บทที่ 56 ทุกย่างก้าวล้วนตื่นตระหนก

ชำระล้างร่างกาย!

เปลี่ยนกระดูก!

กำลังยกระดับขั้นสุดท้ายในร่างกายของจูอู๋หยาง  ทำให้ระดับความแข็งแกร่งของจูอู๋หยางเพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึง  มากกว่าเดิมอย่างน้อยสองเท่า

ต้องรู้ว่า  ตอนนี้จูอู๋หยางยังไม่ได้ทะลวงขีดจำกัด  แต่กลับได้รับการยกระดับเช่นนี้  จะเห็นได้ว่า  การชำระล้างร่างกายที่เหมือนกับการเปลี่ยนกระดูกนี้  สามารถมอบผลประโยชน์อะไรให้กับนักสู้ได้บ้าง

เพียงแค่ขยับมือขยับเท้า  จูอู๋หยางก็มีพละกำลังมากกว่าแสนจินแล้ว  เขาเป็นเหมือนสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์  ถ้าหากอยู่บนโลกใบนั้น  ก็เทียบเท่ากับเครื่องจักรขนาดใหญ่

รากฐานการฝึกฝนที่แข็งแกร่ง  พรสวรรค์ที่หาใครเทียบได้ยาก  วิทยายุทธระดับปรมาจารย์ที่แข็งแกร่ง...  ปัจจัยเหล่านี้รวมกัน  ทำให้จูอู๋หยางมีพลังต่อสู้เหนือกว่านักสู้คนอื่นๆ  ในระดับเดียวกันอย่างมาก

ในเวลานี้  ต่อให้เป็นนักสู้ที่ปราณภายในบรรลุระดับสูง  ใกล้เคียงกับระดับประตูปฐพี  เมื่อเผชิญหน้ากับจูอู๋หยาง  ก็ไม่สามารถต้านทานได้นาน  จะถูกจูอู๋หยางทำลายการป้องกัน  จนจำพ่อจำแม่ไม่ได้

มีเพียงปรมาจารย์ระดับประตูปฐพีเท่านั้น  ที่สามารถต่อกรกับจูอู๋หยางในตอนนี้ได้

ส่วนจุดทะลวงขีดจำกัดในร่างกายของจูอู๋หยาง  ยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้ดูดซับ  พลังปริศนาที่แปรเปลี่ยนจากจุดทะลวงขีดจำกัด  ยังคงถาโถมเข้ามา  ยกระดับเลือดปฐพีในร่างกายของจูอู๋หยางอย่างต่อเนื่อง  ทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เลือดวิญญาณเชื่อมโยงกับทุกส่วนของร่างกายนักสู้  ดังนั้น  ยิ่งพลังของเลือดปฐพีแข็งแกร่งมากเท่าไหร่  การเปลี่ยนแปลงที่มอบให้กับนักสู้ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น  ยิ่งไปกว่านั้น  การเปลี่ยนแปลงและการยกระดับนี้  ยังไม่มีจุดอ่อนและช่องโหว่

เมื่อเลือดปฐพีแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง  ก็จะสามารถช่วยให้นักสู้สัมผัสพลังปราณแห่งสวรรค์โดยรอบ  จากนั้นหลอมรวมพลังปราณแห่งสวรรค์เหล่านั้น  แปรเปลี่ยนเป็นปราณภายใน

แต่โชคดีที่จุดทะลวงขีดจำกัดในรอบนี้  ไม่ได้ทำให้จูอู๋หยางหลอมรวมแก่นปราณได้สำเร็จ  และก้าวเข้าสู่ขอบเขตถัดไป  ถ้าหากเป็นเช่นนั้น  การที่จูอู๋หยางจะปกปิดระดับความแข็งแกร่งก็ยิ่งยากขึ้น

การทะลวงขีดจำกัดสองครั้ง  ทำให้จูอู๋หยางได้รับรางวัลเป็นจุดทะลวงขีดจำกัดมากกว่าหมื่นจุด  ซึ่งถูกจูอู๋หยางใช้เพื่อยกระดับเลือดปฐพี  เมื่อดูจุดทะลวงขีดจำกัดอิสระที่เขามีในตอนนี้  ก็มีอยู่หลายหมื่นจุด

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง  จูอู๋หยางก็นั่งไขว่ห้าง  ใช้จุดทะลวงขีดจำกัดยกระดับเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์อย่างรวดเร็ว  เคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์ที่จูอู๋หยางฝึกฝน  เริ่มพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ด้วยจุดทะลวงขีดจำกัดอิสระจำนวนมากเช่นนี้  ถ้าหากไม่ผิดพลาด  ก็น่าจะสามารถยกระดับเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์ไปสู่ขั้นบรรลุขีดสุดได้

เมื่อถึงตอนนั้น  ด้วยระดับความแข็งแกร่งในปัจจุบันของจูอู๋หยาง  ก็สามารถระงับจุดทะลวงขีดจำกัดได้มากกว่าแสนจุด  ทำให้มันไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราว  แน่นอนว่า  สิ่งนี้จะทำให้จูอู๋หยางปลอดภัยมากขึ้น

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ยกระดับเคล็ดวิชาลับระดับปรมาจารย์อย่างเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์ไปสู่ขั้นบรรลุขีดสุดเป็นครั้งแรกในชีวิต คุณได้รับ 30,000 จุดทะลวงขีดจำกัด...”

สมกับเป็นเคล็ดวิชาลับในการปกปิดระดับปรมาจารย์  หลังจากที่ยกระดับไปสู่ขั้นบรรลุขีดสุดแล้ว  ก็มอบรางวัลให้กับจูอู๋หยางถึงสามหมื่นจุด  ในจำนวนนี้  สามพันจุดเป็นจุดทะลวงขีดจำกัดอิสระ

ทำให้ระดับความแข็งแกร่งของจูอู๋หยางเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย  เข้าใกล้การหลอมรวมแก่นปราณมากขึ้นเรื่อยๆ  จูอู๋หยางถึงกับสัมผัสได้เลือนรางว่า  เมื่อเลือดปฐพีแข็งแกร่งขึ้น  ก็เริ่มมีสัญญาณของการดูดซับพลังปราณแห่งสวรรค์จากภายนอกโดยอัตโนมัติ

แม้ว่านี่จะไม่ใช่สิ่งที่จูอู๋หยางต้องการ  แต่มันกลับเป็นสิ่งที่นักสู้คนอื่นๆ  ใฝ่ฝัน

หลังจากที่ยกระดับเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์แล้ว  จูอู๋หยางก็ได้รับข่าวว่า  ตอนบ่าย  ซินเจิ้นหย่ง  เสนาบดีกรมการสงคราม  จะมาสอนวิชาการทหารให้กับเขา  ซินเจิ้นหย่งก็เป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทเช่นกัน  และยังเป็นคนสนิทของฮ่องเต้สติเฟื่องอย่างจูเจินอู่

และในช่วงที่จูอู๋หยางได้รับบาดเจ็บ  ไม่สามารถไปเรียนที่ตำหนักเฉียนชิงได้  เฉินเตี่ยนโต้วและซินเจิ้นหย่งจะผลัดกันมาสอนวิชาการปกครองและวิชาการทหารให้กับจูอู๋หยางทุกวัน  หนึ่งบุ๋นหนึ่งบู๊  เพื่อช่วยเหลือจูอู๋หยาง  ให้เป็นองค์รัชทายาทที่ดีของแคว้นจิ่วเจา

แน่นอนว่า  คงต้องมีคนมาร่วมสอบเล็กเขาด้วย  โดยทั่วไปแล้ว  คนที่รับผิดชอบในการสอบเล็กองค์รัชทายาท  ล้วนเป็นคนสนิทของฮ่องเต้สติเฟื่องอย่างจูเจินอู่  ไม่ว่าจะเป็นนางกำนัลคนสนิท  หรือขันทีคนสนิท  หรือองครักษ์  เพราะข้อสอบล้วนเป็นข้อสอบที่เฉินเตี่ยนโต้วและซินเจิ้นหย่งเป็นคนออก  คนเหล่านี้แค่ต้องคุมสอบก็พอ  ไม่จำเป็นต้องมีความรู้มากมาย

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้พบกับซินเจิ้นหย่ง เสนาบดีกรมการสงครามแห่งแคว้นจิ่วเจาเป็นครั้งแรกในชีวิต คุณได้รับ 3,000 จุดทะลวงขีดจำกัด...”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ถูกซินเจิ้นหย่ง เสนาบดีกรมการสงครามแห่งแคว้นจิ่วเจา ตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นครั้งแรกในชีวิต คุณได้รับ 3,000 จุดทะลวงขีดจำกัด...”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้เรียนรู้ร่วมกับซินเจิ้นหย่ง เสนาบดีกรมการสงครามแห่งแคว้นจิ่วเจาเป็นครั้งแรกในชีวิต คุณได้รับ 10,000 จุดทะลวงขีดจำกัด...”

...

ไม่ผิดคาด  การมาของซินเจิ้นหย่ง  ทำให้จูอู๋หยางได้รับจุดทะลวงขีดจำกัดจำนวนมาก  ในเวลาเพียงไม่นาน  จูอู๋หยางก็ได้รับจุดทะลวงขีดจำกัดเพิ่มขึ้นหลายหมื่นจุด  ถ้าหากไม่ผิดพลาด  หลังจากที่ดูดซับจุดทะลวงขีดจำกัดในรอบนี้แล้ว  ระดับความแข็งแกร่งของจูอู๋หยางก็ต้องทะลวงขีดจำกัดไปสู่ขอบเขตถัดไป

หลอมรวมแก่นปราณแล้ว!

ในฐานะที่เป็นเสนาบดีกรมการสงคราม  ระดับความแข็งแกร่งของซินเจิ้นหย่งนั้น  สูงถึงขอบเขตเซียนขั้นปลาย  ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้น  ไม่ด้อยไปกว่าปรมาจารย์ระดับขอบเขตเซียนขั้นสมบูรณ์ทั่วไป  แถมยังฝึกฝนเทคนิคตรวจสอบขั้นสูงอีกด้วย

ถ้าหากมังกรเขียวซ่อนเร้นของจูอู๋หยางไม่ได้ฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์  และเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์ไม่ได้ยกระดับไปสู่ขั้นบรรลุขีดสุด  ระดับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของจูอู๋หยาง  ก็คงถูกซินเจิ้นหย่งตรวจสอบพบ

ในฐานะที่เป็นคนสนิทของฮ่องเต้สติเฟื่องอย่างจูเจินอู่  ซินเจิ้นหย่งก็มีหน้าที่ในการตรวจสอบเหล่าองค์ชายองค์หญิงเช่นกัน  ถ้าหากพบว่าองค์ชายหรือองค์หญิงคนใด  ยกระดับความแข็งแกร่งเร็วเกินไป  เขาจะรายงานให้จักรพรรดิจูเจินอู่แห่งแคว้นจิ่วเจาทราบทันที

โชคดีที่จูอู๋หยางมีความระมัดระวังตัว  หลังจากที่รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี  เขาก็รีบใช้จุดทะลวงขีดจำกัดอิสระทั้งหมด  ยกระดับเคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์  ทำให้เคล็ดวิชาเมล็ดพันธุ์บรรลุขั้นบรรลุขีดสุด  แบบนี้ถึงจะสามารถปกปิดไม่ให้ซินเจิ้นหย่งตรวจสอบพบได้อย่างง่ายดาย

ซินเจิ้นหย่งนั้น  รอบคอบกว่าเฉินเตี่ยนโต้ว  ในระหว่างที่สอนจูอู๋หยาง  เขากลับตรวจสอบจูอู๋หยางถึงสี่ครั้ง  เขาคิดว่าตัวเองทำอย่างแนบเนียน  จูอู๋หยางที่อยู่ระดับ “หลอมกระดูกทองขั้นสมบูรณ์”  คงไม่รู้ตัว

แต่ซินเจิ้นหย่งไม่รู้เลยว่า  ระดับความแข็งแกร่งของจูอู๋หยางนั้น  สูงถึงหลอมเปลี่ยนเลือดขั้นสมบูรณ์แล้ว  แถมยังมีรากฐานการฝึกฝนที่แข็งแกร่งมาก  เส้นลมปราณทั่วร่างเชื่อมต่อกัน  พรสวรรค์อันน่าทึ่ง  จึงสามารถสัมผัสได้ถึงการตรวจสอบของเขาอย่างง่ายดาย

แต่เพื่อไม่ให้ซินเจิ้นหย่งสงสัย  จูอู๋หยางจึงไม่กล้าเปิดเผยเรื่องนี้  แค่พยายามปกปิดระดับความแข็งแกร่งของตัวเอง  พยายามไม่เปิดเผยรังสีที่ผิดปกติใดๆ  ออกมา

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า  ท่ามกลางกาลเวลาที่เนิ่นนานนี้  จูอู๋หยางยังคงได้รับจุดทะลวงขีดจำกัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  พลังปริศนาที่ปั่นป่วนในร่างกายก็ยิ่งมากขึ้น  ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น  รอคอยวันที่มันจะทะลวงการควบคุม

แบบนี้ถึงจะสามารถพาจูอู๋หยางก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้