ตอนที่แล้วตอนที่ 118 : ระดับฝันร้าย ! เด็กใสซื่อ ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 120 : ฆ่ายกฝูง ? ความคิดของสาว ๆ !

ตอนที่ 119 : อันเดต ! โรคห่าใช้ไม่ได้ผล !


ตอนที่ 119 : อันเดต ! โรคห่าใช้ไม่ได้ผล !

“หือ ?” ที่ทุ่งหญ้าไกลออกไปกว่า 100 กม. สีหน้าของนักบวชจีโนนั้นเปลี่ยนไป

“กลิ่นอายเขาหายไป ? เป็นไปได้ยังไง ?”

“คัมภีร์วาร์ป ? เป็นไปไม่ได้ ไม่เห็นเกิดมิติผันผวนเลยนิ ?”

“รึว่า อัศวินไวเวิร์นนี่เจอเขตแดนลับรึดันเจี้ยนเข้า ?” นักบวชจีโนฮึดฮัดออกมา “ไม่ว่าแกจะไปซ่อนที่ไหน ฉันก็จะลากตัวแกออกมาให้ได้ ! แกหนีจากกำมือฉันไม่ได้หรอก !”

....

[ โล่แสง ] !

จู้หวันติงพึมพำออกมาเบา ๆ คทาในมือเธอส่องแสงสีขาวออกมาพร้อมโล่ขาวที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าหวังตงและคนอื่น ๆ

โล่แสงนี้คือสกิลของนักบวชแสงหลังจากที่เปลี่ยนอาชีพขั้น 2 แล้ว มันมีความสามารถในการฟื้นฟูและป้องกัน

ในหมู่สกิลป้องกัน โล่แสงนั้นคือสกิลที่ได้รับความนิยมและมีประโยชน์ในการป้องกันที่สุด

มันสามารถใช้ [ โล่แสง ] กับเป้าหมายเดียวรึกลุ่มก็ได้ มันไม่ใช่แค่รับความเสียหายได้ส่วหนึ่ง ทว่ามันยังฟื้นฟูเลือดของเป้าหมายได้อีกด้วย

เธอร่ายสกิลอีกสกิลออกมา ไม่นานสกิลอีกอันก็ถูกใช้ให้กับทั้งสามคน

มันมีประกายไฟปะทุออกมาบนตัวทั้งสามคนก่อนที่ร่างของทั้งสามก็เหมือนจะลุกไหม้

[ ไฟแสง ] !

มันจะเพิ่มค่าเลือดสูงสุดและพลังป้องกันเวทย์ขึ้นมา มันมีประโยชน์อย่างมาก

จ้าวจือเหมย ผู้ใช้ค่ายกลเอาธงสีเหลืองออกมาจากช่องเก็บของและส่งมันให้กับหวังตง, จางเฟิงหยุน และเฉินเหอหราน

นี่คือค่ายกลป้องกันจากผู้ใช้ค่ายกล แกนค่ายกลนั้นอยู่ในมือจ้าวจือเหมย ตราบใดที่แกนค่ายกลไม่ถูกทำลาย งั้นค่ายกลทั้งสามอันนี้ก็จะยังอยู่

ในระยะหนึ่ง ธงทั้งสามอันจะสร้างค่ายกลป้องกันพวกเขาเอาไว้ เมื่อเห็นว่าทั้งคู่เริ่มลงมือแล้ว หลินลั่วก็ได้ยกคทาขึ้นมาเพื่อใช้สกิล

หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจก็มีพลังสีแดงโผล่มาใต้เท้าหวังตงและคนอื่น ๆ

แทบจะพร้อมกันนั้น วงแหวนสีแดงก็ปรากฏขึ้นที่มือหลินลั่ว จากนั้นวงแวนสีแดงเลือดนี้ก็ปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของทั้งสามคน

หวังตงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าแปลกใจ “หือ ? ร่ายซ้อน ?”

