บทที่ 10 ยุคใหม่กำลังมาถึง
เวลา 19:00 น.
ทุกคนต่างเปิดช่องข่าวกัน
รวมไปถึงตระกูลอันก็ไม่มีข้อยกเว้น!
แม้ว่าลูกหลานของตระกูลอันจะรู้เรื่องศิลปะการต่อสู้มาก่อนอยู่แล้วก็ตาม
แต่ก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาไม่ให้ดูได้!
เพราะนี่คือสัญลักษณ์ของการมาถึงของยุคใหม่
การแถลงการณ์ของวันนี้ก็เหมือนๆ กับที่พวกเขารู้
ผู้ที่ปรากฏตัวบนทีวีคือหลินเว่ยผู้บังคับบัญชาและควบคุมทุกอย่าง
เขาเป็นหัวหน้าสำนักงานพิเศษ!
ทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้
เพียงเขาปล่อยหมัดออกไป ลานฝึกซ้อมทั้งหมดดูเหมือนถูกลมพัดหายไป
"นักสู้ที่แท้จริงระดับ 4!"
"ในชีวิตก่อนที่หนูจะกลับมาเขาได้สูญหายไประหว่างทำสงครามกับสัตว์ทะเล"
อันหมิงเยว่กระซิบเบาๆ
เสียงนี้ได้ยินเฉพาะอันเซวียนที่อยู่ข้างๆ เท่านั้น
เพราะทุกคนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่พวกเป็นเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสด
และตอนนี้เขาไม่ลืมที่จะฝึกฝนไปด้วยเพื่อแข่งขันกับเวลา
เพราะการฝึกฝนเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงตอนนี้อาจเทียบเท่ากับสิบห้าชั่วโมงในอนาคต
"ช่างน่าเศร้า!"
อันเซวียนถอนหายใจเล็กน้อยต่อการสูญเสียของนักสู้ระดับนี้
นักสู้ระดับ 4 ตัวเขาเองก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ตอนนี้เขาอยู่ในระดับที่ 2 แล้ว และเขาสามารถขัดเกลากระดูกได้สิบชิ้นในวันแรก
หลังจากที่เขาสามารถขัดเกลากระดูกครบ 206 ชิ้น
เขาจะไปถึงจุดสูงสุดของระดับที่ 3
และตอนนี้ด้วยประโยชน์จากการระเบิดของพลังวิญญาณ มันได้ส่งผลต่อรางวัลของการลงชื่อเข้าใช้ของเขาด้วย
การที่จะไปถึงจุดสูงสุดระดับที่ 3 นั้นไม่น่าจะใช้เวลานานเกินไป
สำหรับการทะลวงระดับที่ 4 นั้น เขาคิดว่ามันขึ้นอยู่กับเวลา
การสาธิตของหลินเว่ยได้จบแล้ว
เขาไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา นักสู้ระดับที่ 4 ไม่ได้มีเพียงเท่านี้แน่นอน
แต่ถึงกระนั้น สำหรับชาวต้าเซียที่ดูการถ่ายทอดสดจบแล้ว มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาหายใจเข้าลึกๆ
“นี่คือสุดยอดศิลปะการต่อสู้งั้นเหรอ!?”
อาจกล่าวได้ว่าสิ่งนี้ได้ทำลายความรู้ความเข้าของชาวต้าเซียทั้งหมด
เพราะนี่มันไม่ต่างอะไรกับซุปเปอร์แมนเลย
“เส้นทางศิลปะการต่อสู้ จะเป็นการฝึกฝนพลังปราณโลหิต”
“การฝึกฝนพลังปราณโลหิตจะถึงขีดจำกัดประมาณ 1000”
"ขีดจำกัดนี้เราจะเรียกว่ากึ่งนักสู้ และจะต้องก้าวต่อไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นนักสู้ที่แท้จริง"
“นักสู้จะถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับ จากระดับที่ 1 ถึงระดับที่ 9 และผู้ที่ลงทะเบียนเป็นนักสู้ในพันธมิตรนักสู้”
"ทุกคนจะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับนักสู้และได้รับเงินสนับสนุนเฉพาะ!"
-
ด้วยเสียงจากการถ่ายทอดสด ไม่รู้ว่าจะมีกี่คนที่ตกใจ
เห็นได้ชัดว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้
สถานะของนักสู้ได้รับการยกระดับขึ้นในระดับที่สูงขึ้นทันที!
แต่เมื่อหลายๆ คนนึกถึงการสาธิตสดเมื่อสักครู่นี้
พวกเขาก็เงียบไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และในที่สุดก็สรุปประโยคหนึ่ง
กาลเวลาได้เปลี่ยนแปลงแล้ว!
นักสู้ผู้แข็งแกร่งสามารถละเลยแม้กระทั่งเทคโนโลยีส่วนใหญ่ได้
เวลานี้ดูเหมือนว่าจะมีอารมณ์มากมายปรากฏในดวงตาของอันหมิงเยว่
ก่อนเกิดใหม่ในช่วงเวลานี้เธอก็รู้สึกตกใจไม่แพ้คนธรรมดาคนอื่นๆ
น่าเสียดายที่ตอนนั้นคุณปู่ของเธอเพิ่งเสียชีวิต
เธอรู้สึกเสียใจมากและไม่ได้สนใจเส้นทางนักสู้ตั้งแต่แรก
มันทำให้เธอพลาดโอกาสของการฟื้นฟูพลังวิญญาณครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง
แต่ว่าตอนนี้เธอได้ทำครบทุกอย่างแล้ว!
เธอโชคดีมาก!
ในคำแถลงต่อไป ต้าเซียประกาศว่าพวกเขาจะประกาศวิธีการฝึกศิลปะการต่อสู้ วิธีการฝึกปราณโลหิต
แต่เมื่อเทียบกับวิธีการฝึกฝนของพวกอันหมิงเยว่และลูกหลานคนอื่นๆ ในตระกูลอันแล้ว
ถ้าพูดกันตรงๆ ของพวกเขาถือว่าค่อนข้างง่ายกว่ามาก!
เพราะก่อนที่อันหมิงเยว่จะกลับจากการเกิดใหม่ ทักษะเหล่านี้ย่อมได้รับการปรับปรุงมาหลายครั้งแล้ว
ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
ทุกคนจะได้เข้าร่วมหลักสูตรการฝึกศิลปะการต่อสู้นี้!
และรวมถึงใช้ในการสอบด้วย
นอกจากนี้ ภาษาต่างประเทศบางภาษาก็ถูกยกเลิกและไปรวมอยู่ในวิชาเลือกแทน
“ฮ่าฮ่าๆ ในที่สุดฉันก็ไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาต่างประเทศแล้ววววว”
“โชคดีที่ฉันยังไม่ได้เรียน ในที่สุดฉันก็รอดแล้ว!”
“การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้งั้นเหรอ! แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ฉันตื่นเต้นแล้ว”
-
การแถลงอันร้อนแรงที่ผ่านมาได้เดือดดาลอย่างหนักในแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ
ใน 50 อันดับคำค้นหายอดนิยม ไม่มีคำใดเลยนอกจากศิลปะการต่อสู้!
ที่จริงแล้ว ต้าเซียเองก็มีข้อพิจารณาของตัวเองเช่นกัน!
ด้วยการปรากฏตัวของสัตว์ร้ายทะเลมากขึ้นและมีระดับการกลายพันธุ์มากขึ้น
ในอนาคตเรืออาจจะสามารถแล่นได้เฉพาะตามชายฝั่งเท่านั้น
โดยพื้นฐานแล้วอยู่แต่ในชายฝั่งมันมีความรู้สึกโดดเดี่ยวเล็กน้อย
หากเป็นอย่างนั้นก็ควรจะจัดการอะไรบางอย่างก่อนจะดีกว่า
ค่ำคืนนี้คงจะมีใครหลายๆ คนที่นอนไม่หลับ!
ไม่ว่าใครในต้าเซียต่างก็จมอยู่กับจุดยืนของตน
เพื่อการเริ่มต้นในเส้นทางนักสู้ทุกคนต้องปฏิบัติตามขั้นตอน!
