ตอนที่แล้วบทที่ 3 รางวัลศิลปะการจับชีพจรระดับเทพ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 ระบบนี้ใช้ได้เลย

บทที่ 4 ผมแพ้กลิ่นบุหรี่


บทที่ 4 ผมแพ้กลิ่นบุหรี่

"ผม...ผมไม่สูบนะครับ"

น้ำเสียงของเหอเฉียง เริ่มสั่นเครือ

เขาชายตามองเข็มขัดในมือของเหอกั๋วอู่ ขนลุกไปทั้งตัว

นี่มันเด็กประหลาดชะมัด!

แค่ผมสูบบุหรี่ก็รู้ได้ด้วยเหรอ

หรือว่าได้กลิ่น?

ไม่น่าใช่นะ!

ทุกครั้งที่สูบ ผมก็อมลูกอมแล้วฉีดสเปรย์ปรับอากาศทุกที เขากำลังหลอกผมอยู่รึเปล่านะ!

พอคิดแบบนี้ เหอเฉียงก็มั่นใจขึ้นมาหน่อย

"คุณหมอครับ อย่าพูดอะไรเพ้อเจ้อเลยนะครับ ผมไม่เคยสูบบุหรี่เลย ผมแม้กระทั่งแพ้กลิ่นบุหรี่เลยนะ!"

เหอกั๋วอู่ข้างๆ ก็พยักหน้า "จริงของเขานะ ทุกครั้งที่ผมสูบบุหรี่ในบ้าน เขาก็ให้ผมออกไปสูบข้างนอก เรื่องนี้ผมยืนยันได้"

ฉินเจียง อุทานเสียงเบาแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย ถามไปคำตอบมาสองสามข้อ

เหอเฉียงดีใจสุดๆ ในใจ

ไอ้หมอนี่ต้องกำลังหลอกผมแน่ๆ!

สำหรับคำถามอื่นๆ ของฉินเจียง เหอเฉียงตอบได้ฉะฉานไปหมด

ทั้งถ่ายวันละกี่ครั้ง เป็นรูปร่างยังไง มีกลิ่นผิดปกติมั้ย เหอเฉียงตอบไม่ติดขัด

ยิ่งเห็นเหอเฉียงคุยกับเขาด้วยท่าทางมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ในใจฉินเจียงก็หัวเราะเยาะ

ไอ้หนูนี่ยังจะมาทำท่าใส่ฉันอีก

สภาพร่างกายของเหอเฉียงเป็นยังไง แค่จับชีพจรทีเดียว ฉินเจียงก็รู้หมดแล้ว

แต่ในเมื่อเหอเฉียงชอบเล่นละคร ฉินเจียงก็ต้องเอาคืนเขาบ้างแล้ว

"คุณหมอครับ คำถามที่คุณถามผมเนี่ย หมออื่นๆ เขาก็ถามผมมาแล้ว มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก"

ตอนนี้เหอเฉียงเริ่มโอหังขึ้นมาหน่อยแล้ว

เขามั่นใจว่าฉินเจียงก็แค่หมอเฉยๆ ไม่มีฝีมืออะไรจริงจัง

คนดูในห้องไลฟ์สตรีมก็คิดว่าความสามารถของฉินเจียงคงมีเพียงเท่านี้

แม้แต่ซุนหลิงจื่อ (孙灵芷) ยังขมวดคิ้วสงสัย หรือเด็กคนนี้จะจับชีพจรไม่เก่งจริงๆ?

แต่แล้วฉินเจียงก็ยื่นของบางอย่างให้เหอเฉียง

"ช่วยถือให้หน่อย"

เหอเฉียงรับมาอย่างเป็นธรรมชาติ เสียบที่หูของตัวเอง

ความเงียบ

ความเงียบราวกับคนตาย

แม้กระทั่งในห้องไลฟ์สตรีม ช่วงนี้ก็ไม่มีใครคอมเมนต์อะไร

กึก ๆๆ

เหอเฉียงฟันกระทบกันจนตัวสั่น ทั้งตัวแข็งทื่อไปหมด

โดนหลอกซะแล้ว!

ไอ้ฉินเฮงซวยนี่มันหลอกฉัน!

ฉินเจียงยิ้มเบาๆ พูดต่อไปว่า "บุหรี่ก็พอสูบน้อยๆ ลง วันนึงไม่กี่มวนก็พอแล้ว"

"ดูอาการนายแล้ว วันละสามซองน่าจะเป็นขั้นต่ำ เลิกเร็วเข้าไว้นะ เพื่อสุขภาพที่ดีของนาย"

ได้ยินฉินเจียงพูดแบบนี้ เหอเฉียงช็อคไปเลย

พระเจ้า! จริงหรือเนี่ย!

แค่จับชีพจรที ก็รู้ได้ยังไงว่าผมสูบวันละสามซอง

พี่ชาย หมอจีนของพี่มันผิดปกตินะ เรียนมาแบบข้ามชั้นหรือไง

"ยังกล้าสูบวันละสามซองอีกเหรอ เออๆๆ ไอ้ลูกอกตัญญู!"

ปอดของเหอกั๋วอู่แทบจะระเบิดแล้ว

ตัวเขาเองที่เป็นนักสูบตัวยง วันหนึ่งก็แค่สองซองบุหรี่ ดันมาพ่ายแพ้ให้ลูกชายที่ติดบุหรี่กว่าเสียอีก!

"ไม่ใช่นะพ่อ ฟังลูกอธิบายก่อน..."

"นั่งลงเดี๋ยวนี้! ตรวจโรคให้เสร็จ!"

เหอกั๋วอู่ตะโกนลั่น เหอเฉียงกลัวจนตัวสั่นเทิ้ม ค่อยๆ นั่งลงใหม่

"คุณหมอ แล้วทำไมตอนที่ผมสูบบุหรี่ในบ้าน เขาถึงได้ไล่ให้ผมออกไปสูบข้างนอกล่ะ?"

ฉินเจียงร้อง 'อ๋อ' เสียงเบา "ก็กลัวจะกระตุ้นอาการอยากบุหรี่ของตัวเองไง อันนี้เข้าใจได้อยู่แล้ว"

ไอ้เด็กบ้านี่!

ฉันนึกว่าเขาแพ้บุหรี่เสียอีก!

เหล่าผู้ชมในห้องไลฟ์สตรีมหัวเราะจนจุก

"555 ขำตายแล้ว ไอ้น้องคนนี้มันสุดจริงๆ!"

"ถ้าให้พูดตรงๆ นะ ในฐานะนักสูบตัวยง มีคนมาสูบบุหรี่ต่อหน้าโดยที่เราสูบไม่ได้ มันแย่มากจริงๆ"

"วันละสามซองเลยเหรอ ตอนนี้เด็กม.6 เครียดกันขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย"

เหอเฉียงที่นั่งลงใหม่พยายามส่งสายตาใบ้ใบ้ให้ฉินเจียง หมายความว่าอย่าพูดต่อเลย

ฉินเจียงเข้าใจความหมายของเหอเฉียงดี แต่น้องชาย ระบบสั่งมาว่าต้องเปิดโปงโรคทั้งหมดของเธอ พี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ

"ชอบ... อดนอนรึเปล่า?"

ฉินเจียงพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้

"หะ?"

เหอเฉียงแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

ต่อให้น้ำเสียงฉินเจียงจะอ่อนโยนสักแค่ไหน สำหรับเขามันก็คือการซ้ำเติมอยู่ดีนั่นแหละ!

"ผม... ผมไม่ชอบอดนอนนะ"

เหอเฉียงใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว

บอกว่าอย่าถามแล้วไง ทำไมยังจะถามอีกล่ะ!

เหอเฉียงคิดจะตบตาผ่าน แต่ฉินเจียงก็ไม่ยอมอยู่ดี

"ไม่ใช่ สังเกตจากชีพจรแล้ว นายน่าจะอดนอนอย่างน้อยถึงตีสามตีสี่ทุกคืน"

เหอเฉียงรีบหาทางแก้ตัว

"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกคุณหมอ ช่วงนี้ผมนอนไม่หลับ คุณคงหมายถึงว่าผมนอนไม่หลับจนถึงตีสามตีสี่ใช่มั้ย"

ฉินเจียงอธิบายอย่างจริงจัง "อาการนอนไม่หลับหมายถึง อยากนอนแต่นอนไม่ได้"

"แต่อาการของนายมันต่างออกไป คือจริงๆ แล้วง่วงมาก แต่ยังฝืนอดนอนดูวิดีโอสั้นๆ ไม่ได้พักผ่อนให้ดี แบบนี้เป็นโทษต่อตับมากเลยนะ"

เหอเฉียงร้องไห้โฮ

ผมจะไม่รู้ได้ยังไงว่าอะไรคือนอนไม่หลับ

ยังจะมาอธิบายให้ผมฟังอีกเหรอ

เธอจะเมตตาผมบ้างไม่ได้เลยเหรอ!

"เอามือถือมา"

"พ่อ..."

"ส่งมา!"

ต่อหน้ากล้อง เหอกั๋วอู่เปิดแอปติ๊กต๊อก แล้วเจอลิสต์วิดีโอโปรดของเหอเฉียง

"ฉันเพิ่งอายุสิบแปดค่ะ~"

"งั้นขอถามหน่อยสิคะ คุณมีแฟนหรือยัง"

"บอกแล้วไงคะว่า ฉันเพิ่งอายุสิบแปดนะคะ~"

เสียงหวานเจี๊ยบเข้าหูทุกคน

ท่าทางเว่อร์แสนเว่อร์ ทำให้ทุกคนอึ้งไปตามๆ กัน

ไอ้เด็กเหอเฉียงนี่ รสนิยมมันแปลกอะไรขนาดนี้วะ!

เหอเฉียงยิ้ม

ระหว่างความทุกข์กับความสิ้นหวัง ก็คงสิ้นหวังดีกว่า

ช่างมันเถอะ ให้มันพังไปหมดเลย

แค่มาหาหมอจีน กางเกงในตัวเองยังโดนถอดจนหมด ใครจะไปคิดล่ะ

ฉินเจียงปลอบว่า "นายก็ไม่ต้องเสียใจอะไรมากหรอก แค่อาการไตพร่องนิดหน่อยเอง ไม่ได้แย่มากอะไร ขอแค่เลิกนิสัยไม่ดีพวกนี้แล้วปรับสมดุลร่างกายสักพัก ก็จะกลับมาสุขภาพดีเองแหละ"

ในห้องไลฟ์สตรีม ผู้ชมก็กลับมาครื้นเครงอีกครั้ง

"555 อ้าว ที่แท้ไอ้หนุ่มคนนี้ไตพร่องนี่เอง!"

"เขาเพิ่งอายุสิบแปดนะ! เขาแค่อยากจะผ่อนคลายบ้าง เขาทำผิดตรงไหนล่ะ"

"โหดร้าย นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว ฉันขอยกย่องให้พิธีกรเป็นหมอจีนโหดร้ายที่สุดเลย!"

เห็นฉินเจียงสรุปอาการได้แล้ว ซุนหลิงจื่อที่นั่งดูอยู่หน้าจอพยักหน้าพอใจ

ตาลาย เวียนหัว แขนขาอ่อนแรง เหงื่อท่วมตัว กลัวหนาว กลัวแสงสว่าง

อาการพวกนี้ดูเหมือนจะเยอะและวุ่นวาย แต่จริงๆ แล้วก็แค่ไตพร่อง ทำให้ภายในร่างกายขาดพลังหยาง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ถ้าเอาอาการเหล่านี้ไปค้นในไป่ตู้ ก็เท่ากับโรคร้าย ไม่ต้องรักษา ฝังดินไปได้เลย

แต่ในสายตาของหมอจีนแล้ว ขอแค่นายปรับเวลานอนให้เป็นปกติ เลิกนิสัยไม่ดีต่างๆ ก็ไม่ต้องรักษาอะไรแล้ว มันจะกลับมาดีเองตามธรรมชาติ

หมอเก่งนั้นรักษาก่อนป่วย หมอกลางรักษาเมื่อใกล้ป่วย หมออ่อนรักษาเมื่อป่วยแล้ว นั่นแหละคือหลักการ

เหอกั๋วอู่ยังไม่วางใจ เขาถามอีกว่า "คุณหมอครับ ลูกชายผมอาการแบบนี้ ไม่ต้องกินยาเหรอครับ"

ฉินเจียงส่ายหน้า "ไม่ต้องหรอก กลับไปคอยดูแลให้เขาเลิกนิสัยไม่ดีพวกนั้นก็พอ"

"แล้วเขามีโรคอะไรแอบแฝงอีกมั้ยครับ"

เหอเฉียงสะดุ้งโหยง ได้สติแล้ว

"พ่อครับ พ่อนี่มันพ่อแท้ๆ ของลูกจริงๆ เลย ช่วยหยุดถามที่เถอะครับ!"

เหอเฉียงอดไม่ไหวแล้ว

คนอื่นเขากำลังไลฟ์สดอยู่นะ จะให้ลูกชายอย่างผมอับอายขายขี้หน้าขนาดนั้นเลยเหรอ

ฉินเจียงเองก็ไม่อยากจะทรมานเหอเฉียงต่อแล้ว

เด็กคนนี้น่าสงสารชะมัด

เขาชี้ไปที่คิวอาร์โค้ดบนโต๊ะ "นอกนั้นก็ไม่มีโรคอะไรแล้ว ก่อนอื่นแสกนจ่ายเงินก่อนเถอะ รวมทั้งหมดสองร้อย"

แค่สองร้อย!

ใจซื่อมาก!

เหอกั๋วอู่รีบแสกนจ่ายเงินทันที

ก่อนพาเหอเฉียงเดินออกไป ฉินเจียงอดไม่ได้ที่จะหยอดประโยคสุดท้ายเอาไว้ เพื่อทำภารกิจให้เสร็จ "อ้อ แล้วก็อย่าดูหนังโป๊บ่อยนักล่ะ มันมีผลต่อสมอง จะกระทบความจำของนาย"

"โอ๊ย!"

ข้างนอก ดังเสียงโหยหวนอันน่าสงสารของนักเรียนเหอเฉียง...

(จบบทที่ 4)

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด