บทที่ 6 การฝึกศิลปการต่อสู้ในตระกูล นักสู้ที่แท้จริงระดับ 1!
วันถัดมา
เมื่อพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ใบหน้าของผู้คนในตระกูลอันต่างก็มีสีหน้าตื่นเต้น
วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้
เมื่อเห็นพลังอันมหัศจรรย์ของอันหมิงเยว่แล้ว ใครบ้างจะไม่อยากมี
แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำ นี่คือคำสั่งของชายชรา
ในทางกลับกัน อันเซวียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว!
“ยังเร็วเกินไปที่จะมีความสุข!”
การบ่มเพาะไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น
อย่างแรก รากฐานถือเป็นสิ่งแรกที่ยั่งยืน
คนที่ไม่ได้ฝึกฝนอะไรมากก่อนจะอยู่ได้ไม่นาน
อย่างที่สองคือการเข้าใจเกี่ยวร่างกายของมนุษย์
อย่างเขาเอง ถ้าเขาไม่ได้ศึกษามันมาก่อนหน้านี้
เขากลัวว่าคงจะใช้เวลานานกว่าครึ่งเดือนในการเข้าใจจุดฝังเข็มและจุดเส้นลมปราณของร่างกายมนุษย์
และที่สำคัญที่สุดคือต้องมีความอดทน!
ไม่ว่าจะเป็นการยืนหยัดหรือการเรียนรู้ จะต้องไม่ยอมแพ้กลางทาง
แน่นอนเมื่อพูดการยืนหยัดหรือการเรียนรู้ ใบหน้าของแต่ละคนไม่ตื่นเต้นเหมือนอย่างเคยอีกต่อไป
หลานคนเริ่มอายุมากแล้ว
พวกเขาไม่สามารถอดทนได้นาน!
โชคดีที่ตามการจัดการของอันหมิงเยว่เธอไม่ได้ให้ยืนเป็นเวลานาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ก่อน
จริงๆ แล้วตามความเห็นของคนที่อายุเยอะ การฝึกฝนสำหรับพวกเขานั้นมันสายเกินไปเสียแล้ว
และอันหมิงเยว่ก็รู้เรื่องนั้นดี สิ่งที่อันหมิงเยว่ให้ความสำคัญเป็นหลักคือการฝึกฝนคนรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ!
แต่คนรุ่นใหม่เหล่านี้ก็ไม่เหมือนกับอันหมิงเยว่ที่เคยผ่านยุคของการฟื้นฟูวิญญาณมาแล้ว
บางอย่างพวกเขาก็ยากที่จะทำได้
แต่ว่าเมื่อมองไปที่ชายชราและพ่อแม่ของตัวเองที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาก็ยังคงกัดฟันสู้อยู่
และหลังจากเรียนรู้จากอันหมิงเยว่เมื่อคืนที่ผ่านมา
พวกเขารู้ว่าโลกนี้ไม่ง่าย
การเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งจะเสมือนการพกอาวุธติดตัวได้เลย
และเมื่อพลังวิญญาณกลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
แต่ถ้าตำนานโบราณเหล่านั้นก็จะกลายเป็นความจริง
อนาคตของตระกูลอันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา!
เมื่อเทียบกับคนหลายๆ คนอย่างน้อยพวกเขาก็มีจุดเริ่มต้นที่ดีกว่า
เรียนรู้ในด้านที่ไม่รู้
ตระกูลอันได้รับการเลี้ยงดูโดยอันเซวียน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่โง่อย่างแน่นอน
พวกเขารู้ว่าโอกาสคราวนี้เป็นยังไง
"ลงชื่อเข้าใช้!"
อันเซวียนใช้ประโยชน์จากช่วงที่เหล่าลูกหลานเขากำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
[ติ๊ง! รับขวดยาเพิ่มปราณโลหิต (สำหรับใช้เองเท่านั้น)!]
ครั้งนี้การลงชื่อเข้าใช้มีการเปลี่ยนแปลงคำจากก่อนหน้านี้
มันเป็นเม็ดยาที่ต่างจากเม็ดยาปราณโลหิตก่อนหน้านี้
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นยาที่สามารถเพิ่มปราณโลหิตได้
อันเซวียนเดาว่าน่าจะมีคนจำนวนมากยืนรวมกันทำให้ได้เม็ดยาเพิ่มปราณโลหิต
มันส่งผลทำให้รางวัลลงชื่อเข้าใช้เพิ่มขึ้น
นี่เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์จริงๆ!
...
และแล้วเพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วสามเดือน
ท่ามกลางเสียงร้องไห้และเสียงตะโกน เหล่าหลานๆ ของตระกูลก็เริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
อันหมิงเยว่สอนพวกเขาอย่างระมัดระวังและได้ให้พวกเขาแช่อาบน้ำสมุนไพร
ในที่สุดก็บรรลุผล!
ในกลุ่มนี้หลานชายคนโตของรุ่นที่สี่ อันเหวินจือ เป็นคนแรกที่เปิดเส้นทางสู่ศิลปะการต่อสู้
ยกเว้นอันหมิงเยว่และอันเซวียนที่สำเร็จอยู่ก่อนแล้ว!
เขาได้กลายเป็นบุคคลที่สามในตระกูลอันที่ได้ก้าวเท้าเข้าสู่โลกแห่งศิลปะการต่อสู้
ณ เวลานี้ ยังไม่ถือว่าเร็วหรือสายเกินไป
แม้แต่อันหมิงเยว่ก็ไม่ง่ายที่จะประเมิน
สาเหตุหลักเป็นเพราะว่าพลังวิญญาณยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ความเร็วของการฝึกศิลปะการต่อสู้ไม่สามารถเทียบได้กับการฟื้นฟูของพลังวิญญาณที่สมบรูณ์ได้อย่างแน่นอน
และลูกหลานของตระกูลอันอีกคนก็เกือบจะบรรลุแล้วเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน!
ด้วยความช่วยเหลือจากสมุนไพรหลายชนิด ในที่สุดอันเซวียนก็มีค่าพลังปราณโลหิตมากกว่า 1000
เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็จะถูกเรียกว่ากึ่งนักสู้ได้
อย่างไรก็ตาม ตามที่อันหมิงเยว่กล่าว หลายคนได้ติดอยู่ในขั้นนี้
เพราะหลังจากสำเร็จขั้นนี้แล้ว!
หากเราต้องการที่จะก้าวเท้าสู่ระดับนักสู้ที่แท้จริงเราจะต้องบีบอัดปราณโลหิตเสียก่อน
เราจะต้องบีบอัดปราณโลหิตต่อไปเรื่อยๆ จนถึงขีดจำกัดจากนั้นในที่สุดก็จะก่อให้เกิดการแปรเปลี่ยน
และสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับขั้นนี้คือการใช้เวลานานในการฟื้นฟูปราณโลหิตหลังจากเกิดการแปรเปลี่ยน
ขั้นนี้จะแตกต่างกันออกไปตามคุณสมบัติของแต่ละคน
ความเร็วในการฟื้นฟูปราณโลหิตของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกัน และเวลาที่ต้องใช้ในแปรเปลี่ยนนั้นก็แตกต่างกันเช่นกัน
และขั้นสุดท้ายของการแปรเปลี่ยนเราจะต้องระมัดระวัง
มิฉะนั้น หากปราณโลหิตทั้งหมดเกิดขาดการควบคุม เราอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตได้
ศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่ยาก แต่สำหรับอันเซวียนตอนนี้แล้ว เขาไม่ลังเลที่จะทำมันเลย
เพราะเขามาถึงปีแห่งชะตากรรมแล้ว!
โดยพื้นฐานแล้วเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ไปอีกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
แต่มันอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงหากเขาฝึกศิลปะการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว พลังวิญญาณเองก็เป็นสิ่งที่ไม่เป็นหลักวิทยาศาสตร์
เมื่อรวมเข้ากับเวลา 100 กว่าปีของทั้งสองชีวิตเขา ความเชื่อมั่นของอันเซวียนจึงมั่นคงมาก
หากปกติก่อนที่พลังวิญญาณจะฟื้นกลับมา
การจะฝ่าฟันไปได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย!
แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้รวมกับเม็ดยาเพิ่มพลังปราณโลหิตที่เขาเพิ่งได้รับมา
อีกสามเดือนต่อมา!
"บูม!"
ในห้องอันเงียบสงบ อันเซวียนสัมผัสได้ถึงปราณโลหิตที่ไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง
มันเหมือนกับสายน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ขีดจำกัดของการเป็นนักสู้ได้ถูกทำลายลงแล้ว! !
เขาได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักสู้ที่แท้จริงได้สำเร็จ! !
เฉพาะนักสู้ที่แท้จริงด้วยกันเท่านั้นที่จะสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างของพลังการต่อสู้ของอันเซวียนได้
และนักสู้ที่แท้จริงนั้นก็สามารถเมินเฉยต่ออาวุธปืนได้อย่างง่ายดาย!
และอีกหนึ่งสิ่งคือความสามารถในการรับรู้ของนักสู้นั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังการต่อสู้ที่แสดงออกมา
ในสมัยก่อนย่อมสามารถรับมือกับศัตรูเป็นหมื่นคนได้อย่างแน่นอน
อันหมิงเยว่เป็นคนแรกที่ค้นพบว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับคุณปู่ของเธอ
โดยทั่วไปแล้วคุณปู่จะมีปราณโลหิตที่มาก
แต่ตอนนี้มันกลับเหมือนกับว่าคุณปู่ของเธอกลับไปสู่ระดับพื้นฐาน
“นักสู้ที่แท้จริง! เป็นไปไม่ได้!?”
อันหมิงเยว่ไม่สามารถระงับอาการตกใจของเธอได้
ยิ่งคิดเธอยิ่งปฏิเสธ
เพราะการเกิดใหม่ของเธอ ตอนนี้เธอจึงได้ก้าวเท้าเข้าสู่กึ่งนักสู้แล้ว
แต่ว่าคุณปู่ของเธอจะเร็วกว่าตัวเธอได้ยังไง
“คุณปู่ ตอนนี้คุณปู่เป็นนักสู้ที่แท้จริงแล้วเหรอ!”
อันหมิงเยว่ถามด้วยความสงสัย
แม้แต่นักสู้ด้วยกันเองก็ยังน่ากลัว
"ไม่มากๆ!"
ข้างใบหน้าของอันเซวียนมีสีหน้าเขินอาย
การพูดว่าตัวเองเป็นนักสู้ที่แท้จริงถือเป็นการโอ้อวดเกินไปสักหน่อย
อันเซวียนได้ผ่านวัยแห่งการโอ้อวดนั้นมาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นหลานสาวของเขาก็เริ่มมีความเชื่อมั่นในศิลปะการต่อสู้ของตัวเองอีกครั้ง
มันจะดีกว่าที่จะไม่ทำลายความมั่นใจเธอ!
แต่คำตอบนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้อันหมิงเยว่ดูตกใจ
เพราะคุณปู่ของเธอไม่ได้มีประสบการณ์ในการเกิดใหม่เหมือนกับเธอ
แล้วคุณปู่สามารถรักษาการแปรเปลี่ยนของตัวเองได้ยังไง
แต่อันหมิงเยว่กลับรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น! !
ขนาดคุณปู่ของเธอที่มีอายุมากขนาดนี้แล้วยังสามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จนสำเร็จได้เลย
แล้วทำไมเธอถึงจะไม่สามารถทำได้ล่ะ!
การเกิดใหม่ของเธอไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น
หลังจากที่อันเซวียนกลายเป็นนักต่อสู้ที่แท้จริงแล้ว การรับรู้ของเขาก็คมชัดมากขึ้น
โดยธรรมชาติแล้ว เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในพลังของหลานสาวของเขา
มันดูคมชัดมากยิ่งขึ้น
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา
อีกครึ่งปี พลังวิญญาณจะฟื้นคืนเต็มที่! !