ในทีวีจะมีนักสู้ผู้เชี่ยวชาญมาสอนวิธีการฝึกศิลปะการต่อสู้เบื้องต้น
ทั้งนี้รวมถึง พวกเส้นลมปราณ กระดูก ฯลฯ ล้วนเป็นความรู้ที่ต้องมี
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเรื่องนี้
ในเรื่องนี้ผู้ที่เรียนด้านนี้มาต่างก็มีข้อดีหลายประการ
แน่นอนว่าในตระกูลออันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนตกอยู่ในความบ้าคลั่ง
แม้แต่ตัวอันเซวียนเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาตั้งเป้าหมายที่จะเป็นปรมาจารย์เอาไว้
ก่อนหน้านี้เขาตั้งเป้าหมายให้หลานสาวของเขาเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของอวิ๋นเฉิง
แต่มันก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า!
แต่ถ้าหากตอนนี้มันได้รวมกับการมาถึงของนิ้วทองของเขาล่ะ และเขาก็มีมั่นใจในความเร็วการฝึกฝนของตัวเอง
ฉะนั้นเขาต้องตั้งเป้าหมายที่จะเป็นปรจารย์เอาไว้
ก่อนที่การต่อสู้ของเมืองอวิ๋นเฉิงจะมาถึง
ท้ายที่สุดแล้ว อันเซวียนไม่อยากให้หลานสาวของเขาต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่าง!
นอกจากนี้ หากเขาลองออกไปใจกลางเมืองอวิ๋นเฉิง การลงชื่อเข้าใช้ครั้งนี้มันต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่น
อันเซวียนไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง แต่เขาก็เต็มใจที่จะลองดู ในไม่ช้าเขาก็ออกไป
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ โฮสต์ได้รางวัลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ได้รับการปรับปรุงการฝึกฝนนักสู้(ขอบเขตต่ำกว่าระดับกลางทั้งหมด)!]
[ติ๊ง! ได้รับข้อมูลเชิงลึกทักษะการต่อสู้หนึ่งชิ้น! ]
ในไม่ช้าการลงชื่อเข้าใช้วันใหม่ของเขาก็มาถึง ดวงตาของอันเซวียนเป็นประกายตรวจสอบอีกครั้ง
การลงชื่อเข้าใช้ครั้งเพียงครั้งเดียวกลับได้รับรางวัลถึงสองอย่าง
นี่มันเทียบเท่ากับการลงชื่อเข้าใช้ถึงสองครั้ง
นอกจากการฟื้นฟูของพลังวิญญาณแล้ว ทั่วทั้งเมืองอวิ๋นเฉิงยังได้มีผู้ฝึกฝนเพิ่มขึ้นด้วย
พลังปราณโลหิตและพลังวิญญาณต่างรวมกันอยู่ที่นี่มากมาย
หากได้รับรางวัลมากขึ้นมันก็สมเหตุสมผลแล้ว
หลังจากได้รับรางวัล อันเซวียนก็เริ่มฝึกฝนอีกครั้ง
ภายใต้การฝึกฝนแบบเร่งความเร็วขึ้นอีกหลายระดับ!
ในวันที่สองของการฟื้นตัวของพลังวิญญาณ อันเซวียนรู้สึกได้ว่าเขาสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นกลางของระดับที่ 2 ได้
ขัดเกลากระดูก 20 ชิ้น
เมื่อขัดเกลากระดูกถึง 100 ชิ้นก็ถึงเวลาที่จะก้าวสู่ระดับที่ 3
ยิ่งกระดูกถูกขัดเกลามากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น
ส่วนใหญ่เป็นเพราะตำแหน่งของกระดูกที่ต้องขัดเกลา
กระดูกในตำแหน่งสำคัญบางตำแหน่งจำเป็นต้องระวัง
และมันต้องใช้พลังในการขัดเกลามากขึ้น
ถ้าหากไม่ระมัดระวังดีๆ อาจถึงขั่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อถึงขั้นนี้อันเซวียนเขายังไม่รู้ว่าเขาจะใช้เวลาการฝึกฝนนานเท่าใด
เพราะยิ่งขอบเขตศิลปะการต่อสู้สูงเท่าไหร่ การฝึกฝนมันก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น! !
บางทีต้าเซียอาจมีกำหนดอำนาจพิเศษโดยคำนึงถึงความแข็งแกร่งและความยากลำบากของนักสู้ระดับเริ่มต้น