ตอนที่แล้วตอนที่ 42: ความยากเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44: นักออกแบบเกมห่วยแตก

ตอนที่ 43: การวางตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบ


ตอนที่ 43: การวางตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบ

ลานคือฉากแรกของปราสาทเงาและเป็นทางเดียวที่นำไปสู่ชั้นสุดท้าย

ตอนนี้มันกลับถูกขวางโดยหมาป่าเงาหลายร้อยตัว แล้วแบบนี้จะผ่านได้อย่างไร?

"อย่างนี้นี่เอง!"

ทว่าเมื่อทุกคนกำลังมองฝูงมอนสเตอร์จำนวนมากในลานด้วยความตกตะลึง หวังยวนจึงหรี่ตาก่อนจะเข้าใจทันทีว่าเข้าจุดตรวจสะพานที่หม่าซานเอ๋อร์พูดถึงมีความหมายความว่าอย่างไร

นักออกแบบเกมจะไม่ออกแบบสิ่งที่ไร้ประโยชน์โดยไม่มีเหตุผล

ทุกฉากและทุกบทพูดอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการผ่านชั้นดังกล่าว

ยกตัวอย่างเช่นในฉากปัจจุบัน การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของสะพานแขวนคือจุดทะลวง

“คุณคิดว่าพวกพี่หนิวจะตายที่นี่หรือเปล่า?” เสี่ยวไป๋มองผู้เล่นตรงหน้าด้วยความไม่สบายใจขณะถามด้วยความวิตกกังวล

สำหรับยอดฝีมือในวันสิ้นโลกที่จะเกิดในอนาคต ปราสาทเงาเป็นเพียงอาณาจักรลับเรียบง่าย แต่สำหรับผู้เล่นในยุคนี้ การเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นยอดทรงพลังนับร้อยเป็นการท้าทายที่ค่อนข้างยากหากไม่ทราบว่าจะต่อสู้อย่างไร

“มันก็พูดยาก ว่ากันว่าคนในรุ่นของพวกเขาสามารถคืนชีพได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด เพราะงั้นถึงไม่ใช้สมองเวลาลงอาณาจักรลับเท่าไหร่ คงต้องตายหลายรอบก่อนถึงจะสามารถจับเคล็ดได้”

“แล้วจะเตือนเขายังไงดี?” หม่าซานเอ๋อร์เอ่ยคำขณะเตรียมจะเดินไปที่สะพาน

“ทุกคน ถอยกลับไปที่สะพาน!”

แต่หม่าซานเอ๋อร์เพียงขยับไปสองก้าวก็ได้ยินหวังยวนตะโกนถ่ายทอดคำสั่งเสียงดัง

“พระเจ้า! พี่หนิวรู้เรื่องด้วยเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหวังยวน โครงกระดูกทั้งสามตกตะลึง “หมอนี่เป็นคนฉลาดงั้นเหรอ? ต่อให้พวกเราไม่เตือนก็มองภูมิประเทศของจุดตรวจนี้ออกงั้นเหรอ?”

หวังยวน "..."

เป็นเพราะพวกแกเตือนนั่นแหละถึงได้รู้ว่าจะต้องเจอปัญหาติดขัด ไม่อย่างนั้นคงต้องตายอีกหลายครั้งถึงจะสังเกตเห็นสะพานนี้

“ถอยไปที่สะพานเหรอ? จะไปทำอะไรที่สะพาน? ไม่ควรเข้าไปข้างในเหรอ?”

สุ่ยหลิงหลงค่อนข้างประหลาดใจ

“สะพานนี้แกว่งไปมาแบบนี้ พวกเราจะสู้ได้จริงเหรอ?” ยิงไปเรื่อยเปื่อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“แค่ยืนยังไม่ไหวเลยไม่ใช่เหรอ? หากตกลงไปมันแย่ยิ่งกว่าถูกหมาป่าเงากัดจนตายซะอีก” วีรชนเป็นหนึ่งอดไม่ได้ที่จะก้มมองหุบเหวไร้ก้นที่อยู่ใต้สะพาน

เทพแห่งความตายกับความหวังไม่เอ่ยคำอะไรขณะมองผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่ง

เห็นได้ชัดว่าตอนที่หวังยวนไม่อยู่ ผู้บัญชาการของทีมนี้อยู่ที่ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่ง

"เอ่อ..."

ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งลูบคางพลางครุ่นคิด จากนั้นจึงเดินไปที่สะพานอย่างไม่ลังเล

เมื่อเห็นผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งไปที่สะพาน คนอื่นจึงหยุดพูดแล้วเดินตามไปที่สะพาน

“ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่ง ทำไมคุณต้องเชื่อฟังขนาดนี้ด้วย?” ยิงไปเรื่อยเปื่อยกระซิบถาม

แม้เด็กคนนี้จะขึ้นสะพานมาแล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจกับคำสั่งของหวังยวนเล็กน้อย

"เหลวไหล!"

ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งเอ่ยคำ “ถ้าเป็นฉัน พวกคุณก็ต้องขึ้นไปบนสะพาน”

“หา... ทำไมล่ะ?” ยิงไปเรื่อยเปื่อยถามด้วยความสับสน

“คุณไม่เห็นหรือว่าสะพานนี้แคบมาก?” ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งชำเลืองมองหวังยวนแล้วลอบถอนหายใจ "สมกับเป็นสุดโหดที่สามารถต่อสู้กับทั้งกิลด์เพียงคนเดียวได้ ช่างเก่งเรื่องการใช้งานภูมิประเทศเหลือเกิน"

การปิดกั้นเป็นกลยุทธ์ภูมิประเทศที่จำเป็นสำหรับยอดฝีมือ

ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งมองออกว่าหวังยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาทราบเช่นกันว่าหากต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองก็คงต้องต่อสู้หลายครั้งถึงจะสังเกตเห็นสะพานแขวนซึ่งเป็นภูมิประเทศที่สามารถใช้ปิดกั้นตำแหน่งได้

แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกของหวังยวนในการลงดันเจี้ยนระดับนรก กระนั้นกลับสามารถสังเกตเห็นสะพานแขวนที่สามารถใช้ปิดกั้นตำแหน่งได้ในเวลาอันสั้น นั่นแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการใช้กลยุทธ์ภูมิประเทศเป็นอย่างมาก

“แคบมากเหรอ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่ง ทุกคนต่างก็ตอบสนองเช่นกัน

หวังยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากความ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนฉลาดเฉลียวและสามารถเข้าใจทุกสิ่งได้ในคราวเดียว

“แคบแล้วทำไมเหรอ?” สุ่ยหลิงหลงยังคงสับสน

ทุกคน “…”

หวังยวนลอบปาด ยกเว้นผู้หญิงคนนี้สินะ

ไม่ช้า ทุกคนจึงมาอยู่บนสะพาน

หวังยวนชี้ไปที่ประตูลานแล้วเอ่ยคำ “หลิงจื่อ (สาวงาม) ไปเปิดประตู ทันทีที่เปิดแล้วให้รีบถอยกลับมา”

"โอ้..."

แม้สุ่ยหลิงหลงยังคงไม่เข้าใจ กระนั้นก็ยังรีบวิ่งออกไปแล้วใช้สกิลล็อกพิกเพื่อเปิดประตูเหล็กขนาดใหญ่ในลาน

"เอี๊ยด!"

ประตูเหล็กถูกผลักจนเปิดออก แล้วสุ่ยหลิงหลงจึงหันหลังเพื่อวิ่งกลับมา

“เสี่ยวเฉ่อ (ยิงน้อย) โจมตีมอนสเตอร์!” หวังยวนออกคำสั่งอีกครั้ง

“เสี่ยวเฉ่อเหรอ?” เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนหัวของยิงไปเรื่อยเปื่อยขณะเผยสีหน้าไม่พอใจ “อย่าเรียกฉันว่าเสี่ยวเฉ่อนะ!”

“งั้นเสี่ยวเปี้ยน (ปัสสาวะ) เป็นไง?” หวังยวนเกาศีรษะ

“พ่อคุณเถอะ… เอาเป็นว่าเรียกฉันว่าเสี่ยวเฉ่อแล้วกัน”

ยิงไปเรื่อยเปื่อยยกคันธนูพร้อมกับประทับลูกธนูอย่างจนใจ จากนั้นทักทายหมาป่าเงาในลานด้วยลูกธนู

"ซู่!!"

ลูกธนูวาดวิถีโค้งขณะตกลงบนหัวของหมาป่าเงา

“????”

ทันใดนั้น หมาป่าเงาทุกตัวในลานจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกันราวกับถูกเตะ

จากนั้นพวกมันจึงกรูมาที่สะพาน

“วอริเออร์ชนมอนสเตอร์!”

หวังยวนถ่ายทอดคำสั่ง

วีรชนเป็นหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกระบี่ใหญ่ในมือแล้ว

ความหวังที่อยู่ข้างหลังยกคทาขึ้น สิ้นเสียงฟ่าวฟ่าวฟ่าว วงแสงสามวงก็ปรากฏขึ้น

วงแหวนผู้กล้า: เพิ่มพลังโจมตี 5 หน่วย

วงแหวนเหล็กกล้า: เพิ่มพลังป้องกัน 5 หน่วย

วงแหวนหนาม: เพิ่มการสะท้อนความเสียหาย 5 หน่วย

วงแหวนเสริมพลังให้กับทั้งทีมขณะหมาป่าเงาวิ่งตรงมาที่สะพาน

ตอนนี้เองลักษณะของจุดตรวจภูมิประเทศก็ปรากฏชัดเจนเช่นกัน

เนื่องจากสะพานแคบมาก ทำให้พวกมันผ่านเข้ามาได้ทีละตัวเท่านั้น

ดังนั้นหลังจากหมาป่าเงาพุ่งเข้ามาที่สะพาน พวกมันจึงต้องเรียงแถวกันเข้ามา…

วอริเออร์อย่างวีรชนเป็นหนึ่งอยู่แนวหน้าเพื่อปิดกั้นหมาป่าเงาทั้งหมดไว้ที่อีกด้านของสะพานเพียงคนเดียวโดยอาศัยภูมิประเทศของสะพานแขวนเพื่ออยู่ในตำแหน่งปิดกั้นอย่างสมบูรณ์แบบ

ในตอนนี้มีหมาป่าเงานับร้อยอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่มีเพียงตัวเดียวที่เข้ามาเผชิญหน้ากับพวกหวังยวน

แม้หมาป่าเงาจะเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 30 แต่ในฐานะวอริเออร์เลเวล 18 ต่อให้วีรชนเป็นหนึ่งไม่ได้เล่นสายการ์เดี้ยนวอริเออร์ที่เน้นป้องกัน แต่พลังป้องกันของเกราะบนร่างกายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวีรชนเป็นหนึ่งสวมชุดเกราะระดับเงิน

แม้ความเสียหายของหมาป่าเงาจะค่อนข้างสูง แต่ความเสียหายที่วีรชนเป็นหนึ่งได้รับกลับไม่มากนัก

นอกจากนี้วีรชนเป็นหนึ่งยังมีนักบวชกับพาลาดินที่สามารถเพิ่มพลังชีวิตกับสถานะได้คอยหนุนหลังอยู่

ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องการป้องกัน การปัดป้องหรือการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ขอเพียงยืนอยู่กับที่แล้วใช้ร่างกายเพื่อโค่นหมาป่าเงาก็พอแล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วีรชนเป็นหนึ่งสามารถต้านทาน “หมาป่า” ได้

หวังยวนร่ายคำสาปอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้หมาป่าเงาที่อยู่ข้างหน้าอ่อนกำลัง

จากนั้นยิงไปเรื่อยเปื่อยจึงโจมตีเข้าที่หัวของหมาป่าเงา

หมาป่าเงาส่งเสียงครวญครางขณะลูกไฟของเทพแห่งความตายติดตามอย่างใกล้ชิด

สิ้นเสียง “ตูม!” แถบพลังชีวิตบนหัวของหมาป่าเงาก็ลดลง

คนอื่นทำการโจมตีเข้าใส่ เพียงแค่รอบเดียวก็ทำให้ค่าพลังชีวิตของหมาป่าเงาลดไปหนึ่งในสาม

สิบวินาทีต่อมา มันจึงถูกทุบตีจนกลายเป็นซากศพ

ค้นพบซากศพที่สามารถดึงวิญญาณออกมาได้ ต้องการดึงวิญญาณหรือไม่

ขณะหมาป่าเงาล้มลงกับพื้น คำเตือนก็วูบไหวขึ้นตรงหน้าหวังยวน

“ดึงวิญญาณเหรอ?”

หวังยวนตกตะลึงเมื่อเห็นข้อความดังกล่าว

ทันใดนั้นสกิลที่ซูลเคยสอนเขาก็ผุดขึ้นมา

ดึงวิญญาณ: คุณได้ฝึกฝนวิชาอัญเชิญใหม่ที่พัฒนาโดยมหาปุโรหิตซูล มันสามารถดึงวิญญาณ ของผู้ตายมาเป็นเปลวเพลิงวิญญาณ ซึ่งเปลวเพลิงวิญญาณสามารถใส่เข้าไปในร่างของอันเดดได้ ทำให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงอันเดดของตัวเอง ไม่มีระยะเวลาคูลดาวน์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด