ตอนที่แล้วChapter 100 หนึ่งกลยุทธ์ล้อมกรอบ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 102 สร้างตราประทับพระราชลัญจกร ครรลองสวรรค์เก้ามังกร

Chapter 101 ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี


"ย๊ากกก!" ดวงตาของบรรพชนซูที่เต็มไปด้วยสีแดงโลหิต คำรามลั่น พร้อมกับพุ่งตรงมายังจงซาน.

สายโลหิตคนสุดท้ายของเขา ได้ถูกทำลายไปแล้วรึ?

และเป็นฝีมือของจงซาน.

กระบี่ในมือที่ร่ายรำพุ่งออกไป เพลงกระบี่ของบรรพชนซูนับว่าร้ายกาจทีเดียว จงซานที่เห็น ก็ขมวดคิ้วไปมา พร้อมกับชักกระบี่นิรันดร์เข้าต้าน พร้อมกับถอยห่างออกมาด้วยเช่นกัน เป็นการสู้พลางถอยพลางไปเรื่อย ๆ .

จงซานที่ถอยห่างออกมาจากกลุ่มคน เพราะว่าไม่ต้องการให้ใครได้รับผลจากคมกระบี่ของพวกเขา บรรพชนซูตอนนี้ กำลังบ้าคลั่ง เขาที่คิดแต่จะสังหารจงซาน ส่วนจงซานที่รับมือพร้อมกับถอนตัวออกมา บรรพชนซูเองก็ไล่ล่าตามกระชั้นชิด เหล่ามือธนูเองก็ไม่กล้ายิงแต่อย่างใด เพราะกลัวว่าจะพลาดไปถูกประมุขจง พวกเขาจะกล้าปล่อยลูกศรได้อย่างไร?

เหล่าผู้ฝึกตนเซียนเทียนก่อนหน้านี้ต่างก็ถูกจัดการด้วยลูกศรไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงบรรพชนซูคนเดียวที่กำลังเผชิญหน้ากับจงซาน.

ทั้งคู่ที่วิ่งขึ้นไปบนหลังคา จงซานที่หลบหนีอย่างไม่แยแส เมื่อครั้งที่เขามีระดับเซียนเทียนระดับสี่ ทว่าร่างแยกเงานั้นก็มีความเร็วกว่าเจียงซือทองแดงแล้ว ทว่าตอนนี้ก้าวไปถึงระดับห้าแล้ว ความเร็วยิ่งมากมายกว่าแน่นอน.

อย่างช้า ๆ  ใบหน้าของบรรพชนซูที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วง.

"หอกธนูมีพิษ!"บรรพชนซูที่ร้องออกมาในทันที.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล."ถูกแล้ว ยิ่งเจ้าเคลื่อนที่เร็ว พิษก็ยิ่งลามออกไปอย่างรวดเร็ว."

"สารเลว"บรรพชนซูที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ กระบี่ของเขากวัดแกว่งฟันไปยังทิศทางของจงซานอย่างดุร้าย ปราณกระบี่ขนาดใหญ่ที่พุ่งออกไป พุ่งตรงไปยังทิศทางของจงซาน.

จงซานที่เห็นกระบี่ที่ตวัดออกมา ก็เคลื่อนที่หลบแล้ว แทบจะในทันทีที่ปราณกระบี่จะมาถึงร่าง จงซานก็เบี่ยงตัวหลบปราณกระบี่ในทันที ปราณกระบี่พลาดหลุดออกไป.

เห็นภาพที่เกิดขึ้น บรรพชนซูไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย จะเป็นไปได้อย่างไร? เขาสามารถหลบปราณกระบี่เพียงแค่เอี้ยวตัวหลบได้อย่างไรกัน?

จงซานไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร เขาที่จ้องมองไปยังบรรพชนซูที่อยุ่ด้านหน้าเขาที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว นอกจากนี้พิษยังลุกลามไปทั่วร่าง.

อย่างช้า ๆ  จงซานที่พาบรรพชนซูวิ่งวนไปทั่วเมืองเสวียน ความเร็วของบรรพชนซูที่รวดเร็วเป็นอย่างมากในตอนแรก ตอนนี้ความเร็วของเขาลดลงเรื่อย ๆ.

