ตอนที่แล้วบทที่ 173 : ร่างอวตาร​ที่ทำให้โลกตกตะลึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 175 : การเเข่งขัน​ชิงฉายาเทพโอสถ

บทที่ 174 : สวรรค์, ยมโลก, พุทธศาสนา


บทที่ 174 : สวรรค์, ยมโลก, พุทธศาสนา

"ท่านลุง, ท่านเห็นวิธีการลงมือของเขาหรือไม่"

ผู้นำนิกายอดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์​ที่อยู่ข้างๆและถามขึ้น

เมื่อได้ยินดังนั้น, คนอื่นๆก็หันมามองเช่นกัน

เมื่อได้ยินคำถาม ผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์​ก็เงียบไปครู่หนึ่ง…ก่อนจะส่ายหัวอย่างละอายใจ

"พูดตามตรง ข้าเองก็ดูไม่ออก, แต่ข้ารู้สึกว่าร่างอวตารของเขามีพลังที่น่าตกตะลึง…แม้แต่ข้าถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นก็คงไม่รอด"

ฟู่ว~!

เมื่อได้ยินดังนั้น, ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับ​ราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์​ก็ยังดูไม่ออกว่าเย่หวู่ชางลงมืออย่างไร

"เอาล่ะ, ผู้อาวุโสจางเฉิง…ครั้งนี้ท่านจะเป็นตัวแทนของนิกายประตู​สวรรค์​ซิ​ง​เหอของเรา”

“จงไปยังตระกูลเย่ในแคว้นชางหลานเพื่อแสดงความขอบคุณ!”

ผู้นำนิกาย​มองไปที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งและพูดอย่างเคร่งขรึม

ผู้อาวุโสผู้นี้ติดอันดับท็อปสามในแง่ของความแข็งแกร่งโดยรวมในนิกายประตู​สวรรค์​ซิ​ง​เหอ

การที่เขาไปด้วยตนเอง…จะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของพวกเขา

จากนั้นเขาก็หยุดไปครู่หนึ่ง, ก่อนจะ พูดต่อ

"ไปเปิดห้องสมบัติและนำสมบัติหกในสิบไปเป็นของกำนัลให้ตระกูล​เย่!"

เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างตกตะลึงและมองผู้นำนิกาย​ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

"ท่านผู้​นำนิกาย​ นี่มันมากเกินไปหรือเปล่า"

ผู้อาวุโสระดับเทพสวรรค์คนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา…ทั่วทั้งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

แต่ผู้​นำนิกายกลับ​ส่ายหัว

"ตระกูลเย่เป็นมิตรได้ แต่เป็นศัตรูไม่ได้, หากเราไม่สามารถทำให้พวกเขาพอใจได้ ข้าเกรงว่าวันข้างหน้าของพวกเราคงจะไม่ดีแน่ๆ!"

"อย่าลืมว่าภายในตระกูลเย่ไม่ได้มีแค่เย่หวู่ชางที่แข็งแกร่ง, ซูเสี่ยวเซียว ภรรยาของเขาก็อยู่ในระดับจักรพรรดิ​ศักดิ์​สิทธ์​แล้ว”

“นอกจากนี้พวกเขา​ยังมี, เย่เจิ้น, มู่ซีเหยา, เย่ว์​รู​่​ช​วง, และเซี่ยจือซวน….ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในระดับราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์​”

“โดยเฉพาะเซี่ยจื่อซวนที่อยู่ในระดับสูงสุดของราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์เเล้ว…​เธอไม่ควรถูกมองข้ามเลย!”

"นอกจากนี้ยังมีเทพสวรรค์อีกมากมาย”

“ถึงแม้ว่าตระกูลเย่จะเป็นกองกำลัง​ใหม่ที่เพิ่งผงาดขึ้นมา, แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนที่เราจะประมาทได้อีกต่อไป”

“หากข่าวแพร่ออกไปว่าตระกูลเย่ไม่พอใจกับของกำนัลนี้ แม้ว่า​พวกเขาจะไม่ลงมือเอง…ข้าเกรงว่ากองกำลังอื่นๆก็คงจะมาสร้างปัญหาให้กับพวกเราเพื่อเอาใจตระกูลเย่เป็นเเน่!”

หลังจากได้ยินคำอธิบายนี้ ทุกคนก็เงียบลงอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ผู้​นำนิกาย​พูดนั้นถูกต้องเเล้ว

ในที่สุด, ราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์​ที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

"พวกเจ้าทุกคน, จง​อย่าลืมว่าเขาช่วยเราเปิดโปงคนทรยศ…สำหรับนิกายของเรานี่ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาล!"

"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาสามารถกำจัดนิกายประตู​สวรรค์​ซิ​ง​เหอของเรา และยึดสมบัติทั้งหมดเพื่อเเก้​เเค้นได้”

“การที่พวกเขาไว้ชีวิตพวกเรา, ถือว่าเป็นความเมตตามากแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจและพยักหน้าเห็นด้วย

…………..

หลังจาก​นั้น​ไม่นาน

ผู้อาวุโส​จางเฉินของนิกายประตูสวรรค์​ซิงเหอก็ได้นำของกำนัล​ไปมอบให้ตระกูล​เย่

เเละเเน่นอนว่าตระกูลเย่ได้ทำให้ผู้อาวุโสจางเฉิงได้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เเท้จริง

ขณะเดียวกันเขาก็แอบดีใจกับการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้​นำนิกาย​

อัจฉริยะ​ที่หยิ่งผยอง, และแข็งแกร่งนับไม่ถ้วนสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในตระกูล​นี้

ยิ่งลูกหลานของเย่หวู่ชางก็ยิ่งน่ากลัวเป็นพิเศษ…ไม่มีใครที่เป็นคนธรรมดาเลยสักคน

นอกจากนี้, โชคดีที่ตระกูลเย่พอใจกับของกำนัลในครั้งนี้…เขาจึงสามารถ​ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เเละเมื่อเขากลับไป, ความบาดหมางระหว่างนิกายประตู​สวรรค์​ซิ​ง​เหอ และตระกูลเย่ก็สิ้นสุดลง

……………….

[ติ๊ง~! ตรวจพบทายาทรุ่นที่สามของท่านกำลังเกิด, กำลังทำการทดสอบพรสวรรค์ การทดสอบเสร็จสิ้น มอบรางวัลตอบแทน: พลังโชคลาภ​ 10 คะแนน​!]

เมื่อเห็นดังนั้น เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง

พลังโชคลาภ​ 10 คะแนน, เทียบเท่ากับคะแนน​โชคลาภ​ 1 เเสนล้าน

ดูเหมือนว่าเด็กที่เกิดใหม่คนนี้จะไม่ธรรมดา….เขาอาจจะเป็นถึงอัจฉริยะระดับสูง​สุด​ก็ได้

อย่างไร​ก็ตาม, ปัจจุบันลูกหลานของเขามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

รุ่นที่สาม รุ่นที่สี่ และอื่นๆก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว

เเต่เขาไม่ได้สนใจมากนัก, ที่เขาพุ่งเป้าคือการพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองต่อไปเพื่อเตรียม​ความพร้อม​รับมือกับสถานการณ์​พลังวิญญาณ​หวนคืน​

จากนั้น​ร้อยปีผ่านไปในพริบตา, ระดับพลังของเขาก็ทะลุผ่านขั้นเล็กๆ ไปถึงขั้นที่เจ็ดของอาณาจักร​ศักดิ์​สิทธ์​

สำหรับ​ครอบครัว​ของเขา, เซี่ยจื่อซวนได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักร​ศั​ก​ดิ์สิทธิ์​ระดับจักรพรรดิ​ศักดิ์​สิทธ์​ได้สำเร็จ

เย่ว์รู่ชวง มู่ซีเหยา และ คนอื่นๆ ก็ตามมาติดๆ….พวกเธอไปถึงจุดสูงสุดของระดับราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์เเล้ว

แม้แต่คนที่พรสวรรค์น้อยที่สุดในบรรดาพวกเธออย่างโม่ซีจุนและจ้าวชิงเกอ…ก็มาถึงอาณาจักร​ศั​ก​ดิ์สิทธิ์​ระดับเทพสวรรค์แล้ว

ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา, เขามีลูกเพิ่มขึ้นอีกหลายคน​ และจำนวนลูกของเขาก็ใกล้จะถึงห้าสิบคนแล้ว

เขามีลางสังหรณ์ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขามีลูกครบห้าสิบคน, รางวัลทายาททุกๆสิบคนที่เขาจะได้รับนั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน​ (อยากเห็นตอนร้อยคนมากกว่า​ อิอิ)​

ครู่หนึ่งเขาก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

เเต่สาเหตุที่ทำให้มีลูกน้อยลงในช่วงร้อยปี​ที่ผ่านมา​เป็นเพราะความแข็งแกร่งของทุกคนเพิ่มขึ้นอย่างมาก และขอบเขตของพวกเขาก็น่ากลัวอย่างยิ่ง

ด้วยสิ่งนี้, แม้แต่ความสามารถในการสืบพันธุ์อันแข็งแกร่งของเย่หวู่ชางก็ไม่แข็งแกร่งเท่าเดิม

แน่นอนว่าอีกสาเหตุหนึ่งก็คือการให้กำเนิดแต่ละครั้งนั้นสร้างความเสียหายให้กับรากฐานของเหล่าภรรยา​

ทุกครั้งที่ให้กำเนิด, พวกเขาจึงต้องใช้เวลาหลายปีหรือแม้แต่หลายสิบปีในการฟื้นฟูรากฐาน

อย่างไรก็ตาม, ด้วยการกำเนิดของหลานรุ่นที่สาม และ เหลนรุ่นที่สี่….เขาก็ยังคงได้รับพลังโชคลาภ​เป็นจำนวนมาก

ตอนนี้เขาแทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลเย่แล้ว

เพราลูกๆของเขาก็เติบโตขึ้นจนถึงระดับที่สามารถข่มขวัญผู้อื่นได้แล้ว

เย่ซินชิงและเย่เฟิงถิงนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าใคร…พวกเขา​สมเป็นบุตรเเห่งโชคชะตา, ระดับพลังของพวกเขานั้นเหนือกว่าคนทั่วไปอย่างมาก

ทั้งคู่ต่างก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ​ศักดิ์​สิทธ์​แล้ว และพลังต่อสู้ก็น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง….แม้แต่ซูเสี่ยวเซียวก็ยังด้วยกว่าทั้งสอง

ถัดมาคือเย่เทียนหวง เย่จื่อหลาน และคนอื่นๆที่ไปถึงจุดสูงสุดของระดับราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์,​ พลังต่อสู้ของพวกเขาใกล้เคียงกับระดับจักรพรรดิ​ศักดิ์​สิทธ์​มาก

ส่วนเย่หวู่ชาง, แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ขีดจำกัดพลังของตัวเอง

เเต่เขารู้สึกได้อย่างเลือนลางว่า​ แม้เขาจะขึ้นไปที่เก้าแคว้นใจกลาง…เขาก็ยังคงมีพลังพอที่จะป้องกันตัวเองได้

เเละเมื่อเห็นว่าพลังโชคลาภ​ของเขามีเพียงพอแล้ว, เย่ห​วู่​ชาง​ก็ไม่พูดอะไรมากและเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตขั้นที่แปดของอาณาจักร​ศั​ก​ดิ์สิทธิ์​โดยตรง

เมื่อระดับพลังของเขาเพิ่มขึ้น, เย่หวู่ชางก็ยิ่งรู้สึกถึงความลึกลับ และความผันผวนระหว่างสวรรค์และโลกของทวีปเทียน​หยวนมากยิ่งขึ้น

เขารู้สึกเลือนลางว่าหายนะครั้งใหญ่นั้นกำลังใกล้​เข้ามา​

แรงกดดันมหาศาลได้กระตุ้นให้เขาพยายาม​พัฒนาความแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุด

……………..

