Chapter 109 จงซาน ปะทะ หนานป้าเทียน.
"เขาคือจงซานอย่างงั้นรึ?คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีระดับหกเซียนเทียนแล้ว นี่ต้าหนิว ก่อนหน้านี้เขาเอาชนะเจ้าได้ใช่หรือไม่?"
"ก่อนหน้านี้ข้าพ่ายแพ้เขา ทำให้ข้าต้องฝึกฝนอย่างหนัก คาดไม่ถึงว่าหนึ่งปีหลังจากนั้นข้าก็มีระดับหกเซียนเทียนเช่นกัน ข้าเตรียมที่จะท้าประลองเขาอีกครั้ง ทว่ากับไม่เคยเห็นเขาเลย คาดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้เขาจะท้าประลองกับระดับเก้าเซียนเทียนเลย ชิ แส่หาความตายชัด ๆ ."
"แต่ว่าเขาก็มีความกล้าที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ หากเป็นเจ้า คิดว่าเจ้าจะกล้าอย่างงั้นรึ?"
"ข้าจำเป็นต้องแสวงหาความอับอายมาให้กับตัวเองรึไง."
ที่มุมแห่งหนึ่งมีคนที่เคยพ่ายแพ้จงซาน ซึ่งเขาเองก็เป็นศิษย์ที่เพิ่งเข้ามาสำนักไคหยางเมื่อสองปีที่แล้วเช่นกันกำลังพูดคุยกับคนอื่นอยู่.
เหล่าศิษย์ขั้นสามมากมายกว่าห้าสิบคน พวกเขาต่างก็พูดคุยกันไปต่าง ๆ นา ๆ ทว่าส่วนมากแล้วพวกเขาไม่ได้มองจงซานในแง่ดีนัก.
จงซานที่ยังคงหลับตาแน่นยืนอยู่ตรงกลางไม่แยแสต่อคนรอบข้าง เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเลยแม้แต่น้อย เขารอคอยเพียงแค่หนานป้าเทียนเท่านั้น.
ท้ายที่สุด หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งก้านธูป ตอนป่ายแก่ ๆ หนานป้าเทียนที่มีรอยแผลเป็นที่ใบหน้า ก็ปรากฏตัวออกมา.
หนานป้าเทียนเองก็หาได้สนใจคนอื่นนัก เพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าคนเหล่านี้เพียงแค่ต้องการมาเรียนรู้เท่านั้น.
หนานป้าเทียนที่สนใจจงซานที่อยู่ไม่ไกลออกไป.
ในมือของเขาที่มีง้าวยักษ์ ก่อนที่จะมาปรากฏตัวที่ด้านหน้าของจงซาน.
"ครืนน ๆ ."ง้าวยักษ์ที่กระแทกลงบนพื้น หนานป้าเทียนจ้องมองไปยังจงซาน.
"..."ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้น ก่อนที่จะชักกระบี่ขึ้นจากพื้นช้า ๆ .
"จงซาน หวังว่าเจ้าจะแสดงความสามารถทั้งหมดออกมาจากการต่อสู้ในครั้งนี้."หนานป้าเทียนที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
จ้องมองไปยังหนานป้าเทียน จงซานก็กล่าวออกมาว่า"ข้าจะทำเต็มที โปรดระวังตัว."
ได้ยินคำพูดของจงซาน ทุกคนต่างก็คิดว่าจงซานบ้าไปแล้ว โปรดระวังตัวอย่างงั้นรึ? นี่ควรจะเป็นคำพูดของหนานป้าเทียนไม่ใช่รึไง? คาดไม่ถึงเลย ว่านี่จะออกมาจากปากของจงซาน.
"ดี."หนานป้าเทียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
หนานป้าเทียนที่ขยับง้าวของเขา มือขวาที่หวี่ยงไปมา ด้วยมือเดียว ง้าวยักษ์ที่ถูกชี้ตั้งขึ้น พร้อมกับฟันมายังด้านหน้าของจงซาน ขณะเดียวกันก็ปล่อยปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมากดดันจงซาน.
