ตอนที่ 108 ประธานคนใหม่

“คุณหวง, หวง หยวนขุย เพื่อนของเหล่าโจว มีสายสัมพันธ์มากมาย”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง พูดขึ้นอีกครั้ง

“แบบนี้ดูจะไม่ค่อยดีนะ?”

คุณแม่ของ ซู หนิงซวง กล่าวขึ้นด้วยความลังเล

ถ้าคนที่น้องสาวพูดถึงเป็นคนอื่น เธอคงจะขอความช่วยเหลือไปแล้ว

แต่ หวง หยวนขุย นั้นเธอไม่สะดวกใจเลย เพราะน้องสาวของเธอมาเพื่อแนะนำลูกชายของ หวง หยวนขุย ให้รู้จักกับ หนิงซวง ลูกสาวของเธอ

“ไม่มีปัญหาคะ เรื่องนี้สำหรับ คุณหวง แล้วเป็นเรื่องเล็กน้อย”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง โบกมือห้าม ไม่รอให้พี่สาวปฏิเสธ แล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออกไปทันที

“คุณหวง หรือคะ นี่ฉันเอง มีเรื่องอยากจะรบกวนคุณหน่อย...”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง บอกเรื่องราวให้ คุณหวง ฟังอย่างคร่าวๆ

“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ให้ผมจัดการเอง”

หลังจากฟังแล้ว หวง หยวนขุย ก็ตอบอย่างมั่นใจ

หวง หยวนขุย รู้ว่า น้าสาวของ ซู หนิงซวง พยายามจับคู่ลูกชายของเขา กับลูกสาวของตระกูลซู

และนี่ไม่ใช่ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองครอบครัว?

“งั้นดีเลยค่ะ ขอบคุณ คุณหวง มากนะค่ะ”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง กล่าวขอบคุณหลังจาก หวง หยวนขุย ตอบรับคำ

“ผมจะขอวางสายก่อน เดี๋ยวผมจะติดต่อกลับไป”

หวง หยวนขุย ต้องไปจัดการหาทางแก้ปัญหา และต้องติดต่อใครอีกหลายคน ดังนั้นเขาจึงวางสายไป

“พี่คะ คุณหวง รับปากแล้ว และเรื่องนี้เล็กน้อยมากสำหรับเขา”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง พลางพูดด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า

“ถ้าสำเร็จ ช่วยขอบคุณ คุณหวง แทนฉันด้วยนะ”

คุณแม่ของ ซู หนิงซวง กล่าว แม้จะเป็นห่วงอยู่บ้าง

เมื่อสิ่งต่างๆ มันมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่ควรพูดอะไรอีก

ถ้าเรื่องนี้สามารถแก้ไขได้ สิ่งเดียวที่เธอจะทำได้คือให้สามีไปขอบคุณ คุณหวง เป็นการส่วนตัว

แต่เรื่องจับคู่ หนิงซวง กับลูกชายของ คุณหวง นั้น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

ต่อให้ช่วยเหลือมากแค่ไหนก็ตาม คุณแม่ของ ซู หนิงซวง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย

เธอเคารพการตัดสินใจของลูกสาว และยอมรับ เย่เฉิน ในฐานะลูกเขยของเธอแล้ว

และเธอจะไม่เอาความสุขของลูกสาวไปเป็นเครื่องต่อรองโดยเด็ดขาด

“ไม่เป็นไรคะ”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง กล่าวด้วยรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้า

ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ ครอบครัวของพี่สาวเธอก็จะติดหนี้บุญคุณ คุณหวง

เมื่อถึงเวลานั้นทั้งสองครอบครัวจะมีโอกาสได้พบปะกันอย่างแน่นอน

ในตอนนั้น เธอจะลองเกลี้ยกล่อมพี่เขยดูว่าได้หรือไม่

เธอรู้สึกว่า เย่เฉิน คนนี้ยังเด็กเกินไป และแค่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าไม่เหมาะสมกับ หนิงซวง เลยสักนิด

น้าสาวของ ซู หนิงซวง เหลือบมอง เย่เฉิน ด้วยรอยยิ้มแฝงความหมิ่นเหม่ ไปพลางเยาะเย้ยในใจของเธอ

เย่เฉิน ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของน้าสาวของ ซู หนิงซวง

