บทที่ 31 ไก่ลวก
บทที่ 31 ไก่ลวก
(*จากบทนี้ขอเปลี่ยนชื่อผู้หญิงแต่งานแล้วที่ลงท้ายว่าจื่อ เป็นนาง แทน)
"อ๊า!" เสียงร้องกรีดที่ดังลั่นดังออกมาจากปากของนางเหมา ราวกับว่านางเป็นลิงแก่ที่ถูกเหยียบหาง นางกระโดดขึ้นทันที ท่แม่เฒ่าจี้รีบกระโดดถอยหลัง กลัวว่าน้ำในถังอุจจาระจะกระเด็นใส่ตัวเอง แสดงท่าทางรังเกียจอย่างมาก
บนพื้นเต็มไปด้วยมูลไก่ที่กระจายไปทั่ว และถูกนางเหมาเหยียบย่ำไปทั่ว ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง เซี่ยชิงหยาด้วยความโกรธจัดหยิบถังอุจจาระขึ้นมาจากพื้น ตวาดใส่แม่เฒ่าจี้ว่า "ไสหัวไปไหม!"
แม่ผัวลูกสะใภ้สบตากันแวบหนึ่ง แล้วรีบวิ่งหนีไปทันที วิ่งเร็วยิ่งกว่าตั๊กแตน กลัวว่าเซี่ยชิงหยาจะไล่ตามมา
หลังจากขับไล่สองคนที่น่ารำคาญนั่นไปได้ เซี่ยชิงหยารู้สึกสะใจมาก แต่การทำความสะอาดก็ยุ่งยากพอสมควร เมื่อเห็นอาหารทะเลที่เสียหายตรงหน้า และนึกถึงใบหน้าที่มีแผลเป็นของเจ้านั่น นางก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง
ต้าหยาริเริ่มเข้ามาหาเป็นครั้งแรก จับมือของเซี่ยชิงหยาไว้ และพูดปลอบใจด้วยสีหน้าจริงจัง: "แม่ เมื่อพ่อกลับมาเขาจะต้องเป็นธุระให้แม่แน่ๆ แม่ไม่ต้องกลัว พ่อเก่งมาก เขาจะต้องไล่คนเลวพวกนั้นไปได้แน่นอน"
"ดีจ้ะ ขอบใจต้าหยา แม่ไม่กลัวหรอก" เซี่ยชิงหยารู้สึกอบอุ่นใจ แล้วหันไปเห็นต้าหยาและเอ้อร์หยากำลังขยันขันแข็งเก็บกวาดมูลไก่บนพื้น
ในอ้อมแขนของนางรู้สึกหนักอึ้ง แม้ว่าช่วงเช้าอาหารทะเลจะถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังขายได้อีกครึ่ง ทำเงินได้ไม่น้อย
หลังจากที่แม่ลูกสามคนเก็บกวาดมูลไก่เสร็จ เซี่ยชิงหยาก็กลับเข้าบ้าน นางเอาก้อนหินออกมา ใต้ก้อนหินมีหม้อแตกใบหนึ่ง เมื่อเปิดออกก็เห็นเหรียญทองแดงเต็มไปหมด
ข้างนอกลูกสาวสองคนกำลังล้างมืออย่างบ้าคลั่ง ในลานบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นมูลไก่ แม้แต่คนที่เก็บกวาดก็ยังมีกลิ่นมูลไก่ติดตัว
"ไอ้หน้าแผลเป็น สักวันหนึ่ง ข้าจะทำให้แกต้องชดใช้ทุกอย่างคืนมาพร้อมดอกเบี้ย!" เซี่ยชิงหยาสาบานด้วยฟันกัดแน่น เงินตรงหน้าทำให้จิตใจของนางสงบลงไม่น้อย
จำเป็นต้องหาคนช่วยเหลือในเมือง ไม่อย่างนั้นตัวเองก็แค่ชาวบ้านธรรมดา อยากทำธุรกิจอะไร ถ้าไม่มีคนคอยคุ้มครอง ก็คงเป็นไปไม่ได้แน่
ส่วนตัวเลือกคนนี้ ในเมือง... เซี่ยชิงหยาครุ่นคิดอยู่นาน ตัวเองก็ไม่รู้จักใครในเมืองสักเท่าไหร่ ผู้จัดการโรงเหล้าเยว่ไหลนั่นคงไม่ได้แน่ คนเดียวที่พอจะมีความสัมพันธ์บ้างก็คืออู๋ตี๋
เขามีอิทธิพลบ้าง และเป็นคนยุติธรรม
ลองคิดดูอีกที...
รุ่งเช้าวันถัดมา ในลานบ้านก็เริ่มวุ่นวาย
"พวกเจ้าสองคนออกมาเร็ว เดี๋ยวจะมีของอร่อยให้กินแล้ว!" เซี่ยชิงหยาเลือกไก่ที่อ้วนพีที่สุดสองตัว ลงมือฆ่าอย่างรวดเร็ว ไก่พวกนั้นเอียงคออย่างไม่ยอมแพ้ แล้วก็ตาย
ต่อมาก็ถอนขนและเอาเลือดออก นำไปลนไฟเพื่อกำจัดขนเล็กๆ สีขาว ไม่อย่างนั้นเวลากินจะดูไม่สวยงาม
ไก่ที่ทำความสะอาดแล้วใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นลงสามครั้ง นี่เป็นการทำให้อุณหภูมิภายในไก่เท่ากับในหม้อ
ตุ๋นให้เดือด ไอร้อนพวยพุ่ง เซี่ยชิงหยาใช้มือบีบขาไก่ ก็สามารถบีบให้หักได้ทันที
นำไก่ขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจากบ่อ วิธีนี้จะทำให้หนังไก่เหนียวขึ้น เซี่ยชิงหยาเตรียมกระเทียมสับและขิงซอย ราดน้ำมันร้อน เสียงซู่ดังขึ้น เครื่องปรุงก็เสร็จแล้ว
นางยังเตรียมต้นหอมและกระเทียม เทซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูลงไป
"แม่บอกว่าจะทำของอร่อยให้กิน รีบมากินเร็ว" เซี่ยชิงหยาเรียก ลูกสาวสองคนก็วิ่งมาอย่างรวดเร็ว
ไก่ต้มที่ทำเสร็จแล้ว ทาน้ำมันถั่วลิสง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วจัดใส่จาน โรยด้วยผักชีสีเขียวสด ดูไม่มีน้ำมันมากนัก ค่อนข้างจืด แต่ดูใสกระจ่างน่ากิน
เนื้อสุกกระดูกดิบ
หนังมีสีเหลืองอ่อน เนื้อเนียนละเอียดขาวสะอาด แต่กระดูกกลับเป็นสีแดง
ตอนแรกเอ้อร์หยาหยิบชิ้นหนึ่งขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าเอาเข้าปาก
เซี่ยชิงหยายิ้มมุมปาก พูดล้อเล่นว่า "ไม่ชอบกินหรือ? ถ้าไม่ชอบกิน แม่ก็จะเอาไปให้ป้าหยุนหลานหมดเลย"
"อ๊ะ! ไม่เอานะแม่!"
เอ้อร์หยาพูดพลางงับเนื้อไก่ต้มเข้าปากทันที กลืนลงไปอย่างรวดเร็ว อร่อยจนต้องหรี่ตา
พลังแห่งความปรารถนา +1!
ต้าหยากินอย่างสุภาพกว่าเอ้อร์หยา แต่ก็ไม่ช้าเลย
เซี่ยชิงหยาตั้งหม้อขึ้นเตาอีกครั้ง นำถั่วลิสงที่ซื้อมาจากเมืองเมื่อวานมาต้ม เมื่อนุ่มแล้วก็ปอกเปลือก พอดีจะทำถั่วลิสงหนังปลา
เนื่องจากเครื่องปรุงในสมัยโบราณมีจำกัด จึงทำได้เพียงสองแบบ
ถั่วลิสงคลุกแป้ง โรยน้ำตาล แล้วทอดในกระทะ ตักขึ้นมากินจะหวานๆ
อีกแบบหนึ่งเป็นถั่วลิสงรสเค็ม พอดีกับถั่วลิสงรสหวาน
เซี่ยชิงหยาตักถั่วลิสงใส่จาน นำไปวางตรงหน้าลูกสาวทั้งสอง
"กินเถอะ แม่จะไม่ทำอาหารอย่างอื่นให้แล้วนะ กินไก่ต้มก่อน แม่ต้องไปเมืองหน่อย"
พอได้ยินคำว่าเมือง ลูกสาวทั้งสองก็ไม่สงบแล้ว โดยเฉพาะต้าหยา วางชิ้นไก่ต้มในมือลงทันที
นางแสดงสีหน้ากังวล ยกมือขึ้นครึ่งทางแล้วก็วางลง
"แม่ จะไปเมืองทำไมหรือเจ้าคะ"
"ไม่ต้องกังวลนะ แม่ไม่ได้ไปขายอาหารทะเล จะไม่ไปยุ่งกับไอ้หน้าแผลเป็นนั่นหรอก"
เซี่ยชิงหยาเห็นลูกสาวทั้งสองหยุดกิน มองตนด้วยความกังวล จึงถอนหายใจ
สถานการณ์บีบบังคับ
แม้แต่เด็กหญิงอายุไม่ถึงสิบขวบก็ยังรู้จักเป็นห่วงคนแล้ว ทั้งรู้ความและทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดใจไปพร้อมกัน
......
ในเมือง
เซี่ยชิงหยาไปที่ตลาดที่คึกคักที่สุด เพราะอู๋ตี๋ชอบความวุ่นวาย ที่นี่จะหาเขาได้ง่ายที่สุด
"เร็วๆ การชนไก่กำลังจะเริ่มแล้ว!"
"คราวนี้ข้าจะแทงไก่ตัวใหญ่ทางซ้ายชนะ!"
"ข้าแทงตัวทางขวา"
ข้างหน้าคึกคักวุ่นวาย เซี่ยชิงหยาได้ยินมาเล็กน้อย จึงมองไปรอบๆ แล้วก็เห็นอู๋ตี๋อยู่ในกลุ่มคนที่กำลังมุงดู
อู๋ตี๋ตามหลังมาด้วยน้องชายที่ร้องไห้โวยวายวันนั้น ทั้งสองคนกำลังรีบวิ่งตามฝูงชนไป
เซี่ยชิงหยาขวางทางอู๋ตี๋ไว้ทันที เมื่อมีคนขวางทาง อู๋ตี๋ไม่พอใจมาก คิ้วกระตุกแรง
"เจ้า... เป็นหญิงตัวเล็กๆ คนนั้นนี่เอง มีธุระอะไรก็รีบพูดมา ข้ายังรีบไปดูไก่ชนอยู่!"
"เจ้าอยากทำธุรกิจไหม? พวกเราร่วมหุ้นกัน"
เซี่ยชิงหยาพูดตรงๆ คิดว่าคงไม่มีใครปฏิเสธการหาเงินหรอก
แต่อู๋ตี๋งงไปครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็ยิ้มกว้าง หางตาเชิดขึ้น ทำท่าเหมือนเข้าใจแล้ว "ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร เจ้าก็แค่อยากทำธุรกิจอาหารทะเลกับข้า เพื่อที่หน้าแผลเป็นนั่นจะได้ไม่มารังควานเจ้าใช่ไหม?"
เซี่ยชิงหยาถูกเปิดเผยความคิด แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด เพียงแค่ส่งกล่องอาหารในมือให้
"อืม พูดถูกแล้ว แล้วคุณชายอู๋คิดอย่างไร?"
เซี่ยชิงหยาไม่รีบร้อน จ้องตาอู๋ตี๋ตรงๆ รอคำตอบ
อู๋ตี๋โบกมืออย่างรำคาญ พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า "ถ้าเป็นความช่วยเหลืออื่น วันนั้นเจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าต้องช่วยแน่นอน แต่เรื่องทำธุรกิจอย่าไปหาข้าเลย ข้าเบื่อวุ่นวาย!"
"บ้านข้ามีเงินมากมาย ขี้เกียจคิดมากไปทำธุรกิจอะไรนั่น นี่อะไร ทำไมกลิ่นหอมจัง?"
พูดพลางอู๋ตี๋ก็เปิดกล่องอาหาร เห็นไก่ต้มหนังสีเหลืองอ่อนและถั่วลิสงหนังปลา
บนถนนที่คึกคัก แม้แต่อู๋ตี๋ที่กินอาหารหรูหรามามากมายก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
เขากัดขาไก่ไปพลางนึกถึงธุระสำคัญขึ้นมาได้ จึงพูดว่า "ไก่ชนกำลังจะเริ่มแล้ว ข้าต้องรีบไป!"