อีกด้านหนึ่ง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้, มันเริ่มมีข่าวลือแพร่สะพัดออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

ภายในเก้าแคว้นใจกลาง, เมื่อโอสถอมตะปรากฏขึ้น…การต่อสู้ก็ย่อมปะทุขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ​

ผู้เชี่ยวชาญระดับผู้ทรงเกียรติ​นับไม่ถ้วนเข้าร่วมการต่อสู้, พลังของการต่อสู้นั้นน่ากลัวอย่างถึงที่สุด​

เเต่ในขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดาเกี่ยวกับเจ้าของโอสถอมตะนี้

ผู้เชี่ยวชาญผู้สวมหน้ากากลึกลับ​ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน

เขาต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญอาณาจักร​ผู้ทรงเกียรติ​ระดับสวรรค์​หลายสิบคนเพียงลำพังและในท้ายที่สุดเขาก็จากไปพร้อมกับโอสถอมตะ (อาณาจักร​ผู้​ทรงเกียรติ​ เเบ่งเป็น,​ ธรรมดา, สูงสุด, สวรรค์, สวรรค์​สูงสุด)​

ทิ้งไว้เพียงเสื้อคลุมสีดำสนิท และ หน้ากากซึ่งทำให้เกิดการคาดเดากันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่นานก็มีคนปล่อยข่าวออกมาว่านี่คือการปรากฏตัวอีกครั้งของกองกำลังจากยุคก่อน

กองกำลังนี้มีชื่อว่า "ยมโลก"

พวกเขาสวมหน้ากากและอ้างว่าเป็นตัวแทน​ของเทพเจ้า, พวกเขาได้รับพลังมาจากเทพเจ้า…จนมีพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวและมีพลังต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม

ผู้เชี่ยวชาญทุกคนจากยมโลกนั้นล้วนน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

นอกจากนี้,​ การสวมหน้ากากและเสื้อคลุมแบบพิเศษทำให้พวกเขาสามารถปกปิดร่องรอยและเงื่อนงำทั้งหมดได้

แม้แต่ศาลากลไก​สวรรค์​ก็ไม่สามารถตรวจจับพวกเขา​ได้

ยังเล่ากันอีกว่าหน้ากากนั้นมีวิชาและ ศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์, ช่วยให้พวกเขาสามารถแปลงพลังของตนเองให้เป็นพลังของยมโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ!

เเละเมื่อพวกเขาถอดหน้ากากออก, พวกเขาก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป…แม้ว่าจะนั่งอยู่ข้างๆ, คนข้างๆก็ไม่อาจรู้ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาได้

และสุดท้าย, มันก็มีข่าวลือว่าผู้เชี่ยวชาญจากยมโลกที่แย่งชิงโอสถอมตะไปในครั้งนี้…เป็นจักรพรรดิเฟิงตูผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาดาบยมโลก

ในอดีต, เขาเคยฆ่าจนโลกนี้ต้องหลั่งเลือด….ทำให้สรรพสิ่งถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นผง

อย่างไร​ก็ตาม, การต่อสู้นี้เผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของยมโลก

เเต่นอกจากการปรากฏตัวของยมโลกแล้ว, ยังมีกองกำลังที่เกี่ยวข้องอีกกองกำลังหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

นั่นคือกองกำลัง​ "สวรรค์"

พวกเขาเกือบจะเหมือนกับยมโลก ยกเว้นความแตกต่างของเสื้อคลุม และหน้ากาก

การปรากฏตัวของพวกเขาส่งผลให้ตระกูลโบราณที่สืบทอดมายาวนานในเก้าทวีปใจกลางนับล้านปีถูกทำลายล้าง

ซึ่งกองกำลัง​ที่ถูกกวาดล้าง​นี้มีอาณาจักร​ผู้ทรงเกียรติ​ระดับสวรรค์​สี่คน, ผู้ทรงเกียรติ​ระดับ​สูงสุด​กว่าสิบคน, ผู้ทรงเกียรติ​ธรรมดาเกือบร้อยคน….และผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์​ศักดิ์​สิทธ์​อีกนับหมื่นคน

พลังเช่นนี้, แม้จะอยู่ในเก้าแคว้นใจกลาง…เเม้จะไม่ถึงระดับผู้ปกครองแคว้น แต่ก็เป็นหนึ่งในสุดยอดกองกำลัง​

แต่ถึงอย่างนั้น, พวกเขา​ก็ถูกทำลายล้างโดยคนคนเดียว​

ยิ่งไปกว่านั้น, ความเร็วในการทำลายล้างนั้นรวดเร็วมาก…เมื่อผู้เชี่ยวชาญของกองกำลัง​อื่นๆมาถึงการต่อสู้ก็จบลงแล้ว

บางคนเห็นเพียงร่างสูงใหญ่สวมเสื้อคลุมสีขาวและหน้ากากลึกลับที่จากไปอย่างเงียบๆ

ต่อมาผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาของโบราณวัตถุจากยุคก่อน….ได้เปิดเผยตัวตนของบุคคลผู้นี้จากคำบอกเล่า

เขาคือจอมพลเทียนเผิงแห่งกองกำลัง(สวรรค์)​!

ชั่วขณะหนึ่ง, กองกำลัง​ในเก้าแคว้นใจกลางต่างก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว

ตระกูลโบราณที่สืบทอดกันมานับล้านปีกลับกลายเป็นเถ้าถ่านในชั่วข้ามคืน

ชีวิต​นับไม่ถ้วนในเก้าทวีปใจกลาง​ล้วนรู้สึกตกอยู่ในอันตราย

…………..

อย่างไรก็ตาม, ในช่วงวิกฤตินี้…มันก็มีข่าวใหม่แพร่สะพัดออกมา

ภายในพุทธศาสนา ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้กลับชาติมาเกิดและตื่นขึ้นพร้อมกับความทรงจำที่สมบูรณ์

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนบรรลุระดับวัชระในชาติที่แล้ว และหนึ่งในนั้นยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสิบแปดอรหันต์ในตำนานเพียงเล็กน้อย

ทั้งนี้, สิบแปดอรหันต์เปรียบเสมือนหน้าตาของพุทธศาสนา แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับอรหันต์….แต่ว่ากันว่าผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขานั้นมีพลังเทียบเท่ากับพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์สิบพระองค์

ดังนั้น, การกลับชาติมาเกิดของอรหันต์ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าสิบแปดอรหันต์เพียงเล็กน้อย…ย่อมสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วทั้งพุทธศาสนา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, การต่อสู้ที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในเก้าแคว้นใจกลางได้สั่นสะเทือนไปทั่วโลกนิรันดร์

บุคคลที่อยู่ในระดับต่ำกว่าสิบแปดอรหันต์เพียงเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้คือพระจิงกวงได้ปรากฏตัวขึ้น และต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญ​แห่งกองกำลังสวรรค์….สร้างความตกตะลึงให้กับโลกด้วยการต่อสู้เพียงครั้งเดียว

พระจิงกวงปราบปรามฝ่ายตรงข้ามตลอดการต่อสู้

แม้แต่หลังจากที่ปลดปล่อยกฎแห่งอรหันต์ออกมาแล้ว, เขาก็ยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญ​เเห่งกองกำลังสวรรค์​กระอักเลือดอย่างต่อเนื่อง

ในท้ายที่สุด, ผู้เชี่ยวชาญอีกหกคนจากกองกำลังสวรรค์ก็มาถึงและต่อสู้กับเขา

เเต่สุดท้ายพระจิงกวงก็ได้รับชัยชนะ

เขาเอาชนะทั้งเจ็ดคนได้ด้วยตัวคนเดียว…ทำให้อีกฝ่ายต้องล่าถอยไปด้วยความพ่ายแพ้และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวันเดียว

บางคนถึงกับเรียกเขาว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเก้าทวีปใจกลาง

นอกจากนี้, ยังมีข่าวลือว่าเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ในพลังโบราณต่างๆ

ตามข้อมูลของศาลากลไก​สวรรค์, พวกเขาสงสัยว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จากยุคก่อนได้กลับชาติมาเกิดแล้ว

"ช่างเป็นยุคที่วุ่นวายอะไรเช่นนี้!"

แม้แต่เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อได้รับข่าวนี้

………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด