Debuff Master : 1
Brave New World หรือที่รู้จักในชื่อ BNW เป็นเกม MMORPG โอเพ่นเวิร์ลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวิดีโอเกม
‘เบรฟนิวเวิล์ด’ เป็นเกมที่รับประกันอิสรภาพของผู้เล่น
มันมีแผนที่โลกขนาดกว้างขวางถึง 30 ล้านตารางกิโลเมตร และมี NPC มากกว่า 2 พันล้านคน พร้อมด้วยเนื้อหาที่แทบจะไม่มีที่สิ้นสุดให้สำรวจ
เกมดังกล่าวจำลองกราฟิกของโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากนั้นเป็นการจำลองประสาทสัมผัสของมนุษย์อย่างสมจริง
พูดได้อีกอย่างว่า BNW ไม่ใช่เกม แต่เป็นเหมือนอีกโลกใบหนึ่ง
เพราะอย่างนั้น เบรฟนิวเวิล์ดจึงสามารถดึงดูดผู้เล่นได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านคนในปีแรก และทำให้คนทั้งโลกหลงใหลมัน
ฉันก็หลงใหล BNW เหมือนกันด้วย และฉันก็พุ่งเข้าสู่เกมในโลกนี้ทันที
เหตุผลง่าย ๆ คือ เงิน
ฉันเริ่มต้นจากการที่ใคร ๆ ก็สามารถสร้างรายได้จากการเล่น BNW เพียงอย่างเดียว แต่เมื่อฉันค้นพบว่าฉันมีพรสวรรค์ในการเล่นเกม ฉันก็เริ่มเล่นเพื่อหาเลี้ยงชีพเพียงอย่างเดียว
ฉันรู้ว่าฉันเล่นเกมเก่ง
ฉันไปถึงเลเวล 151 ในฐานะ 'จอมเวทย์ธาตุ' ซึ่งเป็นเพียงอาชีพธรรมดา และฉันก็กลายเป็นหัวหน้ากิลด์ของ ‘กิลด์เบียเมอร์' ซึ่งมีสมาชิกที่คับคั่งอยู่ประมาณสองร้อยคนในปีแรกของการเล่นเกม
'นี่แหละ' นี่เป็นตอนที่ฉันตัดสินใจเดิมพันทั้งชีวิตกับเกมนี้
ไม่มีทางที่ฉันจะมีชีวิตที่ดีได้ตั้งแต่ฉันเกิดในครอบครัวที่ยากจน และประกาศนียบัตรเดียวที่ฉันมีคือใบรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ฉันสรุปได้ว่าเกมนี้เป็นโอกาสเดียวของฉันที่จะมีชีวิตที่ดีได้
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปีนับจากนั้น…
ฉันมาถึงเลเวล 201 และฉันกำลังยืนอยู่ที่จุดสุดยอดของเกม
อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานนักฉันก็พบว่าฉันไม่ได้สำคัญอะไรเลยในเกมนี้
ฉันตระหนักถึงข้อจำกัดของตัวเองเมื่อ 'กิลด์เจเนซิส' ซึ่งเป็นหนึ่งในกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดในเกม ตัดสินใจบุกเข้าไปในอาณาเขตของกิลด์ฉัน
ช่วยไม่ได้ที่ฉันถูกทุบตีและเหยียบย่ำด้วพละกำลังที่แท้จริง ฉันไม่สามารถตอบโต้พวกเขาได้เลย
กิลด์เจเนซิสครอบครองสิ่งที่ฉันไม่มี
อย่างแรกคือ โชค...
ไม่มีทางที่ฉันจะเอาชนะคนที่มีโชคได้ ตัวอย่างเช่น พวกไอ้สารเลวที่ได้รับไอเทมที่ดีกว่าจากโชคล้วนๆ หรือพวกคนที่ได้รับอาชีพหายากมาด้วยโชค
ไม่มีทางที่ฉัน— ซึ่งมีไอเทมระดับปานกลางและมีอาชีพธรรมดา— จะเอาชนะผู้ที่มีไอเทมที่ดีกว่าและอาชีพลับได้
อย่างที่สองคือ พรสวรรค์...
ฉันไม่สามารถเอาชนะคนที่มีพรสวรรค์ได้ คนที่มีความสามารถตั้งแต่เริ่มเล่น เหมือนแข่งกันอยู่คนละโลก และฉันเป็นเพียงกระสอบทรายต่อหน้าการต่อสู้และความสามารถระดับเทพ
อย่างที่สามคือ เงิน...
ฉันแพ้คนที่มีร่ำรวย
ผู้ที่ถูกเรียกว่า 'เทพทรู' ชดเชยเรื่องโชคและความสามารถด้วยการทุ่มเงินจริงจำนวนมหาศาล และมันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะเอาชนะกำแพงขนาดใหญ่ที่พวกเขาสร้างขึ้นจากการใช้ไอเทมแสนแพง
อย่างที่สี่คือ จังหวะ...
ถึงแม้จะฟังดูไร้สาระ แต่ฉันแพ้คนที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา
มีไอ้สารเลวพวกนั้นอยู่สองสามคน ซึ่งดูยังไงก็ยังอ่อนแอกว่าฉันมาก แต่แล้ว พวกมันเอาชนะฉันได้เพราะจังหวะที่ไม่น่าเชื่อ
สรุปแล้ว สิ่งที่ฉันเชื่อว่าเป็นพรสวรรค์ของฉัน กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรมากไปกว่ากลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนทั่วไปมี ดังนั้นในที่สุดฉันก็ไม่มีอะไรพิเศษ
ยังไงก็ตาม ฉันปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งนี้
ฉันเป็นเพียงขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยในชีวิตจริง และเกมนี้ก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันมีชีวิตอยู่โดยมีเป้าหมายเดียวในชีวิต ซึ่งก็คือการเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในเกมนี้ เพราะอย่างนั้นความพ่ายแพ้จึงเป็นสิ่งที่ฉันไม่อาจยอมรับได้
พูดตามตรงว่าความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ฉันสงสัยในการดำรงอยู่ของตัวเอง
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ความจริงที่ว่าคนที่ชนะฉันไม่ได้เป็นพวกขยะหรือขยะเหมือนฉันในชีวิตจริง
บางคนก็เป็นหมอ...
บางคนเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ...
บางคนเป็นลูกชายของประธานกลุ่มบริษัท...
ฉันทนไม่ได้กับความจริงที่ว่าคนที่ทำได้ดีในชีวิตจริงก็ทำได้ดีในเกมเช่นกัน ท้ายที่สุด ฉันต้องเสี่ยงทุกอย่างเพื่อเกม ๆ นี้ และเกมนี้ได้กลายเป็นเป้าหมายเดียวของการดำรงอยู่ของฉันมานานแล้ว
ทำไมพวกเขาต้องมานั่งกดหัวฉัน ทั้ง ๆ ที่ในชีวิตจริงพวกเขามีทุกอย่างอยู่แล้ว?
ทำไม?
เป็นไปได้ยังไง?
ฉันทำอะไรถึงสมควรได้รับแบบนี้?
“รอดูก่อนเถอะ…” ฉันพึมพำขณะกัดฟัน
ฉันจะใช้ปมด้อยของตัวเองเป็นเชื้อเพลิงเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของฉันที่จะแข็งแกร่งเหนือใครๆ
ฉันใช้เงินทั้งหมดที่มีเพื่อซื้ออาวุธราคาแพง และฉันลงทุนทุกอย่างที่มีเพื่อเสริมพลังให้อาวุธพวกนั้น
ฉันเคลื่อนไหวทันทีโดยไม่ลังเลเมื่อได้ยินข่าวลือว่า NPC ที่ให้สกิลหายากถูกพบเห็นที่ไหนสักแห่ง
“ฉันแค่ต้องแข็งแกร่งขึ้นอีกหน่อย… แค่นิดหน่อย…” ฉันบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่ฉันง่วนอยู่กับเกม
ฉันถูกขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะเอาชนะไอ้พวกที่มีทุกอย่าง
ที่จริงแล้ว ฉันไม่ลังเลเลยที่จะกู้เงินหลายร้อยล้านในชีวิตจริงเพื่อซื้อไอเทมในเกม
นั่นคือสิ่งที่ฉันหมกมุ่นอยู่กับเกมนี้ ท้ายที่สุดแล้ว เกมนี้เป็นวิธีเดียวที่ฉันสามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวเองในฐานะมนุษย์ได้
ฉันต้องการที่จะกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแม้ว่าจะเป็นเพียงในเกมนี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทุ่มเทความพยายามอย่างหนัก ในไม่ช้าฉันก็รู้ว่ามีบางสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ด้วยการทำงานหนักเพียงอย่างเดียว
การตระหนักรู้ทำให้ฉันลืมตาขึ้น แต่ฉันได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว
น่าแปลกที่ฉันไม่สามารถเอาชนะคนที่ฉันอยากจะเอาชนะได้ อันที่จริงพวกเขาเหยียบย่ำฉันอย่างโหดร้ายยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
‘ฉันอยากจะเอาชนะพวกเขาจริงๆ… ฉันอยากจะ…’
อย่างไรก็ตาม ไม่นานฉันก็นึกขึ้นได้ว่านี่เป็นเหตุการณ์ปกติ
ไม่ว่าจะเป็นในเกมหรือในชีวิตจริง มีคนที่ไม่สามารถเอาชนะได้ ไม่ว่าพวกเขาจะปรารถนาที่จะเอาชนะคนเหล่านั้นก็ตาม
‘บางทีฉันอาจถูกลิขิตให้พ่ายแพ้มาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้…’
บางทีนี่อาจเป็นข้อจำกัดของคนที่ทำงานอย่างหนักโดยไม่มีทั้งความสามารถหรือการสนับสนุน...
- - -
ซู่…!
มีฝนตกหนักในป่าบางแห่ง
“เฮ้อ…”
แทซองกำลังพิงต้นไม้อันสวยงามในขณะที่จ้องมองไปในระยะไกลด้วยดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเขา
ติ๊ง!
ข้อความก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าเขา
[คำเตือน: ผ่านไป 47 ชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่คุณได้เข้าสู่ระบบ Brave New World]
[การเล่นเกมมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของคุณและอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณ]
[คำเตือน: การเชื่อมต่อของคุณจะถูกยุติอย่างเด็ดขาดหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเนื่องจากมีการเล่นเกมมากเกินไป]
มันเป็นข้อความเตือนเขาว่าการเชื่อมต่อเกมของเขาจะถูกยกเลิกเนื่องจากมีการเล่นเกมมากเกินไป
“ฉันไม่มีแม้แต่ที่จะไปด้วย… แล้วอยากให้ฉันไปที่ไหนกัน…?” แทซองพึมพำเบาๆ
เขาไม่มีที่จะไปเนื่องจากเขาเพิ่งสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีเมื่อยี่สิบสี่ชั่วโมงที่แล้ว
กิลด์เบียเมอร์ที่เขาลงทุนทุกอย่างที่เขามี ก็ถูกไฟไหม้จนราบคาบ และสมาชิกกิลด์ก็กระจัดกระจายกันไปหมด จริงๆแล้ว มีบางคนถึงกับแทงแทซองที่ด้านหลังด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้น สมบัติสุดท้ายที่เหลืออยู่ของเขาซึ่งเป็นไอเทมราคาแพงที่เรียกว่า 'เอเลเมนทอลบัสเตอร์' ยังถูกหัวหน้ากิลด์ศัตรูเอาไป
สิ่งเดียวที่เขาทิ้งไว้กับเขาคือ...
[เนื้อแห้งจนเกินไป × 3]
[ผ้าคลุมฉีกขาด × 1]
[แผนที่สมบัติฉีกครึ่ง 2 × 1]
[ไม้เท้าเวทมนตร์เปลี่ยนสี × 1]
ของพวกนี้เป็นของที่คนอื่นจะไม่เอาแม้ว่าเขาจะเสนอให้ฟรีก็ตาม
จะเกิดอะไรขึ้นกับแทซองถ้าเขาออกจากระบบด้วยสภาพแบบนี้?
“การฆ่าตัวตายเป็นทางเลือกเดียวที่ฉันมีสินะ…?” เขาพึมพำ
จิตใจเขาถูกทำลาย
สิ่งเดียวที่รอเขาอยู่ในความเป็นจริงคือห้องครึ่งใต้ดินที่ว่างเปล่าและมีกลิ่นเหม็นอับ พร้อมด้วยแคปซูล VR เก่าๆ ที่ทรุดโทรมเพียงตัวเดียวเป็นเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงหนี้หลายร้อยล้านของเขา
เขาใฝ่ฝันที่จะสร้างมันให้ยิ่งใหญ่ในเกมและกลับมาสู่ความเป็นจริงอย่างมีชัย แต่ท้ายที่สุดเขาก็แค่เตะกระป๋องและกลับมามือเปล่าเท่านั้น
แทซองกำลังหวาดกลัว
เขากลัวว่าเขาจะจบชีวิตของตนเอง
ชีวิตของเขาในเกมเป็นเหมือนตกนรกทั้งเป็น และชีวิตของเขาในความเป็นจริงก็เช่นเดียวกัน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทนไม่ได้ที่จะออกจากระบบในขณะที่เขาเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย แต่แม้แต่เกมก็ยังบังคับให้เขากลับไปสู่ความเป็นจริงที่เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
“ทำไมกัน…” เขาพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจในตัวเอง
“ทำไมมันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน? ทำไมฉันจึงไม่สามารถเอาชนะไอ้สารเลวพวกนั้นได้? ทำไมฉันถึงเป็นคนเดียวที่ไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้? ทำไมต้องเป็นฉัน? ทำไม ฉันพยายามอย่างหนักและฉันเสี่ยงทุกอย่างเพื่อสิ่งนี้ แต่ทำไมฉันถึงไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้? ทำไมกันล่ะ?!” แทซองพูดขณะที่ความขุ่นเคืองที่ขังอยู่ภายในตัวเขาเริ่มออกมาทีละน้อย
“ฉันสูญเสียทุกสิ่งไปแล้ว…” เขาพึมพำเบาๆ
เขารู้สึกราวกับว่าโลกรังแกเขา
“ทำไมฉันต้องสูญเสีย? ทำไม…ทำไมต้องเป็นฉัน…?” เขาคร่ำครวญด้วยความสิ้นหวัง
เขาไม่เคยเอาชนะศัตรูในสงครามแบ่งฝ่าย และเขาก็ไม่สามารถเอาชนะศัตรูใน PVP ได้เช่นกัน
เขารู้สึกเสียใจ
เขาคิดว่าการทุ่มเทให้กับชีวิตจะเพียงพอแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดว่าคนที่ถูกทอดทิ้งจากโลกแห่งความเป็นจริงจะถูกทิ้งโดยเกมเช่นกัน
ความเป็นจริงในปัจจุบันของแทซองนั้นโหดร้ายเลือดตาแทบกระเด็น ท้ายที่สุดแล้ว เกมที่เขาทุ่มทั้งหัวใจและจิตวิญญาณลงไปได้ทรยศต่อเขาแล้ว
“นั่นเป็นเพราะเจ้าอ่อนแอ…” จู่ๆ ก็มีคนพูดกับแทซอง และบุคคลนั้นก็พูดต่อว่า “คนอ่อนแอย่อมถูกกำจัดเป็นกฎของโลกนี้ คนอ่อนแออย่างเจ้าคงโดนเหยียบย่ำแน่ๆ แล้วทำไมเจ้าถึงทำตัวเป็นเหยื่ออยู่ล่ะ”
แทซองหันศีรษะไปในทิศทางที่เสียงนั้นดังมา
มีชายชราผมขาวคิ้วขาวยืนอยู่ตรงนั้น เขามีหนวดเคราสีขาวยาวจนถึงหน้าท้อง และเขาสวมเสื้อคลุมผ้าไหมที่ดูหรูหราในธีมขาวดำ
ชายชราที่มีออร่าเหมือนทูตสวรรค์เข้ามาหาแทซุง
“เฮ้ย ตาแก่” แทซองตะโกนเรียกชายชราด้วยท่าทีหยาบคาย แล้วเขาก็พูดว่า “สนใจแค่เรื่องของตัวเองแล้วก็ไปซะเถอะ”
"เจ้าพูดว่าอะไรนะ?" ชายชราจ้องมองแทซองก่อนจะพูดว่า “เจ้าควรก้มหัวเมื่อเจ้าเจอกับอาจารย์ของเจ้า แต่ว่าเจ้าพูดอะไรออกมา? ให้ข้าไปซะเถอะ? ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าข้าจะต้องปลูกฝังวินัยบางอย่างในตัวเจ้าซะแล้ว…”
ชายชราหยุดพูดกะทันหัน
“มันอยู่ที่นี่นี่เอง…”
“คิคิ! แกยังไม่ได้ออกจากระบบงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ว่าแกหนีออกจากเกมหลังจากถูกตามล่าแล้วเหรอ?”
สมาชิกของศัตรูตัวฉกาจของแทซอง – กิลด์เจเนซิส – ปรากฏตัวทีละคนขณะที่พวกเขาแต่ละคนพูดจาโหดร้าย
“แล้วพวกเจ้าเป็นใครกันล่ะ?” ชายชราถามขณะเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมพวกเจ้าไม่มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นก่อนล่ะ ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งอยู่ ทำตามที่ข้าพูดก่อนที่ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม สมาชิกกิลด์เจเนซิสไม่ใช่ประเภทที่จะถอยกลับง่ายๆ
“NPC นี่มันอะไรกัน?”
“มันก็เป็นแค่ตาแก่เร่ร่อนไม่ใช่ไง?”
“ถ้ามีเวลามาพูดมาก ทำไมไม่ไปนอนในโลงแทนล่ะตาแก่เอ้ย?”
สมาชิกกิลด์เจเนซิสเริ่มเข้าใกล้ชายชราอย่างช้าๆ
“โฮะโฮะ ดูไอ้พวกโง่นี้สิ” ชายชราพูดพร้อมกับหัวเราะขณะที่เขามองไปที่สมาชิกกิลด์เจเนซิสก่อนที่จะพูดต่อว่า “ดูเหมือนว่าข้าจะต้องกำจัดพวกโง่นี้ก่อน จึงจะสามารถธุระของข้าต่อไปได้”
เมื่อชายชรายกกำปั้นขึ้น อากาศก็ดูเหมือนจะสั่นสะเทือน
ฟู้ว…!
“ตายซะ” ชายชราพูดก่อนจะเหวี่ยงหมัดไปทางสมาชิกกิลด์เจเนซิส
ตู้ม!
จากนั้น มีบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขาพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น
ฟ้าววว!
เมื่อชายชราเหวี่ยงหมัดขึ้นไปในอากาศ แทซองก็มองเห็นความหมายของคำว่า 'แข็งแกร่งที่สุด' หรือ 'อยู่ยงคงกระพัน'
-
ข้อความมากมายปรากฏขึ้นในขณะที่คลื่นพลังงานจากหมัดของชายชราต่อยไปที่สมาชิกกิลด์
[ความเสียหาย 999,999,999,999!]
[ความเสียหาย 999,999,999,999!]
[ความเสียหาย 999,999,999,999!]
[ความเสียหาย 999,999,999,999!]
[ความเสียหาย 999,999,999,999!]
ตัวนับความเสียหายที่ปกติเรียกว่า 'นกพิราบ'[1] ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของสมาชิกกิลด์และหายไปหลังจากนั้นไม่นาน
ความเสียหายสูงสุด—หรือเรียกอีกอย่างว่า MAX DMG
ตัวนับความเสียหายของระบบแสดงค่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนที่ 999,999,999,999 หน่วย และดำเนินต่อไปโดยไม่เห็นว่าสมาชิกกิลด์เจเนซิสได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะกลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์นับตั้งแต่พวกเขาเป็นผู้เล่น
'นั่นมันอะไรกัน…?' แทซองคิดด้วยความประหลาดใจขณะที่เขาสงสัยในดวงตาของเขาอยู่ครู่หนึ่ง
'เมื่อกี้มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?' เขาสงสัยในขณะที่ยังคงสงสัยในสายตาของตัวเอง
แทซองเปิดใช้งาน 'รูนแห่งความเข้าใจ' โดยสัญชาตญาณที่ด้านหลังมือซ้ายเพื่อตรวจสอบข้อมูลของชายชรา
เลเวลของชายชราปรากฏต่อหน้าแทซุงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม…
'เลเวลของเขามันแปลกๆ...' เขาคิดด้วยความประหลาดใจ
เลเวลของชายชราคือ...
[ชายชราพเนจร]
[ประเภท: NPC]
[เผ่าพันธุ์: มนุษย์]
[เลเวล: 999]
เลเวลของเขาน่าประหลาดถึง 999
[1] เป็นศัพท์แสลงของคนเล่นเกมในเกาหลี เสียงของนกพิราบในเกาหลีคือ ‘구구구구’ หรือ ‘กูกูกูกู’ มันเลยเป็นพ้องเสียงของเลขเก้าในภาษาเกาหลี นกพิราบจึงหมายถึง Max damage นั่นเอง