"พรึด!"

ใบหน้าของบรรพชนซูพ่นโลหิตสีดำออกมาเป็นจำนวนมาก ใบหน้าเองก็กลายเป็นสีดำไปแล้วเช่นกัน.

"ตูมมมมม!"

ทันใดนั้น ที่ลานทิศตะวันตก หอกธนูแปดแรงวัวจำนวนสามสิบแท่งก็พุ่งออกมา ด้วยความเร็วสูง ของมัน บรรพชนซูที่ได้แต่ชำเลืองมองเท่านั้น แทบจะทันที มันก็ตรึงร่างของเขาเข้ากับกำแพงที่อยู่ไกลออกไป.

ร่างแยกเงาจงซานที่ยืนอยู่อย่างเย็นชา จ้องมองไปยังบรรพชนซูอย่างเฉยเมย ดูเหมือนว่าที่ลานของเมืองเสวียนหลายแห่งได้มีการจัดเตรียมการเอาไว้อย่างดี รอคอยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พวกเขาจึงได้ปล่อยหอกธนูออกมา.

จงซานจ้องมองการทำงานของพวกเขาอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะกลับไปยังเส้นทางเดิม ที่ด้านหน้าของคูน้ำทิศใต้อย่างรวดเร็ว.

เปลวเพลิงยังคงเผาไหม้อยู่ ทว่า เหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนนั้นถูกสังหารไปหมดแล้ว.

จงซานที่ก้าวออกมา ทุกคนที่อยู่ด้านใน ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความชื่นชมเทิดทูนเขา แม้ว่าจะมีหยิงหลานและคนอื่น ๆ ช่วยกันจัดการกับสิบผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน ไม่ว่าใครย่อมต้องรักตัวกลัวตายจนต้องซ่อนตัวอยู่ในกลองทัพ ทว่าจงซานกลับมีแผนการลวงล่อต่าง ๆ ด้วยตัวเขาเองจนสามารถสังหารคนทั้งหมดไปได้.

เหล่าทหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเวลานี้ พวกเขาที่อยู่ในกับดักเปลวเพลิง เผยสีหน้าแววตาแห่งความหวาดกลัว สิ้นหวัง ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำได้แล้ว.

จงซานที่จ้องมองไปยังเหล่าทหารฝ่ายตรงข้าม พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง."จงยอมจำนนซะ แล้วเรื่องในวันนี้ ข้าจะไม่ตำหนิเรื่องความผิดที่มีในอดีต."

จงซานที่กล่าวต่อเหล่าทหารที่อยู่ตรงข้ามที่กำลังนิ่งงันยืนทึมทื่ออยู่.

ส่วนเหล่าทหารด้านใน ตอนนี้พวกเขาได้วางอาวุธทุกอย่างลงพื้นพร้อมกับเร่งรีบกล่าวออกมาเสียงดังในทันที "ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!"

กับคำพูดที่เหมือนกับกบฏ คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะตะโกนสรรเสริญจงซานดังลั่นขนาดนี้ แต่ตอนนี้จะให้ทำเช่นใดได้? ผู้เชี่ยวชาญเซียนเทียนสิบคนถูกสังหารไป หวงตี้ตายไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ข่าวที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงก็ตาม ทว่าพวกเขารู้แล้วว่า ตระกูลซูตอนนี้ได้พ่ายแพ้เรียบร้อยแล้ว.

"ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!"

เหล่าทหารฝั่งตรงข้ามเอง ต่างก็เริ่มตะโกนออกมาเสียงดังเช่นกัน.

หยิงหลาน จงเทียนและจงเจิ้งต่างก็คุกเข่าและเริ่มตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน.

" ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!"

เป็นเหมือนกันราวกับปฏิกิริยาลูกโซ่ เหล่าขุนพลคุ้มกันเมืองเสวียน พ่อค้าเมืองเสวียน ไปจนถึงคนธรรมดา ต่างก็คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว.

"ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!"

เพียงแค่กลุ่ม ๆ เดียวเริ่ม จากนั้นก็กระจายลามมดังสนั่นไปรอบ ๆ .