“สกิลที่มาพร้อมกับอุปกรณ์น่ะ” หลินลั่วอธิบายออกมา

เขาไม่คิดเลยว่าการร่ายสกิลซ้อนที่ติดมากับอุปกรณ์ของเผ่าแวมไพร์นั้นจะเปิดการใช้งานตอนนี้

“การร่ายสกิลซ้อน ของแบบนี้ต้องแพงมากแน่ ๆ อย่างน้อยหลายแสนทอง....” หวังตงพูดขึ้นมาด้วยท่าทีอิจฉา สายตาของสาว ๆ คนอื่น ๆ ที่นั่นอย่างเฉินอี้หนานและจ้าวจือเหมยต่างก็เป็นประกาย มองไปที่หลินลั่ว

แม้แต่แฟนของหวังตง จู้หวันติงก็ยังมองไปที่หลินลั่วด้วย

“ก็ไม่ได้อะไรมาก บังเอิญได้มาน่ะ” หลินลั่วอธิบาย ทว่าทุกคนก็ยอมเชื่อ

“หือ ?” จางเฟิงหยุนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าแปลก ๆ “หลินลั่ว นายไม่ได้ใช้ [ บทเพลงสงคราม ] ตอนแรกฉันคิดว่านายจะใช้สกิลนี้ แต่ทำไมผลของสกิลถึงได้ดีกว่าที่คิด !”

คนอื่น ๆ รีบเปิดแผลสเตตัสตัวเองมาตรวจสอบ

“มันพัฒนาร่างกาย, แรง, ความเร็วและแม้แต่พลังจิตด้วย ? มันดีกว่า [ บทเพลงสงคราม ] มันไม่มีผลกระทบร้ายแรง”

“สกิลสนับสนุนนี่ดีจริง ๆ ดีกว่า [ โล่แสง ] ของฉันเยอะเลย !”

“มันเพิ่มเลือดและพลังโจมตีให้กับแทงค์ด้วย !”

“[ สูบฉีดอะดรีนาลีน ] ? ทำไมชื่อฟังดูแปลก ๆ ?”

หลินลั่วอธิบายออกมา “ตอนที่ฉันเปลี่ยนอาชีพขั้น 2 ฉันได้เปลี่ยนอาชีพลับเป็นหมอปิศาจ ฉันเลยได้สกิลพิเศษมา บางสกิลน่ะเหมือนจะเกี่ยวกับทางแพทย์”

“ไม่แปลกใจเลย....สกิลอาชีพลับเกี่ยวกับหมอ ? ก็คล้ายกับนักบวชจริง ๆ นั่นแหละ แต่ผลของสกิลมันโคตรดีเลย !”

“สกิลฉันมันคล้ายกับ [ บทเพลงสงคราม ] ของนักบวชออร์ค แต่ได้ผลดีกว่า”

ตอนนั้นเฉินเยว่หานก็ได้วิ่งเข้ามา น้ำเสียงเขาดูกังวล !

“เร็วเข้า มอนสเตอร์มาแล้ว !”

ทุกคนต่างก็มองตามไปทันที

ร่างของเฉินเยว่หานเปลี่ยนเป็นเงาพุ่งเข้ามา หลังจากนั้นก็มีมอนสเตอร์ในร่างมนุษย์โผล่มาจากด้านหลังแทบจะทันที

มันคือชายตัวขาว ทว่าตอนนั้นผิวของเขาเป็นสีเทา กล้ามเนื้อเน่าเปื่อย ใบหน้าเปื้อนไปด้วยเลือด มีกรงเล็บที่แหลมคม เขาตามเฉินเยว่หานมาติด

“เฉินเหอหราน  !”

เฉินเหอหรานพุ่งออกมาพร้อมกับโล่ ด้วยการพุ่งออกมาของเขา ดินโดยรอบก็ปูดขึ้นมาตามก่อตัวเป็เกราะดินบนตัวเขา

ตูม !

เฉินเยว่หานวิ่งผ่านไปได้ เฉินเหอหรานใช้โล่ตัวเองรับมือกับมอนสเตอร์เอาไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะชนกันอย่างจัง

“บัดซบ ! แรงโคตรเยอะเลย !”

“หวังติง !” หวังตงตะโกนออกมาพร้อมแสงสีขาวที่ส่องประกายในตา

“มอนสเตอร์ชั้นสูงเลเวล 60 ! ค่าสเตตัสจะส่งผ่านช่องแชททีม !”

[ ตรวจจับ ]

สกิลที่สามารถตรวจจับค่าสเตตัสของมอนเตอร์ มันตรวจจับได้แม้แต่สเตตัสลับ

ผู้ปลุกพลังทั่วไปจะตรวจสอบสเตตัสของมอนสเตอร์ได้ผ่านจิตโลก พวกเขาจะรู้แค่ข้อมูลพื้นฐาน

ถ้าเลเวลของทั้งสองฝ่ายต่างกันเกินไป งั้นก็ไม่อาจจะตรวจสอบข้อมูลลับของเป้าหมายได้

[ ตรวจจับ ] นั้นจะทำให้ได้ข้อมูลของมอนสเตอร์ที่แม่นยำและมากกว่า หวังตงและเจิ้งเฟิงหยุนพากันพุ่งเข้ามาจากทางซ้ายและขวา

หวังตงใช้หอก จางเฟิงหยุนใช้มีดคู่ ทั้งสามต่างก็ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับมอนสเตอร์เอาไว้อย่างยากลำบาก

หม่าห้าวเซียงสะบัดมือไปมาพร้อมวาฬตัวใหญ่ที่ยิงเอาใบมีดลมออกมาใส่มอนสเตอร์จนทำให้เลือดกระจายออกมา

“นักเวทย์ไฟ, นักเวทย์ลม ? ถือว่า....นี่คือธาตุที่โจมตีได้แรงที่สุด”

หลินลั่วใช้โอกาสนี้ตรวจสอบสเตตัสของมอนสเตอร์ในช่องแชททีม

[ ชื่อ – ผีดิบ (เทียม)

เผ่า - ปิศาจ/อันเดต

เลเวล – 60

แรง – 180

ร่างกาย – 185

ความเร็ว – 99

สติปัญญา – 32

พลังโจมตี – 380-460

เลือด – 25,000/25,000

สกิล – โจมตีพิษ, กลืนกินศพ

โจมตีพิษ – ผีดิบ (เทียม) จะใช้พิษในการโจมตี เมื่อติดพิษนี้แล้วจะทำให้เปลี่ยนเป็นผีดิบ

กลืนกินศพ – ผีดิบสามารถฟื้นฟูเลือดและพลังจิตตัวเองได้ด้วยการกินศพ

จุดอ่อน - แสง, ไฟ, สายฟ้า

คำอธิบาย – ผีดิบที่เกิดขึ้นจากไวรัสที่ปล่อยออกมาโดยคนลึกลับ แต่เดิมแล้วเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา  ]

ข้อมูลที่จู้หวันติงได้มานั้นได้บอกสเตตัสและคำอธิบายสกิลรวมถึงจุดอ่อนของมันด้วย !

หากเทียบกับข้อมูลที่ผู้ปลุกพลังทั่วไปได้ ข้อมูลพวกนี้ดีกว่ามาก

“เหี้ย ! ผีดิบ ! ฉันโดนมันข่วนมา ! ” เฉินเยว่หานตะโกนออกมา “จู้หวันติง ! ฮีลที !”

จู้หวันติงยกคทาในมือขึ้นร่ายสกิลแสงสีขาวให้กับเฉินเยว่หาน

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สีหน้าของเฉินเยว่หานก็บิดเบี้ยวไป

“ไม่ ! เลือดฟื้นฟูมาแค่เล็กน้อย ทว่าพิษน่ะยังไม่หาย ฉันคงเปลี่ยนเป็นผีดิบในเวลา 10 นาทีแน่”

จู้หวันติงรีบพูดขึ้นมา “สกิลล้างพิษของฉันเลเวลยังไม่สูงนัก นายรีบใช้ยาแก้พิษเร็ว !”

เฉินเยว่หานรีบเอาขวดยาออกมากิน ทว่าสีหน้าเขาก็ยังบิดเบี้ยวเหมือนเดิม

ชัดแล้วว่ายาแก้พิษพวกนี้ไม่ได้ดีนัก มันลบพิษนี้ออกไปได้ไม่หมด

“ผมของลองหน่อย !” พูดจบหลินลั่วก็ยกคทาขึ้นมาพร้อมแสงสีฟ้าที่พุ่งไปที่ตัวเฉินเยว่หาน

[ หัวใจชำระล้าง ]  !

[ หัวใจชำระล้าง (เปิดใช้งาน) ใช้พลังจิตจำนวนหนึ่ง สามารถใช้สกิลนี้กับเป้าหมายเดียวรึหลายเป้าหมายก็ได้ มีโอกาสลบอาการผิดปกติของเป้าหมาย สามารถฟื้นฟูพลังจิตของเป้าหมายได้จำนวนหนึ่ง ]

สกิลที่ติดมากับคทา

“หือ ?” เฉินเยว่หานตาเป็นประกายขึ้นมา “ขอบคุณมากน้องชาย ! สกิลล้างพิษของนาย.....[ หัวใจชำระล้าง ] ? สกิลนี้ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่ลบพิษได้ แต่ยังฟื้นฟูพลังจิตของฉันที่เสียไปได้ด้วย”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ! รีบมาช่วยหน่อย !” หวังตงตะโกนออกมา พวกเขาสามคนรับมือกับผีดิบไม่ไหวและต้องถอยกลับมาอย่างต่อเนื่อง

คนอื่น ๆ ต่างก็โจมตีออกไปทันที

เฉินเยว่หานเปลี่ยนเป็นเงาโผล่มาด้านหลังผีดิบและใช้มีดแทงเข้าที่สมองของผีดิบ

“มันกลัวแสง, ไฟ และสายฟ้า ! หม่าห้าวเซียง นายใช้ใบมีดลมตัดแขนมัน ! ฉางอี้หนาน นายเป็นตัวโจมตีหลัก !”

“ได้ !”

ทั้งสองต่างก็ตอบตกลง หม่าห้าวเซียงได้ใช้บีดลมโจมตีที่แขนของผีดิบ สุดท้ายก็ตัดแขนซ้ายของผีดิบไปได้ !

เฉินอี้หนานได้ใช้ลูกไฟระเบิดใส่ผีดิบอย่างต่อเนื่อง สำหรับจู้หวันติง ครั้งนี้เธอสร้างกระสุนแสงเพื่อโจมตีเข้าใส่ผีดิบ

“นี่เหรอสู้กันเป็นทีม...” หลินลั่วพึมพำออกมา

ทุกคนต่างก็มีประโยชน์และหน้าที่ของตัวเอง

นักรบ, แทงค์, นักเวทย์ และพวกสนับสนุนต้องช่วยเหลือกันเพื่อฆ่าศัตรูให้ได้โดยเร็วที่สุด พวกเขาฝากชีวิตไว้กับเพื่อนในทีม

น่าเสียดายที่หลายสกิลที่เขามีตอนนี้เป็นสกิลโจมตี มันไม่เหมาะที่จะใช้กับการต่อสู้เป็นทีม เขาควรจะอยู่ตัวคนเดียว

“...” หลินลั่วมองไปที่ผีดิบที่โดนล้อม มันมีผีดิบตัวอื่น ๆ ไล่ตามหลังมา มันทำให้สายตาของเขาหม่นลง

“มอนสเตอร์ที่นี่คือพวกผีดิบ ผีดิบเป็นอันเดต [ โรคห่าระบาด ] ของฉันใช้กับพวกมันไม่ได้ผล !”

“ทำยังไงดี ? รึว่าต้องกลับไปมือเปล่า ?”

เกือบ 5-6 นาทีเต็ม งูไฟจากฉางอี้หนานก็พุ่งออกมารัดตัวผีดิบก่อนที่จะเผามันเป็นศพแห้ง ๆ แล้วฟาดมันลงกับพื้น

ไอเทมหลายอย่างดรอปออกมาจากศพของมัน

“ของดรอปเยอะดีนิ !”

พวกเขาพากันตะโกนออกมา เฉินเยว่หานวิ่งเข้าไปเก็บไอเทมด้วยความตื่นเต้น

“เหี้ย ! อาวุธระดับเงิน ! มีด ! ฉันใช้ได้พอดี ! ฮ่าฮ่า....”

พวกนี้เป็นทีมเดียวกัน หลินลั่วเห็นการจัดแบ่งไอเทมผ่านช่องแชททีม นอกจากไอเทมทั่วไปกับเหรียญทองแล้ว มันก็ยังมีมีดของผีดิบอยู่ด้วย

[ ชื่อ – มีดผีดิบ (ระดับเงิน)

ความคงทน – 600/600

ประเภท – อาวุธ

ข้อกำหนด - เลเวล 50, แรง 130 หน่วย, ร่างกาย 80 หน่วย, ความเร็ว 150 หน่วย, สติปัญญา 25 หน่วย จำกัดแค่นักฆ่าและโจร

ผล - แรง +10, ความเร็ว +30, โอกาสติดคริติคอล +15%, โจมตีทะลุ +10%

สกิลเพิ่มเติม - โจมตีพิษ (ติดตัว) หลังจากที่ใส่อาวุธนี้แล้วการโจมตีแต่ละครั้งจะมีโอกาสสร้างการโจมตีพิษ ทำให้เป้าหมายติดพิษ

สกิล 2 – ดูดเลือด(ติดตัว) ...... ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด