Debuff Master : 6
แทซองกำลังนั่งอยู่ในศาลาที่ไหนสักแห่งในภูเขาคุนหลุนและเขากำลังนั่งอยู่กับเดอุสที่หน้าโต๊ะน้ำชา
“ศิษย์ของข้า” เดอุสร้องเรียก
“ครับท่านอาจารย์” แทซองตอบ
“เทชาให้ข้าหน่อยสิ” เดอุสพูด
“ครับท่านอาจารย์” แทซองตอบขณะที่เขาเทเครื่องดื่มลงในถ้วยของเดอุสด้วยท่าทีแสดงความเคารพอย่างมาก
“มา ให้ข้ารินชาให้เจ้าด้วย” เดอุสพูด
“ครับท่านอาจารย์” แทซองตอบและยื่นถ้วยของเขา
“ฮ่าฮ่า! ไม่คิดไม่ฝันว่าสักวันจะได้ดื่มกับลูกศิษย์!” เดอุสอุทานออกมา
“จนถึงตอนนี้ท่านยังไม่มีลูกศิษย์สักคนเลยเหรอครับ?” แทซองถาม
“ข้าจับตาดูผู้คนค่อนข้างมาก” เดอุสตอบ
“ทำไมท่านถึงเลือกผมล่ะ” แทซองถาม
“นั่นเป็นเพราะเจ้าเป็นขยะไร้ประโยชน์ที่น่าสมเพช” เดอุสตอบ
"ฮะ…?" แทซองพึมพำ เขารู้สึกประหลาดใจกับความตรงไปตรงมาของเดอุส
“เหลือร้ายเป็นคำเดียวที่สามารถใช้เพื่ออธิบายความสามารถของเจ้าได้ แน่นอนว่าเจ้าเก่งกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคนทั่วไป แต่เจ้าไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากขยะเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่พวกเขาเรียกว่าอัจฉริยะ” เดอุสอธิบาย
“ผมเดาว่าท่านคิดไม่ผิด… แต่ทำไมท่านถึงเลือกผมล่ะ ท่านอาจารย์?” แทซองถาม เขาสับสนอย่างแท้จริงและอยากรู้อยากเห็นในเวลาเดียวกัน
“ข้าอยากจะเห็นว่าขยะเช่นเจ้าจะบดขยี้อัจฉริยะเหล่านั้นได้อย่างไร” เดอุสตอบ
แทซองสะดุ้ง
“ข้าอยากเห็นว่าผู้อ่อนแอจะตอบโต้เยี่ยงไร” เดอุสพูดด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะพูดต่อ “มนุษย์ถูกจัดให้อยู่บนเส้นเริ่มต้นที่ไม่เท่ากันทันทีที่พวกเขาเกิดมา บางคนเกิดมาเป็นอัจฉริยะ ในขณะที่บางคนเกิดมาเป็นคนโง่ นี่คือกฎของโลก เจ้าไม่เห็นด้วยงั้นเหรอ?”
“ท่านพูดถูกจริงๆ ครับ ท่านอาจารย์” แทซองตอบ
เขาเห็นด้วยกับคำพูดของเดอุส และเขามั่นใจว่าคนอื่นจะเห็นด้วยกับเขาเช่นกัน
“แต่ก็ยังมีขยะที่ช่วยไม่ได้มากมายอยู่ใช่ไหมครับ?” แทซองถาม
“ถูกต้อง” เดอุสตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“แล้วทำไมท่านถึงเลือกผมท่ามกลางขยะข้างนอกนั่น” แทซองถาม
“เป็นเพราะฉันเห็นจิตวิญญาณที่แน่วแน่ ซื่อตรง และความกระหายชัยชนะในตัวเจ้า” เดอุสตอบ
“เอ๊ะ…?” แทซองพึมพำด้วยความสับสน
“เจ้าไม่เคยยอมแพ้ แม้ว่าเจ้าจะถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ความปรานีก็ตาม ในความเป็นจริง ใครๆ ก็ต้องยอมแพ้หลังจากถูกทุบตีอย่างหนัก แต่เจ้ายังคงอดทนต่อไปแม้จะเป็นเช่นนั้น” เดอุสอธิบาย
“อืม…” แทซองพึมพำขณะที่เขายังคงฟังอย่างเงียบๆ
“ในสายตาของข้าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ เจ้าดูเหมือนผู้ชายที่ไม่รู้ว่าจะยอมแพ้อย่างไร และด้วยความปรารถนาที่จะเอาชนะคนที่เจ้าไม่สามารถเอาชนะได้ แม้ว่าเจ้าจะไม่มีพรสวรรค์อะไรสักอย่างเลย” เดอุสกล่าวเสริม
“ฮ่าฮ่า…” แทซองหัวเราะอย่างงุ่มง่ามกับการประเมินของเดอุส
“นั่นคือเหตุผลที่ข้าตัดสินใจเลือกเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า เพื่อที่ข้าจะได้เปลี่ยนเจ้าเป็นผู้ชนะ”
"ฮะ?" แทซองพบสิ่งแปลก ๆ ในคำพูดของเดอุส
เดอุสไม่ได้บอกว่าเขาจะเปลี่ยนเขาให้เป็นคนที่มีอำนาจ แต่เขาบอกว่าเขาจะทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะ
“ผู้ชนะ…? ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งดหรอครับ…?” แทซองถาม
“ถูกต้อง” เดอุสตอบขณะพยักหน้า จากนั้นเขาก็เสริมว่า “ข้าวางแผนที่จะเปลี่ยนเจ้าให้เป็นผู้ชนะแทนที่จะเป็นบุคคลที่มีอำนาจ”
“ผมจะชนะโดยไม่แข็งแกร่งกว่าศัตรูได้ยังไงกัน?” แทซองถามต่อว่า “ผม… ผมไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ ก็เป็นอย่างที่ท่านว่าครับอาจารย์ ผมไม่มีความสามารถ เงินทอง หรือแม้แต่โชคลาภ ผมควรจะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงครับ”
เดอุสตอบว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งกว่าศัตรูเพื่อที่จะชนะ”
"ฮะ? ท่านหมายถึงอะไร…?"
“จิ๊จิ๊! เจ้าจะโง่และซื้อบื่อขนาดไหนกัน? เจ้าสามารถทำให้ศัตรูของเจ้าอ่อนแอกว่าเจ้าได้! อ่อนแอกว่า! มันง่ายแค่นั้น! แค่ทำให้พวกเขาอ่อนแอกว่าเจ้า!” เดอุสตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
แทซองรู้สึกราวกับถูกค้อนทุบที่ด้านหลังศีรษะทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเดอุส
'ฉันจะทำให้ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าฉันอ่อนแอลง และฉันจะโจมตีพวกเขาให้ตาย... ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว' เขาคิด
เขาไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นมาก่อนด้วยซ้ำ
“รับนี่ไป” เดอุสพูดก่อนโยนหนังสือเก่าๆ ไปให้แทซอง
"นี่คืออะไรครับ….?"
“มันเป็นหนังสือลับ” เดอุสตอบ
“หนังสือลับ…?” แทซองพึมพำด้วยความสับสน
“จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของดีบัฟมาสเตอร์อยู่ในหนังสือเล่มนี้” เดอุสอธิบาย
ดีบัฟมาสเตอร์
แทซองไม่เคยได้ยินอาชีพประเภทนี้มาก่อน
***
ดีบัฟ
นี่เป็นวิธีการที่เดอุสเสนอให้เขาเป็นผู้อยู่ยงคงกระพัน
“ท่านกำลังบอกให้ผมทำให้ศัตรูของผมอ่อนแอกว่าผม…?” แทซองถามเมื่อได้รับหนังสือลับ
"ถูกต้อง" เดอุสพยักหน้าและตะโกนว่า “ลูกศิษย์ของข้า…”
“ครับท่านอาจารย์” แทซองตอบ
“มีคนมากมายที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าในโลกใบนี้ อา แน่นอน ไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าข้าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้แล้ว” เดอุสกล่าว
"ฮะ…?" แทซองพึมพำด้วยความสับสน
“ไม่มีใครสามารถต่อต้านข้าได้! ฮ่าฮ่าฮ่า!” เดอุสก็โอ้อวด
'ฉันเห็นด้วย...' แทซองคิด เขาเห็นด้วยกับคำพูดของเดอุสอย่างสมบูรณ์
“ลูกศิษย์ของข้า” เดอุสกล่าว
“ครับท่านอาจารย์” แทซองตอบ
“มีคนที่โชคดีกว่า มีความสามารถมากกว่า หรือร่ำรวยกว่าเจ้าในโลกใบนี้ ไม่ว่าเจ้าจะอดทนและดิ้นรนมากแค่ไหนก็ตาม ความพยายาม? นั่นไม่ใช่อะไรนอกจากความผิดพลาดที่ผู้แข็งแกร่งสร้างขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะได้สร้างความบันเทิงให้ตัวเองด้วยการเฝ้าดูผู้อ่อนแอเหล่านั้นดิ้นรนและตะเกียกตะกาย” เดอุสกล่าว
แทซองอดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยกับคำพูดของเดอุสที่ว่าความพยายามนั้นไม่สำคัญเลย ท้ายที่สุดแล้ว เขาได้สัมผัสโดยตรงว่าความพยายามของเขาไม่เพียงพอที่จะเอาชนะผู้ที่มีพรสวรรค์ ร่ำรวยกว่า โชคดีกว่า และมีจังหวะเวลาที่ดีกว่าเขา
“สมมติว่าเจ้าฝึกฝนเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น ถ้าอย่างนั้น เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถได้รับชัยชนะต่อผู้ที่มีความสามารถกว่า ร่ำรวยกว่า และโชคดีกว่าเจ้าจริงๆ งั้นรึ? แล้วคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าล่ะ?” เดอุสถาม
“ผมคิดว่ามันคงจะยาก” แทซองตอบ
“แล้วเจ้าจะยอมแพ้เหรอ? เจ้าจะปล่อยให้พวกเขาบดขยี้และเหยียบย่ำเจ้างั้นรึ”
“ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก” แทซองตอบ
“ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่เจ้าต้องทำคือทำให้ไอ้สารเลวนั่นอ่อนแอกว่าเจ้าและทุบตีเขาให้ตาย แล้วถ้าเจ้าอ่อนแอล่ะ? เจ้าเพียงแค่ต้องชนะใช่ไหม? เมื่อถึงเวลานั้น ผู้คนจะมองเจ้าและเรียกเจ้าว่าแข็งแกร่ง” เดอุสให้เหตุผล
“ผู้ชนะคือผู้ที่แข็งแกร่งกว่า… นั่นคือสิ่งที่ท่านพยายามจะบอกผมใช่ไหมครับ ท่านอาจารย์?” แทซองถาม
"แน่นอน โลกจะลืมคนที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาจะจดจำผู้ชนะ ในท้ายที่สุดพวกเขาจะตราหน้าผู้ชนะว่าแข็งแกร่ง” เดอุสตอบ
แทซองไม่พบข้อบกพร่องใดๆ ในตรรกะของเดอุสและเขาไม่มีความคิดที่จะค้นหาข้อบกพร่องดังกล่าว
มีกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่ผู้อ่อนแอสามารถเอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาได้ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นคือโอกาสหนึ่งในล้าน
ผู้ที่สามารถชนะได้อย่างต่อเนื่อง หรือผู้ที่แพ้เป็นครั้งคราวแต่จะชนะบ่อยครั้ง คนเหล่านั้นคือสิ่งที่โลกเรียกว่า 'แข็งแกร่ง'
ผู้แข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องกลายเป็นผู้ชนะ อย่างไรก็ตาม ผู้ชนะจะต้องแข็งแกร่ง
แทซองเห็นด้วยกับตรรกะของเดอุส
***
“เมื่อนานมาแล้ว…” เดอุสพูดขณะที่เขาจ้องมองไปในระยะไกลก่อนจะพูดต่อ “มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ข้าก็เป็นเหมือนเจ้า”
“ท่านก็เป็นเหมือนผมงั้นเหรอครับ ท่านอาจารย์” แทซองถามด้วยความไม่เชื่อ
“ข้าไม่ใช่เศษขยะเหมือนเจ้าหรอกนะ” เดอุสชี้แจง
“อา… ฉันเข้าใจแล้ว…” แทซองพึมพำด้วยความขมขื่น
“ข้าเป็นอัจฉริยะเมื่อตอนที่ข้ายังเยาว์วัย และข้าก็เป็นหนึ่งในแปดคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าอ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขา” เดอุสกล่าวเสริม
“อาจารย์อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขา…?” แทซองพึมพำด้วยความไม่เชื่อ เขาประหลาดใจที่รู้ว่าผู้ที่อยู่สูงสุดที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาคนเหล่านั้น
“นั่นเป็นเพราะไอ้พวกนั้นเป็นอัจฉริยะที่ดีกว่าข้า” เดอุสอธิบาย
"อา…"
“ข้าอยากจะเอาชนะพวกเขาจริงๆ” เดอุสกล่าว
"แล้วยังไงต่อครับ? ท่านเอาชนะพวกเขาแล้วหรือยัง?” แทซองถาม
“ข้าไม่สามารถชนะได้…” เดอุสตอบ
“…” แทซองพูดไม่ออก
“มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะพวกเขาไม่ว่าข้าจะดิ้นและกระเสือกกระสนแค่ไหนก็ตาม และข้าก็ยังคงเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาไม่ว่าข้าจะทำอะไรก็ตาม” เดอุสกล่าว
“ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่าครับ?” แทซองถาม
“ฮ่า! ข้าดูเหมือนว่าจะแพ้ใครมากขนาดนี้เลยเหรอ?” เดอุสเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเย่อหยิ่ง
“ไม่ครับ ท่านอาจารย์” แทซองตอบ
“ข้าฝึกฝนอย่างหนักเท่าที่จะทำได้ ไม่สิ ข้าฝึกเหมือนคนบ้า ข้าอยู่ในภูเขาคุนหลุนและไม่ได้ทำอะไรนอกจากฝึกฝน” เดอุสกล่าว
“อา...” แทซองพึมพำด้วยความประหลาดใจ
“จากนั้นข้าก็ได้รับพลังที่จะทำให้ข้าแข็งแกร่งที่สุด ข้าสามารถเปลี่ยนความฝันของข้าในการทำให้ศัตรูอ่อนแอลงให้กลายเป็นความจริงได้” เดอุสกล่าวเสริม
“แล้วท่านชนะหรือเปล่าครับ?” แทซองถามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ ข้าทำไม่ได้” เดอุสตอบด้วยสีหน้าขมขื่น
"ฮะ?" ตอนนี้แทซองรู้สึกสับสนอย่างแท้จริง
“ข้าเพิ่งรู้หลังจากที่ข้าลงมาจากภูเขาลูกนี้ว่าผ่านไปห้าร้อยปีแล้ว” เดอุสอธิบาย
“โอ้พระเจ้า…” แทซองพึมพำด้วยความประหลาดใจ
“ข้าค้นหาไอ้พวกคนเหล่านั้นโดยเร็วที่สุด แต่พวกมันก็แก่จนเตะถังปี๊บไม่ไหวแล้ว ดูเหมือนว่าข้าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จะเสียเวลาไปเพราะความทุ่มเทในการฝึกฝน” เดอุสกล่าว
“ท่านอาจารย์…” แทซองพึมพำขณะที่เขามองเดอุสด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร
จะมีประโยชน์อะไรในการได้รับพลังเพื่อที่จะอยู่ยงคงกระพันหากเขาไม่สามารถบรรลุชัยชนะที่เขาปรารถนามาโดยตลอด?
'ท่านอาจารย์…!'
แทซองไม่สามารถหยั่งรู้ได้ถึงความว่างเปล่าที่เดอุสรู้สึกในขณะนั้น
“การตระหนักรู้และการรู้แจ้งที่ข้าได้บรรลุซึ่งข้าได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนั้น กลับไร้ประโยชน์แม้ว่าข้าจะทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณเพื่อสร้างมันขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เดียวในการเอาชนะไอ้พวกสารเลวเหล่านั้นที่ข้าไม่เคยเอาชนะได้” เดอุสกล่าวพร้อมคำใบ้ ด้วยความขมขื่นในน้ำเสียงของเขาในขณะที่เขาอธิบายว่าเขาสร้างอาชีพดีบัฟมาสเตอร์ขึ้นมาได้อย่างไร
ดีบัฟมาสเตอร์
นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เดอุสคิดขึ้นมาในช่วงวัยเยาว์เพื่อที่เขาจะได้เอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขา
จากมุมมองของแทซอง นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาในการเอาชนะผู้ที่ขึ้นอยู่กับโชค เลเวล ไอเทม สกิล และพรสวรรค์ ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่สามารถเอาชนะพวกเขาด้วยความพยายามเพียงอย่างเดียวได้
พวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และแทซองไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้พวกเขาได้แม้แต่น้อยไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
'ด้วยสิ่งนี้ ฉันสามารถชนะได้' แทซองคิด
เขาเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าเขาสามารถเอาชนะพวกมันได้ทั้งหมด ถ้าเขาสามารถปลดปล่อยความสามารถของอาชีพนี้ได้แม้แต่หนึ่งในสิบ
ในที่สุดเขาก็พบวิธีเอาชนะผู้ที่เขาอยากจะเอาชนะอย่างยิ่ง
“ศิษย์ของข้า” เดอุสร้องเรียก
“ครับท่านอาจารย์” แทซองตอบรับ
“เจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ” เดอุสกล่าว
“ท่านหมายถึงอะไรครับท่านอาจารย์?” แทซองถาม
“เจ้าสามารถแสวงหาความรุ่งโรจน์หรือความร่ำรวยได้ ไม่มีอะไรผิดในการเติมเต็มความปรารถนาของหัวใจเพราะนั่นเป็นสิทธิ์ที่เป็นของคนที่อยู่ยงคงกระพัน ใช้ชีวิตให้เต็มที่และทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ” เดอุสอธิบายอย่างละเอียด
"ครับ! ท่านอาจารย์!" แทซองตอบอย่างกระตือรือร้น
นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการทำ เขาอยากจะหลุดพ้นจากความยากจน อยากกินอาหารดีๆ อยากสวมเสื้อผ้าสวยๆ และอยากขับรถสวยๆ น่าเสียดายที่เขาไม่มีพรสวรรค์และเกิดมายากจน และเขาเกลียดความจริงที่ว่าเขาเกิดมาแบบนี้
ความเศร้าโศกที่ต้องเติบโตมาอย่างยากจนเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเข้าใจได้เว้นแต่จะมีประสบการณ์ด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม นั่นคือจุดสิ้นสุดของความโศกเศร้านั้น ในที่สุดเขาก็พบหนทางที่จะพลิกชีวิตหลังจากได้พบกับอาจารย์ของเขา และเชือกที่จะช่วยเขาจากหลุมแห่งความสิ้นหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็มาถึงในที่สุด
“แต่ข้ามีเงื่อนไขที่เจ้าต้องปฏิบัติตามเพื่อที่จะเป็นผู้สืบทอดของข้า” เดอุสกล่าว
“นั่นคือะไรครับอาจารย์?” แทซองถาม
“ไปบดขยี้ผู้สืบทอดของไอ้สารเลวพวกนั้นที่ตายก่อนที่ข้าจะมีโอกาสล้างแค้นให้ตัวเอง ข้าแน่ใจว่าพวกเขาสถาปนาผู้สืบทอดก่อนที่พวกเขาจะลงหลุม เจ้าต้องบดขยี้พวกเขาด้วยทักษะที่ข้าสร้างขึ้น เจ้าเข้าใจไหม?”
เมื่อชายชราพูดจบ ข้อความก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าแทซอง
ติ๊ง!
[การแจ้งเตือน: เควสต์ - 'ความเสียใจของอาจารย์' ปรากฏขึ้นแล้ว!]
[คำเตือน: ท่านต้องการยอมรับเควสต์นี้หรือไม่]
ไม่มีเหตุผลใดที่แทซองจะลังเลหรือปฏิเสธเควสต์นี้
[ใช่]
แทซองยอมรับเควสต์ที่เดอุสให้โดยไม่ลังเลเลยในขณะที่เขาพูดว่า “ครับ ท่านอาจารย์ กระผม—ลูกศิษย์ของท่าน—จะต้องค้นหาผู้สืบทอดของพวกเขาอย่างแน่นอนและบดขยี้พวกเขาเพื่อพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของท่าน!”
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะตอบสนองต่ออาจารย์ของเขาอย่างยิ่งใหญ่
[การแจ้งเตือน: ท่านได้ยอมรับเควสต์ - 'ความเสียใจของอาจารย์'!]
จากนั้นรายละเอียดเควสต์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[ความเสียใจของอาจารย์]
[ประเภท: เควสต์]
[รายละเอียด: ค้นหาและบดขยี้ผู้สืบทอดทั้งเจ็ดของผู้คนซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแปดผู้แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเมื่อห้าร้อยปีก่อน]
[ความคืบหน้า: 0%]
[ผู้สืบทอดของเทพสายฟ้า วัชระ 0/1]
[ผู้สืบทอดแห่งนักบุญดาบ มูร์เซียลาโก 0/1]
[ผู้สืบทอดของนักปราชญ์ ซีกฮาร์ต 0/1]
[ผู้สืบทอดของปรมาจารย์โลหิต เบอร์เซิร์ก 0/1]
[ผู้สืบทอดของกษัตริย์มอกริสผู้รู้แจ้ง 0/1]
[ผู้สืบทอดแห่งเทพลูกศรวายุ 0/1]
[ผู้สืบทอดของราชาบรอม 0/1]
เควสต์นั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา เขาแค่ต้องมองหาและเอาชนะผู้สืบทอดของผู้ที่เดอุสไม่มีโอกาสเอาชนะได้
“แต่ว่า… ผมจะรู้จักผู้สืบทอดของพวกเขาได้อย่างไร…?” แทซองถาม
“เจ้าจะรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ” เดอุสตอบก่อนเสริมว่า “สัญชาตญาณของเจ้าในฐานะศิษย์คนเดียวของข้าจะทำให้เจ้าจำพวกเขาได้”
“ครับ ท่านอาจารย์” แทซองกล่าว
“และเจ้าต้องเปลี่ยนชื่อของเจ้าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” เดอุสกล่าว
"ฮะ? เปลี่ยนชื่อของผมเหรอ?” แทซองตอบด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าเป็นลูกศิษย์และผู้สืบทอดของข้าเพียงคนเดียว ดังนั้นเจ้าไม่คิดว่าเจ้าควรจะมีชื่อที่เหมาะสมกับสิ่งนั้นเหรอ? ใช้ชื่อ ‘ซิกฟรีด’ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” ดิอุสกล่าว
“ซิกฟรีด?” แทซองพึมพำ
"ทำไมล่ะ? เจ้าไม่ชอบมันเหรอ?” เดอุสถาม
“ไม่ครับ นั่นไม่ใช่เหตุผลว่าทำไม…”
“แล้วมีปัญหาอะไรล่ะ?” เดอุสถาม
“นั่นคือ…” แทซองลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เดอุสซึ่งเป็น NPC เข้าใจได้อย่างไร ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนชื่อของตัวละครในเบรฟนิวเวิล์ด
“ชื่อไม่ใช่สิ่งที่ผมเปลี่ยนได้เพียงเพราะผมต้องการ ดังนั้น-” แทซองพูดอย่างระมัดระวัง แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ก็มีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[คำเตือน: ชื่อตัวละครของผู้เล่นถูกเปลี่ยนจาก 'แทซอง' เป็น 'ซิกฟรีด'!]
แทซองแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองในขณะที่คิดว่า 'นี่มันเกิดขึ้นจริงเหรอ...?'
เดอุสเพิ่งเพิกเฉยต่อกฎเหล็กที่ป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเปลี่ยนชื่อตัวละครของพวกเขา ดูเหมือนอาจารย์ของเขาเพิ่งประกาศอย่างเปิดเผยว่า 'ฉันคือผู้ทรงอำนาจ!' อย่างไรก็ตาม แทซองจะเชื่อเขาจริงๆ โดยไม่สงสัยเลยถ้าเขาทำเช่นนั้น
"หุบปาก! จากนี้ไปเจ้าคือซิกฟรีดตกลงนะ?” ดิวส์ถาม
"ครับ ท่านอาจารย์!" แทซอง ไม่สิ ซิกฟรีดตอบ
“ผมจะรักษาชื่อที่ท่านตั้งให้ไว้อย่างดีครับ ท่านอาจารย์” ซิกฟรีดกล่าว
“แน่นอน เจ้าต้องทะนุถนอมมัน เจ้าต้องได้รับตำแหน่ง 'ผู้แข็งแกร่งที่สุด' ตามชื่อที่ข้ามอบให้เจ้า เข้าใจไหม?” เดอุสกล่าวเสริม
"ครับ! ท่านอาจารย์!" ซิกฟรีดตอบอย่างกระตือรือร้น
"ดี ข้าชอบจิตวิญญาณของข้า ออกไปสู่โลกกว้างเดี๋ยวนี้!”
“ผมต้องออกไปเร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ซิกฟรีดถาม
“ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าข้าได้สอนเจ้าทุกเรื่องที่ให้เจ้าได้รู้แล้ว? ตอนนี้ถึงตาเจ้าแล้วที่จะฝึกฝนโดยใช้หนังสือลับเป็นแนวทางของเจ้า ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการอยู่ในหนังสือเล่มนั้นแล้ว” เดอุสตอบ
“แต่ผมยังขาดประสบการณ์อยู่ ท่านอาจารย์ แล้วถ้าผมขึ้นไปบนภูเขาขณะฝึกซ้อมด้วยตัวเองล่ะ” ซิกฟรีดถาม
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็แค่มาหาข้าก็พอแล้ว” ดิวส์ตอบ
"ฮะ?" ซิกฟรีดพึมพำและเอียงศีรษะด้วยความสับสนก่อนถามว่า “ท่านจะไม่ไปใช้ชีวิตหลังความตายเหรอ?”
"ฮะ?" เดอุสพึมพำด้วยความประหลาดใจก่อนที่จะถามด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”
“ผมหมายถึง… ภารกิจที่ท่านให้ผมเมื่อกี้ฟังดูเหมือนท่านกำลังทิ้งความตั้งใจของท่าน… ดังนั้น…” ซิกฟรีดกล่าว
ดูเหมือนว่าซิกฟรีดกำลังคิดว่าเดอุสเป็นหนึ่งใน 'ปรมาจารย์' ในนวนิยายที่พวกเขาจะขึ้นไปบนสรวงสวรรค์หลังจากฝากความตั้งใจไว้กับเหล่าสาวก
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเขาไม่เหมือนกับปรมาจารย์เหล่านั้น
“ข้ายังมีชีวิตอยู่และสบายดี…” เดอุสพึมพำ
ดูเหมือนว่าแม้แต่ความคิดโบราณก็ใช้ไม่ได้กับอาจารย์ของเขา
"จริงเหรอครับ?!" ซิกฟรีดอุทานด้วยความยินดี
“ข้าผู้ยิ่งใหญ่คนนี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่าหนึ่งพันปีหากข้าต้องการ ข้าจะมีอายุยืนยาวกว่าเจ้า ดังนั้นอย่ากังวลและลงจากภูเขาไปได้แล้ว!” เดอุสได้ประกาศ
"ครับ ท่านอาจารย์!" ซิกฟรีดตอบอย่างกระตือรือร้นด้วยรอยยิ้มกว้าง ดูเหมือนเขาจะยินดีกับความจริงที่ว่าเดอุสจะไม่ตายในเร็วๆ นี้
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วไปทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการในทวีปอันกว้างใหญ่นี้! แต่อย่าลืมภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ที่ข้ามอบให้เจ้า!” เดอุสกล่าวเสริม
"ครับ ท่านอาจารย์!" ซิกฟรีดตอบกลับ
"ไปได้!" เดอุสอุทานก่อนจะร่ายวงแหวนเวทย์มนตร์มาอยู่ใต้เท้าของซิกฟรีด
ชวิ้ง!
แสงแวบหนึ่งปกคลุมซิกฟรีดก่อนที่เขาจะหายตัวไป
ในที่สุดซิกฟรีดก็ออกจากภูเขาไป