ตอนที่ 30 ภาพยาจิตวิญญาณ
ตอนที่ 30 ภาพยาจิตวิญญาณ
ปราณสีเขียวมรกตหมุนวนอยู่เบื้องหน้า หลินมู่วาดนิ้วมือไปมาอย่างคล่องแคล่วราวกับทอผ้า
เคล็ดหญ้าพฤกษาขั้นแรก แผลงฤทธิ์เดชภายใต้การควบคุมของหลินมู่!
หลินมู่คลายนิ้วมือ ปราณสีเขียวมรกตพลันแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเขียวระยิบระยับก่อนจะสลายไปในอากาศ
การฝึกฝนเคล็ดหญ้าพฤกษาต้องอาศัยความละเอียดละออ ไม่ควรเร่งรีบ หลินมู่จึงตัดสินใจฝึกฝนต่อไปอย่างช้า ๆ
เมื่อคำนวณเวลาแล้ว หญ้าวิญญาณที่ปลูกไว้ในมิติวังวนจันทราใกล้จะสุกงอม ได้เวลาเก็บเกี่ยว
หลินมู่เคลื่อนจิตสำนึก พริบตาเดียวก็เข้าไปในมิติวังวนจันทรา
ภายในมิติหญ้าวิญญาณสีเขียวสดทั้งหกหมู่เรียงรายอวดความงดงาม
หลินมู่เผยรอยยิ้มพึงพอใจ การเก็บเกี่ยวครั้งนี้คงจะได้ผลดีทีเดียว ในบรรดาหญ้าวิญญาณทั้งหกหมู่นี้ หญ้าวิญญาณแปดชนิดที่ใช้ปรุงยาผนึกวิญญาณมีจำนวนมากที่สุด แต่ละชนิดมีมากกว่าสามร้อยต้น ส่วนหญ้าวิญญาณเจ็ดชนิดที่ใช้ปรุงเม็ดยาพลังชีวิตมีจำนวนรองลงมา แต่ละชนิดมีประมาณสองร้อยต้น
ส่วนหญ้าวิญญาณที่เหลืออีกกว่าสามสิบชนิด เนื่องจากหลินมู่ยังไม่ทราบถึงสรรพคุณ จึงปลูกไว้เพียงเล็กน้อยราวร้อยต้นต่อชนิด
ในบรรดาหญ้าวิญญาณทั่วไปเหล่านี้ หลินมู่รู้จักชื่อเพียงยี่สิบกว่าชนิด และรู้สรรพคุณเพียงสิบห้าสิบหกชนิด ส่วนที่เหลือนั้นไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ
หญ้าวิญญาณทั้งหกหมู่ส่งกลิ่นหอมอบอวล หลินมู่ดื่มด่ำอยู่ท่ามกลางความหอมหวาน
นี่คือการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง!
หลินมู่ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มเก็บเกี่ยวหญ้าวิญญาณทั้งหมด แยกประเภทและจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ หลังจากสะสมมาหลายครั้ง กระท่อมก็เต็มไปด้วยหญ้าวิญญาณจนเหลือพื้นที่ว่างให้หลินมู่เดินได้เพียงเล็กน้อย
ตามสูตรยาในตำรายาเม็ดอัคคี หลินมู่ปรุงส่วนผสมสำหรับยาผนึกวิญญาณได้อีกกว่าสามร้อยส่วน รวมกับส่วนผสมจากการเก็บเกี่ยวครั้งก่อนที่ยังไม่ได้ปรุงยา ก็มีส่วนผสมสำหรับยาผนึกวิญญาณทั้งหมดหกร้อยส่วน
หกร้อยส่วน!
นี่คือทรัพย์สมบัติมหาศาล!
หากขายส่วนผสมแต่ละส่วนในราคาหินวิญญาณระดับต่ำสองก้อน หกร้อยส่วนก็เท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งพันสองร้อยก้อน!
นี่คือทรัพย์สมบัติที่หลินมู่ไม่เคยแม้แต่จะฝันถึง! ต่อให้เขาเป็นคนรับใช้ไปตลอดชีวิตก็คงไม่มีวันหาหินวิญญาณได้มากขนาดนี้
สิ่งเดียวที่หลินมู่รู้สึกเสียดายคือ เขาไม่สามารถขายส่วนผสมเหล่านี้ได้ ต้องเก็บไว้กับตัวเองเท่านั้น หากมีใครรู้ว่าเขามีส่วนผสมมากมายขนาดนี้ แค่ลองเดาเล็กน้อย ความลับของเขาก็คงจะถูกเปิดเผย!
นี่คือสิ่งที่หลินมู่ไม่อาจยอมรับได้ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม!
แต่ส่วนผสมเหล่านี้จะไม่เน่าเปื่อยอยู่ในมือ หลินมู่รู้สึกโชคดีที่ตนเองมีวิสัยทัศน์ในตอนแรก แลกกับการใช้ส่วนผสมจำนวนมากเพื่อฝึกฝนทักษะการเล่นแร่แปรธาตุจนชำนาญ
เขาสามารถนำส่วนผสมเหล่านี้ไปปรุงเป็นยาได้!
ยาเม็ดเป็นที่ต้องการอย่างมากในสำนัก ไม่ว่าจะเก็บไว้ใช้ฝึกฝนเองหรือขายเป็นหินวิญญาณก็สามารถปกปิดเรื่องราวได้
ก่อนจะเริ่มเล่นแร่แปรธาตุ หลินมู่ใช้เวลาอีกหนึ่งวัน ใช้จอบวิญญาณปฐพีพรวนดินวิญญาณ หว่านเมล็ดหญ้าวิญญาณ และปลูกใหม่อีกครั้ง ภายในมิติวังวนจันทรา อุดมไปด้วยพลังปราณ หญ้าวิญญาณสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกสองเดือน
หญ้าวิญญาณเหล่านี้คือต้นทุนของหลินมู่
ทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของเขาได้รับการฝึกฝนมาจากหญ้าวิญญาณจำนวนมาก หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ ต่อให้มีพรสวรรค์ ก็คงยากที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นแร่แปรธาตุได้
คนอย่างเขาที่มีวัตถุดิบมากมายนับไม่ถ้วน ในสำนักดาบพันปักษามีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
การสะสมทรัพยากรเหล่านี้แยกไม่ออกจากความพยายามของเขา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้การเพาะปลูก การแอบขโมยเมล็ดหญ้าวิญญาณจากหุบเขาอุ่นเมฆา หรือการเรียนรู้การเล่นแร่แปรธาตุ ทุกสิ่งล้วนต้องใช้ความพยายามอย่างมาก และต้องระมัดระวังไม่ให้ผู้อื่นสงสัย
ความพยายามเหล่านี้ในที่สุดก็เริ่มเห็นผล
การสร้างรากฐานไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป หลินมู่มองเห็นความหวังอันยิ่งใหญ่
ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวทำให้หลินมู่ไม่กล้าเกียจคร้านแม้แต่น้อย เขาแค่อยากจะสร้างรากฐานให้เร็วที่สุด กลับบ้านให้เร็วที่สุด เขาเป็นห่วงว่าพ่อแม่จะผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความอดอยากครั้งนั้นได้หรือไม่ ปัญหานี้รบกวนทำให้เขานอนไม่หลับมานาน
ความคิดเหล่านี้ถูกฝังลึกอยู่ในใจ ภายนอกเขายังคงทำตัวเป็นปกติ ดูเหมือนไม่สนใจสิ่งใดในสำนัก
แต่ภายใต้ท่าทีที่สงบนิ่ง ความคิดถึงก็คุกรุ่นราวกับเปลวไฟ!
หลินมู่เดินอย่างสงบไปยังยอดเขาโรยอรุณ
ระหว่างทาง มีคนทักทายเขาเป็นระยะ
“เคารพศิษย์พี่!”
“ศิษย์พี่!”
“เคารพศิษย์พี่!”
…
หลินมู่ยิ้มและพยักหน้าให้ทุกคน การประลองชี้เป็นชี้ตายครั้งนั้นทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วสำนัก ไม่มีใครไม่รู้จักเขาอีกแล้ว
ขอบเขตยุทธ์ระดับกลั่นลมปราณขั้นเจ็ดถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของสำนัก ศิษย์พี่หลายคนที่เคยอยู่เหนือกว่าเขา บัดนี้กลายเป็นศิษย์น้องไปแล้ว เมื่อพบเจอกันก็ยังต้องทักทายเขาด้วยความเคารพ
แต่หลินมู่ไม่ได้ใส่ใจสิ่งเหล่านี้!
หากไม่สามารถรักษาความเร็วในการฝึกฝนเช่นนี้ไว้ได้ ด้วยรากวิญญาณห้าธาตุของเขา ในไม่ช้าก็จะถูกคนอื่นไล่ทัน
แน่นอนด้วยทรัพย์สมบัติและระดับการเล่นแร่แปรธาตุของหลินมู่ในตอนนี้ หากศิษย์ทั่วไปเหล่านั้นอยากจะไล่ตามเขาก็คงเป็นเรื่องยาก
เมื่อมาถึงหน้าหอสีขาว กู่เฉินก็สังเกตเห็นหลินมู่แต่ไกล หลังจากไล่ศิษย์นอกประตูที่อยู่ข้างกายออกไป เขาก็ออกมาต้อนรับพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ศิษย์พี่มาอีกแล้ว เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวล่วงหน้าสักหน่อย?”
หลินมู่ยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไรหรอก ข้าแค่อยากมาซื้อของนิดหน่อย ไม่รู้ว่าหินวิญญาณที่พกมาจะพอหรือไม่”
“ศิษย์พี่หยิบได้ตามสบายเลย หากหินวิญญาณไม่พอ ข้าออกให้เอง” กู่เฉินตบบอกอกรับปาก หลินมู่ในตอนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นแร่แปรธาตุในสำนัก เขาไม่กลัวว่าหลินมู่จะไม่มีปัญญาจ่ายหินวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยนิสัยใจคอของหลินมู่ เขาก็ยินดีที่จะผูกมิตรด้วย ไม่ว่าจะมองในแง่ผลประโยชน์หรือความรู้สึก เขาก็รู้สึกว่าหลินมู่เป็นคนดีคนหนึ่ง
ทั้งสองเดินเข้าไปในหอ มาถึงหน้าเคาน์เตอร์ กู่เฉินรีบยกเก้าอี้มาเชิญหลินมู่นั่ง
หลินมู่ปฏิเสธไม่ลงจึงต้องนั่งพลางยิ้มพลางพูดว่า “ครั้งนี้ข้ามีสามเรื่องอยากให้ศิษย์น้องเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่า ๆ ช่วยลดราคาให้หน่อย”
กู่เฉินก็ยกเก้าอี้มานั่งตรงข้ามหลินมู่เช่นกัน พร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ศิษย์พี่อยากได้อะไรก็บอกมาได้เลย รับรองว่าถูกกว่าผู้อื่นแน่นอน”
หลินมู่ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วพูดช้า ๆ ว่า “อย่างแรกข้าอยากได้แหวนเก็บของสักวง อย่างที่สองข้าอยากได้วัตถุดิบสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุสักหน่อย อย่างที่สามไม่รู้ว่าที่นี่มีหรือเปล่า เจ้าก็รู้ข้าสนใจการเล่นแร่แปรธาตุ แต่ไม่ค่อยรู้จักชื่อและสรรพคุณของหญ้าวิญญาณบางชนิด ไม่รู้ว่าที่นี่มีแผ่นหยกบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่?”
กู่เฉินไม่ลังเลที่จะตอบ “บังเอิญจริง ๆ ร้านเล็กของข้ามีทั้งสามสิ่งนี้!”
เขาไปหยิบของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากชั้นมาวางบนเคาน์เตอร์
เป็นแหวนเก็บของสีเงินหนึ่งวง และแผ่นหยกสามแผ่นที่มีสีต่างกัน
กู่เฉินหยิบแหวนเก็บของขึ้นมาแนะนำว่า “นี่เป็นแหวนเก็บของที่ศิษย์นอกใช้กันทั่วไป มีพื้นที่ประมาณหนึ่งจั้ง ใช้เก็บข้าวของทั้งหมดก็เหลือเฟือ”
เห็นหลินมู่มีท่าทีพอใจ กู่เฉินจึงวางแหวนเก็บของลง แล้วหยิบแผ่นหยกสามแผ่นขึ้นมาแนะนำทีละแผ่นว่า “แผ่นหยกสามแผ่นนี้คือภาพยาจิตวิญญาณที่ท่านต้องการ ภายในบันทึกภาพลักษณะ รูปร่าง สรรพคุณ และประโยชน์ของหญ้าวิญญาณและยาจิตวิญญาณชนิดต่าง ๆ แผ่นหยกสีเขียวนี้บันทึกข้อมูลคร่าว ๆ ของหญ้าวิญญาณระดับสองและต่ำกว่า แผ่นหยกสีเขียวเข้มนี้บันทึกข้อมูลโดยละเอียดของหญ้าวิญญาณระดับสามและต่ำกว่า ส่วนแผ่นหยกสีน้ำเงินนี้บันทึกข้อมูลโดยละเอียดของหญ้าวิญญาณระดับสี่และต่ำกว่า”
หลังจากแนะนำเสร็จ กู่เฉินก็ยิ้มมองหลินมู่รอให้เขาตัดสินใจ
หลินมู่หยิบแหวนเก็บของสีเงินขึ้นมาถามว่า “แหวนเก็บของวงนี้ราคาเท่าไหร่?”
กู่เฉินยิ้มตอบ “ถ้าขายให้คนอื่น ราคาจะอยู่ที่หินวิญญาณ 32 ก้อนขึ้นไป แต่ถ้าศิษย์พี่อยากได้ ก็หินวิญญาณ 30 ก้อนก็พอ”
หลินมู่พยักหน้า เขาค่อนข้างพอใจราคาหินวิญญาณระดับต่ำสามสิบก้อนอยู่ในช่วงที่เขารับได้
เขาหยิบแผ่นหยกสามแผ่นขึ้นมาถามว่า “แล้วภาพยาจิตวิญญาณเหล่านี้ขายยังไง?”
กู่เฉินยิ้มตอบว่า “แผ่นหยกสีเขียวใช้หินวิญญาณระดับต่ำ 20 ก้อน แผ่นหยกสีเขียวเข้มใช้หินวิญญาณระดับต่ำ 30 ก้อน และแผ่นหยกสีน้ำเงินใช้หินวิญญาณระดับต่ำ 40 ก้อนหิน”
หลินมู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง วางแผ่นหยกสีเขียวและสีเขียวเข้มลง เหลือไว้เพียงแผ่นหยกสีน้ำเงิน แล้วพูดว่า “งั้นข้าเอาแผ่นหยกสีน้ำเงิน”
กู่เฉินยกนิ้วโป้งชมว่า “ศิษย์พี่ตัดสินใจได้ดี ซื้อแผ่นหยกแผ่นนี้ไป ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ตราบใดที่หญ้าวิญญาณไม่เกินระดับห้า ที่นี่มีบันทึกไว้หมด สะดวกในการค้นหามาก”
หลินมู่ไม่เชื่อ ถามด้วยความสงสัยว่า “ภาพยาจิตวิญญาณนี้บันทึกหญ้าวิญญาณระดับต่ำกว่าห้าไว้ทั้งหมดจริงหรือ?”
กู่เฉินหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย “อันนี้ข้าไม่กล้ารับประกัน” เขาหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “แต่หญ้าวิญญาณส่วนใหญ่ที่พบเห็นบ่อย ๆ มีบันทึกไว้แน่นอน ข้อนี้ข้ากล้ายืนยัน”
หลินมู่พยักหน้า เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก ขอแค่มีบันทึกหญ้าวิญญาณที่พบเห็นบ่อย ๆ เขาก็พอใจแล้ว
เขาหยิบแหวนเก็บของสีเงินและแผ่นหยกสีน้ำเงินขึ้นมาพร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “สองอย่างนี้ ข้าซื้อหมดเลย”
กู่เฉินดีใจมาก “ศิษย์พี่ตัดสินใจได้ดี ข้าจะเอาผ้ามาห่อให้”
หลินมู่ยิ้มตอบ “สองอย่างนี้สามารถพกติดตัวได้ ไม่ต้องห่อหรอก เอาแค่วัตถุดิบสำหรับเล่นแร่แปรธาตุมาให้ข้าอีกหน่อยก็พอ”
พูดจบเขาหยิบถุงผ้าออกมาจากอก ซึ่งภายในบรรจุหินวิญญาณระดับต่ำเต็มหนึ่งร้อยก้อน!