ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 29
ข้านี่แหละจอมเวทไร้เทียมทาน ตอนที่ 29
"เขาเริ่มแล้ว ฉันเองก็ต้องเริ่มเหมือนกัน"
ณ ตระกูลหยาน หยานจีกำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง สายตาเหม่อมองท้องฟ้าไกล
เธอกดเริ่มการติดต่อกับจั่วมู่เกอผ่านระบบสื่อสาร
เมื่อรับภารกิจเลื่อนคลาสแล้ว ชื่อของผู้ที่รับภารกิจในรายชื่อเพื่อนก็จะอยู่ในสถานะพิเศษ ไม่สามารถติดต่อได้
ระบบจะกำจัดความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโกงจากความช่วยเหลือจากภายนอกทั้งหมดไป
และตอนนี้ชื่อของหลินอวี่ก็อยู่ในสถานะพิเศษนั้น
จั่วมู่เกอ "ฉันเองก็กำลังจะเริ่มแล้ว....ยังไงก็เถอะ หมอนั่นให้ของอะไรมาก่อนที่จะจากไปกันนะ? ลองเปิดดูดีกว่า"
ขณะที่พูด เธอก็หยิบเอาแพ็คเกจไอเท็มออกมาจากช่องเก็บของ
เมื่อเปิดแพ็คเกจออกดู ก็มีข้อความแจ้งเตือนดังขึ้น
"ติ๊ง! คุณได้รับน้ำยาแห่งชีวิต x 10 , น้ำยาแห่งมานา x 10, แหวนประกายรัศมี"
น้ำยาฟื้นฟู?
อุปกรณ์สวมใส่?
จั่วมู่เกอประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อได้เห็นเอฟเฟคของน้ำยา เธอก็ตัวแข็งทื่อ ขณะที่ดวงตาเบิกกว้าง
"น้ำยานี่มัน!"
แค่น้ำยาเลเวล 10 แต่กลับมีผลที่น่าสะพรึงถึงขนาดนี้เชียว?!
ต้องทราบก่อนว่าจั่วมู่เกอนั้นเป็น นักบวชวจนะศักดิ์สิทธิ์ และพลังชีวิตในปัจจุบันของเธอก็แค่ 6,000 เท่านั้น แต่น้ำยาฟื้นฟูขวดนี้กลับสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตให้เธอจนเต็มได้ทันที!
นี่มันยังทรงพลังยิ่งกว่าน้ำยาฟื้นฟูที่ตระกูลจั่วจัดหามาให้เธอซะอีก!
เมื่อมีน้ำยานี้อยู่ ก็เปรียบได้กับมีชีวิตสำรองอีกสิบชีวิต!
หลินอวี่มีน้ำยาฟื้นฟูที่ทรงพลังขนาดนี้เชียว?
จากนั้นเธอจึงหยิบแหวนขึ้นมาดู
"บ้าน่า....."
หลังจากได้อ่านคุณสมบัติของแหวนประกายรัศมีแล้ว จั่วมู่เกอก็เผลออุทานออกมา
เธอยกมือขึ้นปิดปากด้วยความยากจะทำใจเชื่อ
-----------------------------------------------
แหวนประกายรัศมี ( B )
แหวน
ค่าสติปัญญา +175
ค่าความคล่องตัว +139
ค่าความอึด +139
เพิ่มประสิทธิภาพของสกิลที่เกี่ยวกับการรักษา 20%
ข้อกำหนดอุปกรณ์: นักบวช เลเวล 10
-----------------------------------------------
ใช่แล้ว นี่ก็คือแหวนที่หลินอวี่ได้ทำการขยายพลังมา
แต่น่าเสียดายที่มันจำกัดอาชีพของผู้สวมใส่ เขาไม่อาจใช้มัน ดังนั้นจึงมอบให้จั่วมู่เกอ
"เกิดอะไรขึ้น?"
เมื่อได้ยินเสียงอุทานของจั่วมู่เกอ หยานจีที่ต่อสายอยู่ก็ถามขึ้นอย่างงุนงง
"....อาหวี่ให้ของฉันไว้"
พูดจบ เธอก็ส่งคุณสมบัติของไอเท็มไปให้หยานจีดู
"อุปกรณ์ระดับ B ของเลเวล 10?!"
ที่หายากก็คือระดับของอุปกรณ์!
ต้องทราบว่าแม้แต่ระดับผู้นำในตระกูลของพวกเธอ ที่พวกเขาได้จัดเตรียมเอาไว้ให้อัจฉริยะของตระกูลก็เพียงแค่อุปกรณ์ระดับ C เลเวล 10 เท่านั้น!
และนั่นเป็นสิ่งที่ตระกูลของพวกเธอต้องใช้เวลาอยู่หลายปีเพื่อจัดหาและส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น!
นั่นเป็นอุปกรณ์ที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลเชียวนะ!
และเมื่อทำภารกิจเลื่อนคลาสสำเร็จ อัจฉริยะที่ได้รับอุปกรณ์มาก็จะต้องส่งมอบอุปกรณ์เหล่านั้นคืนให้ตระกูล!
สำหรับอัจฉริยะของตระกูลแล้ว สิ่งนี้นับเป็นความช่วยเหลือครั้งใหญ่จากตระกูล!
แล้วตอนนี้เล่า?
หลินอวี่ถึงกับมอบแหวนระดับ B ให้จั่วมู่เกอจริงๆ?!
หยานจีนิ่งอึ้ง ในใจเกิดความสับสน
หมอนั่น...เกิดอะไรขึ้นกับเขา?!
ทำไมอยู่ๆถึงได้ใจกว้างแบบนี้?
เมื่อได้สติ เธอก็รีบเปิดแพ็คเกจที่หลินอวี่ให้มาด้วยความประหลาดใจ
"ติ๊ง! คุณได้รับน้ำยาแห่งชีวิต x 10 , น้ำยาแห่งมานา x 10, แหวนอัศวินผู้กล้า"
หลังจากได้ดูคำอธิบายของน้ำยาฟื้นฟู หยานจีก็นิ่งตะลึง
จั่วมู่เกอไม่เห็นบอกเธอเลยว่าน้ำยาฟื้นฟูมันจะมีคุณสมบัติน่ากลัวขนาดนี้!
จากนั้นเธอจึงหยิบแหวนขึ้นมาดู
-----------------------------------------------
แหวนอัศวินผู้กล้า ( B )
แหวน
ค่าความแข็งแกร่ง +175
ค่าความคล่องตัว +120
ค่าความอึด +200
ลดค่าความเสียที่ได้รับลง 15%
ข้อกำหนดอุปกรณ์: อัศวิน เลเวล 10
-----------------------------------------------
นี่เป็นอุปกรณ์ที่หลินอวี่ได้มาจากมิติลับเมื่อวาน เพราะเขาคิดว่ามันคงจะไม่แปร์ถ้าให้จั่วมู่เกอ แต่ไม่ให้หยานจี
หลินอวี่ยังนั่งขยายพลังไอเท็มอีกหลายชิ้น
น้ำยาฟื้นฟู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
จั่วมู่เกอเหม่อมองแหวนด้วยความตกตะลึง
หลังจากนิ่งเงียบอยู่สักพัก หยานจีก็นำแหวนมาสวมและกำมือ
ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นคมกล้า เสียงของเธอดังก้องและดูทรงพลัง
"มู่เกอ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำภารกิจระดับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ให้สำเร็จให้ได้ ถึงตอนนั้น หากว่าเขามีชีวิตรอดกลับมา ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว แต่ฉันก็จะขออยู่กับเขา"
"นี่ เธอไม่กลัวว่าพวกผู้ใหญ่ในตระกูลจะพากันระเบิดเหรอ?"
ผู้มีพลังพิเศษที่ไม่อาจแม้แต่เลื่อนเป็นคลาสหนึ่งได้ เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ลูกเขยที่เหล่าตระกูลใหญ่จะรับเอาไว้
"ตราบใดที่ฉันทำภารกิจระดับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ผ่าน ใครยังจะหยุดฉันได้?"
จั่วมู่เกอชื่นชมแหวนที่ส่องแวววาวอยู่บนนิ้วของเธอด้วยสีหน้ามีความสุข
"บังเอิญจังนะ พอดีฉันเองก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน"
สองสาวไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หยานจีก้เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนว่า
"งั้นมาลุยกันเถอะ ยัยแม่มด โชคดีนะ"
"เสี่ยวจีจี ขอให้เธอโชคดีเช่นกัน เธอต้องรอดกลับมาให้ได้ล่ะ ไม่อย่างนั้น อาหวี่จะกลายเป็นของฉันแค่คนเดียว~ คิกๆ"
"ฝันไปเถอะย่ะ!"
......................
นอกเมืองประกายแสง ประตูมิติเป่ยเย่
พื้นที่ที่เชื่อมต่อกับประตูมิตินี้ก็คือเทือกเขาเป่ยเย่ในทวีปรอสซี่
ภายในนั้นมีเผ่าพันธุ์ที่สติปัญญาและมีความสามารถไม่ธรรมดาอย่างมนุษย์หนูอาศัยอยู่
มนุษย์หนู หรือที่รู้จักกันในนามชาวรอสซี่
พวกมันมีอารยธรรมและความเจริญไม่ด้อยกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์
หลังจากที่ประตูมิติปรากฏขึ้นมา การเจรจาระหว่างสองเผ่าพันธุ์ก็จบลงด้วยความล้มเหลว และจากนั้นก็เป็นสงครามที่ต่อเนื่องยาวนาน
ยังมีประตูมิติอีกหลายแห่งซึ่งอยู่กใ้ลกับเมืองประกายแสงที่สามารถนำไปสู่ภูมิภาคต่างๆของทวีปรอสซี่
หลินอวี่เดินทางผ่านสถานีสนับสนุนเป่ยเย่และเข้าไปในประตูมิติ
วินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นภายในเมืองที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เมืองทั้งเมืองถูกสร้างขึ้นมาจากเหล็กกล้า
เมืองรุ่งอรุณแห่งสงคราม!
นี่ก็คือฐานที่มั่นของเมืองประกายแสงที่ใช้ในการทำสงครามกับเทือกเขาเป่ยเย่ในทวีปรอสซี่