ตอนที่ 15 ผู้อาวุโสสองร่ำไห้ การทุบตีเพื่อเพิ่มความกตัญญู
ตอนที่ 15 ผู้อาวุโสสองร่ำไห้ การทุบตีเพื่อเพิ่มความกตัญญู
“ติ๊ง ผู้อาวุโสหนึ่ง ลู่หยวนได้รับ ‘เลือดเต่ามังกร’ แต้มบุญ +1,000”
“ติ๊ง ผู้อาวุโสหนึ่ง ลู่หยวนได้เข้าใจวิชาของปรมาจารย์เซียวซานเซียว แต้มบุญ +1,000”
“ติ๊ง ผู้อาวุโสหนึ่ง ลู่หยวนได้เข้าใจวิชา ‘ปราณหวนคืน’ แต้มบุญ +600”
“ติ๊ง ผู้อาวุโสหนึ่ง ลู่หยวนได้รับ ‘ดาบเหมันต์’ แต้มบุญ +500”
ผู้อาวุโสใหญ่ ลู่หยวนก็ได้รับสิ่งต่าง ๆ มากมาย ซึ่งคล้ายกับผู้อาวุโสสาม แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับโพธิโลหิต แต่เขาก็ได้รับวิชาที่ทรงพลังอย่างปราณหวนคืน
“ติ๊ง สมาชิกตระกูลลู่ ลู่เหยาได้ตระหนักถึง ‘จิตสงัดเงียบ’ แต้มบุญ +500”
“ติ๊ง สมาชิกตระกูลลู่ ลู่เหยาได้รับ ‘ขาเทพวายุ และฝ่ามือไล่เมฆา’ แต้มบุญ +500”
“ติ๊ง สมาชิกตระกูลลู่ ลู่เหยาได้รับ ‘ภูเขาหมื่นชั่ง’ แต้มบุญ +1,000”
“ติ๊ง สมาชิกตระกูลลู่ ลู่เหยาได้รับ ‘มังกรหยวน’ แต้มบุญ +1,200”
"ติ๊ง สมาชิกตระกูลลู่ ลู่เหยาได้รับ ‘สัตว์มงคลทั้งสี่’ แต้มบุญ +2,000"
หลังจากที่ลู่เหยาผสานรวมเข้ากับมังกรหยวน ความแข็งแกร่งของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หากไม่ใช่เพราะรากฐานของเธอยังไม่เพียงพอ เธออาจจะสามารถทะลวงผ่านขอบเขตวิญญาณแรกเริ่มได้โดยตรง และกลายเป็นเสาหลักของตระกูลลู่
สำหรับผู้อาวุโสสอง เนื่องจากเขายังคงไม่ให้ความเคารพต่อลู่ซุนมากนัก สิ่งที่ได้รับจึงน้อยที่สุด และความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ เขาก็ยังตามหลังอยู่มาก
“ทำไมกัน? ทำไมดูเหมือนมีข้าที่แปลกแยกอยู่คนเดียว” ผู้อาวุโสสองร่ำไห้ด้วยสีหน้ายับย่น
“ฮึ่ม นั้นก็เพราะเจ้าต้องการปรับแต่งข้าให้เป็นศพสงคราม ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้าเป็นทายาทของข้า ข้าคงทึ้งผมทั้งหัวของเจ้าไปแล้ว!” ลู่ซุนตะคอกอย่างเย็นชา แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีทางได้ยิน เขาก็ได้วางแผนที่จะสั่งสอนลูกหลานที่ดื้อรั้นคนนี้ไว้แล้ว
ชายคนนี้เป็นคนที่เคารพเขาน้อยที่สุดในตระกูล แย่ยิ่งกว่าเด็กรุ่นหลังที่โง่เขลาพวกนั้นด้วยซ้ำ!
“ผู้อาวุโสสอง ข้าไม่ได้บอกท่านหรอกเหรอว่าท่านจะได้รับสิ่งดีๆ ก็ต้องเมื่อเคารพบรรพบุรุษมากพอ ทำไมท่านถึงไม่ฟัง?” ลู่ซวนถอนหายใจเบาๆ นับตั้งแต่บรรพบุรุษได้เข้าฝันเขา เขาก็มีความเคารพในตัวบรรพบุรุษมากขึ้นเรื่อยๆ
เขารู้สึกว่าที่เขาได้รับสิ่งดีๆ มากมายในครั้งนี้ก็เพราะเขาเคารพในตัวบรรพบุรุษ
ผู้อาวุโสสองยังคงไม่พอใจเล็กน้อย บรรพบุรุษได้ตายไปหลายปีแล้ว หากอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ ตระกูลลู่จะถดถอยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ลู่ซุนก็เห็นสิ่งที่ผู้อาวุโสสองกำลังคิดจึงเยาะเย้ย
เด็กน้อย เกรงว่าเจ้าไม่เคยประสบกับสิ้นหวังอย่างแท้จริง เจ้าถึงกล้าหยิ่งผยองถึงขนาดนี้
ดังนั้น ในคืนนั้น ลู่ซุนจึงเดินทีละก้าวไปยังห้องของผู้อาวุโสสอง มองไปที่ลู่ซานที่กำลังหลับอยู่ และหัวเราะเบาๆ
แม้จะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะ แต่ก็เหมือนรู้สึกได้ ร่างกายของผู้อาวุโสสองสั่นเทาเล็กน้อย เขาห่อตัวเองด้วยผ้าห่มโดยไม่รู้ตัว และหลับลึก
ลู่ซุนดำดิ่งสู่ความฝันของผู้อาวุโสสองโดยตรง เขามองไปที่ผู้อาวุโสสองที่อยู่ตรงหน้า และรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาก็เปิดกว้างมากขึ้น
“บรรพบุรุษ?” เมื่อผู้อาวุโสสองได้พบกับลู่ซุน เขาสับสนเล็กน้อย นี่เขากำลังฝันอยู่หรือเปล่า?
ลู่ซุนไม่คิดจะพูดเรื่องไร้สาระอะไรกับอีกฝ่าย เขาแค่สะบัดข้อมืออย่างไม่ตั้งใจ และจู่ๆ แส้ยาวที่ปกคลุมไปด้วยหนามก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
“บรรพบุรุษ ท่าน...ท่านจะทำอะไร” ผู้อาวุโสสองตัวสั่น และถอยหลังไปสองสามก้าว
“เจ้ากล้าดูหมิ่นข้า และต้องการปรับแต่งข้าให้กลายเป็นศพสงคราม วันนี้ ข้าจะทุบตีลูกหลานสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย!” ลู่ซุนก้าวไปข้างหน้า และแส้ยาวในมือของเขาก็ส่งเสียงวี๊ดวิ้วราวกับมังกรฟาดอย่างแรงบนร่างของผู้อาวุโสสอง
"อั่ก!"
เสื้อผ้าของผู้อาวุโสสองระเบิด และมีรอยเลือดที่น่าสยดสยองปรากฏบนหลังของเขา สีหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ลู่ซุนสบัดแส้ที่เหมือนหางมังกรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสสองร่ำไห้เรียกหาพ่อแม่ ร้องขอความเมตตา และร้องไห้อย่างขมขื่น
แต่ลู่ซุนไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แส้ในมือของเขายิ่งสบัดแรงขึ้นเรื่อยๆ และรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงแค่ความฝัน ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถฆ่าใครได้ แต่มันก็ทำให้เขาได้อิ่มเอิบใจกับการสั่งสอนเลือดชั่วคนนี้
“ดูเหมือนพ่อแม่จะไม่ค่อยสั่งสอนเจ้านัก วันนี้ข้าบรรพบุรุษจะสั่งสอนเจ้าเอง!!!”
ผิวหนัง และเนื้อของผู้อาวุโสสองถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เขากรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวราวกับกระดาษที่ถูกขยุม และดูน่าสังเวชอย่างยิ่ง
“บรรพบุรุษ ข้าผิดไปแล้ว หยุดทุบตีข้าซะทีเถิด! ถ้าท่านยังทุบตีข้าอีก ข้าอาจจะตายจริงๆ!” ผู้อาวุโสสองส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด เขารู้สึกว่าตนเหมือนกำลังจะตายจริงๆ
“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่ายังไงข้าก็ยังเป็นบรรพบุรุษของเจ้า ข้าจะไม่ฟาดเจ้าให้ตายจริงๆ” ลู่ซุนเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในการทุบตีเขา และแส้ในมือของเขาไม่หยุดเมื่อเขาพูดแบบนี้
ลู่ซุนทรมานผู้อาวุโสสองตลอดทั้งคืน จนกระทั่งผู้อาวุโสสองเกือบจะสติแตก จากนั้นเขาก็จากไปด้วยความพึงพอใจ
เหลือเพียงผู้อาวุโสสองเท่านั้นที่นอนอาบเลือดอย่างน่าสมเพชอยู่ที่มุมห้อง ตะลึงกับการถูกทุบตี
วันรุ่งขึ้น ทุกคนค้นพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับท่าทีของผู้อาวุโสสอง
ใบหน้าของเขาซีดมาก เขาเดินไม่มั่นคง และเขาไม่ค่อยพูดเมื่อพบผู้คน เขาดูเหมือนศพเดินได้
“ผู้อาวุโสสอง ท่านสบายดีไหม” ศิษย์ตระกูลลู่ถามอย่างระมัดระวัง
ผู้อาวุโสสองไม่มีความคิดที่จะสนใจคนอื่นๆ เขารวบรวมกำลังทั้งหมด เดินออกไป และในที่สุดก็เดินไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษ
“บรรพบุรุษ ข้ามาที่นี่เพื่อแสดงความเคารพต่อท่าน!” ผู้อาวุโสสองสูดลมหายใจเข้าลึก และโค้งคำนับป้ายวิญญาณของลู่ซุนสองสามครั้ง จากนั้นก็ปักธูปอีกสองสามดอก
จากนั้นผู้อาวุโสสองก็หันหลัง และจากไป
“ติ๊ง ผู้อาวุโสสอง ลู่ซานแสดงความเคารพต่อโฮสต์ แต้มบุญ +50”
"???" รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของลู่ซุน
ดี อย่างน้อยในใจของเจ้าก็มีความเคารพต่อข้าเพิ่มมากขึ้น แต่น่าเสียดายดูเหมือนจะยังไม่มากพอ
ดังนั้น ในคืนนั้น ลู่ซุนก็กลับไปหาผู้อาวุโสสองอีกครั้ง
เพียงคราวนี้ ลู่ซุนไม่ได้ใช้แส้ แต่ทุบตีอีกฝ่ายด้วยมือเปล่า
“ผู้อาวุโส... บรรพบุรุษ ทำไมท่านถึงมาที่นี่อีกล่ะ? ข้าได้ทำตามที่ท่านต้องการแล้วมิใช่เหรอ?” หลังจากที่เห็นลู่ซุน ขนทั่วร่างของผู้อาวุโสสองก็ตั้งขึ้น พร้อมกับสีหน้าหวาดกลัว
“เพื่อตอบแทนความกตัญญูของเจ้า บรรพบุรุษอย่างข้าจะมาที่นี่เพื่อให้รางวัลเจ้ายังไงล่ะ” ลู่ซุนเดินเข้าไปหาผู้อาวุโสสองทีละก้าว และทันใดนั้นก็ชกเข้าที่เบ้าตาของอีกฝ่าย
“โอ๊ย!” ผู้อาวุโสสองตะโกนด้วยความเจ็บปวด และดวงตาของเขาก็กลายเป็นสีฟ้าจากการถูกต่อย
“เจ้ายังกล้าที่จะกรีดร้องอีกเหรอ? ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายเลยไอ้สารเลว! เจ้าคิดว่าจะหลอกข้าได้งั้นรึ ด้วยท่าทีไม่ได้มาจากใจจริงนั่นน่ะเหรอ?” ลู่ซุนเตะ และต่อยผู้อาวุโสสองอย่างหนักหน่วง เขาแทบจะทำให้อีกฝ่ายคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นคืนที่ ‘นอนไม่หลับ’ อีกคืนหนึ่ง และในความฝันมีเพียงเสียงหมัดที่กระทบเนื้อหนัง และเสียงครวญครางของผู้อาวุโสสองที่น่าสงสาร
หลังจากสนุกสนานไปหลายชั่วโมง ลู่ซุนก็ปัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่จริงออกจากมือ และจากไปอย่างพึงพอใจ
ในวันที่สาม ลู่ซุนกลับมาอีกครั้งตามที่คาดไว้
ช่วยไม่ได้ ดูเหมือนลู่ซานจะไม่สำนึกผิด? แม้ว่าแต้มบุญจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเพียงหนึ่งร้อยเท่านั้น ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะยังไม่เคารพในตัวเขามากเพียงพอ!
“บรรพบุรุษ โปรดหยุดตบหน้าข้าได้หรือไม่…” ผู้อาวุโสสองถามอย่างระมัดระวัง
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่คิดจะตบหน้าเจ้า” ลู่ซุนพยักหน้า แล้วตบไปที่ปากของลู่ซาน
ปัง
เสียงที่คมชัด และหนักหน่วงดังขึ้นเป็นจังหวะดั่งเสียงกลอง
ลู่ซุนเพิกเฉยต่อสายตาไม่พอใจของผู้อาวุโสสองโดยสิ้นเชิง และตบต่อไป สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขมากขึ้น และมากขึ้นไปอีก
ดังคำพูดที่ว่า ไม้เท้าของคนเฒ่า ดีกว่าลูกเต้าอกตัญญู ลู่ซุนรู้สึกว่าเขาเข้าใจแก่นแท้ของคำพูดนี้แล้ว!