ตอนที่ 111 : ผลึกวิญญาณ
ตอนที่ 111 : ผลึกวิญญาณ
ในสองวันที่หลินลั่วไม่อยู่ในเมืองปิ้นไห่ มันก็มีหลายคนมาหาเขาที่บ้าน
“คุณกั้ว พี่ลั่วไม่อยู่บ้านแล้ว !” ถังเฉิงพูดขึ้นมา “เขาออกไปตั้งแต่เช้า เขาให้กุญแจไว้กับผม บอกให้ผมดูแลบ้านให้เขา”
กั้วโฉวยี่ถามขึ้นมา “นายรู้มั้ยว่าเขาไปไหน ?”
“ผมไม่รู้” ถังเฉิงส่ายหน้าและพูดขึ้น “พี่ลั่วแค่บอกว่าจะไปข้างนอกสักพัก ผมถามเขาว่าจะไปไหน แต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไร”
“คุณกั้ว คุณมีธุระอะไรกับเขารึเปล่า ?”
กั้วโฉวยี่ส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะรไหรอก ฉันแค่อยากมาเตือนเขาว่าตัวปัญหาของตระกูลตงฟางน่ะกลับมาแล้ว ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่อยู่แล้ว”
“ใช่สิ ตั้งแต่ที่เขาออกจากเมืองไป เขาได้ทิ้งอะไรเอาไว้ไหม ?”
“ใช่ เขาบอกว่าให้ผมลงทะเบียนให้เขาด้วย มหา’ลัยหลวง เขาจะไปเรียนที่มหา’ลัยหลวง”
ถังเฉิงพูดขึ้นมาด้วยท่าทีอิจฉา “เฮ้อ เมื่อวานนี้มหา’ลัยชั้นนำทั้งสิบแห่ง, มหา’ลัยหลวง, มหา’ลัยฉางอัน, มหา’ลัยปิ้นไห่ และมหา’ลัยจินหลินต่างก็มาหาเขาที่บ้าน แต่โชคร้ายหน่อยที่เขาไม่อยู่ พี่ลั่วจะไปเรียนที่มหา’ลัยหลวง ผมแค่ต้องทำตามที่เขาบอก !”
“ส่วนผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนที่ไหน”
กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “นายชื่อถังเฉิงสินะ ? นายอยากไปเรียนที่มหา’ลัยหลวงรึเปล่า ?”
“ผมเหรอ ?” ถังเฉิงตื่นเต้นขึ้นมาแต่สุดท้ายก็ส่ายหน้า “ระดับการประเมินของอาชีพผมอยู่ที่ระดับ C ถึงผมจะพึ่งพี่ลั่วขึ้นไป 100 อันดับแรกได้ แต่ผู้ที่รับเด็กเข้ามหา’ลัยก็ไม่ได้โง่ พวกเขาจะให้ผมเข้าไปเรียนที่นั่นได้ยังไง...”
“ผมคิดว่าคงต้องเลือกไปเรียนที่มหา’ลัยทั่วไป....”
กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “เฮ้อ น้องชาย เมื่อหลินลั่วตกลงว่าจะเข้าร่วมกลุ่มผู้พิทักษ์ของเรา นายก็ถือว่าเข้าร่วมด้วย !”
“ตามโควตาของกลุ่มผู้พิทักษ์ ฉันได้สิทธิ์ในการแนะนำผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ให้กับมหา’ลัยหลวง ถ้านายอยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้ งั้นฉันจะมอบโอกาสนี้ให้กับนาย”
“จริงเหรอ ?”
“จริงอยู่แล้ว !”
“ขอบคุณคุณกั้ว ! ขอบคุณ !”
“หึหึ ทำตัวเป็นเด็กดีเข้าล่ะ แล้วก็...”
หลังจากที่กั้วโฉวยี่กลับไป ถังเฉิงก็รีบเอามือถืออกมากดโทรออก
“จางหนิง บอกพี่สาวเธอด้วยว่าฉันจะไปเรียนที่มหา’ลัยหลวงในอีก 2 เดือน !”
“นายจะไปทำอะไรที่มหา’ลัยหลวง ? นั่นมหา’ลัยโคตรจะชั้นนำเลยนะ !”
“หึหึ ฉันได้เข้ามหา’ลัยหลวงแล้วน่ะสิ !”
“ต้องขอบคุณพี่ลั่ว !”
“ฉันบอกก่อนเลยนะว่าอย่ามาโกหกฉัน ถึงญาติเธอจะสวยแค่ไหน แต่จะมาเทียบกับมู่หรงเสวี่ยเหินได้ยังไง ?”
“จริงเหรอ ? งั้นถ้าเธอสวยขนาดนั้น ฉันจะพาพี่ลั่วไปดู !”
“วันนี้มาที่บ้านเราสิ ฉันจะเก็บบ้านรอต้อนรับพี่ลั่ว...”
...
ที่ตระกูลตงฟาง
ที่ชั้นใต้ดินที่อึมครึมและมืดมิด มีชายชุดขาวใส่หน้ากากผีกำลังเต้นรำอยู่ มันมีเงาผีจำนวนมากรอบตัวเขา ที่โลงศพตรงหน้า มันมีศพของตงฟางเหอนอนอยู่ในโลง
“อัญเชิญวิญญาณ สายเลือดนำทาง.... !”
“สายเลือดเป็นตัวชักนำ !”
เสียง ‘ปึง’ ดังขึ้น หัวกับหัวใจของตงฟางเหอกลับระเบิดออก
ในเวลาเดียวกันก็มีเส้นพลังบางอย่างสองเส้นพุ่งออกมาสะบัดไปมาราวกับงู มันบิดไปมาในอากาศดูแปลกตาอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันงูสีเลือดสองตัวก็ค่อย ๆ เลื้อยไปทางหนึ่ง
ตะวันตกเฉียงเหนือ
“เสร็จแล้วเหรอ ?”
“หึหึ เรียบร้อยแล้ว !” ชายชุดขาวพูดขึ้นมา “ตามงูเลือดทั้งสองไป จากนั้นจะพบกับเบาะแสของมังกรที่นายต้องการ”
“งูเลือดแต่ละตัวอยู่ได้ 1 อาทิตย์ มันหมายความว่านายมีเวลาครึ่งเดือนในการหาร่องรอยของมังกรนั่น !”
“ครึ่งเดือน ? แค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว !” ตงฟางอู๋เยว่พูดขึ้นมา “ตราบใดที่ไม่ได้หนีออกจากเมืองปิ้นไห่ ยังไงฉันก็หามันเจอ !”
“ไต้ซ่ง !”
“บรรพชน !” ตงฟางไต้ซ่งรีบก้าวออกมาและพูดขึ้นด้วยท่าทีเคารพ “ผมเตรียมคนไว้พร้อมหมดแล้ว ผู้ปลุกพลังระดับทอง 5 คนโดยมีตงฟางซิวเป็นหัวหน้า”
“ซิวเอ๋องั้นเหรอ ?” ตงฟางอู๋เยว่ถามขึ้นมา “แล้วเกาเอ๋อไปไหน ?”
“เกาเอ๋อ เขา...” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันพูดขึ้นมา “เขายังมีธุระต้องไปจัดการ เขาตอบกลับมาว่าจะกลับมาในอีก 3 วัน”
“แบบนี้นี่เอง ! ตอนที่เขากลับมา ให้เขาไปช่วยซิวเอ๋อ พวกนายต้องหาตัวมังกรให้เจอ เข้าใจรึเปล่า ?”
“รับทราบ บรรพชน !” ตงฟางไต้ซ่งพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเคารพ ก่อนจะรีบออกจากชั้นใต้ดิน
ชายแก่ในชุดขาวพูดขึ้นมา “ตงฟางอู๋เยว่ นายไปพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน !”
“เดี๋ยวก่อนพี่ไป่” ตงฟางอู๋เยว่พูดขึ้น “ฉันมีข้อมูลของดินแดนแห่งพร พี่ไป่สนใจจะไปดูหน่อยไหม ?”
“ดินแดนแห่งพร ? อยู่ที่ไหน ?”
“โลกภายนอก !”
...
ที่โลกภายนอก
หลินลั่วพุ่งลงมาจากฟ้า ไม่นานเขาก็พบว่าจุดสีดำที่พื้นนั้นคืออะไร มันคือกลุ่มจีโนที่มีขนสีเหลืองดำ, มันถืออาวุธ และมีหน้าตาเหมือนหมาป่า แต่ยืนสองขา !
