ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 30
ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 30
ก่อนที่หลินอวี่จะทันได้สำรวจสภาพแวดล้อมมากขึ้น เขาก็ได้ยินทหารที่เฝ้าประตูมิติตะโกนขึ้นว่า
"หลีกทาง ทุกคนหลีกทาง! ทหารกองใหม่มาแล้ว ทุกคนหลีกทางหน่อย!"
เหล่าผู้มีพลังพิเศษที่เพิ่งเข้ามารวมทั้งหลินอวี่ต่างก็รีบหลบให้
จากนั้นประตูมิติก็เกิดการบิดเบี้ยว เหล่าทหารที่สวมใส่เครื่องแบบมาตราฐานค่อยๆปรากฏตัวขึ้นทีละคน
การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูพร้อมเพรียงและเป็นระเบียบ เกิดเป็นพลังสภาวะอันดุดัน
ดูเหมือนเป็นทัพแกร่ง!
"ให้ตายสิ...คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีทหารหน่วยใหม่มาเติมกำลังเร็วแบบนี้ ดูท่าสถานการณ์ที่แนวหน้าคงกำลังตึงเครียดแหงๆ"
หลินอวี่ได้ยินผู้มีพลังพิเศษที่อยู่ใกล้ๆทอดถอนใจ
"ใช่ ช่วงนี้ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และมนุษย์หนูในเทือกเขาเป่ยเย่ยิ่งมายิ่งรุนแรง มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากเลยล่ะ"
"สหาย นายเคยไปที่สนามรบมางั้นเหรอ?"
"เพ้ย นั่นแน่นอนอยู่แล้ว! ฉันรับภารกิจสอดแนมให้กับกองทัพ ฉันคงพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่เกี่ยวกับเทือกเขาเป่ยเย่ ฉันก็รู้เยอะพอตัว"
"สหาย นายนี่เจ๋งโครตๆเลย!"
"ฮ่าๆ ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ถึงงั้นก็ยังเทียบพวกยอดฝีมือที่ร่วมมือกับกองทัพต่อสู้กับพวกมนุษย์หนูไม่ได้"
"สหาย ฉันขอไปกับนายด้วยได้มั้ย? ฉันเพิ่งมาที่เทือกเขาเป่ยเย่เป็นครั้งแรก"
"นายน่ะเหรอ? นายอ่อนแอเกินไป ลืมมันไปซะเถอะ"
เสียงของผู้พูดค่อนข้างดูถูก
หลินอวี่หันไปมองดูผู้พูด
เป็นชายร่างผอมไว้เคราที่สวมใส่เกราะหนัง
หลินอวี่ถามด้วยความใคร่รู้ว่า "สหาย นายพอจะรู้อะไรเกี่ยวสานการณ์ของป้อมปราการจอมเชือดบ้างมั้ย?"
ชายมีหนวดเสินซูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันมามองหลินอวี่
หลังจากได้เก็นเครื่องแต่งกายที่ดูหรูหราของหลินอวี่ เขาก็นิ่งตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นท่าทีของเขาอ่อนลงมาก
"น้องชาย นายพูดว่าป้อมปราการจอมเชือดงั้นเหรอ?"
"ใช่"
"ที่นั่นไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลย.....ฉันขอพูดอะไรบางอย่างก็แล้วกัน ในบรรดาสนามรบทั้งหมดในเทือกเขาเป่ยเย่ มีค่ายของมนุษย์หนูทั้งหมด 24 ค่าย และจำนวนของนักรบมนุษย์ที่ตายอยู่ที่นั่นก็มีมากถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของทั้งเผ่าพันธุ์!"
"หยึย....น่ากลัวชะมัด?!"
นักรบที่ยังดูหนุ่มพลันเบิกตาด้วยความกลัวทันทีที่ได้ยิน
"นายว่าไงล่ะ?"
เสินซูเหลือบมองเขา
จากนั้นจึงชี้ไปยังกลุ่มทหารใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในมิติ แล้วจึงพูดว่า
"มีความเป็นไปได้สูงมากว่าทหารเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ป้อมปราการจอมเชือด หลายวันก่อน จอมเชือดได้นำทัพมาบุกโจมตี ทำลายค่ายทหารที่เบื้องนอกของพวกเรา ที่นั่นมีทหารประจำการอยู่สองพันคน หากแต่ไม่มีใครรอดมาได้....แม้แต่ผู้บัญชาการ!"
หลินอวี่และนักรบหนุ่มต่างก็ตกตะลึง
"พวกมันร้ายกาจขนาดนั้นเชียว?!"
เสินซูแสยะยิ้ม
"กองทัพจอมเชือดแน่นอนว่าเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งมาก! โดยเฉพาะผู้นำของพวกมัน จอมเชือดแม็กซ์เวลล์ เขาเป็นผู้มีอาชีพหายากที่อยู่ในคลาสสาม! นับรวมทั้งเทือกเขาแล้ว ตัวตนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มีอยู่นับนิ้วได้เลย!"
"ไม่รู้มีคนตั้งมากเท่าไรที่พยายามจะลอบฆ่าเขา แต่ทั้งหมดล้วนไม่มีใครกลับมาได้เลย"
ขณะที่พูด เสินซูก็ส่ายหัวเบาๆ
"ถ้าจะให้พูดล่ะก็ เดาว่าคงไม่มีใครฆ่าเขาได้ เพราะไม่ว่าส่งไปก็คนก็ถูกเขาฆ่าตายจนหมด เว้นแต่กองทัพที่ประจำการอยู่ในมิติอื่นๆจะส่งทหารและยอดฝีมือคลาสสี่มา"
"สำหรับคลาสสามนั้น.....แค่เอาตัวให้รอดก็ลำบากแล้ว"
หลินอวี่ยิ้ม
ขอแค่ไม่ใช่คลาสสามก็พอไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นฉันที่อยู่แค่ระดับคลาสศูนย์ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?
"สหาย ขอบคุณสำหรับข้อมูล"
"ด้วยความยินดี นี่น้องชาย นายเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกใช่มั้ย? มาเข้าร่วมกลุ่มนักผจญภัยของพวกเรามั้ย? กลุ่มของเราพอจะมีชื่อเสียงอยู่ในเทอกเขาเป่ยเย่อยู่บ้าง รับรองว่าจะปฏิบัติต่อนายไม่แย่แน่นอน"
เสินซูยิ้มพลางเอ่ยปากชักชวน
นักรบหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง "???"
รู้สึกเหมือนโดนดูถูกยังไงก็ไม่รู้แฮะ
เขาอุตส่าห์เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอเข้าร่วม แต่อีกฝ่ายไม่รับเขาไว้
ทว่าตอนนี้นายกลับหันไปชักชวนมือใหม่เหมือนกับฉันเนี่ยนะ?!
ไม่หยาบคายไปหน่อยเหรอ?!
เขาเหลือบมองหลินอวี่
ก็แค่ดูสูงกว่า ดูหล่อกว่า และอุปกรณ์ดูดีกว่าไม่ใช่รึไง?
ฮึ่ย น่าทึ่งตรงไหนกัน?
หลินอวี่ยิ้มก่อนจะส่ายหน้า "ตอนนี้ฉันยังไม่มีความคิดที่ร่วมกลุ่มกับใครน่ะ ขอโทษทีนะสหาย"
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไร"
เสินซูแม้จะเสียดาย แต่เขาก็ไม่ได้บังคับอีกฝ่าย
เมื่อพูดไปแล้ว เขาก็ดู฿เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
"น้องชาย นายต้องระวังคนบางคนที่นี่เอาไว้ให้ดี"
"ระวังคน?"
หลินอวี่งุนงง
"มีบางคนที่ขี้ขลาดตาขาวกับเผ่าพันธุ์อื่น แต่โหดเหี้ยมกับเผ่าพันธุ์ตัวเอง น่าสวมใส่อุปกรณ์หรูหราแบบนี้ นายอาจจะตกเป็นเป้าหมายได้ง่ายๆ แม้แต่พวกคนทรยศที่ไปเข้าร่วมกับพวกมนุษย์หนูก็อาจจะเล็งนายเป็นเป้าหมายด้วยก็ได้"
สามารถมีอุปกรณ์ที่หรูหราแบบนี้ได้ มีหรือจะเป็นคนธรรมดา?
ไม่ว่าจะเป็นทายาทของชนชั้นสูงหรือว่าอัจฉริยะเของผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ตาม คนเหล่านี้ล้วนคุ้มค่าที่จะสังหารทั้งนั้น
หลินอวี่เลิกคิ้ว จากนั้นจึงพยักหน้า
"เข้าใจแล้ว ขอบคุณสหายที่เตือน"
เมื่อประตูมิติเปิดออก สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆก็ปะทุขึ้นบ่อยครั้ง และในสงครามก็มักจะมีผู้ที่ทรยศต่อเผ่าพันธุ์ของตน
ไม่เพียงแต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ทว่าเผ่าพันธุ์อื่นก็มีสถานการณ์เช่นนี้
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด และหลินอวี่ ในฐานะนักเดินทางข้ามเวลาก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไร
หากว่ามีคนกล้าเข้ามาลงมือกับเขา เขาก็จะจัดการอีกฝ่ายซะ
หลังจากบอกลาเสินซูและเพื่อนๆของเขาแล้ว หลินอวี่ก็วางจุดเทเลพอตเอาไว้ในตรอกนอกลานจัตุรัส
ตอนนี้เขาสามารถวางจุดเทเลพอตได้สองจุด ดังนั้นจึงวางจุดหนึ่งไว้ที่เมืองรุ่งอรุนแห่งสงคราม
เขาย่อมเตรียมรับมือเหตุไม่คาดฝันเอาไว้
มีเพียงรักษาชีวิตเอาไว้ได้เท่านั้นจึงจะยังมีหวังที่จะทำภารกิจต่อจนสำเร็จ
หลังจากนั้นเขาก็ไปซื้อแผนที่ของเทือกเขาเป่ยเย่และเริ่มร่างแผนการขึ้นในใจ
หลังจากรับภารกิจเลื่อนคลาสแล้ว หลอดค่าประสบการณ์ของเขาก็ถูกล็อคเอาไว้
ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้ขยายพลังได้แล้ว
หากไม่ใช่เพราะเตรียมตัวล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี เช่นนั้นโอกาสที่จะสำเร็จภารกิจก็จะลดน้อยลง
การเตรียมตัวเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ!