บทที่ 5 ย่างคุนเผิง
"กร๊อบ ๆ !"
ครู่ต่อมา คุนเผิงและต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง ต่างก็กินมังกรเพลิงดำแห่งยมโลกคนละครึ่งตัว
สองสัตว์วิเศษโบราณมหึมาที่บดฟ้าบังตะวันต่างจ้องมองกันนิ่งเงียบอย่างไม่ขยับเขยื้อน
ครู่หนึ่งต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงก็เปล่งเสียงเป็นภาษามนุษย์ว่า "กล้าดียังไงมาแย่งเหยื่อข้า! เจ้าเพิ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่นาน! คงไม่รู้สินะว่าใครคือนายของข้า!"
"หึ ๆ พูดมากจริง ๆ ข้าไม่สนหรอกว่านายเจ้าจะเป็นใคร ข้ารู้แค่ว่าเจ้าคืออาหารจานหลักของข้าในวันนี้! ข้ายังไม่เคยลิ้มรสชาติของต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงเลย เห็นเจ้ากินมังกรสายเลือดที่แท้จริงเป็นประจำ คงรสชาติอร่อยสุด ๆ ใช่ไหมล่ะ!" คุนเผิงหัวเราะเยาะด้วยแววตาเย็นชา
"อยู่มาห้าล้านปี มักมีสัตว์วิเศษที่มองตัวเองสูงส่งอยากจะกลืนกินข้าเสมอ แต่พวกมันล้วนกลายเป็นปุ๋ยอยู่ใต้ต้นของข้า จุดจบของเจ้าก็คงเช่นกัน!" ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงหัวเราะด้วยเสียงแหบประหลาด
'โฮกกกก!''
เถาวัลย์ของต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ราวกับเหล่ามารร่ายรำ จากนั้นเถาวัลย์หลายร้อยเส้นก็เหยียดยาวออกมา!
เมื่อมองให้ดี บนเถาวัลย์แต่ละเส้นเต็มไปด้วยเกล็ดมังกรเล็ก ๆ แน่นขนัด สมกับเป็นต้นไม้วิญญาณมังกรแท้จริงจริง ๆ !
เถาวัลย์คมกริบร่ายรำในอากาศ มองจากระยะไกลก็เหมือนมังกรร้อยเส้นโบยบินวนรอบเวหาอยู่ ท่าทางยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม!
"ไปเลย!" ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงสั่งด้วยเสียงทุ้ม
"บึม!''
เสียงราวกับระเบิดปืนใหญ่ดังสนั่นระงม มิติที่ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงอยู่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
เถาวัลย์รูปกรงเล็บมังกรหลายร้อยเส้นพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกที่ที่เถาวัลย์ผ่านไปมิติย่อยยับเป็นผุยผง เหลือไว้แต่ความมืดมิดสนิท!
เถาวัลย์หลายร้อยเส้นทะมึนเข้ามาราวกับประตูสวรรค์ เถาวัลย์แต่ละเส้นล้วนมีพลังทะลวงมิติ!
คุนเผิงสะบัดปีกทั้งสอง!
ในพริบตาขนนกขนาดใหญ่กว่าภูเขานับไม่ถ้วนก็หลุดลอยออกจากร่างของคุนเผิง
ขนเหล่านี้ปลิวไสวตามลม เคลื่อนไหวสู้ลม
ในชั่วพริบตาก็แปรเปลี่ยนเป็นคุนเผิงมากมายขนาดเท่าภูเขา พุ่งเร็วดุจสายฟ้าเข้าหาเถาวัลย์
ขนนกนับร้อยเส้นกลายเป็นคุนเผิงแล้ว!
'โฮกกกก!''
พร้อมกับที่คุนเผิงนับร้อยตัวกระพือปีกทะยานขึ้นฟ้า เกิดพายุรุนแรงขึ้นในดินแดนโบราณ!
คุนเผิงร้อยตัวดุจสายฟ้าสีดำวาบแล่นทะยานไปทางต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง!
เถาวัลย์ร่ายรำในอากาศเหวี่ยงฉวยไปทางคุนเผิงด้วย!
ทั้งสองฝ่ายมีความเร็วถึงขีดสุด ปะทะกันในชั่วพริบตา!
''บูม!''
ดินแดนโบราณผืนนี้เต็มไปด้วยเสียงระเบิดนับไม่ถ้วน เปลวไฟลุกโชน
ควันดำจากการระเบิดทำให้กลางวันกลายเป็นกลางคืน
''บูม!''
พร้อมเสียงระเบิดดังก้องหลายครั้ง คุนเผิงที่กลายร่างจากขนนกมากมายก็แตกสลายเป็นเถ้าธุลีปลิวไป!
เถาวัลย์ครึ่งหนึ่งถูกระเบิดยักษ์จนขาดกระจุย
ถึงแม้การระเบิดนี้ทำลายเถาวัลย์ไปครึ่งนึง แต่ยังเหลือเถาวัลย์อีกครึ่งที่พุ่งฝ่าวงล้อมระเบิดออกมา พันรัดรอบตัวคุนเผิง ในพริบตาคุนเผิงก็ถูกมัดจนเหมือนข้าวต้มมัด
คุนเผิงไม่ดิ้นรนเลยแม้แต่น้อย ยังคงนิ่งสงบเช่นเดิม
"เรื่องผิดปกติต้องมีเงื่อนงำ ต้องมีการเตรียมการอย่างอื่นแน่!" เสินหลิงคอยจับตามองการเคลื่อนไหวของสัตว์วิเศษทั้งสองอย่างระมัดระวัง
ตั้งแต่คุนเผิงปรากฏตัวจนถูกต้นไม้วิญญาณมังกรแท้ที่จริงพันธนาการ เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น!
ด้วยขั้นของเสินหลิงไม่อาจมองออกเลยเพราะไม่ทันความเร็วของสัตว์วิเศษสองตัวนี้
แต่เพราะมีพลังจากตำราเทพจักรพรรดิช่วย จักรพรรดิสวรรค์รุ่นที่เจ็ดอยากให้เสินหลิงรับมรดกภูมิปัญญานี้ จึงทำให้เขามองเห็นได้
ในขณะเดียวกัน ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงก็กำลังดึงรั้งเถาวัลย์อย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าต้องการลากคุนเผิงกลับไปที่รัง เพื่อลิ้มรสอาหารมื้อนี้ให้เต็มที่
ถึงจะเรียกว่าต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง แต่มันก็ไม่ได้กินแค่มังกรแท้เท่านั้น
มันมีมังกรแท้เป็นอาหาร แต่ถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ มันก็ไม่รังเกียจหรอก
ชัดเจนแล้วว่าคุนเผิงก็คือ "ของอร่อย" ของต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง แต่เรื่องราวกำลังจะไม่เป็นไปตามที่มันหวังไว้
ทันใดนั้นก็มีน้ำดำมหาศาลปรากฏขึ้นบนตัวคุนเผิง จากนั้นน้ำดำมากมายก็ปกคลุมไปทั่วร่างของมัน ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ คุนเผิงก็กลายเป็นมัจฉาร้ายขนาดมหึมา
ไอเย็นอันไม่มีที่สิ้นสุดแผ่ออกมาจากตัวมัจฉาตัวนี้!
''ฟิ้ว ฟิ้ว!''
ลมหนาวพัดหวีดหวิว!
ดินแดนโบราณที่แต่เดิมเป็นฤดูร้อนนี้ กลับมีหิมะตกหนักเพราะไอเย็นนี้!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหิมะหนักนี้เกิดจากไอเย็นของมัจฉาร้าย อีกทั้งที่นี่อยู่ติดทะเลสาบจึงมีไอน้ำหนาแน่น จึงเกิดภาพหิมะตกเช่นนี้
ไอเย็นมหาศาลปกคลุมฟ้าบังตะวัน เหมือนกับจะทำให้ทั่วทั้งดินแดนโบราณแข็งตัวกันเลยทีเดียว
คุนเผิงมีสองรูปลักษณ์ นี่คืออยู่ในรูปลักษณ์ "คุน" ของมัน
ไอเย็นบนตัวคุนได้แผ่ไปถึงเถาวัลย์อย่างรวดเร็ว
"แกร็ก แกร็ก!"
เถาวัลย์จำนวนมากถูกแช่แข็งฉับพลัน เมื่อไอเย็นแผ่กระจายไปตามเถาวัลย์ ไอหนาวก็รุกล้ำเข้าใส่ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงโดยตรง
ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ดีแน่ จึงสะบัดลำต้น
เถาวัลย์ที่ถูกไอเย็นรุกรานเหล่านี้ก็ร่วงหลุดออกจากลำต้นไปเอง
เพียงแต่เมื่อเถาวัลย์นี้ร่วงหล่นลง ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริงที่เดิมทีเต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า ก็ดูอ่อนแรงซบเซาลงบ้าง
คุนเผิงก็กลับคืนสู่ร่าง "เผิง" อีกครั้ง แล้วส่งเสียงร้องแปลกประหลาด!
น้ำเสียงฟังดูยินดีสุด ๆ !
คุนเผิงพุ่งขึ้นท้องฟ้า บินอย่างรวดเร็วมาทางต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง เห็นได้ชัดว่ามันอยากจะกลืนกินมัน
ในตอนนั้น มีบุรุษผู้หนึ่งเดินออกมาจากหุบเขาด้านหลังต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง
ในชั่วขณะที่บุรุษผู้นั้นปรากฏตัว เสินหลิงรู้สึกได้ถึงปราณแห่งฟ้าดินทั้งหมดที่พลุ่งพล่านขึ้นมา
ฟ้าฝนนับไม่ถ้วนบนฟ้าส่องประกายวิบวับ ราวกับกำลังประจบประแจงบุรุษผู้นั้นอยู่
"เฮ้อ ๆ เจ้านกน้อยเอ๋ย! ต้นผลไม้ของข้าไม่ใช่ของไว้ให้เจ้ากินหรอกนะ! แต่นี่เจ้าลงมือกับต้นไม้ของข้า ถึงขั้นจะถอนรากถอนโคนมันหมดเลย! เจ้าสร้างผลกระทบต่อการออกผลของมัน ก็ต้องมารับผิดชอบกับข้าบ้างล่ะ" บุรุษในชุดขุนนางสีขาวพูดพลางก้าวเดินออกมาจากถ้ำอย่างเชื่องช้า
"รับผิดชอบหรือ คุนเผิงอย่างข้าจะกินเจ้าเสียเดี๋ยวนี้เลยล่ะ! ถือว่านี่คือเกียรติของเจ้าก็แล้วกัน!" คุนเผิงตะโกนอย่างเอาเรื่อง
ชายในชุดขุนนางหาได้โกรธเคืองคุนเผิงที่โอหังแม้แต่น้อย
"ข้ากำลังขาดสหายมาเดินเล่นด้วยพอดี ตัดสินใจแล้ว ก็เอาเจ้านี่แหละ" จากนั้นชายในชุดขุนนางก็ชี้นิ้วไปที่คุนเผิงพลางพูดอึกอัก
"เช่นนั้นก็ต้องมาดูว่าเจ้าจะมีความสามารถขนาดนั้นหรือเปล่านะ!" คุนเผิงกางปีกบังฟ้าปิดดวงตะวันพุ่งชนเข้าใส่ชายชุดขุนนาง
ชายชุดขุนนางยืนไขว้มือ พูดเพียงเรียบง่ายว่า "อัสนีจงมา!"
เสินหลิงรู้สึกได้ว่านี่คือวิชาเต๋าอัสนี อีกทั้งยังเป็นวิชาเต๋าอัสนีที่ถูกต้องตามครรลองแห่งสรวงสวรรค์ด้วย
คำสั่งสองประโยคว่า "อัสนีจงมา" ดังออกไป
สายฟ้าผ่าทั่วหล้า ฟ้าดินล้วนทำตามเจตจำนงของบุรุษผู้นั้น ในชั่วขณะนี้บุรุษผู้นั้นคือเจ้านายร่วมแห่งสายอัสนีทั้งปวงในโลก
สายอัสนีมากมายเคลื่อนวนลงจากท้องนภาอย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นตาข่ายมหึมาคลุมทั่วทั้งดินแดนโบราณ!
''ครืนนน!''
ฟ้าร้องสนั่นไปทั่วผืนแผ่นดินโบราณ!
สายฟ้าฟาดโหมกระหน่ำลงบนร่างมหึมาของคุนเผิงอย่างบ้าคลั่ง!
''บูม!''
ในชั่วลมหายใจกระพือสองสามครั้ง ขนนกสวยสดงดงามของคุนเผิงก็ถูกเผาไหม้เกรียม ยังมีกลิ่นเนื้อหอมลอยออกมาด้วยซ้ำ
ท่าทางองอาจผึ่งผายโบยบินบนเวหาเมื่อครู่ ก็หายวับไปในชั่วพริบตา
"ตุ้บ!" คุนเผิงล้มลงกับพื้นอย่างหนัก ลมแรงพัดกระหน่ำ ฝุ่นควันตลบไปทั่วแถบ!
คุนเผิงโดนสายอัสนีจัดหนักขัดสีหนึ่งรอบ ทั่วตัวดำสนิท
"อัสนีแห่งการทำลายล้างโลก... องค์จักรพรรดิสวรรค์ ข้าน้อยยังเยาว์วัยนัก ข้าน้อยดวงตาเล็กจ้อยมองไม่ออกว่าพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงใด โปรดช่วยเมตตาประทานอภัยปล่อยข้าน้อยไปเถิด!" คุนเผิงพูดขออภัยด้วยปากที่คลุ้งควัน ควันดำนี้เป็นผลกระทบพิเศษจากการถูกชำระล้างด้วยสายฟ้า เห็นได้ชัดว่าคุนเผิงตระหนักจากการผจญเข้าสู่วิถีอัสนีครั้งนี้แล้วว่า ชายผู้นี้คือจักรพรรดิสวรรค์รุ่นที่เจ็ดนั่นเอง
"ไม่ได้หรอก ที่ข้าบอกว่าข้าอยากได้เจ้า ก็คือข้าจะเอาตัวเจ้านั่นแหละ" ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อ คุนเผิงที่ร่างมหึมาบดบังฟ้าดินก็หายวับไป กลับกลายเป็นแสงขาววาบมาปรากฏในมือของชายหนุ่ม
มองเห็นว่าในมือของชายหนุ่มมีนกตัวเล็กสีดำที่ดูเหมือนจะหมดลมปราณอยู่ตัวหนึ่ง ตัวนกยังคลุ้งด้วยควันดำที่มีกลิ่นไหม้อันน่ารังเกียจลอยออกมา
มือของชายหนุ่มเปล่งประกายวาบหนึ่ง กรงนกถักจากเถาวัลย์ก็ปรากฏขึ้น คุนเผิงที่ใกล้สุกได้ที่ถูกเขาใส่ลงไปในกรง
คุนเผิงในกรงมีสีหน้าสิ้นหวัง นอนนิ่งอยู่ในกรงไม่ขยับเขยื้อน
"ต่อไปนี้หากได้ออกไปเดินเล่นคงไม่เหงาอีกแล้ว ข้ามีสหายแล้ว!" ชายหนุ่มในชุดขุนนางดีใจเป็นอย่างมาก เขาเอานิ้วไปจิ้มคุนเผิงที่ใกล้ตายในกรงนก
"ยังมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการ!" ในชั่วพริบตาชายหนุ่มก็มาอยู่ตรงหน้าเสินหลิง
ชายหนุ่มจิ้มนิ้วชี้ที่หว่างคิ้วของเสินหลิง ความรู้สึกแปรเปลี่ยนเป็นอัสนีก่อตัวขึ้นในใจของเสินหลิง พร้อมกันนั้นพลังแก่นวิญญาณมหาศาลก็ไหลทะลักเข้าสู่หว่างคิ้วของเขา
"ตั้งใจฝึกฝนให้ดีนะ ผู้สืบทอดของข้า" ชายผู้นั้นพูดด้วยเสียงพึมพำ อุ้มกรงนกเดินกลับสู่ถ้ำอย่างเชื่องช้า
"ขอรับ องค์จักรพรรดิสวรรค์" เสินหลิงโค้งคำนับจักรพรรดิสวรรค์รุ่นที่เจ็ดหนึ่งครั้ง
เสินหลิงรู้ว่า บุรุษผู้นั้นก็คือจักรพรรดิสวรรค์รุ่นที่เจ็ดที่บำเพ็ญ "สวรรค์ลงทัณฑ์" ถึงระดับสูงสุด สามารถบัญชาอัสนีได้
ชายหนุ่มไม่ได้ใช้พลังใดเลย เพียงพูดสองคำว่า "อัสนีจงมา"
ฟ้าผ่าไร้ขอบเขตในโลกนี้ก็หลั่งไหลมารวมตัวกันตามเจตนารมณ์ของชายผู้นั้น นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "พูดอย่างใดก็เป็นอย่างนั้น" ในตำนานนั่นเอง
นี่คือการแสดงให้เห็นว่าเข้าใจวิถีอัสนีอย่างถ่องแท้แล้ว นั่นก็คือได้เข้าถึงวิถีอัสนีสิบส่วน
เสินหลิงรู้สึกแปลกใจมาก ในชาติก่อนตอนที่ฝึกฝน "สวรรค์ลงทัณฑ์" ก็เป็นช่วงเวลานี้เช่นกัน แต่ผืนแผ่นดินโบราณนี้กลับไม่เคยปรากฏขึ้นเลย
เสินหลิงไม่ได้ออกจากมิติของตำราเทพจักรพรรดิ แต่เริ่มลงมือฝึกฝนแทน!
จักรพรรดิสวรรค์รุ่นที่เจ็ด มอบสองสิ่งให้แก่เสินหลิง หนึ่งคือต้นกำเนิดแห่งอัสนี ส่วนอีกอย่างคือพลังแก่นวิญญาณ ใช้สำหรับควบคุมต้นกำเนิดแห่งอัสนี
จากนั้นเสินหลิงจึงนั่งขัดสมาธิ แก่นวิญญาณจมดิ่งลงไป บำเพ็ญสลายพลังแก่นวิญญาณ
หนึ่งชั่วยามต่อมา เสินหลิงลืมตาขึ้นช้า ๆ แล้วลุกขึ้นยืน
"ฮ่า ๆ ไม่ได้มาเปล่าประโยชน์! ระดับแก่นวิญญาณเพิ่มขึ้นถึงขั้นสร้างฐานระยะปลายแล้ว" เสินหลิงยิ้มพึงพอใจ พึมพำกับตนเอง