บทที่ 8 พลังวิญญาณระเบิด ทุกฝ่ายเตรียมรับมือ
ภายใต้ความคาดหวังของตระกูลอัน รวมถึงความวิตกกังวลของใครหลายๆ คน
ในวันนี้ท้องฟ้ามืดมิดกำลังมาเยือนโลก และพระจันทร์สีเลือดก็ปรากฏบนท้องฟ้า!
สำหรับอันหมิงเยว่นี่เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคย
จุดเริ่มต้นแห่งการฟื้นตัวของพลังวิญญาณ
ในเวลาเดียวกันมันก็ดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากด้วย
"เกิดอะไรขึ้น!?"
“พระจันทร์สีเลือดอยู่บนท้องฟ้า! หายนะได้มาเยือนโลกแล้วทุกคนรีบขึ้นยานเร็ว”
"หรือนี่มันจะเป็นวันสิ้นโลก!! อ๊าก! ใครก็ได้บอกที ฮ่าฮ่าฉันตกใจให้แล้ว"
-
มีคนจำนวนมากพูดถึงเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ต
แต่มันเป็นเรื่องตลกซะมากกว่า!
อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์บางคนใช้โอกาสนี้โชว์ผลงานกัน
มันเกิดจากดวงอาทิตย์ได้บดบังแสงจากจันทร์ และหลังจากบดบังแล้ว แสงมันก็แยกออก ทำให้เราเห็นพระจันทร์เป็นสีแดง!
เพียงแต่เรายังไม่ทราบว่าทำไมมันถึงเกิดปรากฏการณ์นี้!
แต่มันทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกขึ้นมาเล็กน้อย
เรื่องนี้ไม่ง่ายเหมือนการอธิบายแน่นอน
คนส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในหลักวิทยาศาสตร์
มันไม่ได้มีความคิดเห็นพิเศษอะไร
"บูม!"
เสียงร้องของท้องฟ้ายังคงคำรามฉายแว่วไปทั่ว
ขณะนั้นเองก็ได้มีหยดน้ำฝนขนาดเท่าเมล็ดถั่วได้ตกลงมา
จากนั้นมันก็ตกลงมาอย่างมากทั่วโลกทั้งหมด
ฐานทัพลับของต้าเซีย
“ผู้บังคับบัญชาครับ ตอนนี้พลังวิญญาณกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ละอองฝนเหล่านี้ล้วนประกอบไปด้วยพลังวิญญาณจำนวนมหาศาล”
"จากการคาดการณ์ปริมาณของน้ำฝนพลังวิญญาณนี้จะคงอยู่อย่างน้อยสามวันสามคืน!"
“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป โลกทั้งใบจะเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ และเกิดสัตว์กลายพันธุ์อยู่ทุกหนทุกแห่งครับ”
-
นักวิจัยคนหนึ่งพูดออกเสียงดังด้วยสีหน้าดูน่าเกลียด
เมื่อ 6 ปีก่อน ปรากฏการณ์การฟื้นฟูพลังวิญญาณได้เกิดขึ้นในต้าเซีย
แต่ตอนนั้นมันยังเป็นเพียงระดับเล็กๆ เท่านั้น
ทางต้าเซียก็เลยจัดตั้งฐานทัพกรณีพิเศษขึ้นมา!
ควบคุมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับการฟื้นคืนของพลังวิญญาณ
ต่อมาเมื่อปรากฏการณ์การฟื้นฟูพลังวิญญาณได้เพิ่มมากขึ้น จึงมีการจัดตั้งสำนักงานพิเศษขึ้นอีกครั้ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขายังได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้และพลังของต้าเซีย
ได้ฝึกฝนนักสู้ขึ้นมามากมาย!
หากพลังวิญญาณกลับมาสมบูรณ์เป็นปกติจริงๆ
ในหลายสถานที่ในต้าเซียยังคงไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีสัตว์กลายพันธุ์เกิดขึ้นกี่ตัว
แต่ในตอนนี้มันมีนักสู้ไม่เพียงพอ
แม้ว่ากองทัพจะเริ่มเผยแพร่การฝึกศิลปะการต่อสู้ให้เป็นที่นิยมมากขึ้น
แต่ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด ทำให้หลายคนเพิ่งเริ่มต้นฝึกศิลปะการต่อสู้เท่านั้น
ทำให้การจัดการกับสัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้นยังคงมีความยากลำบากอยู่บ้าง
ใบหน้าของหลินเว่ยไม่อาจช่วยปกปิดท่าทางที่น่าเกลียดเขาออกได้
เขาเป็นบุคลากรชุดแรกที่ถูกคัดเลือกจากกองกำลังทหารเพื่อมารับผิดชอบงานในหน่วยงานพิเศษนี้
เขาเป็นผู้ตระหนักถึงความน่ากลัวของการฟื้นคืนพลังวิญญาณอย่างมากที่สุด
สัตว์กลายพันธุ์หลายชนิดบนผืนดินพวกมันยังพอมีทางที่จะจัดการอยู่บ้าง
แต่ในมหาสมุทรมันมีสัตว์กลายพันธุ์ขนาดยักษ์เหล่านั้น
พวกมันสามารถไปมาอย่างไร้ร่องรอยได้!
ขนาดพลังวิญญาณยังไม่ได้รับการฟื้นคืนเต็มที่ยังทำให้การเข้าไปในท้องทะเลลึกเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับมนุษย์
แล้วถ้าหากพลังวิญญาณได้รับการฟื้นคืนเต็มที่ครั้งนี้ล่ะ และมันได้เกิดขึ้นทั่วทั้งโลก
ผลที่ตามมามันก็เกินกว่าที่เขาจะจินตนาการ!
หากพวกเขาไม่ระมัดระวังมนุษย์ก็จะสูญเสียตำแหน่งผู้ปกครองไป
เนื่องจากเขาเป็นผู้บังคับบัญชาฐานทัพ การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของเขาจึงได้มาถึงระดับที่ 3 แล้ว
พวกเขาเป็นคนกลุ่มแรกที่ต่อสู้กับการฟื้นฟูของพลังวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม หลังจากฝึกฝนมาหลายปี การเป็นนักสู้ระดับที่ 3 ก็ถือเป็นเรื่องยากอยู่บ้าง
“พวกเราจะต้องทำอะไรบางอย่าง”
ดวงตาของหลินเว่ยฉายแววพึมพำอันเด็ดเดี่ยว
ก่อนหน้านี้เขามีความคิดที่จะรับสมัครนักสู้เพิ่ม
และเรื่องนี้ก็ได้รับการอนุมัติแล้ว
แต่แผนนี้คงต้องเปลี่ยนแปลง!
การฟื้นตัวของพลังวิญญาณเต็มที่ได้มาอย่างกะทันหันเกินไป
สิ่งเดียวที่ต้องทำคือการทำให้คนทั้งประเทศฝึกฝนศิลปะการต่อสู้
รวมไปถึงการเรียกเหล่านักสู้โบราณมากมายเหล่านั้นมาจัดตั้งพันธมิตรนักสู้ขึ้น
พวกเขาต้องเป็นผู้นำยุคแห่งการฟื้นฟูพลังวิญญาณนี้ร่วมกัน
เพราะตัวเขาสัมผัสได้ถึงวิกฤติที่เทียบได้กับวันสิ้นโลก!
ที่เมืองอวิ๋นเฉิง เป่ยตง
ลูกหลานของตระกูลอันทุกคนต่างก็โลภอยากได้พลังวิญญาณเพิ่มมากขึ้น
พวกเขาไม่ควรพลาดสิ่งนี้
พวกเขารู้ดีว่าการฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นเป็นเรื่องยากขนาดไหน
แต่ตอนนี้ที่พวกเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังวิญญาณ และการเพิ่มความเร็วแบบจรวดนี้ทำให้พวกเขาติดใจ
เพียงชั่วโมงแรกเดียว ค่าพลังปราณโลหิตของสมาขิกในตระกูลอันก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 ค่า
หากเป็นก่อนหน้านี้พวกเขาต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อยครึ่งเดือน
ด้านอันหมิงเยว่ เธอยังคงดูดซับพลังวิญญาณอันมหาศาลนี้ต่อไป
เริ่มจากเข้าสู่ขั้นสูงและไปถึงจุดสูงสุดของระดับ 1
เธอได้กลับมาการเกิดใหม่ และเธอก็คุ้นเคยกับโลกนี้อยู่แล้ว
ทางด้านอันเซวียนเองก็ได้ลงชื่อเข้าใช้สำหรับวันนี้แล้วเช่นกัน
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ โฮสต์ได้รับความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้! 】
ครั้งนี้รางวัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
มันไม่ใช่เป็นยาอายุวัฒนะที่เพิ่มการฝึกฝนอีกต่อไป!
แต่มันเป็นความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อันเซวียนขาดไปในปัจจุบัน
ฐานการฝึกฝนของอันเซวียนในปัจจุบันเต็มไปด้วยเม็ดยา
ศิลปะการต่อสู้และความเข้าใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้
เขาไม่มีมัน!
แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มเข้าใจมันมากขึ้น
ด้วยการใช้ประโยชน์จากความเข้าใจอันลึกซึ้งนี้ อันเซวียนจึงเริ่มดูดซับพลังวิญญาณไปด้วย
และหลังจากการขัดเกลากระดูกครั้งแรกมา 3 ชั่วโมง
จากนั้นอันเซวียนก็ได้ก้าวเท้าเข้าสู่ตำแหน่งนักสู้ระดับที่ 2 ทันที!
แต่ว่าถ้าหากเขาต้องการที่จะก้าวไปสู่ระดับที่ 3 เขาจำเป็นจะต้องขัดเกลากระดูกมากกว่า 50 ชิ้นขึ้นไปก่อน
นี่จึงเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าศิลปะการต่อสู้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อมีโอกาสควรคว้าเอาไว้
มีเพียงนักสู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถคว้าทุกอย่างมาได้!
อันเซวียนไม่เสียเวลาหลังจากทะลวงระดับ
เชาคว้าโอกาสนี้ไว้และฝึกฝนต่อไป
การขัดเกลากระดูกชิ้นแรกเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ตามคำบอกเล่าของหลานสาวเขาก่อนถึงระดับที่ 4
พวกเขาทั้งหมดเป็นนักสู้ระดับต่ำ และยังมีรากฐานอีกมากที่ต้องฝึกฝนให้หนัก
อีกอย่างคือมันขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ ระดับความขยัน และทรัพยากรที่ควรมี
ระดับการฝึกฝนของทุกคนจะแตกต่างกันออกไปตามสิ่งเหล่านี้
เพราะการเกิดใหม่ของหลานสาวเขา พวกเขาจึงมีการเตรียมอย่างดี!
ตระกูลอันมีทรัพยากรมากมาย
วัตถุดิบทางยาในคฤหาสน์ และเส้นโลหิตวิญญาณ
ทั้งสมุนไพรและอื่นๆ อีกมากมายที่พวกเขาได้เตรียมไว้
ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวช่วยในการเจริญเติบโตของตระกูลอัน
ในเวลาเดียวกัน!
ทั้งสัตว์และพืชต่างก็ต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้
โดยเฉพาะในป่าลึก
เดิมทีมันก็มีสัตว์กลายพันธุ์อยู่บ้าง
แต่ในปัจจุบัน หลังจากที่ได้อาบน้ำฝนพลังวิญญาณแล้ว มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น
รวมถึงเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการเลี้ยงดูในเมือง
ภายใต้สายฝนพลังวิญญาณ ดูเหมือนจะมีบางอย่างแตกต่างในดวงตาของพวกมัน
ถ้าตอนนี้มีนักสู้อยู่ที่นี่ล่ะก็!
พวกเขาจะรู้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการกลายพันธุ์ของสัตว์ร้าย
ส่วนเหล่าคนธรรมดาทั่วๆ ไปพวกก็รู้สึกเพียงว่าฝนที่ตกนี้ดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย
นั่นก็คือมันทำให้บรรยากาศสดชื่นขึ้นมาก
โดยเฉพาะในเขตอุตสาหกรรมหนักเหล่านั้น
พวกเขารู้สึกสดชื่นขึ้นมากที่สุด!
แต่คนเหล่านี้ก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก
และเขาไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้พลาดโอกาสครั้งใหญ่ไปแล้ว
การดูดซับพลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยอาจกล่าวได้ว่ามันดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
หรือบางคนที่กำลังป่วยหนักหรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุ
พวกเขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายบางอย่าง!
ราวกับว่ามันกำลังผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง
หากมีใครผ่านมันไปได้ ทุกคนมีโอกาสที่จะฟื้นตัวและมีชีวิตต่อไปได้อีกหลายปี แต่ถ้าหากล้มเหลว...
มันจะเหมือนกับอันเซวียนก่อนที่อันหมิงเยว่จะกลับมาเกิดใหม่