ตอนที่ 4 ฉันจะดวลกับนายเอง
เต้จัดการสร้างห้องด้วยความชำนาญจากนั้นเลือกคู่ต่อสู้เป็นบอทที่ง่ายที่สุด เมื่อเห็นการกระทำนี้จึงทำให้กิ่งและกายแทบทรุดลงกับพื้น
กายแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นครั้งแรก เขากลอกตามองเพดาน ด้านกิ่งก็มีสีหน้าสิ้นหวังพูดอะไรไม่ออก
ผิดกับโจ้ที่เฝ้าดูด้วยความสนใจ เขาเห็นเต้กำลังเล่นฮีโร่ที่ดูเหมือนมังกรกำลังโจมตีกลุ่มสัตว์ประหลาดและฮีโร่ของคู่ต่อสู้จากระยะไกล บางครั้งก็มีตัวเลขสีทอง ‘43’ หรือ ‘45’ ปรากฎที่หน้าจอ
“ตัวเลขพวกนี้หมายความว่ายังไงเหรอ?” โจ้เอ่ยถามหลังจากตัวละครของเต้ถูกสังหาร
“อ๋อ...มันคือเงินที่เราได้รับหลังจากฆ่าครีปหรือฮีโร่ของอีกฝ่ายได้” เต้ตอบและอธิบายวิธีการเพิ่มเติม “แล้วเราก็จะนำเงินพวกนี้ไปซื้อไอเทมเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวละครเพื่อสู้กับฮีโร่ของฝ่ายตรงข้าม เราจะชนะก็ต่อเมื่อทำลายฐานทัพของคู่ต่อสู้ลงได้”
“ฟังดูก็ไม่น่ายากเท่าไรนะ” โจ้พูด
กิ่งอมยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ส่วนกายหันหน้ามามองแต่ไม่ได้พูดอะไร และเมื่อได้ดูการเล่นของเต้ เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเบื่อหน่ายกับการต้องทนดูฝีมือของอีกฝ่าย
ทว่ากิ่งกลับดูอย่างตั้งใจ และเมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เต้สามารถทำลายฐานทัพของบอทลงได้สำเร็จ โจ้เอ่ยขึ้นมาทันที “เยี่ยม! นายชนะแล้ว”
ส่วนกิ่งส่ายหัวแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยนะ...ฉันว่าฝีมือนายยังดีไม่พอที่จะเข้าทีมโรงเรียนเรา...”
เต้ไม่ได้ดูผิดหวังเลย เขาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “แต่ฉันชอบเล่น HON มากเลยนะ นั่นน่าจะมีประโยชน์ต่อทีมโรงเรียนเรา”
กิ่งยิ้มและพูดกับเขา “ความจริงถึงจะไม่ได้อยู่ในทีม แต่ถ้านายสนใจก็มาเล่นกับพวกเราได้เสมอ”
แม้เต้จะโอเคกับการถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ แต่โจ้กลับไม่รู้สึกเช่นนั้น
เขาเอ่ยปากทักท้วงกิ่งทันที “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงสนใจแต่ฝีมือของเต้ เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่ากำลังหาคนมาร่วมทีม? ฉันคิดว่าที่ทีมโรงเรียนเราผลงานไม่ดีก็เพราะขาดความมุ่งมั่นนี่แหละ ดังนั้นการได้เต้ที่มีความตั้งใจไปช่วยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ คงจะทำให้ทีมพัฒนามากกว่านี้!”
“ฉันว่านายเข้าใจอะไรผิดนะ...สมาชิกทีมฉันทุกคนมีความมุ่งมั่นดีพออยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาคนฝีมือพอๆ กันมาเพิ่มอีก เว้นแต่ว่าคนๆ นั้นจะเก่งแบบกาย” กิ่งพยายามอธิบายให้โจ้ฟัง
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือบางครั้งโจ้เป็นคนที่หัวรั้นมาก ในตอนนี้เขาตัดสินใจยืนหยัดอยู่ข้างเต้โดยไม่สนใจฟังคำอธิบายของเธอเลย “มันก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ? จะยากแค่ไหนกันเชียว? เต้ไม่ได้เป็นมือใหม่สักหน่อย ถ้าเธอรับเขาเข้าทีม เขาจะต้องช่วยทีมได้อย่างแน่นอน!”
‘มันก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ?’ ประโยคดังกล่าวทำให้กายเลิกคิ้วขึ้นและแค่นเสียงหัวเราะออกมา
“นายหัวเราะอะไร? คิดว่าคำพูดฉันน่าตลกนักหรือไง?” โจ้หันกลับมาจ้องเขม็งไปที่กาย “จะให้ฉันดวลตัวต่อตัวกับนายก็ได้นะ เดี๋ยวฉันให้เต้สอนเองว่าเล่นยังไง!”
เต้แอบดึงเสื้อของโจ้และกระซิบว่า “โจ้ใจเย็นๆ HON ไม่ได้จะฝึกให้เล่นเป็นกันง่ายๆ นะ”
ตอนนี้ความมั่นใจของโจ้สูงมากจนไม่สนจะฟังใคร เขาสะบัดมือของเต้ออกพลางพูดเสียงดัง “มันจะยากขนาดไหนกันเชียว? ฉันเคยเล่นจนชนะบอทเกม YURI ได้ในวันเดียว นายคิดว่ามันจะมีอะไรยากกว่านี้อีกเหรอ?”
“ฉันไม่อยากดวลกับมือใหม่” กายพูดอย่างใจเย็น
“นายปอดแหกใช่ไหมล่ะ?” โจ้เลิกคิ้วพูดโต้กลับ
กิ่งที่อยู่ระหว่างคนทั้งสองรู้สึกปวดหัวและคิดว่าพวกผู้ชายล้วนแต่มีอีโก้ของตัวเอง
เธอถอนหายใจจากนั้นเอ่ยกับโจ้ว่า “เอาอย่างนี้ ในเมื่อเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะฉัน ดังนั้นฉันจะเป็นคนดวลกับนายเอง”
“จะให้ฉันดวลกับผู้หญิงแบบเธอเนี่ยนะ?” โจ้หันมาถาม
“หรือว่านายไม่กล้ากันล่ะ?” กิ่งจ้องหน้าเขา
เมื่อเป็นเช่นนี้โจ้จึงพยักหน้าตอบรับ “เอางั้นก็ได้ แล้วจะดวลกันยังไงล่ะ?”
“ฉันจะใช้คอมของกายส่วนนายใช้โน๊ตบุ๊คของเต้ โดยที่เต้คอยสอนนายอยู่ข้างๆ” กิ่งพูดกับเขาแบบเรียบง่าย
“โอเค นั่นฟังดูยุติธรรมสำหรับคนไม่เคยเล่น” โจ้พยักหน้าแล้วนั่งลงตรงหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเต้
เต้ลากเก้าอี้มานั่งข้างโจ้ เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาสอน แค่ต้องการอยู่เคียงข้างเพื่อนแบบเดียวกับที่โจ้ยืนหยัดอยู่ข้างเขา โดยที่เต้ไม่รู้เลยว่าเวลานี้โจ้ได้ฝากความหวังทุกอย่างไว้ที่เขาในฐานะกุนซือเรียบร้อยแล้ว
“เต้ นายช่วยสอนฉันหน่อยว่าต้องทำอะไรบ้าง ด้วยสมองและรีเฟล็กซ์มือของฉัน รับรองได้เลยว่าไม่แพ้ใครแน่นอน” โจ้พูดพร้อมยิ้มมั่นอกมั่นใจ
เต้สะดุ้งโหยง “โจ้ นายเลิกแกล้งฉันได้แล้ว นายแกล้งเล่นไม่เป็นเพื่อให้รุ่นพี่ชะล่าใจใช่ไหม?”
เมื่อมองท่าทีแปลกประหลาดของเต้ที่พยายามกระซิบจนเกือบแนบหูของเขา โจ้ก็ถามด้วยความงุนงง “นายพูดเรื่องอะไร?”
“ยังล้อกันเล่นอีก นายแกล้งเล่น HON ไม่เป็นเพื่อจะได้โชว์จังหวะเท่ๆ ให้รุ่นพี่ดูใช่ไหมล่ะ?” เต้ทำหน้ายิ้มใส่อีกฝ่าย
“จะบ้าเหรอ ฉันจะโกหกทำไม นายคิดว่าฉันเป็นคนประเภทที่ชอบปิดบังความสามารถตัวเองอย่างนั้นเหรอ?” โจ้สูดลมหายและพูดกับเต้ช้าๆ “ฉันเล่น HON ไม่เป็นจริงๆ”
เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของอีกฝ่าย เต้จึงยอมเชื่อในที่สุด “นาย...นายเล่นไม่เป็นจริงๆ เหรอ?”
“ใช่น่ะสิ แต่ว่าตอนที่ดูนายเล่น ฉันก็พอจะเข้าใจวิธีการเล่นเกมนี้นิดหน่อยแล้ว” โจ้ตอบตามความจริง “นายคอยสอนวิธีการต่อสู้ให้ฉันก็พอ”
เต้เงยหน้าขึ้นมองกายและกิ่ง จากนั้นเห็นว่ากิ่งกำลังมองมาด้วยแววตาสงสัยและเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสีหน้าตื่นเต้นของกายที่กำลังจ้องมองโจ้ราวกับมองหมูที่รอถูกเชือด
เต้ลดเสียงลงและพูดว่า “การที่ฉันคอยสอนอยู่ข้างๆ ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้นายเล่นเก่งทันทีหรอกนะ”
“ฟังนะ เกมนี้คือการที่ฮีโร่ห้าต่อห้าสู้กันใช่ไหม? แต่ว่าฉันต้องควบคุมฮีโร่แค่ตัวเดียวเท่านั้น นั่นหมายความว่าอีกสี่ตัวจะเป็นบอทควบคุมถูกไหม?”
เต้พยายามขัดจังหวะการพูดไม่หยุดของโจ้แต่ก็หาโอกาสพูดแทรกไม่ได้
“และในเมื่อเกมนี้ต้องอาศัยการเล่นเป็นทีม ต่อให้ฉันจะเล่นไม่เก่งแต่ถ้าหากทำให้อีกฝ่ายเล่นได้ยากล่ะ ถ้าฉันเอาตัวเองเข้าไปจับตัวละครอีกฝ่ายเอาไว้ และให้บอทช่วยกันรุมจัดการฮีโร่ของเธอ จากนั้นก็หวังพึ่งให้บอททีมตัวเองเล่นชนะบอทอีกฝ่าย แบบนี้ต่อให้ฉันจะไม่เคยเล่น HON มาก่อนก็อาจมีโอกาสชนะอยู่บ้าง” โจ้พูดพลางยิ้มภาคภูมิใจกับความคิดสุดอัจฉริยะของตัวเอง
“เอาล่ะ...ทีนี้หน้าที่ของนายก็คือช่วยฉันวางแผนสู้กับเธอโดยการบอกว่าควรจะเลือกเล่นฮีโร่ตัวไหน”
ในที่สุดเต้ก็ได้โอกาสพูด “การดวล 1-1 เราจะเล่นแบบไม่มีเพื่อนร่วมทีมนะโจ้ โดยจะเล่นฮีโร่ตัวเดียวกัน และไปแค่เลนกลางเท่านั้น” เขาพูดอย่างสิ้นหวัง
“อะไรนะ? ดวลกันโดยไม่มีเพื่อนร่วมทีมเหรอ?” โจ้พูดด้วยความตกตะลึง
“ใช่” เต้ตอบสั้นๆ
“ถ้างั้น…ฉันควรทำยังไงต่อดี?” โจ้นั่งช็อกเมื่อแผนที่ตัวเองวางไว้พังทลายในพริบตา
“โอ๊ย ฉันจะไปรู้ไหม? นายดันไปท้าอะไรไม่คิดก่อน...” เต้เอามือกุมหัวตัวเอง
กิ่งที่กำลังล็อกอินรหัสของตนอยู่ก็อดหัวเราะไม่ได้ เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า “นายไม่ต้องดวลกับฉันก็ได้นะ ฉันไม่อยากรังแกคนที่ยังเล่นไม่เป็น...แต่จะว่าไปแล้วความคิดนายก็เข้าท่าดี การมีคนเล่นไม่เก่งอยู่ในทีม ต่อให้ทีมจะไม่เก่งมากขึ้น แต่อย่างน้อยคงช่วยสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่นๆ ได้บ้าง”