ในขณะนี้ ความสนใจทั้งหมดของ เย่เฉิน อยู่ที่โทรศัพท์มือถือของเขา

เมื่อกี้ จู่ๆ ก็มีข้อความจากเกม [ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้] เข้ามา

เย่เฉิน พลันโน้มตัวไปด้านข้างเล็กน้อย และเปิดเกมขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็นในขณะที่ไม่มีใครสนใจ

[ติ๊ง]

[ภารกิจท้าทายใหม่ : ช่วยตระกูลซู แก้ไขปัญหา และทำให้สำเร็จในการร่วมมือกับบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป]

[รางวัลภารกิจ : ครอบครองหุ้น 11% ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป และกลายเป็นประธานคนใหม่ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป]

เกมปล่อยภารกิจความท้าทายใหม่..

คราวนี้ ตราบใดที่ เย่เฉิน แค่ช่วยตระกูลซู แก้ไขปัญหานี้ เขาก็จะได้รับสิทธิ์ครอบครองหุ้น 11% ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป ..อีกครั้ง

คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านหยวน

รวมกับที่เขามีอยู่แล้ว 15% จะทำให้ เย่เฉิน ถือครองหุ้นทั้งหมด 26% ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป

กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และประธานของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป

ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน เคยได้ศึกษาการแบ่งปันกรรมสิทธิ์(หุ้น)ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป คือบริษัทจัดการการลงทุนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเทียนไห่

(天海, เมืองในจินตนาการ หรือหากให้กล่าวอีกนัย คือ 天津, เทียนจิน)

บริษัทนี้ถือหุ้น 50% ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป

แต่บริษัทการลงทุนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการใดๆ ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป เลย มีแต่รอรับเงินปันผลเท่านั้น

ในขณะที่อำนาจการบริหารจัดการที่แท้จริงของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป อยู่ในมือของประธาน และผู้บริหารระดับสูงของกลุ่ม

ผู้ตัดสินใจ และผู้มีอำนาจที่แท้จริงในบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป คือ ประธานเจียง, เจียง หย่งหยวน ที่ถือหุ้น 20% ของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป!

ต่อมาคือ เย่เฉิน รองประธานฝ่ายแรก(第一副总裁, First VicePresident)ของกลุ่มบริษัทที่ถือหุ้น 15% ในปัจจุบัน

ถ้าหาก เย่เฉิน สามารถทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ เขาจะได้รับหุ้นเพิ่มอีก 11%

ซึ่งในตอนนั้น หุ้นในมือของ เย่เฉิน ในบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ปจะเพิ่มเป็น 26% ซึ่งจะมากกว่าของ เจียง หย่งหยวน

เย่เฉิน จะกลายเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง และเป็นประธานคนใหม่ของ บริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป

การเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงของกลุ่มบริษัทใหญ่ที่มีทรัพย์สินโดยรวมประมาณสองแสนล้านหยวน ..ย่อมสะกิดใจคนนับไม่ถ้วนให้อิจฉาอย่างแน่นอน

ในที่นี่รวมทั้งตัวของ เย่เฉิน ด้วย

เย่เฉิน ตัดสินใจจะช่วย ไม่ว่าจะมีภารกิจนี้ หรือไม่ก็ตาม เขาก็จะไม่อยู่นิ่งเฉย

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ คุณแม่ของ ซู หนิงซวง พลันรู้สึกกระสับกระส่ายไม่น้อย เธอนั่งไม่ติด ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

เมื่อเธอโทรไปเมื่อครู่ ..ก็ได้ยินเสียงของสามีที่เต็มไปด้วยความกังวล

ดูเหมือนว่า บริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป กำลังจะร่วมมือกับคู่แข่งแล้ว

ถ้าแก้ไขไม่ได้ในคืนนี้ พรุ่งนี้..บริษัทของพวกเขาอาจพลาดโอกาสนี้ไป

“พี่ไม่ต้องห่วง คุณหวง ออกหน้าแล้วเขาจัดการได้อย่างแน่นอน”

เห็นพี่สาวเป็นกังวล น้าสาวของ ซู หนิงซวง ก็พูดขึ้นด้วยความมั่นใจมาก

เธอเชื่อในตัว คุณหวง

“อืมม”

คุณแม่ของ ซู หนิงซวง พยักหน้า แต่เธอก็ยังคงกังวลอยู่

น้าสาวของ ซู หนิงชวง กำลังจะพูดอีกครั้ง แต่ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นว่าเป็น คุณหวง, หวง หยวนขุย ที่โทรเข้ามา

“นั่นไง คุณหวง โทรมาแล้ว”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง พูดด้วยความมั่นใจว่า :

“พี่รอฟังข่าวดีได้เลย”

พูดจบ น้าสาวของ ซู หนิงซวง ก็รับสาย

“คุณหวง เป็นยังไงบ้าง เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ?”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง ถามด้วยความตื่นเต้น

แต่ในวินาทีต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็พลันแข็งค้าง ..ไปทันที

“อะไร อะไรนะ?”

“โอเค โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ คุณหวง มาก..”

เธอวางสายไปด้วยสีหน้าเศร้า

เห็นน้องสาวหน้าเปลี่ยนสี คุณแม่ของ ซู หนิงซวง พลันรู้สึกใจหาย ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น

“...ไว้ฉันจะติดต่อไปอีกครั้งคะ คุณหวง”

หลังจากพูดจบ น้าสาวของ ซู หนิงชวง ก็วางสายไป

“พี่คะ เรื่องนี้ คุณหวง ก็ช่วยอะไรไม่ได้”

น้าสาวของ ซู หนิงซวง พูดด้วยความผิดหวัง :

“เมื่อกี้ คุณหวง พยายามใช้สายสัมพันธ์เพื่อช่วยแล้ว ..แต่ล้มเหลว”

“บริษัทที่แข่งขันกับพี่เขย ..มีรองผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป หนุนหลัง”

“คนที่ คุณหวง รู้จักเป็นแค่ผู้บริหารธรรมดาๆ ไม่มีทางไปสู้รองผู้บริหารระดับสูงคนนี้ได้”

เมื่อคิดถึงคำพูดที่มั่นใจของตัวเอง น้าสาวของ ซู หนิงซวง รู้สึกอับอายมาก

ครั้งนี้มันน่าอายจริงๆ

“อืม”

คุณแม่ของ ซู หนิงซวง พยักหน้า เธอรู้สึกผิดหวังมากเช่นกัน

แต่อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ไม่ต้องติดหนี้บุญคุณใดๆ กับ คุณหวง..

หนิงซวง และเสี่ยวเฉิน เองก็จะไม่มีปัญหาใดๆ

เพียงแต่น่าเสียดายที่ความพยายามของสามีของเธอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาอาจจะต้องสูญเปล่า

“ผมจะลองดูครับ”

ทันใดนั้นเสียงที่ไม่คาดคิดก็ดังขึ้น

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ เย่เฉิน ในทันที

“เสี่ยวเฉิน เธอมีวิธีหรือ?”

คุณแม่ของ ซู หนิงซวง ถามอย่างมีความหวัง

“เรื่องเล็กน้อยครับ”

เย่เฉิน พยักหน้า

เมื่อครู่ น้าสาวของ ซู หนิงซวง บอกว่า คู่แข่งของ ตระกูลซู มีรองผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป หนุนหลัง

บริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป มีรองผู้บริหารระดับสูงหลายคน

แต่รองประธานฝ่ายแรกคือเขา ตลอดทั้งบริษัท ต้าเซี่ย เรียล เอสเตท กรุ๊ป นอกจาก ประธานเจียง, เจียง หย่งหยวน แล้ว ก็เป็นเขา เย่เฉิน นี่แหละ..

ถ้า เย่เฉิน ทำภารกิจนี้สำเร็จ เจียง หย่งหยวน ก็ต้องถูกจัดอันดับให้ตามหลัง เย่เฉิน เช่นกัน

รองผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง คำพูดของเขาคงไม่มีน้ำหนักเท่าเขา เย่เฉิน ..แน่นอน

“เชอะ”

พอฟัง เย่เฉิน พูดจบ น้าสาวของ ซู หนิงซวง ก็พลันแค่นเสียงอย่างดูถูก

เธอไม่เชื่อ เย่เฉิน หรอก

นักศึกษาปีหนึ่งตัวเล็กๆ คนหนึ่งเนี่ยนะ จะไปทำอะไรได้?!