ตอนที่แล้วChapter 99 เรื่องในอดีต.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 101 ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่น ๆ ปี

Chapter 100 หนึ่งกลยุทธ์ล้อมกรอบ.


"เหลียนเซียน เป็นอย่างไรบ้าง? ประตูเมืองกำลังจะเปิดแล้ว ทำไมเจ้าต้องแสดงท่าทางกังวลขนาดนั้นด้วย?"บรรพชนตระกูลซูสอบถามด้วยความสงสัย.

"ยากมาก ไม่ง่ายเลย ไม่ไช่วิธีที่ยอดเยี่ยมเลย."ซูเหลียนเซียนที่ส่ายหน้าไปมากับคำถามดังกล่าว.

"ไม่ง่ายอย่างงั้นรึ?"บรรพชนตระกูลซูที่เต็มไปด้วยความสงสัยส่วนผู้ฝึกตนเซียนเทียนคนอื่น ๆ ก็มองไปที่ซูเหลียนเซียนด้วยเช่นกัน.

"การโจมตีเมืองง่ายอย่างงั้นรึ? สามารถที่จะทะลวงผ่านได้ในทันทีอย่างงั้นรึ? นี่เป็นสิ่งที่จงซานคาดการณ์เอาไว้แล้ว มันแทบจะไม่มีผลต่อเขาเลย"ซูเหลียนเซียนที่ส่ายหน้าด้วยความเป็นกังวล.

"ง่ายอย่างงั้นรึ? การโจมตีเมืองครั้งนี้ คนตายไปแล้วกว่า 50,000 คนแล้ว มันจะง่ายได้อย่างไร?"ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนที่เอ่ยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

"แทบจะไม่มีผลเสียกับจงซานเลย ทหารของพวกเรายิ่งตายมากขึ้นเรื่อย ๆ  อย่างน้อยกว่าจะเปิดประตูได้ ต้องตายอย่างน้อย 80,000 นาย ตอนนี้ตายไป 50,000 แล้ว มันไม่ง่าย ไม่ธรรมดาเลย."ซูเหลียงเซียนที่ส่ายหน้าไปมา แสดงท่าทางละเหี่ยใจออกมา.

ได้ยินคำพูดของซูเลียนเซียนว่าทหารพวกเขาอาจจะต้องตาย 80,000 ทุกคนถึงกับตะลึงงัน เป็นไปได้อย่างไร?ตอนนี้มีคนตายไปกว่า 50,000 คน มันเกินที่จะรับได้เช่นกัน เป็นดั่งที่ซูเหลียนเซียนกล่าว มันไม่ง่ายเลย?

"เหลียนเซียน เจ้าอาจจะคิดมากไปก็ได้ จงซานไม่ได้น่าหวาดกลัวขนาดนั้นหรอก?"บรรพชนตระกูลซูที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"ไม่ ไม่ พวกเราไม่สามารถดูแคลนจงซานได้ ดูถูกจงซานไม่ได้อย่างแน่นอน."ซูเหลียนเซียนที่กล่าวย้ำอีกครั้ง.

"เช่นนั้นก็ต้องรอ พวกเราจะต้องเร่งรีบเปิดประตูในทันที ตราบเท่าที่เปิดประตูได้ สังหารจงซานให้ได้ก็พอแล้ว."บรรพชนซูกล่าวปลอบ.

"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น."ซูเหลียนเซียนพยักหน้า ทว่าก็ยังแสดงสีหน้าจริงจังเช่นเดิม.

ที่ด้านบนกำแพงเมืองนั้น บันไดส่วนใหญ่ถูกเผาไปเกือบหมด เหลือแค่เพียงไม่กี่อันเท่านั้น ทว่าพวกเขาก็ยังพยายามปีนป่าย การง้างธนูก็ดำเนินอีกครั้ง ขอแค่พวกเขาถ่วงเวลาจนง้างธนูเสร็จก็จะสามารถเปิดประตูเมืองได้.

จงซานที่ยืนอยู่บนหอคอยป้อมปราการ หายใจลึกก่อนที่จะตะโกนออกมา ดวงตาเปล่งประกาย "หยิงหลาน แผนสอง."

"รับทราบ."หยิงหลานตอบรับในทันที ก่อนที่จะเปลี่ยนสัญญาณธงเป็นสีม่วง อย่างรวดเร็ว.

นับจากได้สัญญาณ เหล่าทหารคุ้มกันกำแพงเมือง ก็ถอยอย่างรวดเร็ว ไม่ป้องกันอีกต่อไป.

ทว่าจงซานที่ใช้มือจับไปยังราวจับของประตูเมืองเล็กน้อย โพกศีรษะ พร้อมกับลงจากประตูเมืองไปพร้อมกับเหล่าผู้คุ้มกันหนีออกไป.

จงซานถอยอย่างงั้นรึ? จงซานกำลังหนีอย่างงั้นรึ?

ซูเหลียนเซียนที่เห็นฝ่ายตรงข้ามถอนกำลังออกไปก็ขมวดคิ้วไปมา จงซานกำลังคิดว่ากำลังจะพ่ายแพ้เลยหนีอย่างงั้นรึ?ทว่าแล้วทำไมเหล่ายามป้องกันถึงถอยหนีด้วยล่ะ? ทำไมพวกเขาต้องถอนกำลังออกไปด้วย?

"ฮ่าฮ่า จงซานเห็นว่าตัวเองกำลังจะแพ้ เลยหนีอย่างงั้นรึ?"ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น.

ทว่าบันไดที่พวกเขาเหลืออยู่นั้น ก็มีทหารบางคนที่สามารถปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้ ที่ด้านบนนั้น ได้ทำการยกใบมีดเป็นกำแพงกั้นอีกชั้นหนึ่ง ขณะที่พวกเขาเตรียมสละชีพ ที่จริงก็พบว่า บนกำแพงนั้นไม่มีใครอยู่เลยสักคนหนึ่ง.

"ตูมมมมมมม!"

หอกธนูระลอกที่สามได้โจมตีออกไป มีหอกธนูแปดอันที่ทะลวงประตูเมืองออกไปสมบูรณ์ เสียงดังสนั่น ประตูหน้า ไม่สามารถทนพลังที่รุนแรงนั่นได้อีกต่อไปแล้ว ถึงกับลอยออกไปเลยทีเดียว.

ประตูเมืองเปิดแล้วรึ?

เวลานั้นควรจะมีเสียงโห่ร้องดีใจ ทว่ากลับไม่มีใครเอ่ยปากออกมาเลย.

กองกำลัง 250,000 นาย ทำการบุกกำแพงเมือง คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนตายไปมากกว่า 50,000 หรือน่าจะกว่า 60,000 คนไปแล้ว ถือว่าเป็นราคาที่สูงไม่น้อย ทว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นกลับมีคนตายไม่ถึงพัน หรืออาจะไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำ ด้วยอาวุธมากมายที่พวกเขาสะสมไว้หลายปี พวกเขาได้นำมันออกมาใช้ทั้งหมดในครั้งเดียว.

กองกำลังที่บ้าคลั่งมากมายกำลังพุ่งตรงไปยังประตูเมือง.

ทว่าถึงแม้ว่าอาวุธของพวกเขาจะหมดไป ทว่าในสายตาของซูเหลียนเซียน ก็ยังคิดว่ามันไม่ง่ายเลย มันไม่น่าจะเป็นไปได้ มันไม่ง่ายขนาดนี้ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่.

"ท่านแม่ทัพ เหล่าทหารของเมืองเสวียนได้ถอนตัวออกจากคู่น้ำไปหมดแล้ว ตอนนี้พวกเขาได้ทำการสละสะพานภายในเมืองแล้ว."ทหารอีกคนที่วิ่งเข้ามากล่าวรายงายอย่างรวดเร็ว.

"ไม่ได้การแล้ว จงซานคงต้องการหนีออกจากเมืองที่ประตูเมืองทิศอื่นแน่."ซูเหลียนเซียนที่ตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที.

พวกเขาทั้งหมดลงจากหลังม้า ก่อนที่จะพุ่งไปยังอีกฝั่ง เห็นได้ชัดเจนว่าที่อีกฝั่งด้านในนั้นมีคูน้ำอยู่อีกด้าน และตอนนี้ไม่มีเหล่ามือธนูและเหล่าทหารคุ้มกันอีกแล้ว สามารถที่จะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย.

เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนคนอื่น ๆ ต่างก็ลงมาจากหลังมาและก้าวผ่านแพไม้ข้ามาหาซูเหลียนเซียน.

เพื่อข้ามคู่น้ำอีกฝั่ง ซูเหลียนเซียนที่เอ่ยปากออกมาในทันที "รื้อแพออกมาครึ่งหนึ่ง สร้างสะพานข้ามแม่น้ำไปฝั่งด้านหน้า."

"รับทราบ."เหล่าทหารต่างก็พยักหน้าตอบรับในทันที.

ซูเหลียนเซียนที่นำผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนเก้าคน ผ่านเข้ามาไปตรงไปยังประตูซึ่งพื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยศพที่นอนเกลื่อนพร้อมกับผ่านเข้าไปในประตูที่แตกหัก เร่งรีบเตรียมที่จะเข้าไปในเมือง.

ขณะที่เหล่าทหารกำลังรื้อแพรจากด้านหนึ่งพร้อมกับนำไปยังคู่น้ำอีกฝั่ง ทว่าพวกเขากับพบเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจกับน้ำในคูน้ำ ดูเหมือนว่ามันจะขุ่นเข้มยิ่งกว่าเดิม ในเวลานี้มันเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬในทันทีทันใดเลยรึ? นอกจากนี้ยังเริ่มดำขึ้นและก็ดำขึ้นอีกด้วย.

ซูเหลียนเซียนที่เข้ามาข้างด้านในได้แล้ว  เขาก็ต้องมาเจอกับคลองน้ำอีกสายที่ขวางกันกองทัพพวกเขาไม่ให้ผ่านไป.

"ต้องว่ายข้ามไป."ซูเหลียนเซียนที่คำรามออกมาเสียงดัง.

ทว่าในเวลานั้น ที่อีกฝั่งไม่ไกลออกไปนั้น ก็ปรากฏร่าง ๆ หนึ่ง เป็นจงซานนั่นเอง.

จงซานที่ยืนอยู่อย่างสุขุม โดยมีหยิงหลาน จงเทียนและจงเจิ้งอยู่ด้านหลัง กองกำลังมากมายก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นออกมาจากที่ซ่อน จ้องมองไปยังเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่อีกฝั่ง.

"จงซาน."ซูเหลียนเซียนที่ตะโกนออกมา.

"ข้ารอพวกเจ้าและพรรคพวกมาครึ่งวันแล้ว."จงซานที่แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา.

จากนั้นเขาก็ได้สะบัดกระดาษจุดเปลวเพลิงพร้อมกับโยนออกไป เหล่าทหารทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็จุดไฟพร้อมกับโยนลงไปยังแม่น้ำทั้งสองฝั่ง

"ตูมมมมมม"

ทุกคนที่ไม่รับรู้มาก่อน แม่น้ำด้านหน้าเกิดไฟลุก ไหม้ขึ้นมาทันที ซ้ำเปลวเพลิงยังโหมกระหน่ำพุ่งโชนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรุนแรงอีกด้วย.

เปลวเพลิงที่ถูกจุดขึ้น พร้อมกับเผาไหม้เหล่าทหารมากมายที่กำลังข้ามผ่านแม่น้ำในคู.

ก่อนหน้านี้ซูเหลียนเซียนที่สั่งให้ทหารของเขาว่ายน้ำข้ามมา ทว่าในทันที ทหารทุกนายต่างก็ร้องออกมาอย่างโหยหวน.

"อ๊ากกก!"

......

เสียงร้องระทมทุกข์ เจ็บปวดทรมานด้วยเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ.

"ไม่ได้การแล้ว ถอยก่อน."ซูเหลียนเซียนที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ.

อย่างไรก็ตาม แทบจะในทันทีที่เขาตะโกนออกไปนั้น ร่างกายก็ต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว คูน้ำด้านนอกเอง เปลวเพลิงก็ม้วนกวาดโหมกระหน่ำลูกไหม้ขึ้นมาในทันทีด้วยเช่นกัน.

กองกำลังอีกหกหมื่นที่พุ่งเข้ามาก่อน ถูกล้อมด้วยเปลวเพลิง.

ทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เวลานี้ต้องทำเช่นไร?

ใบหน้าของซูเหลียนเซียนฝืนยิ้มออกมาด้วยความปวดร้าว จงซาน จงซาน!!! แพ้อีกครั้งแล้ว เขาแพ้คนผู้นี้อีกครั้งแล้ว!

"เหล่าทหารทุกคนจงฟัง พวกเจ้าบังอาจเข้ามาโจมตีเมืองเสวียนของข้า คนสิบคนนี้เป็นคนที่ชั่วร้ายผู้บงการ ตราบเท่าที่สิบคนนี้ตาย ข้าจะไม่เอาเรื่องพวกเจ้าอีก ตระกูลซูที่ดูแลอาณาจักรต้าคุน ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว อาณาจักรแห่งนี้ถึงเวลาเปลี่ยนราชวงศ์แล้ว ตอนนี้จะไม่มีอาณาจักรต้าคุนอีกต่อไป หากใครสังหารคนทั้งสิบนี้ได้ ข้าจะมอบรางวัลเป็นเงินทองมากมาย."จงซานที่ตะโกนออกไปเสียงดังดังก้องไปทั่ว.

กับเสียงที่ดังลั่น ทำให้หัวใจของทหารทุกคนสั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง หลาย ๆ คนที่เริ่มกวาดตามองไปยังซูเหลียงเซียนและกลุ่มคนดังกล่าว.

"ฮ่าฮ่าฮ่า จงซาน เจ้าคิดที่จะสร้างความสับสนให้กับกองทัพอย่างงั้นรึ? ตราบเท่าที่ตระกูลซูยังคงอยู่ก็ยังคงมีอาณาจักรต้าคุนต่อไป ไม่มีทางที่กองกำลังต้าคุนจะเปลี่ยนไปตลอดกาล."ซูเหลียนเซียนที่จ้องมองไปด้านหน้าตะโกนผ่านทะเลเพลิงผ่านไปยังฝ่ายตรงข้าม.

"จริง ๆ รึ?"จงซานที่แค่นเสียงอย่างเหยียดหยัน.

ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านนอกประตูเมือง นอกคูน้ำด้านนอก เสียงดังก้องกังวานอื้ออึงครวญครางก็ดังลอดผ่านเมา ทุกคนที่หันหน้าไปจ้องมองในทันที.

ทุกคนที่หันหน้ากลับไปอย่างพร้อมเพรียงนั้น สามารถที่จะมองเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่บนหลังม้าตัวใหญ่ เป็นขันทีเหว่ยไท่จง ที่มือของเขานั้นกำลังยกขึ้นพร้อมกับชูศีรษะของใครคนหนึ่ง.

ศีรษะ? นั่นคือหวงตี้อาณาจักรต้าคุน ซูเจิ้งเต๋อ.

"สารเลว!!!"ดวงตาแดงก่ำของซูเหลียนเซียนพร้อมกับตะโกนออกไปสุดเสียง.

"มือธนูเตรียมตัว."ไม่ไกลออกไปจากซูเหลียนเซียน ก็ได้ยินเสียงสั่งการในทันที.

วูซ เหล่ามือธนูมากมายที่ง้างคันธนู พร้อมกับเล็งมายังเหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนทั้งสิบคน.

เหล่ามือธนูมากมายที่เล็งตรงไปยังพวกเขา ที่ฝั่งตรงข้ามเองเหล่าขุนพลทหารหลายคนที่อยู่ฝั่งเดียวกับซูเหลียนเซียนตอนนี้ชักกระบี่ออกมา พร้อมกับเปลี่ยนข้างในทันที หวงตี้ได้ตายไปแล้ว ตอนนี้พวกเขายังจะต้องตายไปกับคนเหล่านี้ด้วยอย่างงั้นรึ?

กับการกระทำของเหล่าขุนพลที่ย้ายข้าง จงซานที่พยักหน้าอย่างพอใจรับรู้ว่าคนเหล่านี้ได้มาอยู่ข้างเดียวกับเขา ยินดีที่จะร่วมมือกับเขา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว.

"บรรพชน อีกฝั่งของคู่น้ำ จะต้องมีมือธนูมากมายรอคอยอยู่แน่นอน ตอนนี้พวกเราแพ้แล้ว คงทำได้แค่ทุ่มกำลังเพื่อสังหารจงซานเท่านั้น ตราบเท่าที่จงซานตาย พวกเราถึงจะบิดกลับฟ้าดินได้ มีแค่ทางนี้เท่านั้น."ซูเหลียนเซียนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

"ดี."บรรพชนตระกูลซูที่รู้สึกเศร้าสลดกระวนกระวาย ทว่าเขาก็พยักหน้าตอบรับ.

สายโลหิตของตระกูลซูเหลือเพียงแค่เขาและซูเหลียนเซียนแล้ว.

"ปล่อยธนู!" เสียงของขุนพลที่สั่งการออกมาในทันที.

ทันทีที่ออกคำสั่ง ห่าธนูเป็นจำนวนมากก็ถูกยิงออกไปยังกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียน ธนูที่พุ่งผ่านตรงไปฉีกอากาศพุ่งไปยังร่างของพวกเขาโดยตรง ปรกติเหล่าขุนพลทหารควรจะเป็นโล่ให้กับพวกเขา ซึ่งทหารที่เหลือ แน่นอนด้วยจำนวนของพวกเขานั้นเพียงพอที่จะกั้นเป็นโล่ธนูปกป้องบุคคลสำคัญได้.

ทว่าในเวลานี้พวกเขาจะต้องปัดป้องลูกธนูเองและจะสามารถปัดป้องเหล่าลูกศรมากมายได้นานเท่าไหร่กัน?

บนผิวของลำคลอง ยังคงมีเปลวไฟที่ยังคงลุกไหม้อยู่ เหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด  ทว่าพวกเขาก็ไม่ยอมที่จะกลายเป็นเถ้าไปด้วยเช่นกัน ตอนนี้ไม่มีทางเลือก พวกเขาจะต้องหลบห่าธนูออกไปก่อน.

ผู้ฝีกตนระดับเซียนเทียนทั้งสิบ ต่างก็กระโดดตรงไปยังฝั่งตรงกันข้ามทันที ขณะที่อยู่ใจกลางแม่น้ำ ก็ใช้เท้าในการเหยียบเปลวเพลิง ก้าวไปตรงไปยังอีกฝั่ง ด้วยการปล่อยปราณแท้ออกมาให้กลายเป็นที่ยั้งเท้า พวกเขาก็สามารถที่จะข้ามผ่านทะเลเพลิงได้.

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น จงซานที่รอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว.

ผู้ฝึกตนเซียนเทียนทั้งสิบที่ข้ามทะเลเพลิงมานั้นขณะลอยอยู่บนอากาศก็เหมือนกับกำลังฆ่าตัวตายเท่านั้น แผนการทุกอย่างได้ถูกเตรียมการหมดแล้ว.

"ปล่อยธนู!!"หยิงหลานที่ออกคำสั่งในทันที.

"ฟิ้ว!!!"

ลูกศรมากมายนับไม่ถ้วนที่รอคอยอยู่นานแล้ว ทันที่ที่พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศก็ถูกปล่อยออกมาพร้อม ๆ กัน.

ทว่า ด้วยเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ ทำให้การปล่อยลูกศรนั้นไร้ซึ่งความแม่นยำ.

ทว่า แม้จะไม่แม่นยำก็ตาม แต่ก็เป็นเหตุให้ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนห้าคนของสี่ตระกูลใหญ่ ล่วงหล่นลงไปในทะเลเพลิง.

ด้วยความร้อนมหาศาล ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนก็ต้องพบปัญหาร้องระงมออกมาด้วยความเจ็บปวด.

"อ๊ากกกก ๆ "

กับความร้อนสูงมาก ๆ  แม้แต่ผู้ฝีกตนเซียนเทียน ก็ไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขาดิ้นรนทรมานจนตายไปในที่สุด.

น่าเวทนา น่าเวทนาเป็นอย่างมาก.

ส่วนผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนห้าคนที่ข้ามแม่น้ำมาได้  พวกเขาที่เตรียมตัวที่จะพุ่งตรงไปยังตำแหน่งของจงซานในทันที.

ทว่าในเวลาสองลมหายใจถัดมาจากห่าลูกศร ก็เป็นหอกธนูจากหน้าไม้แปดแรงวัว ถูกยิงออกมาอย่างรวดเร็ว.

หอกลูกศรขนาดใหญ่ที่พุ่งตรงไปยังบรรพชนตระกูลซูตรง ๆ  ทว่าดูเหมือนว่าบรรพชนตระกูลซูนั้นจะมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ ทำให้หอกธนูนับสิบที่ถูกปล่อยออกไปนั้น ถูกโจมตีเข้าเป้าที่ไหล่ซ้ายของเขาเพียงตำแหน่งเดียว ทว่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนอีกสี่คน กับห่าธนูในระลอกที่สอง สามคนตายไปทันที รวมทั้งซูเหลียนเซียนที่ตะลึงงันคาดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น.

ซูเหลียนเซียนไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตายด้วยสภาพเช่นนี้ เขาที่เต็มไปด้วยความคับอกคับใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพ่ายแพ้ยับเยินขนาดนี้ ด้วยการตรวจสอบร่างกายทั้งหมด ท้ายที่สุดเขาก็พบว่า.

ทั่วร่างของเขานั้นถูกธนูกว่า 15 ดอกปักไปทั่ว ก่อนที่จะรับรู้ถึงความเจ็บปวดเขาก็ล้มลงตายไปในที่สุด.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด