บทที่ 1 หลานสาวของฉันได้เปิดเผยความลับ
“คุณปู่! หลังจากนี้ 1 ปี พลังวิญญาณของโลกจะฟื้นฟูเต็มที่!”
"อีก 2 ปีข้างหน้า ศิลปะการต่อสู้ได้แพร่หลายไปทั่ว และมีสัตว์กลายพันธุ์ได้มาบุกโลก!!"
“ในปีที่ 3 คลื่นสัตว์กลายพันธุ์บุกเข้าโจมตีเมืองอวิ๋นเฉิง และผู้คนจากอวิ๋นเฉิงจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนถูกฝัง”
"พวกเราตระกูลอัน...สู้จนถึงที่สุด!"
-
เมื่อได้ฟังคำพูดของหลานสาว อันเซวียนก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด
เมื่อ 80 ปีก่อน...
ในเวลานั้นก็คงจะคล้ายๆ กับช่วงทศวรรษที่ 1930 มันคืออดีตเขากับโลกเดิมของเขานั่นเอง
ในช่วง 80 ปีที่ผ่าน
ด้วยความช่วยเหลือจาก แนวทาง วิสัยทัศน์ และการพัฒนาที่เกือบจะเหมือนกันของโลกทั้งสอง
อันเซวียนได้ก่อตั้งอันกรุ๊ปขึ้นที่เมืองอวิ๋นเฉิง ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ทางตงเป่ยของประเทศต้าเซีย
เป็นบริษัทเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ การลงทุน และอุตสาหกรรมอื่นๆ เขาได้สร้างบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นหมื่นๆ ล้าน!
นอกจากนี้เขายังมีลูกหลานอีกจำนวนมาก เขามีลูกชายสี่คน ลูกสาวอีกสองคน
และมีหลานมากกว่าสิบคน!
ในฐานะนักเดินทางข้ามเวลา อันเซวียนได้สัมผัสกับจุดสูงสุดและจุดเด่นต่างๆ ในชีวิตของเขา
แม้ว่ามันจะไม่ได้มีขึ้นมีลงมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อยๆ เติมโต และยังต้องสะสมความร่ำรวยอีกไกล!
และปีแห่งชะตากรรมเขาก็มาถึงแล้ว
อันเซวียนรอคอยให้แต่ละปีค่อยๆ ผ่านไปและเพลิดเพลินไปกับวัยชราของเขา
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเวลานี้หลานสาวของเขาอันหมิงเยว่ ก็ได้ขอพบกับเขาอย่างกะทันหัน
เธอบอกว่าเธอได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งจากนี้อีกห้าปีข้างหน้า
แม้ว่าจิตใจของอันเซวียนจะยังสับสนเล็กน้อย
แต่เมื่อมองดูใบหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจังของหลานสาว อันเซวียนก็ไม่ได้โต้แย้งทันที
ตัวเขาเองก็ได้กลับมาเกิดใหม่ แล้วทำไมเขาถึงจะไม่เชื่อว่าหลานสาวของเขากลับมาเกิดใหม่ไม่ได้
อันหมิงเยว่ที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้าเป็นกังวล
หลังจากได้กลับมาเกิดใหม่แล้ว!
สิ่งแรกที่เธอต้องการคือการบอกความลับกับคุณปู่ของเธอ
เผชิญหน้ากับทุกสิ่ง!
ในชีวิตนี้ไม่ว่าจะเลวร้ายขนาดไหนตระกูลของเธอก็ไม่สามารถจะทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกได้
เธอเกิดที่เมืองอวิ๋นเฉิงและได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีนับตั้งแต่เธอเกิดมา
แต่น่าเสียดายที่ในปีนั้นเธอเพิ่งได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้
ทว่าข่าวร้ายที่สุดก็ได้มาถึง!
หลังจากนั้นเธอฝึกฝนอย่างเงียบๆ และต้องการแก้แค้นให้ตระกูล
แต่ก็น่าเสียดายที่คุณสมบัติการต่อสู้ของเธอนั้นไม่ได้ดีนัก
ถึงแม้ว่าที่สุดแล้วเธอจะไม่ได้กลายเป็นผู้ทรงพลังที่แท้จริง
แต่เมื่อเธอได้เข้าต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ เธอก็สู้จนถึงที่สุด และสุดท้ายเธอก็ได้ระเบิดตัวเองก่อนตาย...
และเธอก็ไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะได้กลับมาเกิดใหม่จากห้าปีก่อน!
ในขณะที่ความคิดของอันหมิงเยว่กำลังตีกัน ในที่สุดอันเซวียนก็เข้าใจการเผชิญหน้าของหลานสาว
“เยว่เอ๋อร์ หลานช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับห้าปีข้างหน้าให้ปู่ฟังมาได้ไหม”
หลังจากที่อันเซวียนสับสนเล็กน้อยในตอนแรก เขาก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและพูดออกมา
เมื่อเสียงนั้นเงียบลง ใบหน้าของอันหมิงเยว่ก็แสดงถึงความยินดี
คุณปู่เชื่อในคำพูดของเธออย่างชัดเจน!
จากนั้นอันหมิงเยว่ก็รีบบอกทุกอย่างเกี่ยวกับอีก 5 ปีข้างหน้า
อีก 1 ปีต่อจากนี้ พลังวิญญาณของโลกจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่
สัตว์ร้ายจากต่างดาวเริ่มกลายพันธุ์ในระดับใหญ่และยุคแห่งศิลปะการต่อสู้ก็มาถึง!
ในเวลานั้นพันธมิตรนักสู้ต้าเซียได้ก่อตั้งขึ้น และในเวลาเดียวกันวิธีฝึกฝนปราณโลหิตก็ได้รับการประกาศใช้!
ศิลปะการต่อสู้จะถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับ ตั้งแต่ระดับต่ำสุด ระดับที่ 1 จนถึงระดับสูงสุด ระดับที่ 9
ระดับ 7 นั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ ส่วนระดับที่แปดนั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นราชา และระดับที่เก้าถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของโลก
แต่ว่าบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในต้าเซียช่วงเวลานั้น เป็นเพียงปรมาจารย์ระดับที่ 7 เท่านั้น
จนกระทั่งก่อนเธอกลับมาจากการเกิดใหม่ ต้าเซียจึงได้บรรลุจุดสูงสุดของมนุษย์เป็นครั้งแรก
แม้ว่าด้วยการเติบโตของศิลปะการต่อสู้ แต่ว่าสัตว์กลายพันธุ์ก็มีจำนวนที่มากกว่า
ภูเขาที่ลึกและป่าเก่าหลายแห่งรวมถึงสถานที่ใกล้ทะเลกลายเป็นพื้นที่หวงห้าม
แม้ว่าจะมีนักสู้จำนวนมาก แต่การฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ไม่สามารถตามทันความเร็วของการกลายพันธุ์ของสัตว์กลายพันธุ์ได้
มนุษย์ทำได้เพียงอยู่แต่ในเมืองเท่านั้น
และที่เมืองอวิ๋นเฉิงตั้งอยู่เองก็มีภูเขาและป่าลึกหลายแห่งทางตะวันตกเฉียงใต้
และยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่ผู้คนยังไม่เคยไปเยือน
ไม่มีใครรู้ว่ามีสัตว์ร้ายชนิดใดซ่อนอยู่
หลังจากผ่านไปสามปี สัตว์กลายพันธุ์ก็รวมตัวเป็นคลื่นและบุกโจมตีเมืองอวิ๋นเฉิง
ปรากฏว่ามีสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 7 ได้ปลุกระดมเพื่อแก้แค้นมนุษย์
สัตว์กลายพันธุ์ระดับ 7 คือการไปถึงระดับสูง สัตว์ร้ายระดับนี้มีภูมิปัญญาเทียบเท่ามนุษย์
เมืองอวิ๋นเฉิงมีผู้พิทักษ์ระดับสูงสุดเพียงระดับ 6
ถึงจะขอความช่วยเหลือไปที่ต้าเซียแต่มันก็สายเกินไปแล้ว
เมืองอวิ๋นเฉิงที่มีประชากรนับสิบล้านคนต้องต่อสู้จนชีวิตสุดท้าย
ไม่มีใครรอดชีวิตแม้แต่น้อย กลายเป็นความเจ็บปวดครั้งใหญ่ที่สุดในต้าเซีย!
และตระกูลอันก็ไม่รอดเช่นกัน
มีเพียงอันหมิงเยว่ผู้ซึ่งได้รับการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เท่านั้นที่สามารถรอดชีวิตได้
หลังจากที่พลังวิญญาณฟื้นคืน ความมั่งคั่งของตระกูลอันก็หดตัวเหลือไม่ถึง 1% ของมูลค่าเดิม
ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเงินในยุคศิลปะการต่อสู้
แม้แต่เศษกระดาษเหลือใช้ก็ยังดีกว่า
ทรัพยากรด้านศิลปะการต่อสู้หลายอย่างไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
มีเพียงหินวิญญาณที่สามารถช่วยในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ตระกูลอันในยุคศิลปะการต่อสู้นั้นล้าหลังตั้งแต่เริ่มต้น
แม้พวกเขาว่าจะมีทรัพย์สมบัติแต่ก็ลังเลที่จะแลกเปลี่ยนทรัพยากรบางอย่าง
และสุดท้ายมันก็ไม่สามารถยั่งยืนได้!
ท้ายที่สุดก็ถึงคราวล่มสลาย
“คุณปู่ แม้มันอาจจะใช้เป็นแนวทางการพัฒนาในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ได้ไม่มาก”
“แต่ก่อนจะเกิดใหม่ หนูก็สามารถบรรลุระดับนักศิลปะการต่อสู้ระดับ 3 ได้”
อันหมิงเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
ก่อนเกิดใหม่เธอไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง
แม้กระทั่งในหมู่นักสู้ก็ถือได้ว่าเป็นชนชั้นกลางเท่านั้น
ไม่มีสิ่งใดที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ สิ่งเดียวที่สามารถถือเป็นความสำเร็จได้คือความพยายามของเธอเท่านั้น
อันเซวียนตบไหล่หลานสาวเพื่อปลอบใจ!
แม้ว่าอันหมิงเยว่จะพูดอย่างไม่ใส่ใจก็ตาม
แต่มันต้องไม่ง่ายอย่างนั้น!
โดยเฉพาะหลังจากการเสียชีวิตของทุกคนในตระกูลอัน เขาหวาดหวั่นว่าหลานสาวคนนี้จะต้องพบกับความยากลำบากที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ไม่มีใครให้พึ่งได้ นอกจากตัวเธอเอง
ยุคแห่งศิลปะการต่อสู้นั้นถือเป็นยุคมืดจริงๆ
เขาไม่รู้ว่าในยุคนี้มีคนกี่คนในต้าเซียที่ถูกฝังอยู่
"แล้วหลานรู้หรือเปล่าว่าปู่ตายได้ยังไง?!"
อันเซวียนยังได้พบบางอย่างในคำพูดของอันหมิงเยว่
ไม่มีเกี่ยวกับอนาคตของเขา
แม้ว่าจะไม่น่าจะสูงมากนัก แต่อันเซวียนก็อดสงสัยไม่ได้
ตลอดชั่วอายุทั้งสองชีวิตเขา อันเซวียนได้เปิดกว้างมาก
เมื่อได้ยินคำถามของคุณปู่ อันหมิงเยว่ก็แสดงสีหน้าสับสนออกมา
“อีก 1 ปีต่อจากนี้ พลังวิญญาณได้ระเบิดขึ้น!”
"มันเป็นโอกาสสำหรับนักสู้และเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งทางร่างกาย"
"แต่ว่า...มันก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนบางคนที่มีร่างกายอ่อนแอ"
“แต่ว่าคุณปู่ ถ้าคุณปู่ฝึกฝนดีๆ มันจะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนในอีกหนึ่งปีข้างหน้า”
-
เมื่อได้ยินอันหมิงเยว่พูดอย่างนั้น อันเซวียนก็เข้าใจแล้ว
พลังวิญญาณเป็นยาที่ดีสำหรับนักสู้ แต่กลับเป็นพิษต่อร่างกายที่อ่อนแอบางคน
ซึ่งไม่สามารถทนต่อความปั่นป่วนที่เกิดจากพลังวิญญาณได้
สุดท้ายแล้ว เขากลัวว่าแก่นชีวิตของเขาคงจะหมดสิ้นไป!
ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า แม้ว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับความตายของตัวเอง อันเซวียก็ยังคงสงบมาก
เพราะเมื่อหลานสาวเขาได้กลับเกิดมาใหม่ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
อันหมิงเยว่ที่อยู่ข้างๆ ก็ชื่นชมความสงบบนใบหน้าปู่ของเธอเช่นกัน
เธอกำหมัดแน่น ในชีวิตนี้เธอไม่อยากให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอีก