Chapter 309: Refining the Eight Desolation Demon Sealing Tower
เห็นได้ชัดว่าที่ปีศาจเหล่านี้สามารถอาละวาดในแดนมรณะสังหารปีศาจได้ เพราะนิกายสังหารปีศาจถูกทำลายและไม่มีใครสามารถเปิดใช้งานค่ายกลต้องห้ามที่นี่ได้
ค่ายกลจะเปิดใช้งานก็ต่อเมื่อปีศาจเหล่านี้คิดหลบหนี
หากนิกายสังหารปีศาจไม่ถูกทำลาย และยังมีผู้บ่มเพาะอยู่ เมื่อค่ายกลใหญ่ถูกเปิดใช้งาน ไม่ว่าจะมีปีศาจมากมายเพียงใด พวกมันทั้งหมดก็จะต้องพินาศในดินแดนลับนี้
"เอาล่ะ ไปดูหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศกันเถอะ"
หลังจากกำจัดปีศาจทั้งหมดในแดนมรณะสังหารปีศาจแล้ว โจว สุ่ยก็มาถึงหน้าหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศ เขาแหงนมองหอคอยสูงตระหง่านที่สูงเป็นพันๆ จั้งนี้ และสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์ชิ้นนี้
เนตรสังเกตุ!
ในชั่วพริบตา เขาก็แสดงพลังของเนตรสังเกตุออกมา ตรวจสอบสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์เบื้องหน้า
พลังมหาศาลไหลทะลักเข้าสู่จิตสำนึกของเขาทันที
[ระดับ : สมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์ขั้นต่ำ สามารถพัฒนาได้]
[ชื่อ : หอคอยผนึกปีศาจแปดทิศ]
[ความสามารถ: ปราบปรามแปดทิศ ปราบปรามปีศาจ มีพลังผนึกที่ไร้เทียมทาน สามารถปลดปล่อยอาณาจักรผนึกปีศาจแปดทิศ ปราบปรามสิ่งมีชีวิตทรงพลังทุกประเภท]
ในวินาทีถัดมา บทสวดอันศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นในใจของเขา ราวกับเป็นคัมภีร์โบราณ
"ไม่น่าเชื่อ นี่คือเคล็ดวิชาควบคุมหอคอยสะกดปิศาจแปดทิศงั้นเหรอ?"
"เนตรสังเกตุของข้าช่างน่าอัศจรรย์ ข้าสามารถประเมินสมบัติวิเศษชิ้นนี้ และได้รับเคล็ดวิชาควบคุมมัน"
หัวใจของโจวสุ่ยเต็มไปด้วยความยินดี เขาลองใช้มันดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก่อน แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เคล็ดวิชาควบคุมสมบัตินี้มาครอบครอง
ตามปกติแล้ว เคล็ดวิชาลับแบบนี้จะถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น บุคคลภายนอกไม่มีทางล่วงรู้ได้ เจ้าของสมบัติล้ำค่าระดับนี้ ยอมให้มันสูญหายไป ดีกว่าตกไปอยู่ในมือคนอื่น เจ้าของสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์ยอมให้มันสูญหายไป ดีกว่าปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของคนนอก
ดังนั้นสมบัติวิญญาณเชื่อมต่อสวรรค์ทุกชิ้นจึงเป็นสมบัติของนิกาย เป็นสมบัติของบรรพบุรุษของนิกาย
แม้แต่คนในนิกาย หากไม่เกี่ยวข้องก็ไม่มีสิทธิ์ล่วงรู้ แม้จะได้มันไปก็ไร้ประโยชน์
แต่ตอนนี้ ด้วยพลังเนตรสังเกตุ เขากลับได้รับบทสวดควบคุมสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์มาได้
ดังนั้น เราสามารถจินตนาการได้ว่าวิชาเจ็ดรูประณีตนั้นทรงพลังเพียงใด
ทันใดนั้น โจวสุ่ยก็ตั้งใจศึกษาเคล็ดวิชาควบคุมสมบัติอย่างละเอียด ไม่นานนัก เขาก็เข้าใจมันอย่างถ่องแท้
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเพียงร่างแยก แต่เขาก็ยังสามารถกลั่นสมบัติวิญญาณเชื่อมต่อสวรรค์ชิ้นนี้ได้
ตูม !
เขาผสานนิ้วมือทั้งสองข้าง สื่อสารกับหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศ ก่อนจะส่งจิตสำนึกเข้าไปในส่วนลึกที่สุด ทำให้มันสั่นสะเทือนและเปล่งประกายเจิดจรัสออกมา ในขณะนั้น จิตสำนึกของเขาก็ได้ทิ้งร่องรอยไว้ภายในหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศ สร้างสายสัมพันธ์อันลึกลับขึ้นระหว่างเขากับมัน
“ข้าหลอมรวมกับมันแล้วงั้นเหรอ”
โจว สุ่ย เนื้อเต้นดีใจอย่างสุดขีด เมื่อพบว่าการหลอมรวมสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์นั้นง่ายดายเกินคาด
เพียงแค่คิด หอคอยสูงตระหง่านก็หดเล็กลงเท่าฝ่ามือ ก่อนจะลอยมาปรากฏบนมือขวาของเขา
นี่คือลักษณะพิเศษของสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์ ที่สามารถย่อขนาดได้ดังใจนึก
จากนั้น เขาก็สัมผัสได้ว่าภายในหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศนั้นมีปีศาจระดับแยกวิญญาณถูกจองจำอยู่ และลึกลงไปกว่านั้น ยังมีปีศาจระดับสร้างวิญญาณถูกจองจำอยู่อีกด้วย
ในขณะนั้น ปีศาจมากมายที่ถูกจองจำอยู่ภายในต่างก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
"บัดซบ! ทำไมมนุษย์ผู้นี้ถึงหลอมรวมหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศได้!"
"พวกมันไม่ได้บอกว่าผู้บ่มเพาะของนิกายสังหารปีศาจสูญสิ้นไปหมดแล้ว ไหนบอกว่าไม่มีใครรู้เคล็ดวิชาควบคุมหอคอยนี้แล้วไง! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? เราจะหนีออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่กัน?"
"น่ารังเกียจ! มนุษย์ชั้นต่ำ ปลดปล่อยพวกข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้น... เมื่อกองทัพแห่งแดนปิศาจโบราณมาถึง พวกเจ้าจะต้องพบกับหายนะอันแสนสาหัส ไม่มีผู้ใด... จะหยุดยั้งความพินาศของพวกเจ้าได้!"
เหล่าปีศาจคำรามอย่างเกรี้ยวกราด แม้ว่าพวกมันจะถูกคุมขังมาหลายหมื่นปีแล้ว แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยพลังชีวิต ปลดปล่อยพลังปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
หากไม่มีโซ่ตรวนพันธนาการร่างกายไว้ พวกมันคงพังคุกแหกคุกออกมาแล้ว
ในตอนนี้ พวกมันโกรธจนแทบบ้า!
เดิมทีพวกมันคิดว่าหลังจากที่นิกายสังหารปีศาจถูกทำลาย พวกมันก็จะหลุดพ้นจากคุกแห่งนี้ได้ในสักวัน
แต่ใครจะไปคาดคิดว่า ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีผู้คุมคนใหม่โผล่มา
ด้วยเหตุนี้ ความหวังในการหลบหนีของพวกมันจึงเลือนลางมากยิ่งขึ้น
"ปีศาจระดับแยกวิญญาณถูกคุมขังทั้งหมด 666 ตน"
"ปีศาจระดับแกนทอง 6,757 ตน"
"ปีศาจระดับสร้างวิญญาณหนึ่งตน"
"ตอนนี้ หอคอยผนึกปีศาจแปดทิศมีปีศาจล้นหลาม"
เพียงแค่ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดไป เขาก็รู้จำนวนปีศาจที่ถูกคุมขังอยู่ภายในหอคอยทันที
ต้องบอกว่าถ้าปล่อยให้ปีศาจเหล่านี้หนีไปได้ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอาจจะน่ากลัวยิ่งกว่าการรุกรานของอาณาจักรอสูรโบราณ
ดังนั้นไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ปีศาจเหล่านี้จะต้องไม่ถูกปล่อยให้หลุดรอดไป
"ไม่น่าแปลกใจที่นิกายสังหารปีศาจไม่เคยฆ่าปีศาจเหล่านี้ในอดีต"
"แต่กลับเลือกที่จะจองจำพวกมันเอาไว้"
"เพราะวิวัฒนาการของหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศนั้นจำเป็นต้องใช้พลังงานจากเนื้อและเลือดของปีศาจเหล่านี้"
โจว สุ่ยหรี่ตาลง
เขาได้รับข้อมูลมากมายจากภายในหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศ
ชัดเจนว่านี่คือสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์ที่มีศักยภาพสูง
มันสามารถวิวัฒนาการได้โดยการดูดซับพลังจากภายในตัวปีศาจ
โซ่ตรวนที่ใช้จองจำปีศาจเหล่านี้ไม่เพียงแต่จำกัดการเคลื่อนไหวของพวกมันเท่านั้น แต่ยังสกัดพลังงานออกมาจากร่างกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมพลังให้กับหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศอีกด้วย
ในอดีตนิกายสังหารปีศาจต้องการยกระดับหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศขึ้นไปสู่ระดับกลางหรือแม้กระทั่งระดับสูง
พวกเขาจึงจับปีศาจจำนวนมากมาขังไว้ในหอคอย
น่าเสียดายที่นิกายสังหารปีศาจดึงดูดความอิจฉาและความเกลียดชังของปีศาจและสัตว์ปีศาจมากมาย
ผลก็คือ นิกายสังหารปีศาจไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขาถูกสังหารจนเกือบสิ้นซาก เหลือเพียงแดนมรณะสังหารปีศาจแห่งนี้ที่รอดพ้นมาได้
เพราะมันคือโลกที่ถูกปิดผนึก แม้แต่ปีศาจก็ไม่สามารถเข้ามาได้
ที่นี่จึงกลายเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย เป็นสถานที่สำคัญที่สุดของนิกายสังหารปีศาจ
อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้น เนื่องจากแดนมรณะสังหารปีศาจถูกปิดและปีศาจไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้บ่มเพาะของนิกายสังหารปีศาจก็ไม่สามารถออกไปได้เช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้บ่มเพาะมนุษย์ข้างในก็ตายหมด
สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นคุกสำหรับคุมขังปีศาจ
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ช่องทางนี้เพิ่งจะเปิดออกอีกครั้ง ทำให้ผู้บ่มเพาะจากโลกภายนอกสามารถเข้ามาได้
“โชคดีจริง ๆ โชคดีสุด ๆ ไปเลย!”
“หากนำสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์กลับไป มันจะต้องกลายเป็นสมบัติของนิกายเสวียนหวงในอนาคตอย่างแน่นอน”
"โอ้ และศพของผู้บ่มเพาะระดับแยกวิญญาณจากเผ่าทะเลเหล่านี้ พวกมันคือวัตถุดิบชั้นเลิศ!"
“พลังชีวิตและเลือดเนื้อของพวกมัน ย่อมช่วยให้กู่มังกรช้างของข้าพัฒนาได้อย่างแน่นอน”
โจวสุ่ยตื่นเต้นมาก เห็นได้ชัดว่าการเดินทางในครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาล
เขาไม่เพียงแต่ได้รับหอคอยผนึกปีศาจแปดทิศซึ่งเป็นสมบัติวิญญาณเชื่อมสวรรค์เท่านั้น แต่ยังได้รับมรดกและวิชาต่างๆ ของนิกายสังหารปีศาจ รวมถึงวิชาระดับห้าอีกด้วย
เขายังได้รับเลือดเนื้อของผู้บ่มเพาะจากเผ่าทะเลจำนวนมาก
ถ้าหากเขานำไปขาย คงได้หินวิญญาณขั้นสูงสุดมานับไม่ถ้วน
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เขาไม่รีรอที่จะเปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อกลับไปยังเกาะของนิกายรุ่งเรืองร่วงโรยในทันที
(จบตอน)