ตอนที่ 14 ความลับของตระกูลลู่

ตอนที่ 14 ความลับของตระกูลลู่

“เฟิงหยุน?” ดวงตาของลู่ซุนฉายแววประหลาดใจ หนังสือเล่มนี้ดีกว่าหนังสือสองเล่มก่อนที่เขาได้รับมากมาย

มันไม่เพียงแต่มีอาวุธวิเศษเท่านั้น แต่ยังมีแก่นโลหิตมังกร และเลือดเฟิ่งหวงที่สามารถทำให้คนๆ หนึ่งเป็นอมตะได้ เช่นเดียวกับความลับ และสรรพวิชาที่ทรงพลังมากมาย

ทันทีที่ลู่ซุนคิดถึงเรื่องนี้ หนังสือโบราณก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นข้างๆ เขา

“หืม? นี่คืออะไร?” ฉีเหิงที่อยู่ใกล้ร่างของลู่ซุน ได้สังเกตเห็นหนังสือที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นในทันที

ฉีเหิงจึงเดินไปหาลู่ซุนอย่างไม่ลังเล หยิบหนังสือขึ้นมา และเริ่มอ่านมัน

“นี่คือนิยายเหรอ? ทำไมจู่ๆ มันถึงมาปรากฏที่นี่?” ฉีเหิงดูสับสน และจิตใจของเขาเต็มไปด้วยคำถาม

ในฐานะผู้ดูแลศพบรรพบุรุษ เขาเกือบจะกิน นอน และอาศัยอยู่ที่นี่ เขาดูแลลู่ซุนอย่างสุดใจ ยิ่งกว่าลูกหลานที่ไร้ยางอายของตระกูลลู่ด้วยซ้ำ

ฉีเหิงนั่งบนเก้าอี้ มองดูอย่างน่าหลงใหล จิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับมัน

ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ฉีเหิงได้อ่านหนังสือจบทั้งเล่มแล้ว

“ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนเขียนเรื่องนี้ แต่มันวิเศษมากจริงๆ” ชีเหิงพึมพำกับตัวเอง รู้สึกมึนเมาเล็กน้อย

แต่ในขณะนั้น การแสดงออกของฉีเหิงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ติ๊ง ผู้อาวุโส ฉีเหิงที่เข้าใจวิชา ‘หมื่นดาบหวนคืน’ แต้มบุญ +800”

“ติ๊ง ผู้อาวุโส ฉีเหิงได้รับ ‘ดาบวีรชน’ แต้มบุญ +500”

“ติ๊ง ผู้อาวุโส ฉีเหิงได้รับมรดกนิรนาม ทักษะดาบของเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต้มบุญ +700”

ฉีเหิงเหยียดมือขวาออก และดาบยาวก็ปรากฏขึ้นช้าๆ ในมือของเขา เปล่งแสงเย็นที่น่าอัศจรรย์ออกมา

ร่างกายของฉีเหิงอบอวลไปด้วยเจตจำนงดาบ และดาบทุกเล่มในตระกูลลู่ก็เริ่มสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที และพุ่งไปทั่วท้องฟ้าราวกับดาวตก

“แม้ว่าข้าจะสูญเสียการบ่มเพาะไปแล้ว แต่ก็ยังคงสามารถระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ นี่มัน?” ฉีเหิงตกใจ และพูดกับตัวเอง

เขาคิดถึงความเสื่อมถอยของตนหลังจากสูญเสียการบ่มเพาะ และถอนหายใจอย่างลับๆ ในใจ

ใครบอกว่าถ้าตันเถียนถูกทำลาย และสูญเสียการบ่มเพาะทั้งหมด คนๆ หนึ่งจะกลายเป็นคนพิการอย่างแน่นอน?

จู่ๆ ร่างที่ไม่รู้จักปรากฏขึ้นในใจของเขา ร่างที่เขาชื่นชมมากที่สุด

“เป็นไปได้ไหมว่าโลกในหนังสือเล่มนี้มีอยู่จริง? นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวหรือตำนานที่ถูกแต่งขึ้น!” ฉีเหิงสูดหายใจเข้าลึกๆ มีประกายแวววาวในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูมีพลัง ท่าทีที่หมดไฟจางหายไปโดยสิ้นเชิง

เขารู้สึกว่าด้วยความแข็งแกร่งของตนในเวลานี้ หากโจมตีด้วยพลังเต็มที่ มันเพียงพอที่จะฆ่าผู้เชี่ยวชาญวิญญาณแรกเริ่มได้ด้วยดาบเดียว!

แม้ว่าความแข็งแกร่งเล็กๆ น้อยๆ นี้จะไม่อาจเทียบได้กับตัวเขาในจุดสูงสุด แต่มันก็ทำให้เขามีความหวังใหม่

สูญเสียการบ่มเพาะแล้วไงล่ะ? ถึงแก่ชราแล้วเขาก็ไม่กลัว

ตราบใดที่ยังมีหนทางให้เดิน ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะแข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่านี้!

วันหนึ่งเขาจะไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง และแก้แค้นทุกคนที่ทรยศเขา!

บนท้องฟ้าเหนือห้องลับที่ฉีเหิงอยู่ ดาบนับไม่ถ้วนเคลื่อนไปมา ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย

ผู้อาวุโสสาม และลู่ซวนมาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว พวกเขาดูงุนงง และไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ทันทีที่ลู่ซวนเข้ามา ดวงตาของเขาก็ถูกดึงดูดโดยหนังสือเล่มหนึ่งในมือของฉีเหิง และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข

“บรรพบุรุษแสดงปาฏิหาริย์อีกครั้ง?” ผู้อาวุโสสามก็สังเกตเห็นหนังสือเล่มนี้ และอุทานออกมา

เมื่อได้ยิน ฉีเหิงจึงกลับมารุ้สึกตัวอีกครั้ง เขาไม่คิดว่าจะเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้กับตัว เพราะมันเป็นของตระกูลลู่ เขายิ้มให้พวกเขาทั้งสองคน และมอบมันให้ลู่ซวน

ลู่ซวนรีบเอื้อมมือออกไปรับมัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และความสุข เขาคิดไม่ถึงว่าแค่ไม่กี่วันต่อมา บรรพบุรุษจะมอบคัมภีร์ลับเล่มใหม่ให้!

“ผู้อาวุโสฉี ท่านคงมีความสงสัยมากมายอยู่ในใจใช่หรือไม่ ผู้อาวุโสสามจะเป็นคนอธิบายเรื่องนี้เอง ข้าจะกลับไปศึกษาหนังสือเล่มนี้ก่อน!” ลู่ซวนกล่าวกับทั้งสองคน จากนั้น เขาก็รีบกลับไปที่ห้องเพราะแทบที่จะอดใจอ่านหนังสือที่อยู่ในมือไม่ไหว

“ผู้อาวุโสฉี นี่เป็นหนึ่งในความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลลู่ แม้แต่ในตระกูลลู่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้” ผู้อาวุโสสามเหลือบมองที่ฉีเหิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉีเหิงอยู่คนเดียว และไม่ได้สังกัดกองกำลังใดๆ เขาแสดงความภักดีนับตั้งแต่เข้าร่วมตระกูลลู่ และอุทิศทั้งจิตใจให้กับบรรพบุรุษ นั้นทำให้ผู้อาวุโสสามจึงไม่กังวลเกี่ยวกับการทรยศของอีกฝ่าย

กระจกหมิงซินได้ช่วยตระกูลลู่คัดกรองสายลับ และผู้ที่มีเจตนาร้าย ดังนั้นตอนนี้ตระกูลลู่จึงอาจกล่าวได้ว่ามั่นคงดั่งภูผา พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

“ในอดีต เขาเคยถูกทรยศยังมีความแค้นที่ยังไม่ได้สะสาง การได้เข้าร่วมตระกูลลู่ถือเป็นพรสำหรับข้า” ฉีเหิงเหลือบมองผู้อาวุโสสาม แล้วพูดอย่างจริงใจ

-

ในอีกด้านหนึ่ง ลู่ซวนแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มพลิกหนังสือในมือ และจิตใจของเขาก็จมอยู่กับหนังสือเล่มนั้นอย่างสมบูรณ์

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน ลู่ซวน ค่อยๆ หายใจออกด้วยไอขุ่น และแสงศักดิ์สิทธิ์สองดวงก็ส่องประกายในดวงตาของเขา

ในเวลาเดียวกัน ออร่าบนร่างกายของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับที่น่าตกใจ

"หนังสือเล่มนี้น่าทึ่งกว่าสองเล่มก่อนมาก!" ดวงตาของลู่ซวนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งในร่างกายของตน และหัวใจของเขาก็ลุกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจอย่างถึงขึดสุด

ด้วยความแข็งแกร่งเขาในตอนนี้ มันควรจะเพียงพอที่จะก่อตั้งสำนักสวินเต๋าขึ้นมาใหม่!

ต่อมา ลู่ซวนจึงเรียกหาลู่เหยา และผู้อาวุโสอีกหลายคน

สามวันต่อมา ตระกูลลู่เหมือนเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ โดยมีคลื่นแรงกดดันมหาศาลหลายต่อหลายครั้งแผ่กระจายออกมา ทำให้กองกำลังอื่นที่อยู่ใกล้เคียงหลายแห่งสั่นสะท้าน

“ความแข็งแกร่งของตระกูลลู่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้เลยเหรอ?” ผู้นำกองกำลังหนึ่งกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว

ตระกูลลู่ในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ผู้อาวุโสสามคนได้ทะลวงผ่านเข้าสู่ขอบเขตวิญญาณแรกเริ่ม

ผู้อาวุโสหนึ่งได้ไปถึงขอบเขตวิญญาณแรกเริ่มขั้นสูงสุด ผู้อาวุโสสองได้ไปถึงขอบเขตวิญญาณแรกเริ่มขั้นกลาง ส่วนผู้อาวุโสสาม เขาก็ไปถึงขอบเขตวิญญาณแรกเริ่มขั้นสูงสุดเช่นกัน

สำหรับลู่เหยา เธอก้าวผ่านจากการเป็นคนธรรมดา และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญวิญญาณแรกเริ่มภายในไม่กี่วัน

นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของศิษย์หลายคนในตระกูลลู่ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยความช่วยเหลือจากทรัพยากรที่ปล้นชิงมาจากศาลาซิงหยู่ อัจฉริยะหลายคนได้เข้าสู่ขอบเขตแก่นทองคำ

“ติ๊ง ผู้นำตระกูลลู่ ลู่ซวนที่ได้รับสืบทอดวิชา ‘ดาบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์’ แต้มบุญ +900”

“ติ๊ง ผู้นำตระกูลลู่ ลู่ซวนได้รับ ‘หัตถ์กิเลน’ แต้มบุญ +400”

“ติ๊ง ผู้นำตระกูลลู่ ลู่ซวนได้รับ ‘โลหิตเฟิง’ แต้มบุญ +400”

“ติ๊ง ผู้นำตระกูลลู่ ลู่ซวนได้รับ ‘ดาบไร้เทียมทาน’ แต้มบุญ +500”

“ติ๊ง ผู้นำตระกูลลู่ ลู่ซวนได้รับมรดกการต่อสู้ของปรมาจารย์เต๋า แต้มบุญ +800”

มรดกการต่อสู้ของปรมาจารย์เต๋าที่ลู่ซวนได้รับก็เหมือนกับสืบทอดความทรงจำ ซึ่งชดเชยการขาดประสบการณ์การต่อสู้ของเขาได้โดยสิ้นเชิง

“ติ๊ง ผู้อาวุโสสาม ลู่ไห่ได้รับ ‘เลือดเพิ่งหวง’ แต้มบุญ +1,000”

“ติ๊ง ผู้อาวุโสสาม ลู่ไห่ได้รับ ‘หัวใจศักดิ์สิทธิ์’ แต้มบุญ +800”

“ติ๊ง ผู้อาวุโสสาม ลู่ไห่ได้รับ ‘ดาบหลินฮั่ว’ แต้มบุญ +500”

“ติ๊ง ผู้อาวุโสสาม ลู่ไห่ได้รับมรดกของจักรพรรดิซื่อเทียน แต้มบุญ +1,000”

“ติ๊ง ผู้อาวุโสสาม ลู่ไห่ได้รับ ‘โพธิโลหิต’ หนึ่งร้อยหยด แต้มบุญ +500”

สมบัติที่ผู้อาวุโสสามได้รับก็น่าทึ่งมากเช่นกัน โดยเฉพาะเลือดเฟิ่งหวง ซึ่งทำให้เขามีชีวิตนิรันดร์ และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับขีดกำจัดของอายุขัยอีกต่อไป