ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1201 บังคับเชื่อ (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1201 บังคับเชื่อ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
เมื่อหลี่ฉิงซานพึ่งเริ่มต้นเส้นทางการบ่มเพาะ เขาเคยเห็นดาบไม้ของนิกายถ้ำมังกรมาแล้ว ดาบไม้เล่มนั้นได้รับการสักการะบูชาจากศิษย์ของนิกายทุกวันซึ่งทำให้มันมีพลังที่น่าตกใจ หลังจากนั้นเขายังได้เห็นนพระใหญ่อาละวาดที่วัดเทวนาคา หากไม่ใช่เพราะดาบสังหารพระพุทธเจ้าของเสี่ยวอัน มันแทบอยู่ยงคงกระพัน
หากเขาผ่านประสบการณ์นี้มาสองครั้งและยังไม่รู้จักระวังตัว ปีศาจวานรตัวนี้คงโง่มากจริงๆ
อย่างไรก็ตามเขาต้องการเดิมพัน เขากำลังเดิมพันว่าคนบนโลกนี้ไม่สามารถเปลี่ยนพลังแห่งศรัทธาให้เป็นการโจมตีสังหาร อย่างมากที่สุดพวกเขาก็สามารถใช้งานมันแต่ไม่สามารถควบคุมมัน ท้ายที่สุดมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์พลังปราณจะสามารถควบคุมได้
และเขาก็ชนะเดิมพัน ‘ตั้งแต่มันไร้เจ้านาย เช่นนั้นก็ให้ข้ายืม!’
หลี่ฉิงซานส่งยันต์ศักดิ์สิทธิ์นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่พุ่งเข้าไปในทะเลแสงสีทองและมันก็ย้อมแสงสีทองให้เป็นแสงสีรุ้ง เขาตะโกน “สรรค์สร้าง!”
พลังแห่งศรัทธาจำนวนมหาศาลพุ่งกลับมาหาเขาในรูปแบบของปราณจิตวิญญาณ มันหนาแน่นมากจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันสว่างไสวพอที่ต่อสู้กับดวงอาทิตย์
ปราณจิตวิญญาณเหล่านั้นไม่ได้มาจากพลังแห่งศรัทธาของยันต์ศักดิ์สิทธิ์นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ของหลี่ฉิงซาน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดของโลกใบนี้เช่นกัน
หลี่ฉิงซานอ้าปากและสูดหายใจเข้าเพื่อดูดซับปราณจิตวิญญาณที่พลุ่งพล่าน เขาเปลี่ยนมันเป็นการบ่มเพาะของปีศาจวานร
ปีศาจวานรเข้ากันได้ดีกับนิสัยของเขา ตอนนี้เขาเข้าใจขั้นแรกของมันเกือบสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่เขาขาดมีเพียงปราณจิตวิญญาณและทรัพยากรเท่านั้น
ด้วยเสียงคำรามของลิง ขนของหลี่ฉิงซานเริ่มยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แขนของเขาหนาขึ้นและยาวขึ้น ขณะที่ใบหน้ามีขนและขากรรไกรที่ยื่นออกไปทำให้เขาดูเหมือนลิงเป็นอย่างมาก แม้แต่หางก็งอกออกมาจากก้นของเขาซึ่งทำให้เขาเหมือนลิงมากกว่ามนุษย์
ปราณจิตวิญญาณที่เปลี่ยนจากพลังแห่งศรัทธานับพันปียิ่งใหญ่มากจนหลี่ฉิงซานดูดซับได้เพียงสามในสิบส่วนก่อนจะรู้สึกอิ่ม เขาไม่สามารถย่อยมันได้ทันเวลา แม้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ถึงขีดจำกัดแล้ว ปราณจิตวิญญาณที่พลุ่งพล่านเริ่มกระจายออกไป
หลี่ฉิงซานกล่าวกับหูเซียนเอ๋อและคนอื่นๆที่ตกตะลึงว่า “หยุดตกตะลึง นี่คือเป็นพร!”
หูเซียนเอ๋อรีบตอบรับและเริ่มทำสมาธิทันที หยางเหม่ยเจิ้นใช้โอกาสนี้เปลี่ยนปราณจิตวิญญาณเป็นพลังปราณธาตุไม้ ทะเลปราณที่ว่างเปล่าของนางถูกเติมเต็มด้วยพลังปราณในพริบตา
จางเสวี่ยเฟิงไม่คิดที่จะหลบหนีอีกต่อไป นางคงโง่เขลามากหากนางไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
เตียเซียงดีใจมาก นี่ถือเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต แม้แต่จิ้งจอกน้อยเช่นหูเซียนเอ๋อก็ไม่สนใจที่จะรักษารูปลักษณ์มนุษย์ของนางเอาไว้
เมื่อเห็นว่าไพ่ตายไม่สามารถเอาชนะหลี่ฉิงซาน เจ้าอาวาสนักบวชดับทุกข์ก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยใบหน้าซีดขาวและตะโกนว่า “ภิกษุทั้งหลาย ปราบปีศาจ!”
ร่างมากกว่าสิบร่างพุ่งเข้ามาจากด้านนอก ทุกคนล้วนเป็นจอมยุทธ์พลังปราณ หอพระที่สงบถูกเติมเต็มด้วยจิตสังหารทันที
คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นนักบวชชราคิ้วขาว เขาเข้าใกล้ระดับจอมยุทธ์พลังปราณขั้นสิบมากแล้ว เขายกคทานักบวชขึ้นและฟาดลงบนศีรษะของหลี่ฉิงซานอย่างแรง
“กวาดล้างปีศาจ ปกป้องวัด!”
กองทัพนักบวชวิ่งเข้าหาหลี่ฉิงซานโดยไม่สนใจสิ่งใด
หลี่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นสบตากับพระพุทธรูปองค์ใหญ่และเผยรอยยิ้ม เขาเปลี่ยนพลังแห่งศรัทธาที่เหลืออยู่ให้เป็นเจตจำนงที่มองไม่เห็น มันระเบิดไปทั่วห้องโถงระลอกแล้วระลอกเล่าจนครอบคลุมวัดรู้แจ้งทั้งหมด
นักบวชทั้งหมดรู้สึกเหมือนตาบอด ในสายตาของพวกเขา หลี่ฉิงซานระเบิดแสงออกมาอย่างกะทันหัน เขาดูสง่างามราวกับเทพเจ้าหรือพระพุทธเจ้าในร่างมนุษย์ เขาดูเคร่งขรึมและทรงคุณธรรมจนพวกเขาไม่สามารถทำสิ่งใดกับเขา ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดเคลื่อนไหว
ใบหน้าของนักบวชดับทุกข์เต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่ภายใต้การกัดเซาะของคลื่นเจตจำนง การต่อต้านของเขาก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว
สายตาของนักบวชชราคิ้วขาวกลายเป็นสับสน คทาสีทองหยุดอยู่เหนือศีรษะของหลี่ฉิงซานและไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อีกต่อไป
ทั้งหูเซียนเอ๋อและหยางเหม่ยเจิ้นต่างมองหลี่ฉิงซานด้วยความหลงใหล ขณะที่เตียเซียงรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก
จางซวนเฟิงไม่เคยชอบภาพลักษณ์ลิงของหลี่ฉิงซาน โดยไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าตอนนี้เขากลายเป็นลิงไปแล้ว อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ นางกลับค้นพบว่าเขาดูยิ่งใหญ่และหล่อเหลากว่าผู้ชายคนใดที่นางเคยพบมาในชีวิต ความรู้สึกปลาบปลื้มที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเริ่มผลิบานขึ้นในใจของนางก่อนจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ทุกสิ่งเกิดขึ้นในชั่วพริบตาแต่กลับทำให้วัดรู้แจ้งทั้งหมดกลายเป็นเงียบงัน แม้แต่เสียงร้องของจั๊กจั่นก็ยังเงียบลงก่อนที่ผู้ใดจะสังเกตเห็น มีเพียงเทพราหูเสี่ยวหมิงเท่านั้นที่ไม่สะทกสะท้าน เขาเฝ้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ หลี่ฉิงซานเปลี่ยนความเชื่อของพวกเขาโดยใช้กำลังบังคับ!
การเคลื่อนไหวนี้ครอบคลุมทุกสิ่งและส่งผลต่อทุกคน ผลลัพธ์ของมันคล้ายการสะกดจิต เว้นเพียงหลี่ฉิงซานไม่เคยเรียนรู้ทักษะการสะกดจิตมาก่อน เขาไม่รู้ว่าจะล่อลวงและควบคุมผู้คนอย่างไร เขาอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของเขาเพื่อครอบงำพวกเขา มันเหมือนเขาบังคับขืนใจพวกเขาโดยตรง เขาทำให้ผู้ชายชื่นชมเขาและผู้หญิงตกหลุมรักเขา
ในความเป็นจริงหลี่ฉิงซานคิดวิธีนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เดิมทีเขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนพลังแห่งศรัทธาที่เหลือให้เป็นหินวิญญาณซึ่งเขาสามารถดูดซับได้ในอนาคต อย่างไรก็ตามพลังแห่งศรัทธาเหล่านั้นไม่ใช่ของเขา สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นความว่างเปล่า
เมื่อทุกอย่างสงบลง นักบวชดับทุกข์ก็ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะหมอบกราบลงกับพื้นด้วยความเคารพอย่างมากราวกับเขากำลังทำความเคารพพระพุทธรูป “นักบวชผู้ต่ำต้อยผู้นี้คารวะราชาวีรบุรุษ!”
นักบวชทั้งหมดพากันหมอบกราบเช่นกัน “คารวะราชาวีรบุรุษ!”
“ในสายตาของเจ้า ข้าไม่ใช่ปีศาจแล้วงั้นหรือ?” หลี่ฉิงซานถาม เขายังสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของสิ่งนี้
“นักบวชผู้ต่ำต้อยคนนี้ด้อยปัญญา โปรดลงโทษข้าด้วย ราชาของข้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากำจัดความดื้อรั้นของเจ้าไปหมดแล้ว จากนี้ไปเจ้าจะเป็นผู้อาวุโสหอรู้แจ้ง”
หลี่ฉิงซานหัวเราะเสียงดัง น่าเสียดายที่กองกำลังพันธมิตรทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่นี่ มิเช่นนั้นเขาคงเอาชนะพวกเขาได้ในครั้งเดียว
“ด้วยความเมตตากรุณา ราชาลงโทษคนบาปและนำความเท่าเทียมมาสู่ทุกคน ข้ายินดีติดตามและรับใช้ราชาอย่างเต็มที่!”
“เอาล่ะ ทุกคนลุกขึ้นได้”
หลี่ฉิงซานโบกมือ นักบวชทั้งหมดลุกขึ้นยืน แต่ในดวงตาของพวกเขายังมีความสับสนเล็กน้อย
การบิดเบือนเจตจำนงของผู้อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ที่มีความมุ่งมั่นและความอดทนมากพอจะเอาชนะความเชื่อที่ถูกบังคับได้ในไม่ช้า พวกเขาจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็จะมีเพียงไม่กี่คนที่ทำเช่นนั้นได้
อย่างไรก็ตามความเชื่อนี้อาจเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนคนส่วนใหญ่ที่นี่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความเคารพและอุทิศตนเพื่อเขาอย่างเต็มที่
แต่มันค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับเขา เขาไม่เคยชอบการเล่นบทบาทที่คล้ายกับเทพเจ้าหรือพระพุทธเจ้า เขามองหูเซียนเอ๋อและหยางเหม่ยเจิ้น ‘หวังว่าพวกเจ้าจะหลุดพ้นได้อย่างรวดเร็ว’ ก่อนจะมองไปที่จางซวนเฟิง ‘สำหรับกบฏน้อยผู้นี้ เจ้าควรดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าคืนนี้อย่างไร!’
“ผู้อาวุโสหอรู้แจ้ง กองกำลังของโลกส่งเสริมเสรีภาพในการนับถือศาสนา ศิษย์ของวัดสามารถอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนต่อไป เจ้าเพียงนำนักบวชที่มีชื่อเสียงสองสามรูปไปรายงานตัวกับผู้นำกองกำลังของโลกที่ภาคเหนือและดูว่านางจะมีคำสั่งใดบ้าง”
“ทราบแล้ว ขอบคุณราชาที่เมตตา”
นักบวชดับทุกข์รู้สึกผ่อนคลายลง นี่เป็นศรัทธาตลอดชีวิตของเขา ท้ายที่สุดหากหลี่ฉิงซานเรียกร้องบางสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล มันจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงภายในตัวเขาทันที เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะหลุดพ้นจากความเชื่อที่ถูกบังคับให้เชื่อ
หลี่ฉิงซานรู้สึกอยากทดลองทำเช่นนั้นจริงๆ แต่สุดท้ายเขากลับตัดสินใจไม่ทำสิ่งที่ไร้จุดหมาย
“เอาล่ะ ตอนนี้พาข้าไปดูดาวปีศาจในตำนาน!”
“เชิญ ราชาของข้า ดาวปีศาจถูกปราบปรามอยู่ในทะเลสาบแห่งทุกข์ด้านหลังหอพระ”
“ข้าสามารถสัมผัสถึงมัน”