ทดสอบคิวบ์สะสาร สิ่งของที่ยอดเยี่ยม (อ่านฟรี 11/09/2567)
“ข้ามีพลังเวทย์อยู่ 26 หน่วย ลองใช้หนึ่งหน่วยก่อนก็แล้วกัน” คริสมองหน้าต่างสเตตัชของตัวเองพลางกล่าวออกมา
ชายหนุ่มจ่ายพลังเวทย์หนึ่งหน่วยเข้าไปยังรอยสักรูปคิวบ์สะสารที่ด้านหลังมือขวา ทันใดนั้นก็เป็นเหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติ มือข้างขวาของคริสกางออกก่อนจะยกขึ้นเสมอไหล่
ที่กางฝ่ามือของเขาค่อย ๆ เกิดพลังเวทมนตร์จำนวนหนึ่งขึ้น มันค่อย ๆ แปรสภาพกลายเป็นบางสิ่งบางอย่าง จนผ่านไปราวสามวินาทีพลังเวทย์ที่ว่าก็กลายเป็นมีดสั้นเล่มหนึ่ง
[มีดสั้นนิลดำ]
ระดับ : F
เอฟเฟค : เพิ่มพลังโจมตีให้ผู้ใช้งาน +5
ขวับ ขวับ ขวับ
“น่าสนใจจริง ๆ ถึงจะเป็นเพียงมีดระดับ F แต่ก็ดีกว่าที่มีขายตามร้านทั่วไปไม่น้อย” คริสกวัดแกว่งมีดสั้นสีดำในมือไปมาพลางวิเคราะห์ไปด้วย มีดเล่มนี้นับว่ามีควาวแหลมคมยิ่งกว่ามีดระดับ F ทั่วไป แถมมีน้ำหนักเบาอีกต่างหาก
ที่เขารู้ได้ก็เพราะภายในห้องนี้มีอาวุธระดับ F ให้ทดลองใช้ฟรีทุกชนิด แถมยังมีหุ่นทดสอบทั้งแบบที่ทำจากฟาง ไม้ หิน เหล็ก นับว่าสะดวกสบายไม่น้อยเลยทีเดียว
“ต่อไปก็ทดสอบความทนทาน” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะหยิบมีดสั้นขึ้นมาสองเล่ม
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! แคร้ก!
คริสทดลองใช้มีดสั้นระดับ F ของห้องทดสอบฟันใส่หุ่นเหล็กอย่างแรง แต่ฟันไปได้เพียงไม่กี่สิบครั้งมันก็หักลงเสียอย่างนั้น เขาโยนมีดสั้นเล่มนั้นทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
ชายหนุ่มจึงเอามีดสั้นนิลดำที่ได้จากคิวบ์สะสารขึ้นมาทดลองฟัน เขาพบว่ามีดสั้นนิลดำสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า แถมยังมีความคงทนที่มากกว่าเกือบสิบเท่า ชายหนุ่มต้องฟันหุ่นเหล็กอยู่เกือบสามร้อยครั้งมีดสั้นนิลดำที่เขาสร้างมาถึงจะหักลง
“ไม่เลวเลยทีเดียว ข้ายังเหลือพลังเวทย์อีก 25 หน่วย พลังเวทย์จะฟื้นฟูอย่างช้า ๆ ภายในหนึ่งวัน นอกจากนี้ถ้าข้าหาซื้อน้ำยาเติมพลังเวทย์ไว้มันก็จะสามารถสุ่มบางสิ่งออกมาได้เรื่อย ๆ” ชายหนุ่มยกหลังมือขวาที่มีรอยสักขึ้นมาดู ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยความสนใจ
“ข้าไม่มีพวกน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทย์เสียด้วยสิ งั้นทดลองเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน” หลังจากได้ข้อสรุปคริสก็ทำการส่งพลังเวทย์เข้าไปยังรอยสักรูปคิวบ์สะสารมากขึ้น
[ใช้พลังเวทย์ 3 หน่วย]
[รองเท้าปีกวายุ]
ระดับ : F
เอฟเฟค : เมื่อสวมใส่รองเท้าคู่นี้จะสามารถกระโดดเพื่อเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศได้
[ใช้พลังเวทย์ 5 หน่วย]
[หอกทองแดงชั้นดี]
ระดับ : E
เอฟเฟค : [เพิ่มพลังโจมตีให้ผู้ใช้งาน +10][เพิ่มความว่องไวให้ผู้ใช้+5]
[ส่งพลังเวทย์ 7 หน่วย]
[สร้อยดวงดาว]
ระดับ : D
เอฟเฟค : เพิ่มหลังป้องกันให้ผู้สวมใส่ +5
เอฟเฟคเสริม : ผู้สวมใส่จะได้รับพลังเวทย์ +15 เมื่อต่อสู้ในสถานที่ซึ่งมองเห็นดวงดาวได้
[ส่งพลังเวทย์ 10 หน่วย]
[ยาระเบิดพลัง]
ระดับ : D
เอฟเฟค : เพิ่มพลังโจมตีของผู้ที่ดื่มเข้าไปสองเท่าภายในระยะเวลาหนึ่งนาที
ครึ่งหลัง
“ค่อนข้างหลากหลายแหะ แต่ก็คุ้มค่าไม่น้อย” ชายหนุ่มมองสิ่งของตรงหน้าก่อนจะกล่าวออกมา
เขาสวมรองเท้าปีกวายุกับสร้อยดวงดาว ก่อนจะหยิบหอกทองแดงชั้นดีขึ้นมาควงไปมาด้วยความชำนาญ ด้วยตัวเขาที่ถูกขนานนามว่าเทพสงครามแห่งดวงดาว บวกกับได้รับทักษะเชี่ยวชาญหอกมาเพิ่มทำให้ฝีมือหอกของเขาในยามนี้ร้ายกาจกว่าเก่าเป็นอย่างมาก
ขวับ ขวับ ขวับ ฉึก ฉึก ฉึก!
ชายหนุ่มตวัดหอกในมือด้วยความรวดเร็ว การแทงหอกแต่ละครั้งเปรียบได้กับอสรพิษที่พร้อมจะทิ่มแทงได้จากทุกทิศทาง ไม่มีส่วนใดที่หอกในมือของเขาโจมตีไม่ได้!
หุ่นซ้อมที่ทำมาจากเหล็กถูกหอกทิ่มแทงจนเกิดบาดแผลที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คริสซ้อมกวัดแกว่งหอกอยู่ประมาณสิบนาทีจึงได้หยุดลง
หุ่นซ้อมตรงหน้าของเขาในยามนี้อยู่ในสภาพที่น่าสงสารเป็นอย่างมาก ทั่วทั้งตัวของมันมีแต่รอยบาดแผล ดูเหมือนว่าคงต้องนำไปหลอมใหม่อย่างเดียวถึงจะเอากลับมาใช้ได้ใหม่
“หอกเล่มนี้สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีอาวุธเล่มใหม่มาใช้งาน หวังว่ามันจะไม่พังเร็วจนเกินไป” ชายหนุ่มมองหอกในมือของตนพลางกล่าวออกมา
“ทดสอบรองเท้าดูหน่อยก็แล้วกัน” คริสสวมรองเท้าปีกวายุก่อนจะออกวิ่งไปทั่วห้อง
หลังจากนั้นเขาก็ลองกระโดดดู ในครั้งแรกยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงลองกระโดดอีกครั้งพลางจินตนาการว่าเขาสามารถกระโดดกลางอากาศต่อได้ ในคราวนี้เขาสามารถกระโดดกลางอากาศได้จริง ๆ !
คริสทดสอบไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าเขาสามารถกระโดดกลางอากาศได้เรื่อย ๆ เพียงแต่ว่ามันก็ไม่ได้สะดวกสบายมากนัก เพราะถ้าเขาหยุดเมื่อไร ร่างของเขาก็จะล่วงลงมาทันที ทำให้ต้องกระโดดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
แต่ถ้านำมาชำควบคู่กับทักษะของเขาที่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ มันก็นับจะทำให้ความสามารถทั้งสองผสานใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
“เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวออกมาก่อนที่จะเก็บหอกทองแดงชั้นดีและยาระเบิดพลังไว้ในมิติเก็บของ ส่วนสร้อยดวงดาว รองเท้าปีกวายุเขาเลือกที่จะสวมใส่ไว้เช่นนั้นโดยไม่ถอดออก
“จะไปแล้วเหรอคะ? ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมงเลยนะคะ” พนักงานถามออกมาด้วยความงงงวย
“พอดีข้ามีธุระต่อน่ะ ขอตัวก่อนนะ” ชายหนุ่มกล่าวจบก็เดินจากไปทันที
“ขอบคุณที่มาใช้บริการนะคะ” พนักงานสาวกล่าวตามหลังไป แต่ในใจของเธอก็ค่อนข้างจะสับสนว่าทำไมชายตรงหน้าถึงไม่ใช้บริการให้ครบชั่วโมง
แต่นั่นมันก็ดีเหมือนกัน เพราะเท่ากับว่าทางร้านได้ส่วนต่างฟรี
“ไปเช็คสภาพห้องหน่อยก็แล้วกัน” เธอเลิกคิดมากแล้วตรงไปยังห้องที่ชายหนุ่มเพิ่งออกมาเมื่อสักครู่นี้
“นี่แม้งอะไรวะเนี่ยยยยยยย!” แต่เมื่อเธอเปิดเข้าไปเห็นสภาพห้อง เธอก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
สภาพภายในห้องยามนี้มันเหมือนกับว่าเกิดสงครามขนาดย่อมขึ้นไม่มีผิด หุ่นจำลองที่จัดวางเอาไว้อยู่ในสภาพเสียหายยับเยิน บางตัวก็มีร่องรอยของการถูกฟันแทง บางตัวก็มีร่องรอยของการถูกไฟเผา บางตัวก็มีร่องรอยของการถูกบางอย่างกัดกร่อน
แน่นอนว่าผนังของห้องก็ไม่ค่อยต่างกันมากนัก แต่ก็โชคดีที่ห้องฝึกซ้อมทุกห้องถูกลงวงเวทย์ฟื้นฟูเอาไว้ ทำให้ความเสียหายที่ไม่เกินระดับ A จะถูกฟื้นฟูโดยอัตโนมัติภายในหนึ่งชั่วโมง ตราบใดที่มีแก่นเวทย์อย่างเพียงพอ
ซึ่งจำนวนแก่นเวทย์ที่ต้องใช้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของความเสียหายที่ต้องฟื้นฟู ตามปกติแล้วผู้ที่มาฝึกซ้อมนั้นจะแทบสร้างความเสียหายอะไรได้ไม่มากนัก ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้วงเวทย์ฟื้นฟูก็ได้ ทางเจ้าของสถานที่จึงได้กำไรไปเต็ม ๆ แต่กลับสภาพห้องในตอนนี้ คงจะทำให้ขาดทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แน่นอนว่าชายที่เป็นต้นเหตุหาได้รู้เรื่องอะไรไม่ เขาจากไปโดยไม่หันกลับมามอง