ตอนที่ 41: ดันเจี้ยนระดับนรก
ตอนที่ 41: ดันเจี้ยนระดับนรก
“แค่สิบเหรียญทองแต่กลับกล้าทำตัวอวดดี คนที่ไม่รู้คงคิดว่าคุณร่ำรวยล้นฟ้าเป็นแน่” วีรชนเป็นหนึ่งอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน จากนั้นจึงหยิบหนึ่งเหรียญทองออกมาแล้วเอ่ยคำ "ฉันเดิมพันหนึ่งเหรียญ สิ่งสำคัญคือการมีส่วนร่วม ฮิฮิ"
"ถุย!" ยิงไปเรื่อยเปื่อยชูนิ้วกลางใส่วีรชนเป็นหนึ่งอย่างเดือดดาล
หนึ่งเหรียญทองไม่นับว่ามีมูลค่าน้อย แต่ในสถานการณ์นี้ การเดิมพันเพียงหนึ่งเหรียญทองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าวีรชนเป็นหนึ่งไม่มั่นใจเกี่ยวกับพฤติกรรมอันบ้าคลั่งของหวังยวนในครั้งนี้
แน่นอนว่าหวังยวนทราบว่าตัวเองแข็งแกร่งไม่พอที่จะทำให้ผู้อื่นเชื่อใจเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข
“ฉันไม่มีเงิน… เหล่าหลิง ฉันขอยืมหนึ่งเหรียญทองหน่อยสิ!” เทพแห่งความตายเผยใบหน้าเศร้าสร้อยซึ่งเดิมมืดมนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันยิ่งมืดมนเข้าไปใหญ่
ในฐานะนักเวท ทุกคนล้วนเป็นผู้ใช้ยาอย่างหนัก ทำให้ไม่สามารถหารายได้มาครอบคลุมรายจ่ายในช่วงต้นได้
“แล้วความหวังล่ะ? คุณอยากเดิมพันเท่าไหร่?”
"ฉันใช้เงินไปกับแฟชั่นหมดแล้ว..." ความหวังหยิบออกมาสิบเหรียญเงินจากกระเป๋าพลางเอ่ยคำอย่างเขินอาย "นั่นคือทั้งหมดที่มีตอนนี้"
"แฟชั่น!"
มุมปากของหวังยวนอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หมอนี่ดูขี้อวดขนาดนี้ กลายเป็นสวมชุดแฟชั่นอยู่นั่นเอง…
แฟชั่นเทียบเท่ากับผิวหนัง!
โดยทั่วไปแล้วมันไม่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติอะไร มีเพียงผู้เล่นผู้หญิงเท่านั้นที่จะหมดเงินไปกับแฟชั่น
ผู้เล่นชายที่หมดเงินไปกับของพวกนี้คือพวกขี้อวดของแท้
“คุณมีเงินพอซื้ออุปกรณ์สวมใส่บ้างหรือเปล่าเนี่ย?” วีรชนเป็นหนึ่งอดไม่ได้ที่จะบ่น "เดี๋ยวฉันให้ส่วนลดซื้ออุปกรณ์สวมใส่ร้อยละสิบกับคุณก็แล้วกัน"
“คุณมันไม่รู้เรื่องอะไรเลย! คุณสมบัติเป็นเพียงของชั่วคราว ความหล่อต่างหากที่ยั่งยืน” ความหวังเอ่ยคำอย่างมั่นใจ
"จะอ้วก!" เทพแห่งความตายจ้องไปที่ความหวังอย่างเกรี้ยวกราดหลังจากได้ยินเช่นนี้
หวังยวน "..."
“ฉันเดิมพันห้าสิบ!”
ขณะหวังยวนพูดอะไรไม่ออก ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหยิบถุงเงินออกมาจากกระเป๋า
“เดี๋ยวนะ คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” วีรชนเป็นหนึ่งผู้อยู่ข้างกายอดไม่ได้ที่จะตะโกนเมื่อเห็นเช่นนี้
หวังยวนเดิมพันหนึ่งพันเหรียญทองเพราะว่าหามาได้ง่ายและไม่มีภาระในการใช้จ่าย
สุ่ยหลิงหลงเดิมพันหนึ่งหมื่นเหรียญทองเพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีความแตกต่างระหว่างหนึ่งหมื่นเหรียญทองกับหนึ่งเหรียญทอง
ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งไม่ใช่คนร่ำรวย อีกทั้งนักบวชยังเป็นอาชีพนักเวทที่มีชื่อเสียงในเรื่องการบริโภคสูงรายได้ต่ำในหมู่ผู้เล่น ทว่าผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งกลับหยิบออกมาห้าสิบเหรียญทอง ซึ่งมันทำให้วีรชนเป็นหนึ่งไม่อยากเชื่อเท่าไหร่
ต้องทราบก่อนว่าในช่วงนี้ผู้เล่นไม่สามารถลงดันเจี้ยนระดับนรกได้ ต่อให้ผู้เล่นลงแค่ระดับเอลีทก็ยังไม่สามารถรอดกลับมาได้
การเดิมพันครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องตลก เพราะใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองออกถึงผลลัพธ์สุดท้าย
เหตุผลที่คนอื่นเดิมพันด้วยก็เพราะไม่มีใครอยากถูกสุ่ยหลิงหลงดูหมิ่นว่าเป็นคนขี้ขลาด เพราะอย่างนั้นจึงพากันหยิบเหรียญทองออกมาเพื่อนเล่นตามน้ำเท่านั้น
แต่ตอนนี้ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งกลับยอมเดิมพันห้าสิบเหรียญทอง... มันไม่ใช่จำนวนที่น้อย มูลค่าของมันคือห้าหมื่นหยวน!
“ถ้าคุณมีเงินมากขนาดนั้น ให้ฉันยืมบ้างสิ” เทพแห่งความตายเอ่ยคำ “ฉันใกล้จะถังแตกแล้ว แต่คุณกลับเอาเงินมาผลาญเล่น”
“ฉันเพิ่งไปเจอชุดแฟชั่นน่าสนใจชุดหนึ่งพอดี พี่อู๋ตี๋ (ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่ง) ฉันขอยืมหน่อยสิ”
“ชิ่วชิ่วชิ่วชิ่วชิ่ว!” ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งโบกมืออย่างหงุดหงิด "จะมาจับหมาป่าโดยไม่เสียสละลูกแกะได้ยังไง สุดท้ายพวกเราต้องผ่านพ้นไปให้ได้ใช่ไหมล่ะ? หากโตขึ้นเมื่อไหร่ก็อยากหาเรื่องสนุกใส่ตัวบ้าง"
“เอาเถอะ คุณมันใจร้าย!” คนอื่นพูดไม่ออกหลังจากได้ยินเช่นนี้
หวังยวนมองผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งด้วยความสนใจ
ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งแย้มยิ้มแล้วเอ่ยคำ "พี่หนิว คุณคงไม่ทำให้ฉันสิ้นเนื้อประดาตัวหรอกใช่ไหม ฉันเชื่อในตัวคุณนะ"
"ฮ่าฮ่า" หวังยวนหัวเราะแล้วเอ่ยคำ "ไม่ต้องห่วง ดันเจี้ยนมันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว เตรียมรอรับเงินได้เลย"
"แล้วฉันจะรอ" ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งยิ่งหัวเราะอย่างมีความสุข
คนอื่นต่างเผยสีหน้าสับสน สองคนนี้กล้าทำและกล้าเชื่อในสิ่งที่พูด
…
"ไป!! ลุยกันเลย!"
หวังยวนส่งเสียงเรียกขณะผู้คนบางส่วนลุกขึ้นแล้วออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อมุ่งหน้าสู่ปราสาทเงา
“มาแล้ว มาแล้ว! หนิวต้าลี่มาแล้ว!”
เมื่อหวังยวนกับสหายมาถึงประตูของปราสาทเงา บริเวณทางเข้าก็เต็มไปด้วยผู้เล่นที่กำลังรอชมด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเห็นหวังยวนกับสหายกำลังเดินเข้ามา ผู้เล่นทั้งหลายที่รู้จักหวังยวนย่อมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
ทุกคนมองดูพร้อมกันขณะพากันเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น
“อา... หนิวต้าลี่เป็นผู้หญิงเหรอ?”
“คุณตาบอดเหรอ? ชายร่างใหญ่คนนั้นต่างหากคือหนิวต้าลี่!”
“หนิวต้าลี่เป็นแบบนี้เหรอ? ดูธรรมดาชะมัด!”
“ดูนักเวทที่อยู่ข้างหลังเขาก่อน”
“พระเจ้า! สัตว์ประหลาดหรือไงนั่น!”
“หนิวต้าลี่คนนั้นหรือเปล่า!”
“นี่ คนนั้นหล่อมากเลย”
…
ปราสาทเงาตั้งอยู่บนผาอสนี
เรื่องราวเบื้องหลังคือเป็นที่พักอาศัยส่วนตัวขอลีโอริผู้เป็นเจ้าเมืองพายุฟ้าคะนองในอดีตกาล
ทว่าด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ ตระกูลของราชันลีโอริคกลับถึงแก่ความตายในชั่วข้ามคืน ทำให้ปราสาทหลังนี้กลายเป็นพื้นที่ต้งห้ามของเมืองพายุฟ้าคะนอง
เมื่อสิบปีก่อน ปราสาทถูกปกคลุมไปด้วยเงา ซึ่งในคืนพระจันทร์เต็มดวงมักได้ยินเสียงแปลกประหลาดราวกับมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ข้างใน
นักผจญภัยนับไม่ถ้วนแห่กันไปที่ปราสาทเงาเพื่อเริ่มต้นการผจญภัยทันทีที่ทราบข่าว แต่นักผจญภัยทั้งหมดผู้ไปสำรวจกลับไม่มีข่าวคราวกลับมาอีกเลย
มีข่าวลือว่าราชันลีโอริคที่ตายอย่างกะทันหันเมื่อหลายปีก่อนกลับฟื้นคืนชีพด้วยพลังลึกลับบางอย่าง
สิ่งที่เอ่ยมาข้างต้นคือการแนะนำปราสาทเงา
ยามนี้ปราสาทเงาคือปราสาทเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างมาหลายปี กำแพงมีรอยด่างและรอยแตก อีกทั้งยังมีหมอกสีเทาปกคลุมทั่วทั้งปราสาท
ประตูที่ปิดสนิทดึงดูดผู้เล่นนับไม่ถ้วนให้เข้ามาสำรวจ
ภายใต้สายตาของทุกคน กลุ่มของหวังยวนเดินผ่านฝูงชนจนมาถึงประตูปราสาท
ในฐานะหัวหน้า หวังยวนยื่นมือออกไปเพื่อผลักประตู
ต้องการสำรวจดันเจี้ยน "ปราสาทเงา" ใช่หรือไม่
"ใช่!"
หวังยวนกดปุ่มยืนยันอย่างไม่ใส่ใจ
โปรดเลือกระดับความยากของดันเจี้ยน!
"นรก!"
หวังยวนเลือกระดับความยากสูงสุดอย่างไม่ลังเล
คุณแน่ใจหรือว่าต้องการเข้าสู่ระดับ "นรก" คำแนะนำ: ระดับนรกคือระดับความยากสูงสุดของดันเจี้ยน ผู้เล่นสามารถสัมผัสประสบการณ์ฉากดันเจี้ยนสมจริงที่สุดได้ ระดับความยาก: 500 โทษจากการตาย: 100 รางวัลจากดันเจี้ยน: 500 รางวัลการผ่านครั้งแรก: 200 หากทีมถูกทำลายจะถือว่าการท้าทายล้มเหลว ระยะเวลาคูลดาวน์: เจ็ดวัน
“ความยากห้าเท่า…” เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนตรงหน้า พวกสุ่ยหลิงหลงต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
ระดับความยากเพิ่มขึ้นห้าเท่า ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณสมบัติของมอนสเตอร์จะเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญเท่านั้น แต่ยังเพิ่มรูปแบบการต่อสู้และ AI ของมอนสเตอร์อีกด้วย
ความยากของดันเจี้ยนปกติค่อนข้างสูงสำหรับผู้เล่นในช่วงนี้อยู่แล้ว ส่วนความยากห้าเท่า... ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจินตนาการ
สิ่งสำคัญที่สุดคือในดันเจี้ยนปกติคือไม่มีการลงโทษสำหรับผู้เล่นที่เสียชีวิตนอกจากเสียความทนทานของอุปกรณ์สวมใส่ไปบางส่วน แต่ถ้าเป็นระดับนรก ผู้เล่นจะได้รับโทษจากการตายเช่นเดียวกับการตายในถิ่นทุรกันดาร
ระยะเวลาคูลดาวน์ยาวนานถึงเจ็ดวัน
หมายความว่า หากการท้าทายในวันนี้ล้มเหลวก็ต้องรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์ถึงจะทำการท้าทายใหม่ได้
"แน่ใจ!!"
ขณะทุกคนตกตะลึง หวังยวนได้เลือกที่จะเข้าไปแล้ว
เบื้องหน้าของทุกคนมืดลง แล้วฉากจึงเปลี่ยนเป็นภายในปราสาท
ช่วงเวลาที่เดิมเป็นกลางวันกลับกลายเป็นกลางคืน
พระจันทร์สีเลือดลอยอยู่แนวทแยงบนท้องนภา แสงจันทร์สีแดงสาดส่องลงบนพื้นจนทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าขนลุก