บทที่ 620 : สิ่งที่ยังเหลืออยู่ (6)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 620 : สิ่งที่ยังเหลืออยู่ (6)
“มีแผนมันยังไง?”
“ฉันจะส่งแผนภายในเย็นนี้ ฝากตรวจสอบด้วยนะคะ”
“ใช่ มาวางแผนให้มันเป็นไปได้กันเถอะ!”
ยูเน็ตกระแอมอย่างเคอะเขิน ก่อนจะหันไปมองเซริส
“เนื้อหาในแผนมี 'ไรก็ได้' ด้วยหรือเปล่า?”
“เอ่อ…ใช่”
“ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่คล้ายกับที่ฉันคิดไว้ ใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ”
“ขอบอกไว้ก่อนนะ ถ้าแผนล้มเหลว…พวกเราอาจจะไม่รอด”
เซริสหรี่ตาลง
ถ้าต้องตกนรกคนเดียว เธอคงไม่ลังเล
แต่ภารกิจนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของทุกคน
“หากมีใครอยากกลับบ้านก็ยกมือขึ้น ฉันจะไม่โต้แย้งใดๆ แม้ว่าเราจะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อท่านนายท่าน แต่พวกเธอก็มีชีวิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน นายท่านคงเข้าใจดี”
“มีชีวิตของตัว…งั้นเหรอ?”
“ตอนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วนะ”
เซริสมองย้อนกลับไปที่เพื่อนในทีมของเธอ
ไม่มีใครตอบอะไรกลับมา
พวกเขาเพียงแค่มองมาที่เซริสด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
'ชะตากรรมของเราถูกกำหนดไว้แล้ว'
ยกเว้นคนคนหนึ่ง
“ว่าแต่พี่ชายของฉันหายไปไหนล่ะเนี่ย?”
นิฮาคุพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางซ้ายทีขวาที
เพราะตอนนี้มีเพียงคนสี่คนเท่านั้นที่มารวมตัวกันในสวน
มันขาดไปหนึ่ง เขาคนนั้นควรจะอยู่ตรงนี้ด้วย
“ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากมูเดนเลยตั้งแตเขาที่ไปทาวน์เนีย เดิมทีเขาควรจะกลับมาภายในวันนี้”
เซริสมองไปรอบๆ
คำเชิญจากนิสเซลน่าจะถูกส่งต่อไปยังมูเดนแล้ว
แต่การที่เขาไม่ปรากฏตัวออกมานั้นหมายความว่า……
‘เขาคิดจะไปตามทางของตัวเองงั้นเหรอ’
เซริสยิ้มแห้ง
ผู้ชายคนนั้นมักจะพูดกับซีริสเสมอ
ว่าถ้าเขาหายไป อย่ามาตามหาเขา
“ฉันพยายามค้นหาเขาอีกครั้งแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่ที่นี่”
“นี่จะเป็นปัญหาแน่ ถ้าขาดไปคนหนึ่ง….”
เซริสส่ายหัว
“เราต้องเคารพการตัดสินใจของเขา ถ้าเขาตัดสินใจแล้ว สิ่งที่เราทำได้คือปล่อยเขาไป”
“แต่มันแปลกๆ น อย่างน้อยเขาก็ควรจะบอกลากันก่อน ไม่ใช่ว่าเราจะบังคับเขาซะหน่อย เราเห็นหน้ากันจนเบื่อแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เขาอาจจะติดสินใจโดยที่ไม่อยากให้เราเขาไปยุ่งเหรอเปล่า?”
รีเจียน ใช้ลิ้นดุนเพดานปาก
ความรู้สึกเศร้าและเสียปรากฏเต็มดวงตาของเขา
“ฉันเดาว่าผู้ชายคนนั้นถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว”
“ขีดจำกัด? นายหมายถึงอะไร?”
“นิฮาคุ ดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลัง”
เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกัน
เรื่องของมูเด็นค่อยไปสืบพรุ่งนี้ก็ได้
ถ้าเขาไม่อยู่ที่นี้ในตอนนี้ แต่ถ้าเขามาเข้าร่วมเเผนทีหลังก็ไม่เป็นไร
"เอาล่ะ"
เซริสดึงลาเวนเทียออกมา
ใบมีดสีแดงเปล่งประกายอย่างน่ากลัว
“นับตั้งแต่วินาทีนี้ พวกเรา 4 คนที่อยู่ที่นี่คือเพื่อนที่ร่วมชะตากรรม เราจะต้องบรรลุเป้าหมายอันดับแรกของเราก่อน”
“เป้าหมายนั้นก็คือ……”
“ช่วยนายท่าน”
มีเรื่องราวหลายอย่างที่ต้องแก้ไข
นายท่านโลกิที่สูญเสียความเป็นมนุษย์ของเขาไป
ปัญหาเศษชิ้นส่วนแห่งหายนะที่กองอยู่บริเวณชายแดน
จะไปที่นั่นได้อย่างไรในเมื่อไม่มีทางเข้า
เซริสจะทำยังเมื่ออยู่ต่อหน้านายท่าน?
'มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน'
คือเธอจะไม่หยุดก้าวไปข้างหน้า
เซริสยื่นลาเวนเทียออกมา
"ก็ได้"
รีเจียนเผยรอยยิ้มเย็นชาของเขาออกมา
“นานๆ ทีทำแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน”
แคร่ก
เสียงเหมือนมีดถูกดึงออกมาจากฝัก
ใบมีดสีเงินทรงโค้งวางทาบลงบนลาเวนเทีย
“ฉันจะไม่ยอมถอยอีกต่อไป”
ยูเน็ตเปิดหนังสือ
หนังสือแห่งนากัลฟาร์ถูกวางลงบนดาบ
“ฉันสงสัยว่าพี่เขาจะไม่มาจริงๆเหรอ?”
“…….”
“น่าเสียดาย แต่เอาอันนี้ก่อนแล้วกันค่ะ”
คันธนูที่ทำจากทองคำวางอยู่ด้านบนสุด
เซริสมองไปรอบๆทั้งสามทีละคน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะไม่ลังเลอีกต่อไป”
“ค่ะ”
“รับทราบ”
“แน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้น……”
ติ๊ง
เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น
เซริสคว้าวัตถุที่ลอยเข้ามาใกล้ใบหน้าของเธอ
'นี้มัน'
ตราเหล็กสีม่วง
ตรงกลางเข็มกลัดมีรูปแกะสลักอยู่
“……!”
เซริสมองไปข้างหน้า
ที่ทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ทางเข้าสวน
ชายหนุ่มถือหอกกำลังเดินเข้ามา
เมื่อมาถึงสวน ชายหนุ่มก็มองไปรอบๆ ทั้งสี่คนแล้วก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมา
“เอ๊ะ นั่นหอกอะไรน่ะ?”
นิฮาคุหันกลับมามองชายหนุ่มพร้อมกับอ้าปากกว้าง
“มันเป็นของจากน้องชายของฉัน! คุณไปเอามันมาจากไหน?”
“นี่คือสิ่งที่อาจารย์มูเด็นให้ผมมาครับ เขาบอกว่าเขาจะฝากมันไว้กับผม”
อารอนตอบไปตามตรง
"พี่…."
เซริสจ้องมองไปที่ชายตรงหน้าเธอ
มูเด็นคุยโวโอ้อวดถึงชายคนนี้มากเสียจนเธอรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร ถึงแม้จะเป็นการพบกันครั้งแรกก็ตาม
สายตาไม่หวั่นไหวนั้น เขามีเหมือนจะเป็นเด็กผู้ชายที่ดูร่าเริง แต่มีท่าทีที่จริงจังแฝงอยู่
เซริสเปิดปากของเธอพูดขึ้น
“ไหวไหม? หอกเล่มนั้นไม่เบาเลยนะ”
“ผมเตรียมใจมาแล้วครับ”
หากมูเดนมอบ ‘รูน’ ให้กับชายหนุ่มคนนี้จริงๆ เซริสก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
นิฮาคุที่ทำหน้าสับสนก็ทำสีหน้าจริงจัง
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงเรื่องของมูเดน
รู้ไหมทำไมทุกคนถึงมารวมกันที่นี้?”
"เพื่อช่วยพี่…"
อารอนแก้ไขคำพูดของตัวเองทันที
จากนั้นเขาก็หยิบหอกออกมาแล้ววางลงบนธนูบรูนัค
“มันเพื่อช่วยนายท่าน”
"ดีมาก"
เซริสยิ้มออกมา
“เพื่อนายท่าของเรา….”
และห้าเสียงก็ประสานรวมเป็นหนึ่งเดียว
"เพื่อชัยชนะ!"