เจ้าหน้าที่หมายเลข 95 [ฟรี]
ตอนที่ 95
คุนหลุน!
ภายใต้การนำทางของเฉินเจินในที่สุดพวกเขาทั้งสองคนก็เข้าสู่เทือกเขาหิมาลัย บางมุมของภูเขายังคงมีหญ้าสีเขียวอยู่บ้าง ส่วนที่เหลือนั้นล้วนเป็นสีขาวโพลนทั้งหมด
ยิ่งเดินไปตามเส้นทางบนภูเขามากเท่าไหร่หญ้าสีเขียวก็เริ่มจางหายไปเหลือเพียงแต่หิมะสีขาวโพลน
หลังจากเดินต่อไปได้อีกไม่นานลีออนก็ไม่ได้เดินขึ้นเขาอีกต่อไป แต่เป็นการปีนเขา!
ความสูงตระหง่านของภูเขาเป็นเหมือนกับม่านวิเศษโปร่งแสงที่ทำให้ระยะการมองเห็นสั้นลงเหลือเพียงแค่ไม่กี่เมตร ถ้าหากไม่ใช่เพราะการเดินตามพระภิกษุเสื้อเหลืองตรงหน้าไปอย่างใกล้ชิด ภายในชั่วพริบตาเดียวลีออนคงหลงทางอยู่ในโลกสีขาวโพลนแห่งนี้ . . .
ที่นี่มีหิมะตกทั่วทุกที่!
ถ้าหากไม่มีรองเท้าเดินป่าที่ป้องกันการลื่นไถลใต้ฝ่าเท้าลีออนอาจจะถูกบดขยี้ด้วยสภาพแวดล้อมที่รุนแรงแบบนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นเฉินเจินที่ปีนเขาขึ้นไปอย่างมั่นคงความวิตกกังวลภายในใจของลีออนก็ลดลงเช่นกัน
ต้องรู้ก่อนว่าเฉินเจินสามารถเดินไปมาบนกำแพงภูเขาสูงชันได้อย่างอิสระเพียงแค่สวมรองเท้าที่ทำมาจากผ้า!
สิ่งนี้สามารถนำมาประกอบกับความจริงได้ว่าตอนนี้เขาได้เริ่มปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมที่นี่อย่างช้า ๆ
ปีนขึ้นไปบนเนินหิมะที่สูงชันอย่างต่อเนื่องก่อนที่ในที่สุดลีออนจะมาถึงปากทางเข้าเมืองเครนซึ่งเป็นซุ้มสี่เหลี่ยมที่ทำขึ้นมาจากหินอ่อนสีเทา!
ลีออนมองไปที่ตัวอักษรจีนที่สลักอยู่บนกำแพง ‘เมืองเครน (เมืองนกกระเรียน)’
(T/L : หลังจากนี้ขอเรียงเมืองเครนเป็นเมืองนกกระเรียนนะครับเพราะมันดูดีกว่า)
ด้านหลังซุ้มประตูมีหน้าผาที่ดูน่ากลัวมากอยู่!
เฉินเจินยืนอยู่กับที่พร้อมกับประสานมือเข้าหากันและพูดแนะนำลีออนว่า "นี่คือทางเข้าเมืองนกกระเรียน"
ลีออนขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่ภาพต่อมาจะทำให้ลีออนประหลาดใจ ลีออนเห็นเฉินเจินเดินเข้าไปในซุ้มประตูอย่างช้า ๆ ก่อนที่ทันใดนั้นจะมีเคลื่อนกระเพื่อมขึ้นมา พื้นที่เริ่มบิดเบี้ยวพร้อมกับร่างของเฉินเจินที่หายไปต่อหน้าต่อตาของลีออนทันที!
เทเลพอร์ต?! หรือว่าจะเป็นสนามบาเรียที่ปิดกั้นการมองเห็น?!
บางทีเมื่อเขาเดินเข้าเขาจะรู้คำตอบในคำถามเหล่านี้เอง
ลีออนยืนอยู่หน้าซุ้มประตูเพื่อปลุกความกล้าในใจอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะก้าวเดินไปข้างหน้าตรงไปยังซุ้มประตู
ทันใดนั้นภาพตรงหน้าของลีออนก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เขาเห็นก็คือเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ!
อาคารไม้โบราณทำให้เมืองนกกระเรียนสวยงามราวกับดินแดนมหัศจรรย์ลึกลับที่ซ่อนตัวจากโลก
โดยเฉพาะรูปปั้นนกกระเรียนแกะสลักที่ดูเหมือนจริงมาก ท่าทางของมันราวกับว่าสามารถบินตรงไปยังสวรรค์ทั้งเก้าได้ตลอดเวลา
เมื่อเห็นลีออนกำลังตกตะลึงกับความงดงามตรงหน้าเฉินเจินที่ยืนอยู่ด้านหน้าก้าวหนึ่งก็ก้าวถอยหลังมาและพูดว่า "ยินดีต้อนรับสู่ประสาทนกกระเรียน!"
คำพูดของเฉินเจินได้ดึงลีออนออกมาจากพวังค์ทันที และกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
ลีออนหันศีรษะกลับไปด้านหลังมองไปยังซุ้มสี่เหลี่ยมที่ยังคงอยู่ที่เดิม เพียงแต่ว่าตอนนี้ตรงกลางของซุ้มสี่เหลี่ยมมันมีประตูพอร์ทัลสีดำเหมือนกับหลุมดำปรากฏอยู่!
ทันใดนั้นลีออนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมืองทั้งเจ็ดของคุนหลุนถึงได้หายากนัก . . .
ปรากฏว่าเมืองทั้งเจ็ดของคุนหลุนนั้นซ่อนตัวอยู่ในอีกมิติหนึ่ง!
ลีออนเดาว่าทุกเมืองน่าจะมีประตูเทเลพอร์ตเหล่านี้อยู่ และมันอาจจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถเข้าและเดินทางไปมายังเมืองทั้งเจ็ดของคุนหลุนได้!
บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกของการกลับบ้านซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ แม้แต่เฉินเจินที่อึ้มครึ้มมาตลอดทางตอนนี้มันดูสดใสกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
"พักสมองและเติมพลังงานกันก่อนที่เราจะออกเดินทางกันต่อ"
หลังจากพูดจบเฉินเจินก็เป็นผู้นำลีออนเดินไปตามถนนไปยังอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ลีออนรัดกระเป๋าใบใหญ่ด้านหลังของเขาให้แน่นและรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
สรวงสวรรค์ใต้ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะทำให้ลีออนที่อยู่ในอาคารไฮเทคและอาคารสูงหลายแห่งมาเป็นเวลานานหลายปีเหมือนกับบ้านนอกที่เข้ากรุงไม่มีผิด
ลีออนมองซ้ายทีมองขวาทีพยายามจดจำทิวทัศน์ที่งดงามรอบตัวเอาไว้ในใจตลอดเวลา เพราะกลัวว่าทุกสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้ามันจะเป็นความฝันเท่านั้น
เมื่อเดินเข้ามาในอาคารขนาดใหญ่และมองไปรอบ ๆ ลีออนก็รู้ว่าที่นี่คือร้านอาหารของเมืองนกกระเรียน!
เก้าอี้ไม้ โต๊ะไม้อย่างดี และอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารล้วนทำมาจากไม้อย่างประณีต
เมื่อเห็นเจ้าของร้านอาหารนำซุปเต้าหู้นึ่งและแพนเค้กนุ่ม ๆ มาเสิร์ฟลีออนก็รู้สึกขอบคุณตัวเองมากที่ไม่ได้หยิบเนื้อกระป๋องและขนมปังออกมาจากในกระเป๋า
เพราะอาหารของเขามันตรงกันข้ามกับอาหารมังสวิรัติที่นำร้านอาหารนำมาเสิร์ฟเลย
แน่นอนว่าเพื่อให้เป็นไปตามขนมธรรมเนียมของที่นี่ และไม่ให้ถูกเฉินเจินและเจ้าของร้านอาหารไล่ออกร้านเขาจึงนั่งกินอาหารบนโต๊ะอย่างเงียบ ๆ . . .
"เอาล่ะ! ไปกันต่อเถอะ!"
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จพวกเขาทั้งสองคนก็ออกเดินทางกันต่อ
ถนนเส้นถัดไปมันดีกว่าถนนเส้นก่อนหน้านี้มาก
ท้ายที่สุดแล้วการเข้าสู่เมืองนกกระเรียนมันก็หมายความว่าลีออนได้เข้าสู่มิติที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองทั้งเจ็ดของนครคุนหลุน
ตราบใดที่เฉินเจินเป็นผู้นำทางให้กับเขา เดินทางข้ามเมือง เขาก็สามารถไปถึงคุนหลุนซึ่งเป็นเมืองแรกจากทั้งเจ็ดเมืองของนครคุนหลุนได้อย่างง่ายดาย . . .
เดินทางออกจากใจกลางเมืองไปตามเส้นทางที่ห่างไกล ข้ามเนินเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ข้ามสะพานโซ่ที่ทอดข้ามยอดเขาสองยอด จนกระทั่งในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงทางเชื่อมระหว่างเมืองนกกระเรียนและคุนหลุน
ตรงหน้าของพวกเขามีสะพานโค้งสี่เหลี่ยมที่มีคำขนาดใหญ่เขียนเอาไว้บนป้ายว่า ‘คุนหลุน’ ประดับอยู่
ซึ่งในระหว่างทางลีออนได้รู้ข้อมูลบางอย่างของคุนหลุนจากเฉินเจินว่านอกจากคุนหลุนจะครองอันดับหนึ่งจากทั้งเจ็ดเมืองแล้ว เนื่องจากความแข็งแกร่งของไอรอนฟิสต์ คุนหลุนยังเป็นจุดศูนย์กลางของทุกเมืองโดยมีอีกหกเมืองกระจายล้อมรอบเหมือนกับดวงดาวที่ล้อมรอบคุนหลุนเอาไว้
ด้วยเหตุนี้เองคุนหลุนจึงกลายเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อเมืองอื่น ๆ และเป็นสถานที่จัดการแข่งขันของทั้งเจ็ดเมือง
"เมื่อโยมเดินผ่านประตูนี้ไปโยมก็ถึงคุนหลุนแล้ว"
ในขณะที่ลีออนกำลังจะก้าวข้ามประตูตรงหน้าไปขาของเขาก็หยุดลงอย่างกะทันหัน และหันกลับไปมองเฉินเจินที่ยืนอยู่กับที่ และอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า "เอ๊ะ?! คุณไม่ได้ไปด้วยกันหรอ?"
"อาตมาไม่สามารถติดตามโยมไปยังถนนสายต่อไปได้ ตอนนี้ภารกิจของอาตมาได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว"
หลังจากพูดจบเฉินเจินก็หันหลังกลับและเดินจากไปโดยไม่สนใจลีออนแม้แต่น้อย ทำให้ลีออนยืนอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน
เมื่อมองไปที่เฉินเจินที่เดินจากไปลีออนก็ยักไหล่เล็กน้อยและพึมพำกับตัวเองว่า "ให้ฉันดูหน่อยสิว่าคุนหลุนในตำนานมีหน้าตาเป็นยังไง!"
ลีออนก้าวเดินเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตและมาถึงหัวเมืองทั้งเจ็ด – คุนหลุน!
ทันทีที่เขาก้าวเข้านครคุนหลุนลีออนก็ถูกหิมะที่ปลิวว่อนอยู่บนท้องฟ้าพุ่งกระทบเข้าใสหน้าทันที
ลีออนในตอนนี้ถูกรายล้อมไปด้วยเมฆและหมอกรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกสีขาว ซึ่งไม่ไกลจากนั้นมากนักลีออนสามารถมองเห็นวัยรุ่นสองคนในชุดคลุมสีเหลืองกำลังยืนอยู่ในทุ่งหิมะและกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
แน่นอนว่าพวกเขาก็สังเกตเห็นลีออนที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นกัน แถมชุดที่ลีออนใส่ยังแตกต่างจากพวกเขาอย่างชัดเจน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะถามขึ้นมาว่า "คุณเป็นใคร?!"
โปรดติดตามตอนต่อไป …