ทุก ๆ คนต่างก็กล่าวทรงพระเจริญ ดังลั่นเพื่อแซ่ซ้องจงซาน.

เหล่าทหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเวลานี้เริ่มคุกเข่าลงมากขึ้นและก็มากขึ้น.

ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!

เหล่าทหารฝั่งตรงข้ามไปจนถึงด้านนอกคูคลอง ทุกคนต่างก็คุกเข่าลงในทันที.

ในเวลาตอนนี้ราวกับว่าทุกคนต่างพร้อมเพรียงคุกเข่าลง.

ทว่ายังมีคนที่ยังไม่ได้คุกเข่า นั่นเป็นเพราะยังไม่รู้ว่าคนของราชวงศ์ต้าคุนได้สิ้นไปแล้วนั่นเอง.

"เมืองหลวงตอนนี้ถูกแม่ทัพหลินเซียวยึดเอาไว้แล้ว ตระกูลราชวงศ์ซูทั้งหมดได้สิ้นเรียบร้อยแล้ว "ด้านนอกของคู่น้ำ มีเสียงตะโกนดังลั่นผ่านเข้ามา.

ทว่ากับคำพูดดังกล่าวนั่นได้บดขยี้ความรู้สึกขุนพลและนายทหารทุกคนไปในทันที.

ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!

เสียงของคนแซ่ซ้องสรรเสริญทรงเจริญก็ดังขึ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าอีกด้านหนึ่งคือพวกเขาถูกกดดัน ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลายต่อหลายคนก็เทิดทูนบูชาจงซานมาก่อนแล้ว.

เปลวเพลิงที่เผาไหม้แม่น้ำ?ความร้อนที่พวยพุ่ง เป็นเพลิงสวรรค์ที่สามารถเผาทุกอย่างได้? น้ำถูกไฟเผา? เป็นสิ่งที่ฝืนกฏธรรมชาติ ราวกับเป็นการอำนวยพรของสวรรค์ที่มีต่อจงซาน.

ในเวลานี้แม้แต่ฟ้ายังอนุญาตให้ฝืนลิขิตสวรรค์ได้.

ทว่าหลังจากนั้น เปลวเพลิงทั้งหมดก็ค่อย ๆ ลดลงช้า ๆ  จงซานรู้ดีว่า เปลวเพลิงนั้นเผาไหม้เพราะน้ำมัน หากว่าซูเหลียนเซียนรู้ว่ามีน้ำมันแล้วล่ะก็ เขาย่อมไม่เอาชีวิตมาเสี่ยงแน่ ผลแพ้ชนะเองก็ยากที่จะตัดสินได้ ทว่าซูเหลียนเซียนไม่รู้นั่นเอง ทำให้เขาต้องได้รับความพ่ายแพ้.

เช่นเดียวกัน ทหารทุกคน คงจะไม่รู้ หลังจากที่พวกเขาตะโกนคำว่าทรงพระเจริญ ก็ดูเหมือนว่าเปลวเพลิงจะค่อย ๆ แผ่วลงอย่างคาดไม่ถึง? ราวกับว่านี้เป็นการกระทำของสวรรค์ เป็นความโกรธเกรี้ยวของฟ้าดินทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย.

สุดท้ายแล้วจงซานไม่ได้รับการอวยพรจากฟ้าดินอย่างงั้นรึ?

ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี!

ทหารหลายคนที่ขัดขืนแต่ท้ายที่สุดต่อมาก็ยินยอมจำนน.

ทั่วทั้งเขตแดนประตูทิศใต้ ทุกคนต่างก็คุกเข่า พร้อมกับกล่าวทรงพระเจริญต่อจงซาน.

ในเวลาเดียวกัน จงซานก็ก้าวออกไปก้าวแรกและกล่าวออกมาว่า.

"ลุกขึ้น ขุนพลทุกคนตรวจสอบทหารในสังกัด นับจำนวนผู้เสียชีวิตมา."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงดัง.

"รับด้วยเกล้า"ทหารทั้งหมดที่รับคำสั่ง พวกเขาที่ยินดีที่จะทำตามคำสั่งของจงซาน.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น เหว่ยไท่จงที่อยู่อีกฝั่ง พร้อมกับถือแส้หางม้าเดินตรงมาช้า ๆ .

จงซานที่จ้องมองไปยังศพเหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน.

ขณะที่เข้าจับจ้องมองไปยังศพของซูเหลียนเซียน ดวงตาที่เปล่งประกายพลางทอดถอนใจ ซูเหลียนเซียนคนที่เคยเป็นคู่แข่งที่ร้ายกาจกับเขาในอดีต เขาที่ควรจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ท้ายที่สุดเขาก็ต้องตายไป.

"จัดงานศพให้สมเกียรติ."จงซานที่ชี้ไปยังศพของซูเหลียนเซียน.

"รับด้วยเกล้า."ขุนพลคนหนึ่งที่โค้งรับคำสั่งในทันที.

"รอสักครู่."เสียง ๆ หนึ่งที่ดังขึ้นมาในทันที.

เหว่ยไท่จงที่เดินมาอยู่ด้านหน้าซูเหลียนเซียน ก่อนที่จะกวาดตามองไปยังธนูทั้งสิบห้าดอกที่ปักไปทั่วร่างของเขา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความดุร้ายรังเกียจอย่างที่สุด เป็นความเกลียดชังที่มีมากมายมหาศาล.

"มอบศพนี้ให้ข้าเถอะ."เหว่ยไท่จงที่จ้องมองอย่างรังเกียจไปยังศพดังกล่าว.

"สามหาว เจ้าเป็นใครกัน."หยิงหลานที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว นับจากนี้ไปจงซานก็คือกษัตริย์ คนผู้นี้จะกระทำการล่วงเกินได้อย่างไรกัน?กับคำพูดของจงซานคือบัญชาสวรรค์ ไม่สามารถมีใครโต้แย้งได้.

ได้ยินคำพูดของหยิงหลานแล้วดวงตาของเหว่ยไทจงเปลี่ยนเป็นเย็นชา ชำเลืองมองไปยังหยิงหลานด้วยสายตาที่ดุร้าย เต็มไปด้วยความกระหายโลหิต.

"หยิงหลาน เงียบได้แล้ว."จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.

กับคำพูดของจงซาน ดวงตาที่เย็นชา และความโกรธเกรี้ยวก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจจับจ้องมองไปยังหยิงหลาน ความดุร้ายกระหายเลือดที่มี ได้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เต็มไปด้วยความเอ็นดู.

หยิงหลาน?นางคือหยิงหลานอย่างงั้นรึ?

"หยิงหลาน อย่าได้เสียมารยาท เขามีนามว่าเหว่ยไท่จง เป็น...."

เมื่อจงซานจงกำลังจะบอกสถานะของเขา เหว่ยไทจงก็เปลี่ยนไปในทันที ทันใดนั้นก็เอ่ยออกมาว่า"องค์เหนือหัว ไท่จงหยาบคายแล้ว กับคำพูดของแม่ทัพหยิงหลานขอให้เหนือหัวอย่าได้โกรธกริ้ว."

จงซานที่พยักหน้า พร้อมกับจ้องมองไปยังเหว่ยไท่จงพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา ไม่ได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับสถานะของเหว่ยไท่จง พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวลว่า"ศพดังกล่าวนี้ ให้เจ้าเป็นคนจัดการงานศพก็แล้วกัน."

เห็นใบหน้าสายตาที่โกรธเกรี้ยวของหยิงหลาน เหว่ยไท่จงไม่ได้รู้สึกโกรธหรือขุ่นเคืองใจเลยแม้แต่น้อย เขาที่คุกเข่าลงกล่าวอย่างเคารพ "รับบัญชา องค์เหนือหัว."

เหว่ยไท่จงรู้เจตนาของจงซานดี ในเมื่อเขากล่าวว่าให้เขาเป็นคนจัดงานศพ ในเมื่อเขาเป็นคนจัดการ ก็เหมือนว่าศพของซูเหลียนเซียน ขึ้นอยู่กับเขานั่นเอง.

ทว่าหยิงหลานจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังเหว่ยไท่จง ไม่รู้ว่าเขานั้นมีสถานะใดกัน.

"หยิงหลาน."จงซานที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง.

"อยู่ที่นี่แล้ว."หยิงหลานที่กล่าวออกมาในทันที.

"รวบรวมกองกำลังทหารทั้งหมดในประตูทิศใต้และควบคุมกองกำลังทั้งหมด พร้อมกับแบ่งออกเป็นสามกองทัพ."จงซานออกคำสั่ง.

"รับด้วยเกล้า."หยิงหลานที่ตอบรับในทันที.

"เหว่ยไท่จง."จงซานเอ่ย.

"อยู่นี่แล้ว."เหว่ยไท่จงรับคำสั่งในทันที.

"เจ้าเป็นผู้ช่วยแม่ทัพหยิงหลาน เป็นองค์รักษ์ส่วนตัวดูแลความปลอดภัยให้กับนาง."จงซานออกคำสั่ง.

ได้ยินคำสั่งของจงซาน ใบหน้าของเหว่ยไท่จงเผยสีหน้าดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับตอบรับในทันที "ขอบพระทัยฝ่าบาท."

อย่างไรก็ตามหยิงหลานที่เห็นเหว่ยไท่จงกลายเป็นผู้ติดตามนาง นางไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนก็ตาม เป็นเพราะว่าจงซานให้เขามาดูแลความปลอดภัยของนางทำให้นางไม่สามารถขัดได้ เขาเป็นใครกัน ขันทีแก่ของหวงตี้ ทว่าเกี่ยวข้องอะไรกันกับกู่เหยี่ยเยี่ยกัน.

หยิงหลานที่ชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา ทว่าเหว่ยไท่จงกับปรากฏความดีใจอย่างที่สุด ไม่มีความโกรธเลยแม้แต่น้อย เขาที่เข้าไปจัดการศพของซูเหลียนเซียน ก่อนที่จะตามหยิงหลานไปจัดแจงกองทัพ.

"จงเจิ้ง."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"อยู่ที่นี่แล้ว."จงเจิ้งที่ตอบรับในทันที.

"เจ้าคือ จ๋งหลี่ จงไปตรวจความเสียหายทั้งหมดของเมืองนี้ และซ่อมแซมช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกับร่วมมือกับหยิงหลานอย่างสุดความสามารถ."

总理 [zǒng lǐ] นายกรัฐมนตรี

"รับด้วยเกล้า."จงเจิ้งที่รับคำสั่งในทันที.

"อืม."จงซานที่พยักหน้า จากนั้นจงซานก็กลับคฤหาสน์จง เหล่าประชาชนทั่วไปที่เห็นเขาต่างก็คุกเข่าให้เขากันทั้งนั้น สถานะของเขาเวลานี้ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเรียบร้อยแล้ว.

เหล่าตระกูลใหญ่ทั้งหมดของเมืองสวียน กับเรื่องที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ก็ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.

คฤหาสน์จง ที่ลานพัก จงซานที่กล่าวกับจงเทียน "เทียนเอ๋อ ปกป้องลานพักเอาไว้ ห้ามไม่ให้ใครเข้ามารบกวนข้าโดยเด็ดขาด.

"บุตรทราบแล้ว."จงเทียนที่ตอบรับในทันที.

หลังจากเข้ามาด้านในลานบ้าน จงซานก็สั่งการอีกครั้ง "อันหวง ห้ามให้ใครเข้ามารบกวนข้าเด็ดขาด."

"ขอรับ."ที่มุม ๆ หนึ่งได้ยินเสียงตอบรับคำสั่ง.

ที่ด้านในห้องพัก จงซานทำการตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะตรงลงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นห้องลับใต้ดิน เขาที่ปิดประตูห้องลับ พร้อมกับจุดเทียนให้แสง ทำให้ภายในห้องสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ที่กลางห้องนั้นมีเบาะรอง ที่ด้านหน้าเบาะรอง มีโต๊ะน้ำชา.

จงซานที่นั่งอยู่บนเบาะรอง ด้านหน้าโต๊ะน้ำชานั้น มีวัตถุสองชิ้นวางอยู่.

หนึ่งคือจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์!

และหนอนไหมมังกรเก้าสี!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด