

หลางเจียงที่จับจ้องมองไปยังจงซาน จงซานที่ใบหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน ทว่าเป่ยชิงซือที่เข้ามาใกล้จงซาน เทียนชาที่จ้องมองจงซานด้วยท่าทางแปลกประหลาด ก่อนที่จะมองไปที่หลางเจียง.

"ไอ้หนู! มานี้ซิ!"หลางเจียงที่เอ่ยเรียกจงซานออกมาในทันที.

ไอ้หนูเหรอ? จงซานถึงกับพูดไม่ออก ต่อหน้าใคร ๆ เขาที่เป็นชายแก่ ตอนนี้อยู่กับเจ้าหยาบคายนี้ กลายเป็นไอ้หนูไปแล้วรึ?

ทว่า ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถขัดขืนได้ จงซานทำได้แค่บินลอยเข้าไปหาหลางเจียง.

"ฟุตฟิต ฟูตฟุด ฟุตฟิต."

หลางเจียงที่ดมกลิ่นอีกครั้ง ปากของมันที่อ้าค้างเล็กน้อย ดวงตาที่เผยแววตาไม่อยากเชื่อ จากนั้นก็จ้องเขม็งไปยังจงซาน ก่อนที่จะรับรู้และเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าจงซานเป็นแค่คนธรรมดาสามัญ ดวงตาของมันที่นิ่งงัน มีประกายแสงคาดไม่ถึงเป็นอย่างมากปรากฏขึ้น ความสงสัยและความกลัดกลุ้มเต็มไปทั่วใบหน้าของมัน.

เห็นปากขนาดใหญ่ของหมาป่ายักษ์อ้าปากหวอ จงซานที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวลถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงช้า ๆ  ทว่ากลับท่าทางและแววตาของมันแสดงท่าทางกลัดกลุ้มขนาดนั้นคืออะไรกัน?

"หลางเจียง."จงซานที่เอ่ยออกมาทันที.

หลังจากที่ได้ยินเสียงของจงซาน หลางเจียงที่กลัดกลุ้มสงสัยอย่างหนักก็ค่อย ๆ ได้สติกลับมา ทันใดนั้นก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางอัศจรรย์ใจ."อืม! เจ้าเองก็เข้าไปได้."

"เข้าไปได้?"คนทั้งสามถึงกับอุทานออกมาพร้อม ๆ กัน หมายความว่าอย่างไร?จงซานเข้าไปได้?

"ขอบคุณหลางเจียง."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างสุภาพในทันที.

ประกายแสงของเป่ยชิงซือที่อาบไปด้วยความสงสัย ทว่าภายในดวงตาของเทียนชาเต็มไปด้วยความอัดอั้น นี่มันอะไรกัน? ทำไมจงซานสามารถเข้าไปได้?

"หลางเจียง ทำไมเขาได้เข้าไป เขาไม่ได้มีตราหมาป่าซะหน่อย."เทียนชาที่เอ่ยถามออกมาในทันที.

เป่ยชิงซือและจงซานก็จ้องมองไปยังหลางเจียงเช่นกัน ถูกแล้ว จงซานไม่ได้มีตราหมาป่า.

หลางเจียงจ้องมองไปยังเทียนชา ดวงตาที่จับจ้องเขม็ง."ข้าบอกว่าเขาสามารถเข้าไปได้ คือเข้าไปได้ มีปัญหาอะไร? เจ้าไม่พอใจอย่างงั้นรึ?"

"ผู้น้อยไม่กล้า."ใบหน้าของเทียนชาที่เต็มไปด้วยความหดหู่.

"ตราหมาป่า จงซานไม่มีตราหมาป่า ถ้าเข้าไปด้านใน เขาไม่พบอันตรายหรอกรึ?"เป่ยชิงซือที่เป็นกังวลจ้องมองมายังหลางเจียง.

"ตราหมาป่า? ใครบอกว่าเขาไม่มีตราหมาป่ากัน?"หลางเจียงที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"คนทั้งสามที่งงงวย จงซานมีตราหมาป่าอย่างงั้นรึ?ตราหมาป่าเขาได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่?

"ศิษย์พี่ใหญ่ ภารกิจของอาจารย์นั้น ข้าจะเป็นคนจัดการเอง ข้าจะต้องขอร้องอาวุโส ให้กลับไปยังสำนักไคหยางให้ได้ ขอให้รอฟังข่าวดีได้เลย."จงซานที่หันหน้าไปพูดกับเทียนชา.

สายตาที่หดหู่เป็นอย่างมาก เทียนชาทำได้แต่พยักหน้าอย่างเจ็บปวด.

"ศิษย์พี่ใหญ่ โปรดระวังตัว."เป่ยชิงซือที่กล่าวต่อเทียนชาในทันที.

เห็นคนทั้งสองที่กล่าวลา ภายในดวงตาของเทียนชาเต็มไปด้วยความขมขื่นซ่อนเอาไว้อย่างลึกล้ำ ความหดหู่อย่างรุนแรง ทำให้เขาทำได้แค่พยักหน้า หายใจลึกก่อนที่จะขึ้นกระบี่เหินและจากไป.

เห็นเทียนชาจากไปแล้ว จงซานก็ถอนหายใจเข้า ก่อนที่จะก้าวออกมา จ้องมองไปยังหลางเจียงอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวว่า"เช่นนั้น อาวุโส ข้าขอลา."

จากนั้น จงซานและเป่ยชิงซือ ก็บินตรงไปยังทิศตะวันออก.

หลางเจียงที่ยืนอยู่บนยอดเขา จ้องมองไปยังทิศที่จงซานจากไป ภายในสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ มีความกลัดกลุ้มหดหู่แฝงอยู่ด้วย.

"ไม่คิดเลยว่าจือจุ้นจะชอบพอไอ้หนูนี้อย่างงั้นรึ? พลังฝึกตนที่กระจอกงอกง่อย ไม่เหมาะสมกับเส้าจู่เลย ไม่คิดเลยว่าเส้าจู่จะเลือกทำพันธสัญญากับเขา?ไม่ได้การแล้ว จะต้องไปถามเส้าจู่เรื่องนี้ให้ชัดเจน."หลางเจียงที่บ่นพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็กลับหลังหันพุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว.

[至尊 (zhì zūn)ผู้ที่ได้รับความเคารพสูงสุด   少主Shǎo zhǔ เจ้านายน้อย.]

หลางเจียงเคลื่อนที่รวดเร็วมาก จากยอดเขาหนึ่งไปยังอีกยอดเขาหนึ่ง ด้วยความเร็วสูงสุด กับความเร็วของเขานั้นเพียงแค่เสี้ยวอึดใจก็หายลับไปกับเส้นขอบฟ้าแล้ว.

ทว่าในเวลาเดียวกัน ที่ทิศตะวันตกห่างจากพื้นที่ของหลางเจียงอยู่ ปรากฏคนที่สวมชุดสีแดงชาด เขาจ้องมองไปยังทิศทางของหลางเจียงจากไป ก่อนที่จะมองไปยังทิศทางของเทียนชาที่จากไปเช่นกัน ก่อนที่จะเร่งรีบตามไปยังทิศทางที่จงซานและเป่ยชิงซือกำลังเดินทางไป เข้าไปในเขตแดนอาณาจักรหมาป่า.

ที่ไกลออกไป จงซานและเป่ยชิงซือที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก เป่ยชิงซือนั้นรู้เส้นทางเป็นอย่างดี นางที่มุ่งหน้าไปยังทิศทางดังกล่าว จงซานเองก็ตามไปและกวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ ไปด้วย.

"ชิงซือ."จงซานที่ลอยตามนางอยู่นั้น เขาได้กล่าวอะไรออกมา.

"อะไรอย่างงั้นรึ?"นางที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความสงสัย แววตาที่ดูประหลาดใจ เพราะว่าท่าทางของจงซานค่อนข้างขึงขัง เหมือนว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะพูด.

เขาที่บินเข้าไปใกล้ ๆ เป่ยชิงซือ ก่อนที่จะมองใบหน้าที่งดงามอ่อนโยนของนาง เอ่ยปากออกมาอย่างนุ่มนวล "ต่อไปเมื่อพบกับศิษย์พี่ใหญ่ ระวังตัวด้วย."

"หืม?"ใบหน้าของชิงซือที่ดูงงงวย จากนั้นราวกับคิดอะไรได้ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว.

"อืม ข้ารู้!"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่นุ่มนวล.

เป่ยชิงซือเป็นคนที่ฉลาดเฉลียว จงซานไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรมากจึงพยักหน้าและไม่กล่าวสิ่งใดต่อไป.

สองวันมานี้ พวกเขาที่ได้หยุดพักและจ้องมองสำรวจไปยังภูเขาลูกต่าง ๆ  ส่วนใหญ่ที่ต้องพักเพราะว่าจงซาน เขาต้องหยุดกินอะไรและนอนพักบ้าง ในวันที่สองในตอนเช้าตรู จงซานที่ลืมตาขึ้น ที่จริงก็พบว่าเป่ยชิงซือไม่อยู่หรือไม่?

จงซานที่ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปรอบ ๆ  ก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนยอดเขา จ้องมองหาเป่ยชิงซือ.

เป่ยชิงซือที่อยู่ใกล้ ๆ ชายหาดแห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่านางจะเปียกไปทั่วร่าง เส้นผมของนางดูกระเซอะกระเซิง กระบี่ยาวของนางที่เสียบอยู่บนศพ ๆ หนึ่ง.

จงซานที่บินตรงไปยังทิศทางของเป่ยชิงซือ.

ก่อนที่จงซานจะไปถึง เป่ยชิงซือก็เก็บกระบี่ของนางแล้ว พร้อมกับหันหน้ามามองจงซาน.

ที่ด้านหน้าของเป่ยชิงซือ ศพดังกล่าวถูกแช่แข็ง รอบ ๆ ศพนั้นเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งหนาแช่ไปทั้งหมด เสื้อผ้าของศพสีแดงที่ขาดวิ่น ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเขาสามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องว่าคนผู้นี้ถูกสังหารไปด้วยมือของเป่ยชิงซือ.

"เขาเป็นใครกัน?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เป็นลิ่วล่อของผู้ทรยศ."เป่ยชิงซือกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.

"ตำแหน่งของพวกเราถูกเปิดเผยแล้วรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"อืม พวกเรารีบไปกันเถอะ อีกไม่นานเหล่ากลุ่มผู้ทรยศจะต้องตามมาอย่างแน่นอน."เป่ยชิงซือกล่าว.

"อืม ไปกันเถอะ."จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.

...

ในเวลาเดียวกัน ที่เขตแดนหมาป่า บนภูเขาลูกหนึ่ง.

หวงตี้ราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่ เป็นกลุ่มคนที่เคยปรากฏตัวขึ้นที่ค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง ทุกคนพักอยู่ด้วยกัน.

แม่ทัพเหล่ยติงที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าหวงตี้.

"มีปัญหาอะไร? ไม่ได้เจตจำนงหอกกลับมาอย่างงั้นรึ?"หวงตี้กล่าว.

"ขอรับ เฉียนอู๋ตี้นั้นร้ายกาจมาก พวกเรา...."ใบหน้าของแม่ทัพเหล่ยติงที่เต็มไปด้วยความละอายใจ.

"งั้นเหรอ ไม่ได้มาสินะ"หวงตี้ที่ขมวดคิ้วไปมา.

หวงตี้ที่จ้องมองไปยังแม่ทัพเหล่ยติงที่แสดงท่าทางละอายใจ ทำให้เขาถอนหายใจเบา ๆ  เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจตจำนงหอกนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาทีเดียว.

"คือว่า องค์เหนือหัว."แม่ทัพเหล่ยติงที่ราวกับว่ากำลังพูดตะกุกตะกัก เหมือนมีอะไรจะพูด.

"มีปัญหาอะไรอีกรึ?"หวงตี้ที่กล่าวต่อแม่ทัพเหล่ยติง.

"มีเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องก่อนหน้า คนผู้หนึ่ง ที่น่าจะตายไปแล้วจากเงื้อมมือของพวกเรา "แม่ทัพเหล่ยติงที่กล่าวออกมาในทันที.

"ใครกัน?"

"ท่านจำได้ไหม มดแมลงที่หนีจากพวกเราเมื่อครั้งไปเก็บบุพผาอสนี เขาอยู่ในระดับเซียนเทียน."แม่ทัพเหล่ยติงกล่าว.

"อะไร? ยังไม่ตายอย่างงั้นรึ?"หวงตี้ที่รู้สึกประหลาดใจ.

ทว่าเซียนเซิงซือที่อยู่ด้านข้าง หรี่ตาเล็กลง สายตาของเขาที่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นไปตามที่เขาคาด.

"ขอรับ."แม่ทัพเหล่ยติงที่พยักหน้าและกล่าวเรื่องที่พบกับจงซานตั้งแต่ต้นจนจบออกไป.

ได้ยินคำพูดของเหล่ยติงแล้ว หวงตี้ได้แต่เงียบ ขมวดคิ้วไปมา ท้ายที่สุดก็กล่าวออกมาว่า "ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะไม่ธรรมดา คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนระดับก่อตั้งวิญญาณสองคนปกป้องเขา ดูเหมือนว่าพวกเราจะกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกับเขาไปแล้ว เหล่ยติง เรื่องนี้เจ้าจงจัดการให้เรียบร้อย หากมีโอกาสสังหารเขาไปซะ."

"ครับ."แม่ทัพเหล่ยติงที่รับคำสั่งในทันที.

"อย่าลังเลให้ใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อจัดการเขาไป."หวงตี้ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด