บทที่ 3 เคล็ดวิชาโบราณ "สวรรค์ลงทัณฑ์"
เสินหลิงนั่งขัดสมาธิ เคลื่อนวิญญาณจิต ตรวจดูแหวนเก็บของที่มีตัวอักษร "วิหคเฟิ่งจื่อ" แกะสลักไว้
แหวนเก็บของที่อยู่บนมือของเสินหลิงมีชื่อว่าแหวนวิหคเฟิ่งจื่อ ส่วนแหวนของหลิวเยว่เอ๋อร์ คู่หมั้นของเขามีชื่อว่าแหวนวิหคเฟิ่งหวง แหวนวิหคเฟิ่งทั้งสองวงนี้เป็นแหวนคู่กัน!
"โอ้วสวรรค์! ภายในเต็มไปด้วยภูเขาจากศิลาวิญญาณ! เม็ดโอสถ เคล็ดวิชา เครื่องรางวิญญาณทุกชนิด มีครบหมด!" แม้เสินหลิงจะรู้อยู่แล้วจากความทรงจำว่ามีอะไรในแหวนเก็บของบ้าง แต่เมื่อได้เห็นภูเขาศิลาวิญญาณกองเต็มด้านในกับตาตัวเอง ก็ยังรู้สึกอัศจรรย์ใจ
"นี่ไม่ใช่แหวนเก็บของธรรมดา แต่เป็นโลกเล็ก ๆ ชัด ๆ!" เสินหลิงใช้พลังแก่นวิญญาณสำรวจแหวนเก็บของ ก็พบว่าไม่สามารถวัดขนาดที่แน่นอนของมันได้
หากใช้คำเดียวบรรยายว่าภายในแหวนเก็บของนี้มีพื้นที่เท่าไร คำตอบก็คือ "ใหญ่มาก" ใหญ่แค่ไหนนั้น กรุณาสังเกตคำว่า "ใหญ่มาก" เองนะขอรับ
เสินหลิงไม่สามารถตรวจนับอย่างชัดเจนได้ว่า "กองภูเขาศิลาวิญญาณ" ที่สูงเต็มพื้นที่นั้นมีทั้งหมดกี่กอง ถ้ามองผ่าน ๆ ก็ดูเหมือนจะมองไม่เห็นสุดสายตา!
"ไม่น่าแปลกใจเลยสำหรับสำนักที่ผลิตศิลาวิญญาณ ผู้ฝึกตนสำนักอื่น ศิลาวิญญาณนี้นับว่าเป็นก้อน แต่สำหรับข้าแล้ว นี่นับเป็นกองภูเขา! หน่วยวัดต่างกันอย่างชัดเจน!" จากความทรงจำ เสินหลิงรู้ว่าทรัพยากรหลักที่ผู้ฝึกตนจำเป็นต้องใช้คือศิลาวิญญาณและเม็ดโอสถ
ศิลาวิญญาณธรรมชาติถูกขุดมาจากหุบเขาศิลาวิญญาณ
ในศิลาวิญญาณธรรมชาติมีสิ่งปนเปื้อนอยู่พอสมควร ขณะที่ฝึกฝน ผู้ฝึกตนจำเป็นต้องขัดเกลาให้บริสุทธิ์ด้วยตนเอง การบรรลุศิลาวิญญาณใช้พลังจิตเป็นจำนวนมาก
เจ้าสำนักรุ่นที่สองของสำนักเสิน เสินควง ซึ่งเป็นท่านปู่ของเสินหลิง ได้คิดค้นศิลาวิญญาณเทียมขึ้นมา!
ศิลาวิญญาณเทียมนี้ไม่มีสิ่งปนเปื้อน ผู้ฝึกตนสามารถดูดซับได้โดยตรงโดยไม่ต้องขัดเกลาเอง
นับตั้งแต่ศิลาวิญญาณเทียมได้ถูกผลิตออกมา มันก็ได้แทนที่ศิลาวิญญาณธรรมชาติอย่างรวดเร็ว สำนักเสินจึงผูกขาดตลาดศิลาวิญญาณได้ทั้งหมด!
ในความคิดของเสินหลิง สิ่งนี้ก็เหมือนกับ "พิมพ์เงิน" แหวนเก็บของเลยต้องใหญ่ และมีศิลาวิญญาณเยอะแบบนี้ ถือเป็นมาตรฐานของเชื้อสายรุ่นที่สี่ของสำนักเสิน!
"ดีจริง ๆ ที่ได้เกิดมาในตระกูลชั้นสูง อย่างน้อยตอนเริ่มต้นก็ไม่ต้องลำบากมากนัก สามารถมีชีวิตที่ดีได้เลย!" เสินหลิงพูดอย่างซาบซึ้งเมื่อเห็นทรัพยากรมหาศาลในแหวนเก็บของ
"การเดินทางสู่เส้นทางเซียนของข้า! ข้ามาแล้ว!"
แสงสีเงินวาบขึ้นบนแหวนที่นิ้วมือขวาของเสินหลิง จากนั้นก็ปรากฏหนังสือโลหะหนาหนึ่งฉื่อ สลักอักษรทองใหญ่สามคำว่า "ตำรา เทพ จักรพรรดิ"
สามตัวอักษรนี้ดูสง่างามและทรงพลัง หนังสือ "ตำรา เทพจักรพรรดิ" ในมือของเสินหลิงเป็นเพียงฉบับสำเนา หรือก็คือตำราที่พิมพ์ซ้ำออกมาอีกเท่านั้น
ต้นฉบับอยู่ในมือของท่านปู่เสินควง ส่วนต้นฉบับแท้ ๆ เป็นวัตถุวิเศษระดับเครื่องรางโบราณ
แม้แต่ฉบับสำเนาในมือของเสินหลิงยังถือเป็นสิ่งล้ำค่าระดับเครื่องรางเทพ
เสินหลิงทราบจากความทรงจำว่า "ตำราเทพจักรพรรดิ" นี้มีที่มาไม่ธรรมดา เขียนขึ้นโดยจักรพรรดิสวรรค์ของมนุษย์ หากสำนักเสินมีฐานะเป็นสำนักอันดับหนึ่งของมนุษย์ในปัจจุบันได้ ตำรานี้ถือว่ามีส่วนสำคัญในความสำเร็จอย่างแน่นอน!
วิชาใน "ตำราเทพจักรพรรดิ" ไม่ได้สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิสวรรค์ในหลายรุ่นที่ผ่านมาทั้งหมด บางส่วนสร้างโดยจักรพรรดิสวรรค์ และบางส่วนก็เป็นวิชาจากศัตรูขององค์จักรพรรดิ
"ตำราเทพจักรพรรดิ" รวบรวมเนื้อหาอย่างกว้างขวาง มีทั้งวิชาฝึกตนตามแนวทางดั้งเดิม วิชาลัดแนวเร่งความเร็ว และแม้กระทั่งวิชาอำมหิตของเผ่าพันธุ์มาร
วิชาเหล่านี้ผ่านการจัดการและปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบโดยจักรพรรดิแต่ละยุคสมัย ก่อนได้รวบรวมไว้ใน "ตำราเทพจักรพรรดิ" ในท้ายที่สุด
เสินหลิงยังจำได้ว่า ในชาติก่อนตอนที่เขาเพิ่งได้ "ตำราเทพจักรพรรดิ" มา ท่านปู่เสินถูสอนให้เขาอ่านให้มาก จำไว้ให้มากที่สุด
เสินหลิงเห็นว่าตำราเป็นเล่มบาง ๆ แค่นี้ เลยคุยโวไปว่า "จำทั้งเล่มได้เลยไม่มีปัญหา"
เสินถูยืนมือไพล่หลัง ยิ้มลึกลับแล้วพูดขึ้นว่า "ถ้าเจ้าอยากจำได้หมดก็ดีนัก ตำราเล่มนี้ข้าดูมาสามหมื่นปี ฝึกมาสามแสนปีแล้ว!"
ภายหลังเสินหลิงเพิ่งรู้ว่า "ตำราเทพจักรพรรดิ" บรรจุด้วยค่ายกลวิชาห้วงมิติ มิใช่หนาแค่หนึ่งฉื่อ แต่มีเนื้อหานับร้อยล้านตัวอักษร ราวกับ "สารานุกรมบำเพ็ญเพียรขั้นสูง" ที่ใช้เสริมพลัง!
"ตำราเทพจักรพรรดิ" ครอบคลุมเนื้อหาหลายหมื่นหมวด มีทั้งวิถีเซียน การแพทย์โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ดนตรี หมากรุก เขียนอักษร วาดภาพ การหล่อหลอม ค่ายกลวิชา แม้กระทั่งศิลปะการทำอาหาร ซึ่งฝีมือการทำอาหารของเสินหลิงก็สืบทอดมาจากตำรานี้ด้วย
เนื้อหาส่วนใหญ่ใน "ตำราเทพจักรพรรดิ" เกี่ยวข้องกับการฝึกตน สำหรับส่วนที่เหลือแล้วแต่ความชอบของจักรพรรดิแต่ละรุ่น
เสินหลิงเปิดไปที่บทวิชาของ "ตำราเทพจักรพรรดิ" โดยตรง ซึ่งแบ่งเป็นบทเคล็ดวิชา บทฝึกฝนร่างกาย บทพลังเทพ บทเคล็ดวิชาลับ บทเคล็ดวิชาอำมหิต และอื่น ๆ
เสินหลิงทราบว่า "คัมภีร์วิถีฮุ่นตุ้น" ที่สำนักเสินฝึกฝนกันอยู่นั้น ถือเป็นวิชาระดับสูงสุดขั้นอมตะเก้า และเป็นหนึ่งในวิชาระดับสูงสุดใน "ตำราเทพจักรพรรดิ" ที่รู้จักกันดี ทว่ายังไม่มีใครเคยเห็นวิชาระดับฮุ่นตุ้นในตำนานมาก่อน!
ระดับวิชาของสำนักอื่น สูงสุดก็แค่ขั้นอมตะสามเท่านั้น ดังนั้นในชาติก่อน ท่านปู่เสินควงถึงได้ก้าวจากคนธรรมดากลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์ได้!
เคล็ดวิชา "สวรรค์ลงทัณฑ์" ที่เสินหลิงฝึกฝนในชาติก่อนก็เป็นวิชาระดับสูงสุดขั้นอมตะเก้าเช่นกัน
เสินหลิงพลิกไปที่หน้า "สวรรค์ลงทัณฑ์" ใน "ตำราเทพจักรพรรดิ" แล้วอ่านโดยละเอียด
"ดีจริง ๆ ที่ได้เกิดมาในตระกูลชั้นสูง อย่างน้อยไม่ต้องกังวลเรื่องวิชาฝึกฝน เคล็ดวิชา 'สวรรค์ลงทัณฑ์' นี้ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน สามารถฝึกได้ตั้งแต่ชาวบ้นจนถึงเป็นเซียนหรือเทพได้เลย!" เสินหลิงรู้สึกโล่งอกเล็กน้อยในใจ
เสินหลิงอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ "สวรรค์ลงทัณฑ์" อย่างตั้งใจ เคล็ดวิชานี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยจักรพรรดิสวรรค์รุ่นที่เจ็ด
"สวรรค์ลงทัณฑ์" เน้นการฝึกลมปราณ "อัสนี" ระหว่างฟ้าดิน ธาตุอัสนีนี้ไม่ใช่หนึ่งในห้าธาตุหลัก แต่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นธาตุที่แข็งแกร่งที่สุด
การที่สรวงสวรรค์ใช้สายอัสนีเพื่อลงทัณฑ์สร้างความทุกข์ยาก ก็แสดงให้เห็นความทรงพลังของธาตุอัสนีแล้ว
หากฝึกฝน "สวรรค์ลงทัณฑ์" จนถึงขีดสุด ก็จะสามารถก่อกำเนิดอัสนีลงทัณฑ์ ถือเป็นพลังอันยิ่งใหญ่
การลงทัณฑ์จากสวรรค์เป็นบททดสอบจากสรวงสวรรค์ที่ผู้ฝึกตนต้องเผชิญเมื่อบรรลุถึงระดับหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการให้รางวัลจากสรวงสวรรค์แก่ผู้ฝึกตนด้วย ใครก็ตามที่ผ่านการทดสอบจากอสนีบาตก็จะได้รับพรจากสรวงสวรรค์
ส่วนคนที่ผ่านไปไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับพรจากสรวงสวรรค์ เพราะทั้งตัวก็กลายเป็นขี้เถ้าไปหมดแล้ว กลายเป็นแค่เถ้าธุลีกล่องเล็ก ๆ ใบเดียว!
เสินหลิงใช้พลังแก่นวิญญาณทาบลงบน "ตำราเทพจักรพรรดิ" สีทอง ตำราทองวาววับขึ้นจนเต็มห้อง
ครู่ถัดมา "ตำราเทพจักรพรรดิ" ที่เปล่งประกายทองก็ปล่อยแสงสีทองออกมา ยิงเข้าใส่หว่างคิ้วเสินหลิง
ขณะแสงทองวูบเข้ามา แก่นวิญญาณของเสินหลิงก็มาถึงยุคโบราณที่เต็มไปด้วยสายอัสนีและฟ้าร้องคำราม
"อะไรเนี่ย! นี่มันทำให้ข้าสามารถดูภาพยนตร์แบบเสมือนจริงได้หรือ!" เสินหลิงขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจและงุนงงกับยุคโบราณที่อัศจรรย์นี้
ฉากแบบนี้ไม่เคยปรากฏให้เห็นในชาติก่อนเลย โดยปกติควรจะเห็นตัวอย่างการฝึกวิชาได้โดยตรง
เสินหลิงยังคงอยู่ในชุดเดิมที่สวมในห้อง เท้าทั้งสองของเขาเหยียบอยู่บนผืนดิน รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่แท้จริง แสดงให้เห็นว่าโลกที่สร้างขึ้นโดย "ตำราเทพจักรพรรดิ" นั้นสมจริงอย่างยิ่ง
เสินหลิงไม่ตื่นตระหนก แต่เงยหน้ามองไปรอบ ๆ สักพักก่อนที่สายตาจะฉายแววจริงจังขึ้น!
นี่คือพื้นที่ที่ไม่เป็นที่รู้จัก เหตุผลที่ว่าไม่รู้จักเพราะแม้เสินหลิงจะมีพลังวรยุทธ์ไม่สูงนัก แต่เขามีงานอดิเรกแปลก ๆ คือการตามหาซากโบราณ ถ้าพูดให้ดูดีก็คือการตามหาสมบัติ แต่จริง ๆ แล้วก็คือการขุดหลุมศพนั่นเอง!
ในชาติก่อนเพราะงานอดิเรกแปลก ๆ นี้ของเสินหลิง ทำให้เขาได้ไปเยือนสถานที่ต้องห้ามและลับสุดยอดมากมายในภพมนุษย์ ภพเซียน และภพเทพ โดยเขาสำรวจในภพมนุษย์และเซียนด้วยตัวเอง ส่วนภพเทพนั้นผู้อาวุโสของสำนักพาเขาไป
ดูเหมือนจะเป็นสถานที่โบราณที่ยังไม่มีใครรู้จัก อันที่จริงสถานที่โบราณก็คือสถานที่ล้ำค่า หมายความว่ามีสมบัติล้ำค่ามากมายซ่อนอยู่
เสินหลิงมองออกไปรอบ ๆ สิ่งที่เขาเห็นล้วนเป็นสิ่งล้ำค่าหายากจากยุคโบราณทั้งสิ้น
เห็ดหลิงจือเก้าสีที่เหมือนภูเขาตั้งตระหง่านนิ่งอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน
มันแผ่พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ออกมา และยังปกคลุมไปด้วยแสงสีสันรอบตัว แสงนี้เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นไร้ขีดจำกัด
ท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยเมฆดำ มีสายอัสนีสีดำประหลาดวาบออกมาจากเมฆเป็นระยะ ๆ มองเห็นสายอัสนีสีดำขนาดหมื่นจั้งตรงลงมาจากท้องฟ้า
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นไปทั่วฟ้าดิน!
ทุกที่ที่สายอัสนีดำวาบผ่าน ล้วนย่อยยับเป็นผุยผง นี่แสดงให้เห็นความน่าสะพรึงกลัวของมัน
สายอัสนีตกลงมาตรงเห็ดหลิงจือเก้าสีที่ใหญ่เท่าภูเขาพอดี
ชั่วพริบตา รอบกายเห็ดหลิงจือเก้าสีก็ปรากฏแสงสีเขียวอมดำ แสงสีเขียวอมดำกลืนกินสายอัสนีประหลาดที่สามารถทำลายแม้แต่ห้วงอวกาศได้
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เห็ดหลิงจือเก้าสีก็ปล่อยแสงสายอัสนีสีดำวาบออกมารอบตัว ทำให้ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด
หลังจากได้รับการบำรุงจากสายอัสนีสีดำ เห็ดหลิงจือเก้าสีขนาดใหญ่ก็ยิ่งดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
เสินหลิงตกใจจนพูดติดอ่างเมื่อเห็นภาพอัศจรรย์นี้ "กะ เก้า เก้าอสนีบาต เห็ดหลิงจืออัสนีลงทัณฑ์เก้าชั้น!"
เสินหลิงมองเห็ดหลิงจือเก้าสีที่งดงามนี้ด้วยความตื่นเต้น สองตาของเขาเปล่งประกายทองวับ นี่คือเห็ดหลิงจืออัสนีลงทัณฑ์เก้าชั้น โอสถวิเศษยุคโบราณอันดับสี่
เห็ดหลิงจืออัสนีลงทัณฑ์เก้าชั้นจะงอกยาวหนึ่งฉื่อในทุก ๆ พันปี ส่วนเห็ดหลิงจืออัสนีลงทัณฑ์เก้าชั้นที่เติบโตจนสูงเทียมเมฆนี้ มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่ามันมีอายุมากเพียงใด
หากได้ครอบครองเห็ดหลิงจือนี้ อย่างน้อยที่สุดก็จะช่วยให้เสินหลิงเหินขึ้นสู่ภพเทพได้
เสินหลิงยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นของอีกอย่างในบริเวณใกล้เคียง "โสมทองเดินทางข้ามฟ้า!" มันคือโอสถวิเศษยุคโบราณอันดับสองเลยทีเดียว
"โสมทองเดินทางข้ามฟ้า" ก็เหมือนกับชื่อของมัน
เมื่อเติบโตครบหนึ่งแสนปี มันจะเริ่มออกเดินทาง "โสมทองเดินทางข้ามฟ้า" จะเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่รู้สึกว่าในดินมีธาตุอาหารไม่เพียงพอ มันก็จะย้ายไปยังสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำและหญ้า
ไม่ไกลออกไป เสินหลิงยังเห็นต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ โอสถวิเศษยุคโบราณอันดับห้า
ตำนานเล่าว่า เพียงแค่กินเมล็ดปัญญาจากต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ฝึกตนก็จะตรัสรู้ได้ในพริบตา
ต้นไม้วิญญาณมังกรที่แท้จริง โอสถวิเศษยุคโบราณอันดับสาม
สารอาหารที่ต้นไม้โบราณต้องการคือเลือดมังกร มันออกผลลูกไม้รูปทรงประหลาด คล้ายมังกร เพียงกินผลวิญญาณมังกรที่แท้จริงนี้ ก็จะได้ครอบครองสายเลือดมังกรแท้ และสามารถแปลงกายเป็นมังกรแท้ได้
สมบัติล้ำค่านานาชนิดที่เลือนหายไปจากกระแสประวัติศาสตร์ ล้วนปรากฏให้เห็นกันหมดที่นี่!