ตอนที่แล้วบทที่ 88 เจ้ามีหลานชายที่ดี!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 90 ความหวังของตระกูลหลิน

บทที่ 89 พวกท่านไม่ทราบงั้นหรือ 


“ท่านผู้นำตระกูล โปรดไตร่ตรองใหม่อีกครั้งเถิด!”

“ท่านผู้นำตระกูล ข้อยอมสู้กับพวกเขาจนตัวตาย!”

“ข้าเองก็เต็มใจจะต่อสู้จนตัวตายเช่นเดียวกัน!”

เมื่อได้ยินวาจาของหลินชางหลางที่ถูกลั่นออกมาด้วยสีหน้าระทมใจ พานให้เหล่าคนของตระกูลหลินเจ็บปวดเคล้าโกรธแค้นเป็นที่สุด

หลายคนในนั้นปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนออกมา เพื่อต้องการนองเลือดกับตระกูลหลัวให้มันจบเสียตรงนี้!

“ข้าตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว กลับกันเถอะ!”

ใบหน้าหลินชางหลางขณะนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส จากนั้นจึงหันหลังพาคนตระกูลหลินจากไปในทันที

ตระกูลหลินทำงานอย่างหนักในเมืองฉีซานมาหลายร้อยปี จึงสามารถสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งได้ดั่งเช่นปัจจุบัน หลินชางหลางจะเต็มใจมอบมันให้ผู้อื่นได้อย่างไร

เพียงแต่ว่า ปรมาจารย์ส่วนใหญ่ของตระกูลหลินได้ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากกำลังคนในตอนนี้ไม่อาจต่อสู้กับตระกูลหลัวได้อย่างแน่นอน อีกทั้งทางฝั่งนั้นยังมีโม่หลินอีกต่างหาก

หากเริ่มสงครามในเมืองตอนนี้ ย่อมจะเป็นผลเสียต่อตระกูลหลินมากกว่า

แม้นทุกคนในตระกูลหลินจะมีสีหน้าไม่พอใจ แต่พวกเขาไร้ซึ่งหนทางอื่นจึงจำต้องเชื่อฟังผู้นำตระกูลหลินชางหลาง

“ขอแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลหลัว!”

หลังตระกูลหลินจากไป บุคคลสำคัญจากกองกำลังหลักต่างๆ ของเมืองฉีซาน ก็พากันออกมาแสดงความยินดีต่อหลัวหมิงซาน

ทุกคนล้วนรู้ดีว่า หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ในเมืองฉีซานแห่งนี้ ตระกูลหลัวจะต้องอยู่บนจุดสูงสุดดั่งดวงสุริยันบนฟากฟ้า และจะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งอย่างแท้จริงแน่นอน!

หลังจากเอาชนะศัตรูเก่าของเขาที่สู้รบปรบมือกันมานานหลายทศวรรษ จนได้รับทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหลินในเมืองฉีซานแล้ว หลัวหมิงซานก็กลายเป็นผู้มีจิตใจสูงส่ง เขายกมือประสานกำหมัดแน่นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ทุกท่าน คืนนี้จะมีงานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ในตระกูลหลัว หากพวกท่านไม่รังเกียจก็เชิญมาร่วมงานของตระกูลหลัวเราได้”

“ข้าต้องไปร่วมแน่! แต่ข้าเกรงว่าผู้นำตระกูลหลัวจะลำบากใจเสียมากกว่า ฮ่าฮ่า”

“ฮ่าฮ่า!”

หลังจากหลัวหมิงซานทักทายบุคคลสำคัญของกองกำลังหลักเสร็จแล้ว เขาก็จัดกำลังคนเข้ายึดทรัพย์สินของตระกูลหลินทันที

หลัวเฉิงซึ่งตอนนี้ไม่รู้จะทำอะไร จึงกล่าวคำอำลาต่อทุกคน แล้วเขากับโม่หลินก็เดินทางออกจากเมืองหนานเฉิงฟางทันใด

“คุณชายหลัว รบกวนคุณชายสนทนากลับอาจารย์ของท่านช่วยข้าหลอมโอสถด้วยเถิด และข้าหวังว่าจะได้ฟังเรื่องดีๆ จากท่านนะ”

หลังกล่าวเช่นนั้น โม่หลินก็มอบกล่องหยกสามกล่องพร้อมกับบัตรทองสามใบให้กับหลัวเฉิง

เนื่องจากรับรู้อย่างแน่ชัดแล้วว่ามีราชาโอสถอยู่เบื้องหลังของหลัวเฉิงจริงๆ ทัศนคติของโม่หลินที่มีต่อหลัวเฉิงก็พลิกกลับด้านจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งเขายังเรียกหลัวเชิงว่าคุณชายหลัวอีกด้วย

หลัวเฉิงพยักหน้า “ในเมื่อผู้อาวุโสช่วยข้าแล้ว ข้าจะต้องทำตามความคาดหวังของท่านให้สำเร็จอย่างแน่นอน”

โม่หลินสังเกตเห็นว่าหลัวเฉิงเหน็บกระบี่ยาวไว้ที่เอว เขาอดไม่ได้จึงเอ่ยถามว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายหลัวใช้กระบี่ใช่หรือไม่”

“ก็คล้ายจะเป็นเช่นนั้น”

แม้หลัวเฉิงจะเคยสัมผัสกระบี่มาก่อน แต่เขาก็ไม่เคยใช้มันเลยสักครั้ง ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขาใช้ฟาดฟันศัตรูแม้แต่น้อย

หลังได้ฟังคำตอบเช่นนั้น ประกายแสงแวววาวก็ส่องสว่างในดวงตาของโม่หลิน เขาพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่ในหัวกำลังขบคิดบางสิ่งอยู่

หลังจากแยกตัวจากโม่หลิน หลัวเฉิงก็มุ่งหน้ากลับไปยังตระกูลหลัวทันที

หลังจบศึกครั้งนี้ทำเอาเขาถึงกับหมดเรี่ยวแรง และยามนี้เขาต้องการพักผ่อนให้เต็มที่แล้วค่อยไปร่วมงานเฉลิมฉลองของตระกูลในตอนเย็น

ตลอดช่วงบ่ายของเมืองฉีซาน เต็มไปด้วยความโกลาหลวุ่นวายยิ่ง

ตระกูลหลินตั้งรกรากในเมืองฉีซานมาหลายร้อยปี จึงมีทรัพย์สินมากมาย พร้อมด้วยจวนขนาดใหญ่หลายสิบหลัง

ตระกูลหลัวถึงกับต้องส่งกองกำลังทั้งหมดของตนออกไป จวบจนกระทั่งมืดค่ำ จึงสามารถยึดทรัพย์ของตระกูลหลินได้หมดสิ้น

เมื่อตกยามวิกาล ภายในตระกูลหลัวก็เต็มไปด้วยเสียงครึกครื้นรื่นเริง

หลัวหมิงซานจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเอิกเกริกใหญ่โต โดยมีโต๊ะอาหารหลายร้อยโต๊ะในจัตุรัสของตระกูลหลัวเพื่อรองรับผู้มีอำนาจต่างๆ ของเมืองฉีซานในยามนี้

หลัวเฉิงเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สะอาด เมื่อถึงงานเลี้ยงเขาก็นั่งที่โต๊ะฝั่งซ้ายของหลัวหมิงซาน

ที่โต๊ะเดียวกันนี้ นอกจากหลัวหง และคนอื่นๆ แล้ว ยังมีเจ้าเมืองฉีซานอวิ๋นเต้าเจี้ยง ลั่วเหยาและ โม่หลินอีกด้วย

งานเฉลิมฉลองดำเนินไปอย่างครื้นเครงสนุกสนาน

คืนนี้ ลั่วเหยาสวมอาภรณ์สีม่วง ที่มีรอยปักเป็นลวดลายของหงส์เพลิง เมื่อรวมกับเรือนร่างอันมีเสน่ห์ ก็ยิ่งขับให้ทั้งอาภรณ์และนางดูมีสง่ายิ่งนัก

ในระหว่างงานเลี้ยงยามค่ำคืนนี้ ลั่วเหยามองยังหลัวเฉิง ดวงตาสดใสของนางช้อนขึ้นเล็กน้อย แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ “คุณชายหลัวสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสองได้รวดเร็วเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยิ่งนัก”

“ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสองงั้นรึ!”

หลัวหมิงซาน หลัวหง และคนอื่นๆ ถึงกับสะดุ้งทันทีที่ได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของพวกเขาโดยรอบต่างจับจ้องยังหลัวเฉิง

ตั้งแต่จบศึกในเมืองหนานเฉิงฟาง พวกเขามัวยุ่งอยู่กับการยึดทรัพย์ของตระกูลหลิน จึงยังไม่ทันได้ทราบข่าวนี้

“นี่พวกท่านยังไม่ทราบกันงั้นหรือ?”

ลั่วเหยายกนิ้วเรียวยาวราวแท่งเทียนปิดริมฝีปากแดงสดของนาง จากนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้คุณชายหลัวได้แสดงฝีมือให้ผู้คนในเมืองหนานเฉิงฟางได้ประจักษ์ เขาสังหารผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ของตระกูลหลินไปร่วมกว่าสิบคน ทั้งหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้แข็งแกร่งในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามอีกด้วย ซึ่งคุณชายหลัวเฉิงใช้เพียงกระบี่เล่มเดียวเท่านั้น”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลัวหมิงซาน และคนอื่นๆ ก็สูตรหายใจลึกๆ ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

หลัวหมิงซานเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัย “เฉิงเอ๋อร์ ที่นางกล่าวเมื่อครู่นั้นเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?”

หลัวเฉิงไม่ได้กล่าวสิ่งใดเขาเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย

แต่ทว่า หลังเห็นท่าทางของหลัวเฉยเช่นนั้น หลัวหมิงซานและคนอื่นๆ ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงทันใด

จากงานชุมนุมล่าสัตว์จนถึงวันนี้เพียงผ่านไปแค่สามวันเท่านั้น แต่หลัวเฉิงได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสองแล้ว ทั้งยังได้สังหารผู้แข็งแกร่งในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสามด้วยกระบี่เพียงเล่มเดียว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด