บทที่ 103 ภรรยาผู้ใจป้ำ
ขณะที่หลูมู่หยานถูกปิดล้อมจากกองทัพมดคันไฟ หลูมู่ไป๋ หยุนหลัน และคนอื่น ๆ ต่างก็พากันกระวนกระวาย และรีบเด็ดหัวพวกมดคันไฟเหล่านั้นที่อยู่รอบ ๆ เพื่อรีบไปช่วยเหลือหลูมู่หยาน ทว่าจำนวนฝูงมดกับจำนวนคนนั้นต่างกันมากเกินไป ไม่ว่าพวกเขาจะเด็ดหัวมันสักเท่าไหร่ แต่พวกมันก็ยังคงมีเยอะอยู่ดี
เย่ชิงหานใช้ดาบเล่มยาวฟันไปที่มดไฟระดับห้าสองตัวที่อยู่ข้างหน้าจนมันแบ่งออกเป็นครึ่ง พร้อมกับวิ่งไปยังฝูงมดไฟด้วยความเร็ว ทว่าทันทีที่เขาเข้าใกล้บริเวณรอบวงต่อสู้ เขาก็ปิดล้อมด้วยฝูงมดคคันไฟ
หลูมู่หยานยังใช้แส้สีทองฟาดฝูงมดอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะกระโดดขึ้นเป็นครั้งคราว และใช้ร่างกายที่ทรงพลังของของนางต่อกรกลับมดคันไฟระดับห้าแบบตัวต่อตัว
มดไฟระดับห้าสองตัวมีแสงสีแดงเย็นทั่วตัวทำให้ตัวของมันแข็ง เมื่อปะทะกับหลูมู่หยานก็ทำให้พวกมันหวั่นไหว พร้อมกับเกิดข้อสงสัยขึ้นที่ดวงตาของพวกมันว่า
… เมื่อไหร่ที่ร่างกายของมนุษย์แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้
ขณะที่เย่ชิงเล่อกินยาทั้งหมดที่ได้รับจากหลูมู่หยานนั้น ทันทีที่นางรับประทานยาเข้าไป มันจะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ และแผ่ขยายออกไปยังสี่เส้นลมปราณ และแปดเส้นเส้นลมปราณ ก่อนที่ตันเถียนแห่งชีวิตจะได้รับการเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของนางเป็นประกาย และทันทีที่หยวนหลี่ถูกเติมพลัง เย่ชิงเล่อก็กวักมือเรียกไปที่วงแหวนเวทย์มนตร์ที่อยู่บนพื้น ตอนนี้วงแหวนสองวงเปล่งแสง และกลายเป็นลำแสงสองสาย ก่อนจะบินเข้าไปในมือของนางเอง
แผลที่ขาของเย่ชิงเล่อเริ่มดีขึ้นช้า ๆ จากฤทธิ์ยาที่หลูมู่หยานมอบให้ นางเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อออกจากวงกลมทั้งสอง ทำให้ร่างของนางแนบชิดสนิทกับหลูมู่หยานมากยิ่งขึ้น ก่อนที่หลังของสองคนจะชนกันเพื่อจัดการกับฝูงมดคันไฟที่กำลังรุมล้อม
“แล้วพี่มู่หยานล่ะ?” เย่ชิงเล่อเฝ้าดูมดคันไฟโจมตีพวกมันเป็นฝูง ความสิ้นหวังในใจของนางยังคงมีอยู่ แต่ก็ยังคงมองไปที่หลูมู่หยานด้วยสายตาที่ไว้วางใจ
หลูมู่หยานโบกแส้ทองคำอย่างรวดเร็วด้วยความคล่องตัว โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นการโจมตีที่รุนแรง และมดคันไฟก็ตกลงมาต่อหน้านาง
ตอนนี้หลูมู่หยานต้องเผชิญกับความอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก นางจึงหยิบขวดยาหลิงหลิงออกมาเพื่อปลอบให้เย่ชิงเล่อสงบขึ้น “สูู้ ๆ เติมทันทีที่หมดพลัง และป้องกันตัวเอง”
“ตกลง!” เย่ชิงเล่อหยิบขวดยาสีขาวที่มีอุณหภูมิร่างกายของหลูมู่หยานเก็บเอาไว้ เมื่อเห็นนางโบกแส้ยาวเพื่อปกป้องอันตรายที่อาจะเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว กระแสความอบอุ่นก็พลันเกิดขึ้นในใจ
หลูมู่หยานเป็นคนแรกที่ปกป้องนางด้วยชีวิต นอกจากพี่ชายของอย่างเย่ชิงหาน ทำให้ดวงตาของนางในตอนนี้ชื้นไปด้วยความตื้นตันใจ
หลูมู่หยานดันโล่ไปข้างหน้าก่อนจะแยกมันออกเป็นสี่ส่วนเพื่อโอบล้อมเย่ชิงเล่อเอาไว้ ตอนนี้มุมปากของนางยกยิ้มก่อนจะบินตรงเข้าไปในฝูงมดคันไฟด้วยการแตะนิ้วเท้าลงกับพื้น
“หลูมู่หยานบ้าหรือเปล่า” ผู้คนที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ของหลูมู่หยาน เมื่อเห็นนางพุ่งกระโจนเข้าหาฝูงมดคันไฟราวกับกำลังรนหาที่ตาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะโพล่งพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
“หยานเอ๋อร์” ใบหน้าของหลูมู่ไป๋เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่ แม้เขาจะรู้ดีว่าน้องสาวของเขาจะไม่ทำสิ่งที่หุนหันพลันแล่นแบบนั้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
“มู่หยาน!” หยุนหลัน และฉีอี้ซวนต่างก็พากันตกใจกับการกระทำของนางเช่นกัน ช่างเป็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการจบชีวิตอย่างคาดเดาไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับนางกัน?
เย่ชิงหานกัดฟันระงับความตกใจพร้อมกับความกังวล ก่อนจะรีบฆ่ามดคันไฟอย่างบ้าคลั่งเพื่อฝ่าฟัน และเข้าไปสมทบกับหลูมู่หยาน
หลันซือวางมือชั่วคราว เขาอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีกังวล พร้อมกับเดินอย่างรวดเร็วไปทางหลูมู่หยาน เขาปล่อยให้นางได้รับอัตรายที่นี่ไม่ได้
รอยยิ้มที่ดูเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นในสายตาของเล่อเซียง ซึ่งกำลังจัดการกับมดคันไฟระดับสามมากกว่าหนึ่งโหลที่อยู่ไม่ไกล
ขยะไร้ค่าอย่างหลูมู่หยานนั้นโง่เขลา นอกจากจะสร้างอันตรายให้กับเย่ชิงเล่อแล้ว ตอนนี้ยังโง่ที่จะรีบเข้าไปในฝูงมดคันไฟเพื่อรนหาที่ตาย ดูเหมือนว่าขยะไร่ค่าชิ้นนี้สามารถตายได้โดยไม่มีที่ฝังศพ เช่นเดียวกับเสวี่ยหลิง และซินหยิงซวน พวกนางก็ต่างหวังว่า หลูมู่หยานจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ และถูกกัดกลืนโดยฝูงมดคันไฟ
เมื่อทุกคนคิดว่าหลูมู่หยานไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ทันใดนั้นเงาสีขาวก็พุ่งผ่านรอยผ่าของฝูงมดคันไฟอย่างรวดเร็ว แส้ทองคำที่รวดเร็ว แม่นยำ และไร้ความปรานี แทงเข้าไปยังคริสตัลปีศาจที่อ่อนแอที่สุดในสมองของมดโดยตรงทุกครั้ง ก่อนที่จะแตกเป็นเสี่ยง ๆ หรือถูกรีดออกแล้วฟาดด้วยแส้เส้นนั้น
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการที่หลูมู่หยานโบกแส้ยาวอย่างเมามันด้วยมือหนึ่งข้าง ขณะที่อีกข้างถือขวดยาสีขาว พร้อมกับเทยาเข้าปากอย่างต่อเนื่อง
กลิ่นของเม็ดยาฟุ้งกระจาย ผู้คนรอบข้างสามารถได้กลิ่นอันละเอียดอ่อนของเม็ดยา และพวกเขาก็ตกตะลึง
… นี่เป็นยาระดับสูงที่มีประสิทธิภาพมากกว่ายาเซงหลิง นางได้มันมาอย่างไร?
“บ้าไปแล้ว หลูมู่หยานเป็นผู้หญิงบ้า”
สาวกหัวกะทิของตระกูลสิบอันดับแรกเฝ้าดูการฆ่ามดคันไฟระดับสูงของหลูมู่หยานอย่างสิ้นหวัง แม้ว่านางจะโดนเปลือกแข็งของมดคันไฟ ทว่านางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ตอนนี้ร่างกายของนางกลับแข็งแกร่งขึ้น และสามารถต้านทานเหล่าอสูรนั้นได้
สิ่งที่พูดไม่ออกที่สุดคือผู้หญิงคนนี้หยิบขวดยาออกมา แล้วหยิบอีกขวดออกมาทันที ก่อนจะเทเข้าปากราวกับว่านางไม่ต้องการเงิน
ในบางครั้ง หลูมู่หยานยังยื่นมือออกมา และขว้างขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวไปทางหลูมู่ไป๋ และคนอื่น ๆ ที่กำลังจะเข้าช่วยเหลือนาง พร้อมกับตะโกนถ้อยคำที่ทำให้พวกเขาเจ็บปวด “แม้ว่าจะกินเข้าไป ก็เก็บให้พอ!”
เสี่ยวเซียงหยิบขวดยา ก่อนเทใส่ปากอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เขาสัมผัสได้คือเม็ดยาละลายในปาก พร้อมกับกลิ่นหอมที่คละคลุ้ง ทันได้นั้นความมีชีวิตชีวาถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้คาดหวังว่ายาของหลูมู่หยานจะมีประสิทธิภาพมากกว่ายาเซงหยวนถึงห้าเท่า
… นี่คือยาเม็ดชนิดใด? ช่างน่าทึ่ง
ไม่สิ หลูมู่หยานสตรีผู้ฟุ่มเฟือยบ้าไปแล้วจริง ๆ ยาเม็ดดังกล่าวจะใช้สิ้นเปลืองได้อย่างไร?
“หลูมู่หยาน เจ้าผู้หญิงบ้า อย่าสุรุ่ยสุร่ายนัก! ช่วยหน่อย ช่วยหน่อย” เสี่ยวเซียงวางขวดลง และตะโกนบอกหลูมู่หยาน
ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ เขาไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้ได้ หลูมู่หยานเป็นสตรีผู้เพียบพร้อม นางไม่รู้สึกทุกข์ใจ แต่เขากลับรู้สึกเป็นทุกข์แทนเสียแล้ว
หลูมู่หยานเทยาสองสามเม็ดเข้าปาก เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวเซียง นางก็อดไม่ได้ที่จะกระมุมตุกยิ้มมุมปาก … นี่เขาใส่ใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หลูมู่หยานขาดทุกอย่าง แต่นางไม่เคยขาดยาระดับต่ำนี้ ก่อนมาถึงเทือกเขาอาร์กติกนางก็ได้ประเมินความเสี่ยงมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งซื้อหญ้าวิญญาณมาชุดหนึ่ง และกลั่นยาเม็ดเสริมเกือบร้อยขวดสำหรับกรณีฉุกเฉิน
“งี่เง่า” เมื่อฟังเสียงตะโกนอย่างต่อเนื่องของเสี่ยวเซียงแล้ว หลูมู่หยานก็เหลือบมองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม และทำหน้าตาที่ทำให้เขาหุบปาก
เสี่ยวเซียงรู้สึกว่าเขากำลังจะเป็นบ้า หลูมู่หยานสตรีผู้เลอโฉมมีดวงตาแบบไหนกันนะ? นั่นคือยาเม็ด! ไม่ใช่น้ำตาลเม็ด...
หลูมู่หยานไม่สนใจสายตาเศร้าสร้อยของเสี่ยวเซียงแม้แต่น้อย ทันทีที่พลังวิญญาณของนางหมดลง เม็ดยาที่เหลือก็ตามมาเติมเต็มทันที แส้สีทองในมือของนางไม่หยุดอยู่ครู่หนึ่ง และแส้ก็ฟาดไปยังมดคันไฟที่อยู่ข้าง ๆ
ทุกคนเห็นผู้หญิงในชุดขาวรูปร่างสง่างามร่ายรำอย่างคล่องแคล่ว แส้ยาวส่องแสงสีทองระยิบระยับ และร่างของนางพเนจรไปมาท่ามกลางมดคันไฟราวกับภูติผี ไม่ว่านางจะไปที่ไหนนางจะล้มลง เหลือแต่มดคันไฟที่ผลึกปีศาจรูเลือดหายไปในหัว
สิ่งที่น่าคลั่งไคล้ที่สุดคือหลูมู่หยานใช้เวลาไม่นานในการหยิบขวดยาที่พวกเขาไม่สามารถยับยั้งความปรารถนาของนาง และเทลงในปากของโดยไม่ต้องเสียเงิน ท่าทางแบบนั้นดูหยิ่งยโส แต่นางทำให้ผู้คนรู้สึกแบบนั้น
แต่หลายคนกำลังเดือดดาลอยู่ในใจ หลูมู่หยาน เจ้าอย่าฟุ่มเฟือยนักได้ไหม? หลายคนมีความต้องการที่จะขึ้นไปคว้าเอากระเบื้องจากมือของนาง เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียไปมากกว่านี้
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แค่บ้าการต่อสู้ แต่ยังเป็นเด็กสาวที่ใจป้ำ และฟุ่มเฟือยอีกด้วย!
นี่เป็นความประทับใจอย่างสุดซึ้งที่หลูมู่หยานฝากไว้กับสาวกชั้นยอดของสิบตระกูลชั้นนำในการต่อสู้ครั้งนี้