ตอนที่แล้วChapter 112 ความสามารถของเป่ยชิงซือ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 114 พบกับหลางเจียง

Chapter 113 ความเศร้าใจของเทียนชา.


เทียนชาตอนนี้ไม่มีปราณีแม้แต่น้อย ผู้เชี่ยวชาญแกนทอง แม้ว่าจะแข็งแกร่ง ทว่าด้วยพลังความสามารถของเทียนชาและเพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภา การจะจัดการคนที่มีพลังฝึกตนที่ด้อยกว่า ไม่ใช่เรื่องยากเลย ตอนนี้เขาสังหารไปสี่คนแล้ว อีกสี่คนตอนนี้หัวใจเย็นยะเยือบหนีตายไปในทันที.

เทียนชาที่ลอยไปยังทิศทางของธารน้ำแข็ง.

ยากที่จะมีใครต้านทานเขาได้ มีผู้ฝึกตนแกนทองสองคนที่เข้ามาขวางเทียนชา ทว่าพวกเขาสองคนก็ถูกสังหารไปทันที.

ทำให้คนอื่น ๆ นั้นถอยฉากหลบไป.

ความแข็งแกร่งของเทียนชานั้นทุกคนต่างก็ได้เห็น ผู้ฝึกตนระดับแกนทองคนอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ไม่พอที่จะต้านเขาได้.

เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา ทว่าจงซานที่อยู่ไกลออกมานั้น เผยยิ้มอย่างเย็นชาออกมา จ้าวโส่วเซี่ยงที่อยู่ใกล้ ๆ เองก็ขมวดคิ้ว เฝ้ามองจงซานเช่นกัน.

เทียนชาที่ก้าวเคลื่อนเข้ามาช้า ๆ  ด้วยแรงกดดันของเขานั้น ผู้ฝึกตนแกนทองคนอื่น ๆ ไม่มีใครกล้าขวาง ทว่าเป่ยชิงซือนั้นทรงพลังมาก เพียงแค่นางก็ทำให้ผู้ฝึกตนแกนทองคนอื่น ๆ รู้สึกกลัวแล้ว กลุ่มของสำนักทวนเหล็กที่อยู่ตรงกลางจับจ้องมองไปยังเหล่าผู้ฝึกตนแกนทองที่เต็มไปด้วยสายตาที่เกลียดชัง แน่นอน เทียนชาที่สังหารพี่น้องพวกเขาไปหกคน ทำให้พวกเขาโกรธเกลียดเป็นอย่างมาก ทว่าก็ไม่กล้าพอที่จะเข้าโจมตี.

เทียนชาที่บินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ  เขาที่มองเห็นเป่ยชิงซือคราวหนึ่ง จ้องมองไปยังจงซาน จากนั้นก็จับจ้องไปยังพื้นที่รอบ ๆ .

นี่คือความแข็งแกร่งของสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?

"ครืนนนนนน"

บนท้องฟ้า มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.

ประกายแสงที่พวยพุ่งสว่างจ้า ปราณกระบี่และปราณดาบ ตลอดจนปราณหอกที่กระแทกกันจนเกิดเป็นแสงแปบ ๆ  เศษพลังที่แตกกระเซ็นล่วงหล่นไปทุกทิศทุกทาง ปราณกระบี่ที่เหนือล้ำในระดับแกนทองไม่สามารถเทียบได้ มีความใหญ่หลายร้อยจั้งเป็นอย่างต่ำ.

"ตูมม ตูมมมและตูมมม...."

นับว่าเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วงเป็นอย่างมาก พลังที่หลุดออกมานั้นสามารถสร้างหลุมขนาดใหญ่บนภูเขาเลยทีเดียว ศิลาขนาดยักษ์หลายก้อนเพียงแค่แสงของปราณที่หลุดพ้นออกมาถึงกับถูกบดขยี้แหลกเป็นผงไปทันที อย่างไรก็ตามประกายแสงที่เกิดจากการหักเหแตกกระเซ็นของปราณกระบี่ ปราณดาบและปราณหอกไม่ได้หล่นลงมายังกลุ่มคนแต่อย่างใด.

เหล่าหมู่มวลเมฆาที่สลายหายไปหมด ท้องฟ้าที่เปิดโล่ง ปรากฏกลุ่มคนที่ลอยอยู่บนอากาศ.

เฉียนอู๋ตี้ และศัตรูสี่คน หลังจากที่ต่อสู้มาพักหนึ่ง เขาก็หยุดลอยอยู่บนอากาศ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ดวงตาที่แดงซาน เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น มีโลหิตที่ไหลซึมออกมาทั่วร่าง กับการต่อสู้ที่หนักหน่วงของเฉียนอู๋ตี้นั้น เขาไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย หอกยาวของเขาที่ชี้ไปยังคนทั้งสี่ มีหยดโลหิตกำลังหยดออกมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงรุนแรงเป็นอย่างมาก.

คนทั้งสี่ตอนนี้เผยสีหน้าตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย คาดไม่ถึงเลยว่าเฉียนอู๋ตี้จะร้ายกายขนาดนี้ ประมุขหุบเขาเทียนโหยวและประมุขสำนักหมื่นปิศาจ ที่ไหล่ของพวกเขาเป็นรูด้วยหอกยาวของเฉียนอู๋ตี้ โลหิตกำลังไหลซึม ที่มุมปากเองก็มีโลหิตไหลออกมาเป็นทางยาว.

ส่วนประมุขหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์แม้จะไม่ได้รับคมหอก ทว่าอวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย ที่มุมปากจึงมีโลหิตไหลออกมาเช่นกัน ใบหน้าที่เป็นปฏิปักษ์จ้องมองไปยังเฉียนอู๋ตี้.

แม่ทัพเหล่ยติงมีสภาพดีที่สุด บางทีเพราะว่าเขาไม่ได้ทุ่มกำลังอะไรมากมายเท่าไหร่ ดังนั้นจึงมีเพียงแค่ชุดมีรอยขาดบ้าง ทว่าทั่วร่างไม่ได้มีบาดแผลแต่อย่างใด.

ผู้นำหุบเขาเทียนโหยวที่กุมดาบแน่นจ้องมองไปยังเฉียนอู๋ตี้ ดวงตาที่เผยประกายแสงหวาดกลัว ท้ายที่สุดก็กล่าวออกมาเสียงสั่น"ศิษย์ของหุบเขาเทียนโหยวรับคำสั่ง."

"..."เหล่าศิษย์ของหุบเขาเทียนโหยวที่ติดต่อร้องเรียกกันไปมาทันที.

"กลับหุบเขา."ผู้นำหุบเขาเทียนโหยวที่กล่าวออกมาไม่ดังนัก ก่อนที่จะบินตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้.

ทว่าเหล่าศิษย์หุบเขาเทียนโหยวที่เห็นประมุขจากไป พวกเขาเร่งรีบออกคำสั่ง พร้อมกับนำเหล่าศพและศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ มุ่งหน้ากลับไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน.

"ศิษย์สำนักหมื่นอสูรรับคำสั่ง."ประมุขสำนักหมื่นอสูรที่กุมไหล่ตัวเองไว้พร้อมกับออกคำสั่งออกมาเช่นกัน.

".."เหล่าศิษย์ของสำนักหมื่นอสูรต่างก็รับคำสั่ง.

"กลับภูเขา."ผู้นำสำนักหมื่นอสูรหลังจากสั่งการเสร็จก็เร่งรีบบินจากไปในทันที.

เหล่าศิษย์ของพวกเขาทั้งหมดของสำนักหมื่นอสูร เร่งรีบตามไป.

ที่เหลือยู่ตอนนี้คือผู้นำหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์และแม่ทัพเหล่ยติง.

เฉียนอู๋ตี้จ้องมองลงมายังด้านล่าง ก่อนที่จะค่อยหย่อนร่างร่อนลงมาช้า ๆ  ก่อนที่จะหยุดนิ่งอยู่บนธารน้ำแข็ง แม้ว่าจะไม่เข้าใจเท่าใดนักกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทว่าเขาสามารถมองเห็นได้ว่ามีคนสองคนที่คอยช่วยเหลือกลุ่มคนของสำนักทวนเหล็ก ไม่น่าจะมีปัญหา.

ประมุขหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์และแม่ทัพเหล่ยติงที่ค่อย ๆ หย่อนร่างลงมาด้านล่างเช่นกัน เหล่าศิษย์มากมายของสำนักหมู่บ้านพิสุทธิ์ทั้งระดับแกนทองและเซียนเทียน ต่างเร่งรีบเข้ามารายล้อมประมุขของพวกเขา พวกเขาที่กำลังเข้ามารายงานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทว่าแม่ทัพเหล่ยติง เวลานี้เขากำลังจ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ไกลออกไป.

"ยังไม่ตายอยู่อีกรึ?"แม่ทัพเหล่ยติงที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

จงซานที่ยืนอยู่ตรงกลาง ก็จ้องมองไปยังแม่ทัพเหล่ยติงเช่นกัน ภายในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล "ถูกแล้ว ข้ายังไม่ตาย!"

ใช่!ข้ายังไม่ตาย! ดูราวกับว่าเป็นคำเสียดสีแม่ทัพเหล่ยติง กับมดปลวกเล็ก ๆ  ที่เขาควรจะตายไปแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะโชคดีรอดมาได้ เขาจะต้องสังหารเขาให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ดีแน่หากว่าฝ่าบาทของเขารับรู้.

"มู่ตู เฉียนอู๋ตี้ตอนนี้เป็นเพียงลูกธนูที่สุดแรงบิน สังหารเขาในทันที "แม่ทัพเหล่ยติงที่กล่าวออกมา.

强弩之末 Qiáng nǔ yǐ mò ลูกธนูที่สุดแรงบิน หมายถึง กำลังอันเข้มแข็งเกรียงไกรนั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว  หรือใกล้จะหมดแรงนั่นเอง.

ประมุขหมู่บ้านพิสุทธิ์ที่เช็ดโลหิตจากปากของเขาก่อนที่จะจ้องมองออกไป เป่ยชิงซือ?เทียนชา? จากพลังของทั้งคู่ที่แสดงออกมาก่อนหน้า เทียบได้กับระดับก่อตั้งวิญญาณทีเดียว.

คนทั้งสองแม้ว่าจะยังไม่ก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ แต่ก็เทียบเท่าได้เลย จะจัดการง่าย ๆ ได้รึ อีกอย่างเฉียนอู๋ตี้กำลังจะหมดแรงจริง ๆ รึ?

เขาที่หันหน้าจ้องมองไปยังแม่ทัพเหล่ยติง ที่จริงเขาเห็นแม่ทัพเหล่ยติงกำลังจ้องมองเขม็งไปยังผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนในกลุ่มอย่างงั้นรึ?

"ฮ่าฮ่าฮ่า มู่ตู เหล่ยติง เหลือเพียงพวกเจ้าแล้ว"เฉียนอู๋ตี้ที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล สายตาของเขาที่เผยความบ้าคลั่งอย่างรุนแรง หากว่าคนทั้งสองไม่เข้ามา แสดงว่าจะเป็นไปตามแผนการของเขา.

ประมุขหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์ ภายในดวงตาที่มีประกายแสงความโกรธอยู่ "ลูกธนูที่สุดแรงบินอย่างงั้นรึ? หากว่าเป็นลูกธนูที่สุดแรงบินจริง ทำไมก่อนหน้านี้เจ้าไม่ใช้แรงออกมาเต็มทีกัน? ชิ เจ้าต้องการสังหารเจ้าเด็กเซียนเทียนนั่นอย่างงั้นรึ?"

"ใช่ ตอนนี้ข้าต้องการสังหารเจ้าเด็กนั่น."เหล่ยติงที่ไม่ปฏิเสธ ใบหน้าของเขาที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยจิตสังหารที่รุนแรง.

ได้ยินคำพูดของแม่ทัพเหล่ยติง เป่ยชิงซือที่ย่างก้าวออกไป ก่อนที่ธารน้ำแข็งจะเคลื่อนนำนางออกไป ไปอยู่ด้านหน้าจงซาน ทว่าเทียนชาเองก็เคลื่อนที่ลงมาด้านล่างในทันทีเช่นกัน.

เห็นเป่ยชิงซือและเทียนชาที่ร่อนลงมาอยู่ไม่ไกลจากจงซาน สายตาของแม่ทัพเหล่ยติงเต็มไปด้วยความเย็นชาและกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "ดี ดีมาก ไม่คาดเลยว่าแค่เพียงระดับเซียนเทียนกระจอก ๆ  จะมีอิทธิพลมากขนาดนี้."

แม่ทัพเหล่ยติงที่เห็นคนทั้งสองร่อนลงมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขากำลังปกป้องจงซานเป็นพิเศษ.

ที่จริงเป่ยชิงซือนั้นต้องการปกป้องจงซาน ส่วนเทียนชานั้นหวังที่จะให้จงซานตายไปในทันที การที่เหินลงมานั้นก็เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองดูไม่ดี ทว่าในเวลานี้ สายตาที่เขาจ้องมองไปยังแม่ทัพเหล่ยติงนั้น ได้ตะโกนออกมาลึก ๆ  ว่าเขาไม่ได้ปกป้องจงซาน ช่วยสังหารจงซานไปซะ และนั่นจะทำให้สามารถทำลายตรวนที่ผูกมัดเป่ยชิงซือเอาไว้ได้.

ทว่า เสียงร้องในหัวใจของเทียนชานั้นเขาไม่สามารถเอ่ยออกมาให้คนอื่น ๆ รับรู้ได้อย่างแน่นอน.

อย่างไรก็ตาม เทียนชาที่จับจ้องมองไปยังแม่ทัพเหล่ยติง กลับทำให้แม่ทัพเหล่ยติงคิดว่าเทียนชานั้นเป็นห่วงจงซาน ดูแลดีผิดจากปกติ การที่มีคนระดับก่อตั้งวิญญาณปกป้องคนในระดับเซียนเทียนเช่นนี้ ในอนาคตข้างหน้ายิ่งต้องเป็นกังวล ไม่ใช่แค่เขา ทว่าในอนาคตจะต้องสร้างปัญหาให้กับเหนือหัวของเขาอย่างแน่นอน.

สายตาของแม่ทัพเหล่ยติงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ถึงแม้ว่าเทียนชาจะมองมาที่เขาอย่างดุดัน ทว่าแม่ทัพเหล่ยติงก็ตัดสินใจว่าจะต้องเร่งรีบสังหารจงซานในทันที.

"ศิษย์สำนักหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์รับคำสั่ง."มู่ตูที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"ครับ!"เหล่าศิษย์สำนักหมู่บ้านพิสุทธิ์ที่ตอบรับพร้อม ๆ กัน.

"กลับขุนเขา."มู่ตูสั่งการออกไปในทันที.

ตามความเห็นของมู่ตูนั้น ฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแกร่งก่อตั้งวิญญาณถึงสามคน เฉียนอู๋ตี้นั้นได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน ทว่าเขาไม่สามารถบอกได้ว่าหนักหนาขนาดใหน มูตู ไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย เขาในเวลานี้ก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นอย่างชัดเจนว่า เหล่ยติงนั้นไม่ได้พยายามอะไรเลย ด้วยความหวาดหวั่น กลับสถานการณ์ในเวลานี้ การกลับขุนเขาโดยเร็วเป็นเรื่องที่เหมาะที่สุดแล้ว.

น้ำเสียงของเขานั้นไม่สนใจเหล่ยติงแม้แต่น้อย มู่ตูพาศิษย์ของเขาจากไปในทันที.

เห็นมู่ตูจากไปแล้ว สายตาของแม่ทัพเหล่ยติงชำเลืองมองตาม มีประกายแสงความผิดหวังซ่อนอยู่ เขาต้องการให้มู่ตูช่วยสู้อีกแรง ทว่ามู่ตูกลับไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อใจเขาไปแล้ว.

หลังจากที่คนของสำนักหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์จากไป หอกยาวของเฉียนอู๋ตี้ก็ชี้ตรงไปยังแม่ทัพเหล่ยติงในทันที.

ความแข็งแกร่งของเฉียนอู๋ตี้นั้น แม่ทัพเหล่ยติงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ระหว่างการต่อสู้นั้น เฉียนอู๋ตี้ที่สามารถรับมือกับคนสี่คน สามารถสร้างอาการบาดเจ็บไม่น้อยกับผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณสามคน ก่อนหน้านี้เขาพูดออกไปต่อมู่ตู ว่าเขาเป็นลูกธนูที่สุดแรงบิน ทว่าอาการบาดเจ็บที่แท้จริง แม่ทัพเหล่ยติงเองก็ไม่มั่นใจแม้แต่น้อย.

บางทีแม้ว่าเป่ยชิงซือและเทียนชาไม่ปรากฏ หากเขาไม่ได้บาดเจ็บจริง ๆ  เฉียนอู๋ตี้น่าจะจัดการสถานการณ์ทั้งหมดได้ด้วยพลังของเขา มู่ตู่จากไปแล้ว กลายเป็นว่าเผือกร้อนนี้เขาจะต้องรับมันคนเดียว.

ทำอย่างไรดี? สามต่อหนึ่งอย่างงั้นรึ?

ใบหน้าที่เย็นชาจดจ้องมองไปยังจงซาน มีประกายแสงความหดหู่อยู่ภายในสายตาของเขา ก่อนที่เขาจะหันหน้าและกระโดด ก้าวผ่านสายลมหนีไป เขายอมชั่วคราวที่จะสังหารจงซานไปก่อน.

เห็นแผ่นหลังของแม่ทัพเหล่ยติงที่ลอยออกไปไกล ภายในสายตาของเทียนชาเผยท่าทางขมขื่นออกมา นี่คิดว่าเขาจะขวางทางอย่างงั้นรึ?

เห็นเหล่าศัตรูที่จากไปหมดแล้ว เป่ยชิงซือที่สะบัดมือออกไป ธารน้ำแข็งกว่าร้อยเมตรก็สลายกลายเป็นสายธารดั่งเดิม พร้อมกับไหลกลับแม่น้ำที่อยู่ด้านข้าง.

ชนะ ปลอดภัยแล้ว.

เหล่าศิษย์ของสำนักทวนเหล็กทุกคนตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สายตาของพวกเขาที่ยินดีที่รอดพ้นจากภัยพิบัติ.

"พรึด ๆ "

ใบหน้าที่แดงซ่านของเฉียนอู๋ตี้ พ่นโลหิตออกไปในทันที ร่างกายที่สั่นสะท้าน ทรุดลงทันที.

"อาจารย์."

ศิษย์คนหนึ่งของสำนักทวนเหล็กที่ร้องออกมา ร่างกายที่ขยับเข้าประคองเฉียนอู๋ตี้ และคนอื่นที่ตื่นตะลึงตั้งสติได้ก็เร่งรีบเข้ามาเช่นกัน.

"อาจารย์." "อาจารย์" .....

เหล่าศิษย์ของสำนักทวนเหล็กที่ตื่นตระหนกตกใจ ทว่าก็เร่งรีบส่งเม็ดยาใส่ปากของเฉียนอู๋ตี้ทันที.

เฉียนอู๋ตี้ที่โบกมือไปมา ก่อนที่จะขวางกั้นไม่รับเม็ดยา ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างลำบาก "ไร้ประโยชน์ ก่อนหน้านี้ข้าต่อต้านกับผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณสี่คน ข้าได้เผาไหม้จิตวิญญาณไปแล้ว พลังทั่วร่างตอนนี้กำลังย่ำแย่ ไม่สามารถช่วยได้แล้ว."

"ไม่ อาจารย์อย่าพูดเช่นนั้น."เหล่าศิษย์ของสำนักทวนเหล็กไม่อยากเชื่อ เขาที่ต้องการส่งเม็ดยาใส่ปากของเฉียนอู๋ตี้.

เฉียนอู๋ตี้ส่ายหน้า พร้อมกับหลับตา เขาที่ได้ยินเสียงร้องระงมของเหล่าศิษย์ ก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ .

"จ้าวโส่วเซี่ยง คุกเข่า."เฉียนอู๋ตี้ที่เอ่ยออกมาทันที.

จ้าวโส่วเซี่ยงเร่งรีบมายังด้านหน้าทันที เขาที่คุกเข่าลงกับพื้น คุกเขาต่อประมุข ใบหน้าที่บวมปูดตอนนี้กำลังตื่นตกใจ ท่านประมุขกำลังจะตายอย่างงั้นรึ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด