บทที่ 196: ก็อวดดีตามแผนอยู่หรอก แต่ไฉนเจ้าอวดดีเกินไปแล้วเนี่ย?
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 196: ก็อวดดีตามแผนอยู่หรอก แต่ไฉนเจ้าอวดดีเกินไปแล้วเนี่ย?
และแล้วการแข่งขันก็ดำเนินต่อไป
หลินเป่ยฟานรับพู่กัน เริ่มเขียนและสะบัดหมึกบนกระดาษเซวียนอย่างสง่างาม
เพียงชั่วครู่ ตัวอักษรที่เขียนอย่างสวยงามและวิจิตรก็ปรากฏขึ้นบนกระดาษ
ทุกคนตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนและอดไม่ได้ที่จะปรบมือ
“ช่างเป็นตัวอักษรที่ยอดเยี่ยมนัก! น่าทึ่งจริง ๆ !”
“ตัวอักษรนี้ดูอวบอิ่มและทรงพลังยิ่ง มีบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งแฝงอยู่ แสดงถึงอารมณ์ที่แน่วแน่!”
“เหมือนดั่งกำลังรวบรวมจิตวิญญาณของอาณาจักรเราเอาไว้!”
“นี่เป็นอักษรที่เขียนได้ยอดเยี่ยมนัก!”
…
จักรพรรดินีเองก็ชมเชยเช่นกัน “ท่านหลิน การประดิษฐ์ตัวอักษรของท่านช่างโดดเด่นอย่างแท้จริง มันดูสง่างามและวิจิตรนัก เต็มไปด้วยความเป็นบุรุษและสุนทรียภาพ! ข้าชอบมันมาก!”
หลินเป่ยฟานตอบอย่างนอบน้อมด้วยรอยยิ้ม “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงกล่าวชมเชย!”
จักรพรรดินีกล่าวต่อ “ตัวอักษรนี้แตกต่างจากที่ข้าเคยเห็นมาก่อน มันเป็นรูปแบบอักษรที่เจ้าสร้างขึ้นเองงั้นหรือ?”
“ถูกต้องแล้ว! กระหม่อมเรียกมันว่าอักษรบรรจงแบบเหยน!” หลินเป่ยฟานตอบ
“ทำไมถึงเรียกว่าอักษรบรรจงแบบเหยน? มีความหมายอะไรเบื้องหลังหรือไม่?” จักรพรรดินีถามอย่างสงสัย
เนื่องจากเป็นแบบอักษรที่สร้างขึ้นโดยนักประดิษฐ์ตัวอักษรชั้นนำในราชวงศ์ถัง เหยียนเจินชิง มันจึงมีชื่อว่าอักษรบรรจงแบบเหยน
ทว่าหลินเป่ยฟานไม่สามารถอธิบายเช่นนั้นออกไปได้
“กระหม่อมสร้างมันขึ้นเพื่อรำลึกถึงสหายผู้ล่วงลับ นามสกุลของเขาคือเหยียน ดังนั้นกระหม่อมจึงตั้งชื่อตัวอักษรนี้ว่า อักษรบรรจงแบบเหยน! กระหม่อมหวังว่าจะรักษาชื่อเสียงและรูปแบบแบบอักษรของเขาไว้ชั่วนิรันดร์!” หลินเป่ยฟานกล่าวด้วยความเศร้าเล็กน้อย
“ข้าเสียใจกับการสูญเสียของเจ้า เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะเห็นผู้ใดมีน้ำใจเช่นนี้ สหายของเจ้าต้องรับรู้จากปรโลกแน่!” จักรพรรดินีปลอบโยน
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ปลอบโยน ตอนนี้กระหม่อมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว!”
ในตอนนี้ การประดิษฐ์อักษรของหลิวไห่และหลินเป่ยฟานก็ถูกแสดงเคียงข้างกัน
เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้ได้เลยว่ามันมีแตกต่างกันอย่างมากระหว่างทั้งสอง
แม้ว่าตัวอักษรของหลิวไห่จะดูดี มีลายมือที่เรียบร้อยและเป็นระเบียบ แต่ก็ดูเหมือนถูกตีกรอบเป็นแบบไว้อย่างชัดเจน
ในทางกลับกัน ตัวอักษรของหลินเป่ยฟานเป็นแบบอักษรที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งมันไปถึงระดับสุนทรียศาสตร์แล้ว
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนย่อมรู้ว่าใครเป็นผู้ชนะ
“ช่างเป็นตัวอักษรที่ยอดเยี่ยม! ข้าต้องลงคะแนนให้ท่านผู้อำนวยการใหญ่อยู่แล้ว!”
“ข้าก็ชอบตัวอักษรของท่านผู้อำนวยการใหญ่เหมือนกัน!”
“อ่านแล้วสบายตานัก ข้าขอลงคะแนนให้ท่านผู้อำนวยการใหญ่!”
…
เมื่อนับคะแนนแล้ว หลินเป่ยฟานได้ 73 คะแนนอย่างท่วมท้น ซึ่งมากกว่า 4 คะแนนของหลิวไห่มาก
เป็นไปได้ว่า 4 คะแนนที่หลิวไห่ได้รับนั้นเป็นเพียงการให้กำลังใจเท่านั้น
เพราะผลงานของหลิวไห่ไม่น่าประทับใจ ผู้ตัดสินที่ใจอ่อนบางคนจึงให้คะแนนเขา
หลินเป่ยฟานเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ในขณะที่ใบหน้าของหลิวไห่ซีดเผือด ทางตัวแทนจากอาณาจักรหยานก็ดูเศร้าหมองไปด้วย
“ข้าเคยบอกไว้ก่อนแล้วว่าพวกเจ้ามันไร้ประโยชน์! พวกเจ้าเล่นกู๋ไม่ได้ เล่นหมากล้อมไม่ได้ และตอนนี้กระทั่งการประดิษฐ์ตัวอักษรของเจ้าก็ยังไร้ฝีมือ! จงกลับไปที่ที่เจ้ามาและหยุดทำให้ตัวเองขายหน้าได้แล้ว!” หลินเป่ยฟานตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง
“เจ้า!!!” คณะผู้แทนอาณาจักรหยานโกรธและอับจนหนทาง
พวกเขาทุกคนเป็นผู้มีความรู้ที่อ่านงานวรรณกรรมมากมาย!
เมื่ออักษรบรรจงแบบเหยนของหลินเป่ยฟานปรากฏขึ้น พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาต้องแพ้!
ไม่ว่าพวกเขาจะวาดเขียนอย่างสวยงามเพียงใด หรือลายมือของพวกเขาเรียบร้อยเพียงใด ก็คงไม่สามารถเทียบได้กับอักษรบรรจงแบบเหยน
เช่นนี้แล้ว การแข่งขันต่อไปจะมีประโยชน์อันใดกัน?
“องค์ชาย พวกเราควรทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”
“พวกเราจะยอมแพ้อีกครั้งงั้นหรือ?”
…
หลินเป่ยฟานเยาะเย้ยคณะผู้แทนอาณาจักรหยานต่อไปอีก “ว่าแล้วเชียว ไม่มีใครในพวกเจ้าสักคนเดียวที่สามารถแข่งขันกับข้าได้ ข้าน่ะยังสามารถบดขยี้พวกเจ้าได้ด้วยแบบอักษรอื่นอีกนะ!”
“เจ้า!!!” ฝ่ายอาณาจักรหยานเริ่มโกรธอีกครั้ง
ปากขององค์ชายสามกระตุก เจ้าจะอวดดีตามแผนที่วางกันไว้ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หลินเป่ยฟาน เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว ช่วยไว้หน้าพวกเขาบ้างไม่ได้หรือ?
ความเสียใจเริ่มคุกรุ่นเต็มอกของเขา!
ถ้าเขารู้เช่นนี้ เขาคงจะเตือนอีกฝ่ายให้ไว้หน้าเขาบ้าง อย่าหยิ่งผยองนัก!
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาได้อิ่มอกอิ่มใจไปก่อน เดี๋ยวพวกเราจะเอาคืนทีหลัง!” องค์ชายสามปลอบใจทุกคน
“ช่างเป็นคำพูดที่ขาดความตระหนักรู้ในตนเองเหลือเกิน! องค์ชายสาม ท่านไม่รู้สึกผิดที่พูดแบบนี้หรือ? จิตใต้สำนึกของท่านไม่เจ็บปวดบ้างหรือ?” คำพูดเยาะเย้ยของหลินเป่ยฟานดังลอยตามมา…
องค์ชายสาม “บัดซบเถอะ!”
ในยามนี้ เขาต้องการชักดาบและพุ่งเข้าใส่เหลือเกิน!
ช่างหัวการแข่งขันระหว่างอาณาจักรหยานและอู๋!
ก่อนอื่น เขาต้องการฉีกปากไอ้บัดซบสารเลวนี้!
หลินเป่ยฟานเอามือเท้าสะเอวพร้อมพูดอย่างภาคภูมิใจ “ท่านกล้าท้าทายข้าหรือไม่? แม้ว่าข้าจะเปลี่ยนแบบอักษร ข้าก็ยังสามารถบดขยี้ท่านได้อย่างง่ายดาย! ใครคือคนต่อไป? ก้าวมาข้างหน้า ข้าจะไม่คิดอ่อนข้อให้สักคนเดียว!”
“บัดซบ!” ฝ่ายอาณาจักรหยานต่างตะโกนออกมา
แม้แต่จักรพรรดินีก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นอะไรเช่นนี้ “ท่านหลิน ได้โปรดระงับอารมณ์ของท่านหน่อย! ขงจื้อสอนพวกเราให้ต้อนรับสหายที่มาจากแดนไกล พวกเขาล้วนเป็นแขก และเราควรแสดงมารยาทขั้นพื้นฐานตอบกลับไป!”
“คำพูดของฝ่าบาทเป็นความจริงทุกประการ!” หลินเป่ยฟานหยุดความเย่อหยิ่งของเขาเพียงชั่วครู่ แต่ก็ยังดูถูกทุกคนต่อไปอยู่ดี
การต่อสู้ประชันวรรณกรรมยังคงดำเนินต่อไป และฝ่ายอาณาจักรหยานก็ส่งถังหยง บัณฑิตชั้นนำของพวกเขาเข้าร่วมการแข่งขัน
แต่เขาก็ยังแพ้
เพราะครั้งนี้หลินเป่ยฟานได้แสดงแบบอักษรกึ่งหวัดออกมา
มันเป็นแบบอักษรที่สร้างโดย จ้าวเมิ่งฝู่ นักประดิษฐ์ตัวอักษรผู้ยิ่งใหญ่จากต้นราชวงศ์หยวน ตัวอักษรค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยม มีเส้นขีดโค้งมน ตั้งตรงมาก และมีส่วนโค้งที่เรียบและสวยงาม
ด้วยแบบอักษรเช่นนี้ การชนะจึงเป็นเรื่องยาก
ต่อไป ฝ่ายอาณาจักรหยานส่งคนที่สี่ของพวกเขามา ซึ่งก็แพ้อย่างหมดรูปเช่นกัน
ขวัญกำลังใจของฝ่ายอาณาจักรหยานลดลง และความสิ้นหวังก็เต็มไปทั่วใบหน้าของพวกเขา!
เหลือเพียงองค์ชายสาม หยานซิงเหอ เท่านั้น
ถ้าแม้แต่เขายังแพ้ ฝ่ายอาณาจักรหยานก็จะพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์!
องค์ชายสามก้าวไปข้างหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง
หลินเป่ยฟานประสานมือและยิ้ม “องค์ชายสาม มีคนกล่าวไว้ว่าในบรรดาตัวแทนของอาณาจักรหยาน ลายมือของท่านนั้นยอดเยี่ยมที่สุดและมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง กระหม่อมตั้งตารอคอยจริง ๆ !”
“ข้าก็ตั้งตารอการประชันฝีมือกับท่านผู้อำนวยการใหญ่หลินเช่นกัน! ท่านผู้อำนวยการใหญ่หลิน ท่านคิดจะใช้แบบอักษรอะไรต่อไปงั้นหรือ?” องค์ชายสามพูดพลางส่งสายตาบอกใบ้
พอเสียที!
เจ้าชนะมาสี่รอบแล้ว แสดงแบบอักษรสี่แบบที่แตกต่างกันออกมาจนหมด เจ้าสมควรได้รับตำแหน่งนักประดิษฐ์ตัวอักษรผู้ยิ่งใหญ่แล้วด้วยซ้ำไป!
แม้ว่าเจ้าจะแพ้ มันก็ยังคงเป็นความพ่ายแพ้อย่างมีเกียรติ!
“ครั้งนี้ กระหม่อมจะนำเสนอแบบอักษรดุจใบไผ่ต้องลม กระหม่อมจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแน่!” หลินเป่ยฟานยิ้ม
“ข้าเองก็หวังว่าท่านผู้อำนวยการใหญ่จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!” องค์ชายสามมองทะลวงไปที่หลินเป่ยฟาน
เมื่อพูดอย่างนั้น ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มขีดเขียน
หลินเป่ยฟานยังคงเขียนอย่างรวดเร็วตามปกติของเขา สาดหมึกไปทั่วกระดาษ
ทว่าตัวองค์ชายสาม ถึงแม้จะถือพู่กันอยู่ แต่กลับยังไม่ได้เริ่ม เขามุ่งความสนใจไปที่หลินเป่ยฟาน สังเกตดูว่าเขายอมแพ้ “อย่างมีเกียรติ” เช่นไร
ในขณะนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามา
มันได้เป่ากระดาษบนโต๊ะไป
หลินเป่ยฟานยังคงเขียนต่อไปโดยไม่ได้สังเกต แต่เผลอเขียนนอกกระดาษจนทำให้เกิดความผิดพลาด
“อ๊ะ มันเอียงเสียแล้ว!” หลินเป่ยฟานรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
คนอื่นที่เห็นก็ถอนหายใจด้วยความเสียดายแทน!
ถ้าไม่ใช่เพราะความผิดพลาดนี้ งานเขียนพู่กันชิ้นนี้ก็คงจะสมบูรณ์แบบ!
โชคไม่ดีที่โชคชะตาไม่ได้เข้าข้างเขา ลมปีศาจที่พัดกระทันหันทำให้หลินเป่ยฟานเกิดพลาดท่า!
รอบนี้เขาอาจจะแพ้!
เมื่อเห็นสีหน้าเสียใจของหลินเป่ยฟาน กระทั่งจักรพรรดินีก็รู้สึกเสียดาย ทำให้นางได้แต่ปลอบโยนเขา “ท่านหลิน อย่าโทษตัวเองไปเลย วันนี้ท่านทำได้ดีมากแล้ว! แม้ว่าท่านจะแพ้ ก็ไม่ใช่ความผิดของท่าน มันเป็นเพียงเรื่องของโชคชะตา และเราไม่ลงโทษท่านหรอก!”
หลินเป่ยฟานรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเข้าใจ!”
หลังจากเขียนอักขระตัวสุดท้ายเสร็จ เขาก็ถอนหายใจและเดินจากไป
ในใจองค์ชายสามดีใจเป็นอย่างมาก!
โอกาสมาถึงแล้ว!
นี่คือโอกาสที่หลินเป่ยฟานสร้างขึ้น!
ตราบใดที่เขาเขียนได้ดีและประดิษฐ์ตัวอักษรของเขาให้สมบูรณ์แบบ เขาก็ยังสามารถเอาชนะหลินเป่ยฟานได้ไม่ใช่หรือ?
ฮ่าฮ่า!
รอบนี้ พวกเราชาวอาณาจักรหยานต้องชนะแน่!
ฝ่ายอาณาจักรหยานมีแรงกระตุ้นอย่างมาก ราวกับว่าพวกเขาเห็นชัยชนะอยู่รำไร!
“องค์ชาย ทรงมั่นคงต่อไป! พวกเราจะต้องชนะแน่!”
“องค์ชาย สู้ต่อไปนะพ่ะย่ะค่ะ!”