วิชากายาเทพอสูร ระดับสอง!
ดวงตาของจงซานที่เปล่งประกาย ด้วยวิชากายาเทพอสูรถูกเปิดการใช้งาน พลังของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า จากเดิม.
จงซานที่ตวัดดาบยักษ์เขาปะทะง้าวยักษ์ในทันที.
"ตูมมมมม"
เสียงระเบิดดังลั่น คลื่นพลังที่รุนแรงกำลังแผ่ออกจากเท้าของทั้งคู่ จนทำให้ผืนดินรอบ ๆ แตกเป็นรอยยาว เกิดเสียงดังลั่น ทำให้คนที่เฝ้ามองดูเต็มไปด้วยความตกใจ บางคนถึงกับหายใจแฮก ๆ ทีเดียว.
หนานป้าเทียนที่มีระดับเก้า จงซานที่มีระดับหก? เขา ทำเช่นนี้ได้อย่างไร?
หลายคนก่อนหน้านี้ที่กล่าวล้อจงซาน ใบหน้าถึงกับแข็งค้างไปเลยทีเดียว.
ในเมื่อนี่คือการต่อสู้อย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าหนานป้าเทียนเองก็ใช้ฝีมือเต็มทีเช่นกัน ง้าวยักษ์ของเขาที่พลิก งัดคมง้าวกระแทกดาบยักษ์ออกไป พร้อมกับโจมตีจงซานเป็นครั้งที่สอง.
ระดับเก้าเซียนเทียน ความเร็วของเขานั้นมีมากมายมหาศาล และพลังเองก็มากมายเป็นอย่างมาก.
แน่นอนจงซานเข้าใจดีทำให้เขาเริ่มใช้พลังสามเท่าตั้งแต่แรก เพราะหากใช้แค่เพียงสองเท่า เพียงแค่กระบวนท่าเดียว เขาก็พ่ายแพ้แล้ว.
แม้ว่าจะใช้แรงสามเท่าแล้ว การปะทะกันตรง ๆ เองก็แทบจะทำให้จงซานกระเด็นออกไปเช่นกัน หนำซ้ำยังดูเหมือนว่าความเร็วของหนานป้าเทียนยังมีมากกว่าเขามากมาย เขาที่สร้างปราณดาบปลดปล่อยออกมาพร้อมกันหลาย ๆ ครั้ง สร้างปราณดาบขนาดใหญ่ เพื่อกระแทกไปยังหนานป้าเทียน เพื่อป้องกันการปัดป้องของเขา ปราณดาบที่พุ่งออกไปยังทิศเดียวกัน.
ด้วยการฟันออกไปสามครั้งอย่างรวดเร็ว ปราณดาบสามเส้นก็ตรงไปยังด้านหน้าของหนานป้าเทียนพร้อม ๆ กัน.
ทันใดนั้น ประกายแสงของปราณดาบที่พุ่งตรงไปยังหนานป้าเทียน นอกจากนี้ น่าประหลาดใจ ปราณดาบทั้งสามนั้นไม่ได้ทรงพลังพอที่จะจัดการเขา หนานป้าเทียนที่หลบอย่างรวดเร็ว ทว่าทิศทางที่เขาหลบออกมานั้น จงซานที่ตวัดดาบฟันออกไปเช่นเดียวกัน.
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับเปลี่ยนเป็นเงียบงัน ปราณดาบสามเส้น ระดับหกเซียนเทียน? ระดับหกเซียนเทียนก็สามารถทำได้อย่างงั้นรึ?
"ย๊าก!!"
หนานป้าเทียนที่คำรามออกมา ง้าวยักษ์ในมือของเขาก็เปล่งแสงสีทองออกมา ตวัดออกไปฟันขึ้นไปจากด้านล่างเช่นกัน.
อาวุธของหนานป้าเทียนก็คือง้าวยักษ์ ช่วงการฟันของมันนั้นย่อมมีมากกว่าดาบเป็นธรรมดา พลังของดาบและง้าวที่เข้าปะทะกันด้วยความรุนแรง.
ดาบยักษ์ของจงซานและง้าวยักษ์ของหนานป้าเทียนต่างก็ส่องประกายแสง ปรานพลังของอาวุธทั้งสองที่ผลักดันกันไปมา.
ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็กลง ขณะที่พวกเขากำลังจะกระแทกกันออกมา จงซานที่สามารถรับรู้ได้ว่าช่วงกระบวนท่าจากง้าวของหนานป้าเทียนนั้นยาวกว่า ดาบของเขาได้เปรียบกว่าในระยะทางที่สั้น.
"ครืน ๆ ๆ !"
ทันทีที่ถอนปราณกระบี่ จงซานส่งปราณดาบสามเส้นปล่อยออกไปในทันที ทว่าหนานป้าเทียนเองก็ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ คมดาบที่ฟันไปยังปราณดาบระเบิดเสียงดังสนั่น.
"ตูมมมมม"
เสียงระเบิดอย่างรุนแรง เกิดเป็นหลุมลึกสิบเมตรขนาดความกว้างสองเมตรขึ้นในทันที.
จงซานที่หลบเลี่ยง กระโดดขึ้นบนอากาศ ก่อนที่จะฟันออกไป.
กระบวนท่า ฟันทลายสรรพสิ่ง!
ดาบยักษ์ของจงซานนั้นเต็มไปด้วยปราณที่ทรงพลัง ฟันออกไปด้านข้างของหนานป้าเทียน.
ระยะของง้าวหนานป้าเทียนที่ยาวกว่า เขาไม่มีเวลาในการปัดป้องแน่นอน ร่างกายของเขาที่หลบฉากการฟันของจงซาน เฉียดด้านข้างของเขาไปเล็กน้อย.
"ตูมมมมม"
ดาบของจงซานที่ฟันลงไปยังพื้นด้านหน้าของหนานป้าเทียน เกิดเป็นหลุมยักษ์ขนาดใหญ่ ที่มีความยาวหลายสิบเมตร หนานป้าเทียนอาจจะถูกฟันขาดไปอย่างแน่นอนหากว่าเขาไม่หลบ.
ทว่าจงซานรู้ดีว่า พลังดังกล่าวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำอันตรายหนานป้าเทียน อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาได้ปล่อยปราณถึงสามเส้นออกไป ดังนั้นกระบวนท่าต่อมาจึงมีพลังด้อยกว่าที่ควรจะเป็น.
กระบวนท่าของทั้งสองคนทั้งเร็วและทรงพลัง ดาบยักษ์ที่ฟาดฟันไปรอบ ๆ ปราณง้าวยักษ์เองก็รวดเร็วและทะลวงไปด้านหน้าแทบมองไม่เห็น พื้นดินรอบ ๆ เกิดเป็นหลุมเป็นแอ่งเกิดขึ้นมากมาย การต่อสู้ดีที่รุนแรงของศิษย์ขั้นสามเช่นนี้ ร้อยปียังยากที่จะมีใครทำได้.
สายตาของทุกคนที่กำลังเฝ้ามอง ดวงตาแทบถลนออกมาด้วยความตื่นตกใจ.
พวกเขาตกใจสุด ๆ โดยเฉพาะจงซานนั้นร้ายกาจมาก ก้าวล้ำนำหน้าพวกเขาไปไกลมาก.
นี่เขาเพิ่งมีระดับหกเซียนเทียนอย่างงั้นรึ?
"หงหนิว เจ้าต้องการจะท้าประลองกับจงซานจริง ๆ รึ?"ศิษย์ขั้นสามผู้หนึ่งสอบถามอีกคนที่เคยพ่ายแพ้จงซานมาก่อนหน้านี้.
หงหนิว."...."
ที่บนยอดเขาไคหยาง เทียนซวินจื่อที่จ้องมองด้วยสายตาที่พึงพอใจ เขาที่ลูบเคลาไปมา โดยที่มีเสวียนซวินจื่อชำเลืองมองตาโต สายตาที่เปล่งประกายหายใจหนักหน่วง"ศิษย์พี่ ข้าได้ยินมาก่อนว่าเขาเคยรับมือกับระดับเก้าเซียนเทียนมาก่อน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง หากไม่เห็นกับตาข้าคงไม่เชื่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ."
"ข้าเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ข้าเองก็ไม่เชื่อคำพูดของหลิงเอ๋อนัก จงซานเวลานั้นมีระดับสี่เซียนเทียน กลับสามารถที่จะต่อกรกับระดับแกนทองขั้นกลาง เมียวเซียนหลิน และยังมีผู้ฝึกตนเซียนเทียนขั้นปลายที่โลกปุถุชนคฤหาสน์จงซึ่งได้รับบาดเจ็บ เขาสามารถจัดการคนเหล่านั้นได้ อีกอย่างข้านึกได้ก่อนหน้านี้ที่เขาได้ประลองกัน เพื่อช่วงชิงมุกคงหลิง ดูเหมือนว่าเขาจะมีทักษะบางอย่างที่สามารถเพิ่มพลังขึ้นได้ในทันที ข้าสงสัยว่าเป็นวิชาลับ แต่ว่ามันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริง ๆ ."เทียนซวินจื่อที่อุทานออกมา.
"อืม ป้าเทียนเอง แม้ว่าเขาจะมีระดับเก้าเซียนเทียน ทว่ากระบวนท่าวิชาเพลงง้าวของเขานั้น เทียบได้กับระดับสิบเซียนเทียนทั่วไปได้เลย ไม่ใช่ว่าจะรับมือได้ง่าย ๆ ทว่าจงซาน นอกจากยังไม่ได้พ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว ยังต่อกรได้โดยไม่เสียเปรียบ พวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย ดูเหมือนว่าข้าจะคาดเดาผิดมาตั้งแต่แรกแล้ว."เสวียนซวินจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่ศิษย์ในนามของข้าเท่านั้น หากว่าเจ้าต้องการ สามารถที่จะรับเขาเป็นศิษย์ในภายภาคหน้าได้."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ศิษย์พี่."เสวียนซวินจื่อขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.
"ฮึ ฮึ หากว่าข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะช่วยดูแลเขาแทนข้าได้หรือไม่?."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างกำกวม.
อย่างไรก็ตามเสวียนซวินจื่อที่คิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนที่จะกล่าวอกมา "ศิษย์พี่ ที่จริงท่านต้องการตามอู๋โหยวไปอย่างงั้นเหรอ."
"หลิงเอ๋อเองก็โตแล้ว เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ไว้พวกเราค่อยคุยกัน."เทียนซวินจื่อที่กล่าวหยุดหัวข้อดังกล่าวไปในทันที.
"ครับ."เสวียนซวินจื่อที่พยักหน้า และจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อที่พยักหน้าให้เขาเช่นกัน.
จงซานและหนานป้าเทียนที่ต่อสู้กันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าจะอันตรายขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน เป่ยชิงซือที่ซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง ขมวดคิ้วไปมา สายตาของนางนั้นมีความกังวลแฝงอยู่ด้วย.
ส่วนอีกมุมหนึ่ง เนี่ยชิงชิงที่สายตาหรี่เล็กลง นางที่ปรารถนาให้คมง้าวของหนานป้าเทียนแยกร่างของจงซานไป หลิงเอ๋อจะได้เป็นอิสระ ทว่าจงซานผู้นี้ดูผิดปรกติจริง ๆ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถเพิ่มพลังขึ้นมาได้ถึงสามเท่า ทว่าเพียงแค่นั้น ไม่น่าจะสูสีกับหนานป้าเทียนได้ ดูเหมือนว่าจะยังมีอะไรอีก ถึงทำให้พวกเขายังเสมอกัน จนไม่สามารถที่จะบอกว่าใครจะแพ้และชนะได้?
"ย๊าก!"
หลังจากที่ผ่านไปสามก้านธูป จงซานและหนานป้าเทียนก็ตะโกนลั่น ก่อนที่อาวุธทั้งสองจะเข้าปะทะกันเสียงดังสนั่น.
"ตูมมมมมมม"
ระเบิดเสียงดังสนั่น พื้นที่รอบ ๆ พังทลายเสียหาย พื้นดินกระจุยกระจาย คนทั้งสองถูกกระแทกถอยหลังออกจากกัน.
หนานป้าเทียนที่ถอยห่างออกมาสองก้าว ง้าวยักษ์ของเขาที่ปักลงพื้น เพื่อพยุงร่างกาย ทว่าจงซานกลับถอยห่างออกมาสิบก้าว ก่อนที่จะใช้เท้าดันหินเอาไว้เพื่อพยุงร่างกายเช่นกัน.
กับการปะทะครั้งสุดท้ายนั่น จงซานที่จงใจจะให้เป็นเช่นนั้น เพราะว่าหากปล่อยไปอีกหนึ่งก้านธูปล่ะก็ ผลกระทบของวิชากายาเทพอสูรจะเริ่มส่งผล เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบในทันที ดังนั้นภายในสามก้านธูปเขาจะต้องเอาชนะให้ได้ ทว่าหากเลยก็แสดงว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว.
เมื่อเขายั้งเท่านั้น จงซานจึงเป็นฝ่ายกล่าวจบการต่อสู้ในครั้งนี้เอง หนานป้าเทียนที่อยู่ไม่ไกล ก็นั่งลงพร้อมกับนั่งบำเพ็ญควบคุมลมหายใจทันที ไม่ ดูเหมือนว่าเขาจะหลับตาลงเพื่อทะลวงผ่านระดับ.
หนานป้าเทียนกำลังจะทะลวงผ่านระดับอย่างงั้นรึ?
การต่อสู้ได้จบลงแล้ว ทว่าสายตามากมายของคนที่อยู่รอบ ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่จบ จงซาน เขาเพิ่งเข้ามาภายในสำนักไคหยางเพียงแค่สองปีจริง ๆ รึ?
เทียนซวินจื่อและเสวียนซวินจื่อที่จ้องมองหน้ากันและกัน ลานฝึกแห่งนี้เต็มไปด้วยซากพังทลายเป็นหลุมเป็นบ่อ พวกเขาที่เหินลงมาจากยอดเขาไคหยาง พร้อมกับลงมาอยู่ด้านหน้าหนานป้าเทียนและจงซาน.
"คารวะอาจารย์ คารวะอาจารย์อา."จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
พวกเขาจ้องมองไปยังจงซาน เทียนซวินจื่อที่พยักหน้าให้พร้อมกล่าวว่า "เจ้ากลับไปก่อน."
เทียนซวินจื่อที่รู้ว่าจงซานใช้วิชาลับ วิชาลับดังกล่าวจะต้องมีผลสะท้อนกลับอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงให้จงซานกลับไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.
"ครับ อาจารย์."จงซานพยักหน้าพร้อมกับก้าวขึ้นกระบี่ตรงไปยังติงสุ่ยเซี่ยในทันที หนานป้าเทียนมีเสวียนซวินจื่อดูแล ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงอย่างแน่นอน.
เห็นจงซานจากไปแล้ว เป่ยชิงซือก็จากไปเช่นกัน ทว่าเนี่ยชิงชิงที่รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก นางที่จ้องมองจากที่ไกลออกมา ทว่าก็ไม่ได้ไล่ตามไปแต่อย่างใด.
เหล่าศิษย์ขั้นสามเวลานี้จ้องมองไปยังจงซานที่จากไป เผยสีหน้าด้วยความหวาดกลัวออกมาด้วยเช่นกัน นี่คือยอดฝีมือ ควรค่าแล้วที่จะเรียกเขาว่ายอดฝีมือ.