จีโน !
กองกำลังแนวหน้าของพวกออร์ค พวกจีโนวนั้นคือทหารแนวหน้าที่ใช้โจมตีเมืองฉิน ในโลกภายนอก ตามพื้นที่รอบ ๆ นั้นมีเผ่าแต่ละเผ่าตั้งเอาไว้
ตูม !
ตอนที่มังกรลงมาถึงพื้น มันก็ได้สร้างหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา ทรายและฝุ่นกระจายออกไปรอบด้าน
จีโนหลายตัวหลบไม่ทันและถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อบด
[ คุณได้ฆ่าจีโน ได้รับค่าประสบการณ์ 6,500 หน่วย ]
“ให้ค่าประสบการณ์เยอะจริง ๆ ...” หลินลั่วแค่คิดก็ปรับอัตราส่วนการแบ่งค่าประสบการณ์ของเขากับมังกรคนละครึ่ง
จีโนรอบ ๆ ไม่ได้คิดจะหนี พวกมันกลับพุ่งเข้ามาหาเขาแทน
สีหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความแค้นเคือง มีน้ำลายไหลออกมาจากปาก พวกมันพากันยกอาวุธในมือขึ้น
“เห่ยหลง !”
กรร !
เห่ยหลงคำรามออกมาและพุ่งเข้าใส่ทันที
กระแทกแค่เบา ๆ จีโนสองตัวก็กระเด็นขึ้นมาในอากาศ กระดูกตัวพวกมันหัก พวกมันร่วงลงกระแทกกับพื้นและตายไปทันที
ในเวลาเดียวกันปีกของมังกรก็สะบัดเฉือนออกไปสร้างใบมีดตัดจีโนหลายตัวขาดเป็นสองส่วน
จีโนร่างกำยำที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าฝูงนี้ได้พุ่งเข้ามา แต่ก็ถูกเห่ยหลงกัดตัวขาดครึ่ง
เห่ยหลงนั้นเหมือนกับเสือที่หลุดเข้าไปในฝูงแกะ ไม่นานที่พื้นก็มีแต่เลือดเจ่อนอง
“ก็สมกับเป็นมังกรดี แต่ทำไมมังกรดำถึงได้ต่างจากมังกรทั่วไป ?”
ตอนนั้นเห่ยหลงนั้นดูดุร้ายอย่างมาก
โดยเฉพาะที่หลังของมันที่มีหนามสีเงินอันแหลมคมงอกออกมา มันยิ่งทำให้เห่ยหลงดูแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ที่ขอบปีกนั้นมีกระดูกแหลม ๆ งอกออกมา มันเพียงพอใช้เป็นอาวุธได้
ดูเหมือนว่าผลึกของมังกรหลังเหล็กนั้นจะยังดูดซับไม่หมด ร่างกายของเห่ยหลงจึงค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป....
จีโนสองตัวพุ่งเข้ามา หลินลั่วยกคทาชี้ใส่พวกมันทันที....
[ ลำไส้อักเสบ ] !
“อึก !”
จีโนทั้งสองตัวพากันขมิบก้น ทว่าไม่นานก็มีของเหลวไหลออกมาจากก้นของพวกมัน การที่พวกมันเป็นจีโน พวกมันจึงกินไม่เลือก
แม้แต่เนื้อเน่า พวกมันก็ยังกินได้ตอนที่หิว
มันทำให้พวกมันพากันท้องเสียอยู่บ่อย ๆ เมื่อหลินลั่วใช้สกิลนี้ออกมา พวกมันก็ไม่มีทางต้านทานได้เลย ตอนที่ [ ลำไส้อักเสบ ] แสดงผล หลินลั่วก็ได้ใช้อีกสกิลออกมา
[ ระเบิดผิวหนัง ]
‘ปัง ! ’
ในทันใดนั้นเองผิวของจีโนทั้งสองตัวก็ระเบิดออก จีโนทั้งสองพากันล้มลงไปนอนกับพื้นและกรีดร้องออกมา
[ ไข้โลหิต ] !
ตูม !
เลือดในตัวจีโนทั้งสองลุกไหม้ ไม่นานพวกมันก็หมดลมหายใจ
แต่สีหน้าของหลินลั่วดูไม่ดีนัก
“ฉันต้องใช้หลายสกิล [ โรคห่าระบาด ] ใช้ไม่ค่อยได้ผลกับพื้นที่เปิด สกิลอื่นน่ะมีประโยชน์กับการจัดการกับผู้ปลุกพลัง แต่เมื่อใช้กับมอนสเตอร์แล้วก็ไม่ค่อยได้ผล”
หลินลั่วปรับอัตราค่าประสบการ์ระหว่างเขากับมังกรใหม่ให้อยู่ที่ 2 ต่อ 8 !
ช่วงนี้เขาคงต้องพึ่งมังกรในการเก็บเลเวล !
กรร !
มังกรดำที่อยู่ไม่ห่างออกไปนักคำรามออกมา จีโนตัวอื่น ๆ พากันพุ่งเข้าใส่ เห่ยหลงอ้าปากและพ่นไปออกมา !
ตูม !
จีโนกว่ายี่สิบตัวโดนเผาเหลือแต่เถ้า !
ตอนนั้นหลินลั่วก็ได้ยินเสียงพึมพำดังขึ้นมาในหู มันทำให้เขาคิ้วขมวดขึ้นมา ด้านหลังจีโนฝูงนี้ มันมีจีโนชั้นสูงที่ใส่หนังสัตว์สีขาวคลุมร่างกาย
มันยกคทาในมือขึ้นและกำลังร่ายบางอย่าง
ไม่นานลำแสงสีเลือดก็พุ่งลงมาจากฟ้าเข้าใส่จีโนฝูงนี้
ในพริบตาร่างกายของพวกมันก็ขยายขนาดขึ้น, ความเร็วเพิ่มขึ้น สายตาพวกมันสะท้อนความบ้าคลั่งออกมา พวกมันพากันพุ่งเข้าใส่มังกรโดยไม่เกรงกลัวความตาย
“หือ ? จีโนนักเวทย์ ? นักบวชด้วย !”
ก่อนที่จะมาที่นี่ เขาได้ศึกษาข้อมูลของมอนเตอร์ในโลกภายนอกมาไว้บ้างแล้ว
ในฐานะเผ่าที่มีจำนวนมากที่สุดและตั้งที่พักไว้ใกล้กับพื้นที่ของโลกมนุษย์ จีโนพวกนี้ก็ต้องมีนักเวทย์อยู่ในเผ่าอยู่แล้ว
นักบวชจีโน
พวกมันไม่ค่อยใช้สกิลโจมตี หลัก ๆ แล้วพวกมันจะยืนอยู่ด้านหลังและคอยใช้สกิลสนับสนุน
ถ้าสู้แบบระยะประชิดจะอ่อนแอ ทว่าหากเป็นการสู้กันแบบฝูงแล้ว บทบาทของนักบวชจีโนนั้นจะสำคัญอย่างมาก !
ด้านหลังนักบวชจีโนนั้นก็ยังมีนักบวชออร์คอีก
พวกมันมีพลังเวทย์ที่แกร่งกว่าและดีกว่า !
พวกมันใช้บทเพลงสงครามได้ !
ในการต่อสู้ของกองทัพ นักบวชออร์คน่ะคือฝันร้ายสำหรับมนุษย์ !
กรร...
จีโนกว่าสิบตัวตกอยู่ในสถานะคลั่งและพากันพุ่งเข้าใส่มังกร แม้แต่จีโนสองตัวที่ถูกตัดขาดครึ่งเพราะปีกของมังกร ทว่าพวกมันก็ยังใช้ครึ่งร่างที่เหลือของมันคลานเข้ามาหามังกร
น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งต่างกันเกินไป จีโนคลั่งกว่าสิบตัวที่ไม่กลัวตายนั้นไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับมังกรได้มากนัก แม้แต่เกล็ดมังกรก็ยังไม่อาจจะทำลายได้
10 นาทีต่อมา จีโนวหลายร้อยตัวฝูงนี้ก็ถูกเห่ยหลงฆ่าไปทั้งฝูง
แม้แต่นักบวชจีโนวก็ยังโดนเผากลายเป็นเถ้าเพราะลมหายใจมังกร
“หือ ? นั่นมันอะไร...”
หลินลั่วน่ะตาดี เขาเห็นผลึกสีเทาในกองเถ้า
“ผลึกวิญญาณ ?”