ตอนที่แล้วบทที่ 534 เหตุใดสตรีชอบทำเรื่องยุ่งยาก?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 536 เผ่ามังกรชางหลาน

(ฟรี) บทที่ 535 ผู้นำนิกายที่เขินอายและโกรธเกรี้ยว


พายุสิ้นสงบลงแล้ว

เมื่อมองดูคนสองคนตรงหน้า เหล่าศิษย์ก็สับสนเล็กน้อย

พวกเขาเห็นเหลิงอู่เหยียนยืนอยู่ที่เดิม แก้มสวยของนางแดงขึ้นเล็กน้อย นางไม่เพียงไม่โกรธแต่กลับดูเขินอายอีกด้วย

และหลี่หรานก็ยืนเคียงข้างด้วยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า มีสิ่งมีชีวิตแปลกๆนอนอยู่บนไหล่ของเขา เอาอุ้งเท้าของมันปิดตาตนเอง

พวกเขาเป็นเหมือนคู่รัก ดูมีความเข้ากันอย่างอธิบายไม่ได้

ศิษย์หญิงที่กังวลเกี่ยวกับหลี่หรานก่อนหน้านี้อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

ท่าทางของผู้นำนิกาย... ดูเหมือนจะผิดไปเล็กน้อย!

“เจ้าไม่ได้บอกว่าผู้นำนิกายโกรธหรอกเหรอ? ดูยังไงนางก็ค่อนข้างมีความสุขชัดๆ”

ศิษย์หญิงอีกคนดูงุนงงและอดไม่ได้ที่จะถามเสียงต่ำ

คนอื่นๆก็สับสนเล็กน้อยเช่นกัน

“ก่อนหน้านี้ผู้นำนิกายโกรธมาก ยอดเขาหิมะโปรยทั้งหมดล้วนสั่นสะเทือน!”

“ใช่ ข้าเห็นสีหน้าของผู้นำนิกายในเวลานั้นด้วยซ้ำ”

“ข้าก็เหมือนกัน แต่ตอนนี้นางดูจะอารมณ์ดีแล้ว”

“ไม่รู้ว่าผู้นำนิกายและบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ทำอะไรกันท่ามกลางพายุ...”

“หุบปากเดี๋ยวนี้!”

เหล่าศิษย์คุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา

เมื่อได้ยินพวกเขา ใบหน้าที่สวยงามของเหลิงอู่เหยียนก็อดไม่ได้ที่จะแดงขึ้น และนางก็จ้องมองไปที่หลี่หรานอย่างคาดโทษ

“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้าหมอนี่...”

เมื่อนึกถึงสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น นางกัดริมฝีปากไว้โดยไม่รู้ตัว โดยหวังว่าจะเจอรอยแตกบนพื้นแล้วแอบเข้าไป

แม้ว่าก่อนหน้านี้พายุจะปกคลุมไปด้วยหิมะและบดบังสายตาของผู้อื่น แต่ภายใต้การรายล้อมของผู้คน การกระทำเอาแต่ใจของเขาก็ยังทำให้เหลิงอู่เหยียนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

นางซ่อนมือเปล่าไว้ด้านหลังและหยิกเอวหลี่หรานอย่างเงียบๆ

แม้ว่าริมฝีปากจะไม่ขยับ แต่ก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความเขินอายและโกรธเคืองดังก้องอยู่ในหูของเขา “มันเป็นความผิดของเจ้า!”

ใบหน้าของหลี่หรานเปลี่ยนเป็นสีเขียวจากความเจ็บปวด

แต่เมื่อมีคนจำนวนมากจับตามอง เขาทำได้เพียงกัดฟันและนิ่งเงียบ

เขาพบว่าอาจารย์ชอบที่จะหยิกผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว ดูเหมือนว่าอาจารย์ชิงหลันก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน

นี่อาจเป็นงานอดิเรกพิเศษของจักรพรรดินีหรือเปล่า?

เมื่อเหลิงอู่เหยียนบิดเนื้อนุ่มรอบเอวของเขาเป็นครั้งที่สาม ในที่สุดหลี่หรานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

เขาใช้เสื้อคลุมขนาดใหญ่เพื่อบดบังสายตา จากนั้นก็โจมตีและรีบวางมือซ้ายบนเอวเรียวของนางโดยตรง

“อ๊ะ!”

ร่างกายของเหลิงอู่เหยียนแข็งค้างอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นแก้มของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ใบหูส่วนล่างสีขาวเหมือนหิมะกลายเป็นสีชมพูที่มีเสน่ห์

“ศิษย์อกตัญญู เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”

นางกัดฟันแต่ไม่กล้าส่งเสียง

นางต้องการที่จะเหินกายจากไปโดยตรง แต่ไม่สามารถรวบรวมความแข็งแกร่งในร่างกายออกมาได้

หลี่หรานยิ้มอย่างสดใสและพูดผ่านกระแสจิต “ท่านอาจารย์ ครั้งนี้ท่านช่วยพิจารณาข้อเสนอของศิษย์อย่างจริงจังได้ไหม?”

“ฮึ่ม ผู้นำนิกายคนนี้จะไม่...”

ก่อนที่จะพูดจบ ขาและเท้าของนางก็อ่อนลงเล็กน้อย จนนางเกือบจะนั่งลงบนพื้นโดยตรง

“ผู้นำนิกาย ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?”

ผู้ดูแลที่อยู่ด้านข้างถามด้วยความกังวล “สีหน้าของท่านดูไม่ค่อยดีนัก”

“ข้าสบายดี...”

เหลิงอู่เหยียนส่ายหัว ดวงตาของนางเอาแน่เอานอนไม่ได้เล็กน้อย

“ศิษย์อกตัญญู มีคนดูอยู่ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”

นางกัดริมฝีปากด้วยความละอายใจและกระทืบเท้าอย่างลับๆ “ข้ายอมรับข้อเสนอของเจ้า!”

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางคงทำให้ตัวเองอับอายจริงๆ!

หลี่หรานถอนมือออกเงียบๆอย่างรวดเร็ว เขายิ้มพลางกล่าว “ขอบคุณสำหรับการสั่งสอนของท่านอาจารย์ ข้ายังต้องกลับไปฝึกฝนต่อ ศิษย์คนนี้ไม่รบกวนเวลาท่านแล้ว”

“......”

แม้ว่าเหลิงอู่เหยียนจะรู้สึกละอายใจและขุ่นเคืองอย่างมากในใจ แต่นางก็ไม่สามารถลงมือต่อหน้าทุกคนได้

นางเหินกายจากไปพร้อมด้วยเสียงฮึดฮัดเบาๆ พลางหันมามองหลี่หรานด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

หลี่หรานเฝ้าดูนางจากไปและเช็ดเหงื่อเย็นด้วยมือของเขา

“เกือบไปแล้ว... โชคดีที่ข้ามีไหวพริบ”

หากเขาไม่อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนในตอนนี้หรือปล่อยให้อาจารย์จากไปด้วยความโกรธ ผลที่ตามมาคงจินตนาการไม่ได้จริงๆ!

ตัวเขาเองสบายดี แต่ชีวิตของเจ้าหญิงทั้งสองจะตกอยู่ในอันตราย

แม้ว่าตอนนี้เหลิงอู่เหยียนจะไม่สงบ แต่ตามความเข้าใจของหลี่หราน นางไม่ควรต้องการฆ่าพวกเขาอีกต่อไป

เหล่าศิษย์เฝ้าดูผู้นำนิกายจากไป และในที่สุดบรรยากาศที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลง

“ปรากฎว่าผู้นำนิกายไม่ได้โกรธ แต่เพียงสั่งสอนบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่เกี่ยวกับการฝึกฝน?”

“อืม มันควรจะเป็นเช่นนั้น”

“ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำนิกายและบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่กลมกลืนกันมาโดยตลอด จู่ๆพวกเขาจะมีปัญหากันได้อย่างไร”

“ควรจะเป็นเพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่พึ่งทะลวงระดับใหม่และผู้นำนิกายก็สำแดงเกี่ยวกับเต๋าให้เขาได้ชม”

*****

“โอ้!”

เห็นเหลิงอู่เหยียนจากไป ไข่มังกรก็ฟื้นคืนจิตวิญญาณ

อุ้งเท้าน้อยๆออกท่าทางพลางส่งเสียงคำรามด้วยความขุ่นเคืองอันชอบธรรม

ราวกับจะบอกว่าสตรีนางนั้นรุนแรงเกินไปและอารมณ์ร้าย ไม่เหมือนกับข้าที่มีเพียงความรู้สึกสงสารพี่ใหญ่เท่านั้น~

มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนขี้ขลาดก่อนหน้านี้

มันลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าเมื่อมันถูกถือไว้ในมือของอีกฝ่าย มันไม่กล้าแม้แต่จะผายลมด้วยซ้ำ

“โอ้ ทำไมเจ้าไม่พูดต่อหน้านางเมื่อกี้ล่ะ”

หลี่หรานแสดงความดูถูกพฤติกรรมสองหน้าของมัน

ไข่มังกรท้าวเอวแล้วคำรามออกมาเบาๆ “(มันเป็นเพียงการล่าถอยเชิงยุทธวิธีเท่านั้น เผ่ามังกรผู้สูงศักดิ์ย่อมไม่กลัวศัตรูใดๆ!)”

“......” หลี่หรานลูบคิ้วของเขา

ทำไมรู้สึกเหมือนไข่มังกรนี้ไร้ยางอายขึ้นเรื่อยๆ?

นี่เป็นมรดกจากสายเลือดด้วยหรือเปล่า?

หรือว่ามันทำตามสิ่งที่เห็นและได้ยิน...

“ใช่แล้ว” เขาคิดอะไรบางอย่างได้พลางถาม “เจ้าฟักออกมาสักพักแล้วแต่ข้ายังไม่รู้ชื่อเจ้าเลย”

“โอ้!” ดวงตาของไข่มังกรก็มึนงงเล็กน้อยเช่นกัน

หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน ในที่สุดหลี่หรานก็นึกออก

เผ่ามังกรมีความคล้ายคลึงกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาทั้งหมดตั้งชื่อตามบิดามังกรผู้ให้กำเนิดหรือตามชื่อมังกรคู่หู

ในประเด็นนี้ เผ่ามังกรมีความเข้มงวดมากกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์

เพราะชื่อนี้ไม่ได้เป็นเพียงชื่อธรรมดาสำหรับพวกเขาเท่านั้น เมื่อชื่อนี้เป็นที่รู้จัก มันจะถูกตรึงไว้ในสายเลือด เป็นตราที่จะคงอยู่ตลอดชีวิต และยังสามารถกระตุ้นพลังงานที่อยู่ลึกลงไปในสายเลือดได้อีกด้วย

นี่เป็นพิธีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเผ่ามังกร

หลี่หรานส่ายหัว “ข้าขอโทษ ข้าไม่พบเผ่าพันธุ์เดียวกับเจ้าที่นี่ และไม่มีหนทางที่จะจัดพิธีตั้งชื่อให้กับเจ้า”

ไข่มังกรนี้มาจากดินแดนสังสารวัฏ

อาจมีมังกรอยู่ในดินแดนอันกว้างใหญ่ แต่ผู้รอดชีวิตสมัยโบราณเหล่านั้นซ่อนตัวลึกมากและไม่ปรากฏตัวมาหลายปีแล้ว มันไม่สมจริงเลยที่จะช่วยตามหาญาติของมัน

“โอ้...”

ไข่มังกรราวกับจะไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะพบเจอเผ่าพันธุ์เดียวกันแล้ว แต่มันก็ยังต้องอยู่เคียงข้างหลี่หราน…

มันเอียงหัวเพื่อมองหลี่หราน ไม่รู้ว่าคิดอะไร จากนั้นก็ส่งเสียงอย่างเขินอายเล็กน้อย “(เช่นนั้นท่านตั้งชื่อให้ข้าเป็นไง?)”

“ข้า?” หลี่หรานผงะอยู่ครู่หนึ่งแล้วเกาหัว “นี่ค่อนข้างไม่เหมาะสมใช่ไหม?”

“(ทำไมล่ะ?)”

“ข้าไม่ใช่พ่อของเจ้า”

/////