ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1188 หญิงงามที่สุดในโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1190 การรวมตัวของเหล่าผู้นำ

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1189 ค้นหาหญิงงาม (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 1189 ค้นหาหญิงงาม (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานลงจากภูเขาหิมะและเดินทางไปยังทิศใต้

ปัจจุบันประโยชน์ของโลกใบเล็กแสดงออกมาอย่างเต็มที่ เขาหยิบยืมความแข็งแกร่งของปฐพีเพื่อเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรในคืนเดียว เขาไปถึงภาคกลางในยามเช้า หากไม่มีพายุฝนฟ้าคะนองระหว่างนั้น เขาคงเคลื่อนไหวได้เร็วกว่านี้มาก

สภาพอากาศค่อนข้างร้อนชื้น ดวงอาทิตย์สีแดงขึ้นทางทิศตะวันออกและค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวส่องสว่างไปทั่ว

ในที่สุดหลี่ฉิงซานก็หยุด มันไม่ใช่เพราะความเหนื่อยล้าแต่เพราะเขาได้ยินเสียงท้องของเขาโห่ร้อง เขาพบถนนสายหลักและเดินทางไปตามเส้นทางเพื่อค้นหาเมืองที่เขาสามารถจัดงานเลี้ยง

ขณะเดียวกันเขาก็ครุ่นคิดแผนการอันยิ่งใหญ่ของเขาอย่างจริงจัง ไม่มีตระกูลใหญ่อยู่ในภาคกลาง มีเพียงนิกายและสำนักจำนวนมาก นิกายใหญ่สามนิกายได้แก่ วัดรู้แจ้ง อารามไร้ลักษณ์ และนิกายเทพวายุ นอกจากนี้ยังมีเมืองซวนอูอันเลื่องชื่อซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังพันธมิตร

อารามไร้ลักษณ์และนิกายเทพวายุต่างครอบครองหนึ่งในสิบหญิงงามที่สุดของโลก แต่เป้าหมายแรกของเขาคือวัดรู้แจ้ง เขาตั้งใจที่จะคว้าดาวปีศาจมาให้ได้

อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ก็คือไม่มีหญิงงามอยู่ในวัดรู้แจ้ง

เดิมทีนี่เป็นเพียงเรื่องตลก หากเขาเป็นเพียงคนมากตัณหา เขาไม่จำเป็นต้องบังคับมอบฉายาหญิงงามให้แม่ชี แต่สภาพจิตใจในปัจจุบันของเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของปีศาจวานร มันขี้เล่นและซุกซนมากซึ่งทำให้เขาจริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าการพิชิตโลกและปล่อยให้กู่เยี่ยนหยินจัดการเรื่องต่างๆ

อย่างไรก็ตามเขาไม่คุ้นเคยกับโลกใบนี้ แล้วเขาจะหาหญิงงามมาจากที่ใด

เขาไม่สามารถหาหญิงงามได้ตามท้องถนน พวกนางต้องมีรูปลักษณ์ที่งดงามเป็นคุณสมบัติแรกโดยไม่ต้องบอกล่าว แต่ศิลปะการต่อสู้ของพวกนางก็ต้องไม่อ่อนแอเกินไปเช่นกัน มันจะดีที่สุดหากพวกนางมีชื่อเสียงในระดับหนึ่งและได้รับการยอมรับจากผู้คน

แต่เมื่อเขาคิดต่อไป หญิงงามคนใดจะต้องการบวชเป็นแม่ชี

อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาจินตนาการถึงสีหน้าของนักบวชเหล่านั้น เขาก็พบว่ามันเป็นเรื่องน่าขันอย่างยิ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง

บางทีการอธิบายว่าธรรมชาติที่แท้จริงของเขากำลังทำงานอาจถูกต้องมากกว่าการได้รับอิทธิพลจากปีศาจวานร

“ผู้ใดอยู่ข้างหลัง!?”

ขณะที่เขากำลังจมอยู่ในห้วงแห่งความคิด เสียงคำรามก็ดังขึ้นจากด้านหน้าเขา กลุ่มทหารรับจ้างมองมาที่หลี่ฉิงซาน

ดวงตาของหลี่ฉิงซานสว่างขึ้น เขาไม่คุ้นเคยกับโลกนี้แต่ย่อมมีคนที่ค้นเคย เขาสามารถถามผู้คนรอบๆ

ชายเครายาวขี่ม้าเข้ามาและคิดในใจว่า ‘เขาวิ่งด้วยความเร็วที่น่าตกใจจริงๆ เขาต้องเป็นจอมยุทธ์พลังปราณ เขาเป็นคนมีชื่อเสียง เราต้องรับมือเขาอย่างระมัดระวัง”

เขาป้องหมัดขึ้น “ข้าคือห่าวเจิ้นจากกลุ่มทหารรับจ้างป้อมวายุ ข้าขอทราบนามของท่านได้หรือไม่และเหตุใดท่านจึงมาที่นี่”

“ข้าคือราชาวีรบุรุษหลี่ฉิงซาน ข้ามาปล้นรถม้า” หลี่ฉิงซานตอบสั้นๆแต่ตรงไปตรงมา

“ละ...หลี่ฉิงซาน!”

ห่าวเจิ้นตกใจจนเกือบตกจากหลังม้า กลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดต่างแตกตื่นเช่นกัน ในเวลาเพียงสามเดือน ชื่อของหลี่ฉิงซานก็แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว ทุกคนเคยได้ยินเรื่องราวของเขาและรู้ว่าเขาเป็นใคร ผู้คนจำนวนมากในภาคเหนือจากยกย่องเขา แต่ที่ภาคอื่น เขาเป็นที่รู้จักในฐานะราชาปีศาจฆาตกร

หลี่ฉิงซานเดินเข้าไปหาพวกเขา เหล่าทหารรับจ้างถอยออกไป เขาตบรถม้า “เจ้ากำลังขนส่งสิ่งใด?”

“แค่สินค้าทั่วไป ราชาวีรบุรุษ ท่านร่ำรวยมากในภาคเหนือ แล้วสินค้าของเราจะถือเป็นสิ่งใดสำหรับท่าน”

ห่าวเจิ้นลงจากหลังม้า ใบหน้าของเขาหน้าเกลียดเหมือนเขาพึ่งกินของน่าขยะแขยงเข้าไป

“ข้ามีคำถาม หากเจ้าสามารถตอบคำถามของข้า ข้าจะไม่ปล้นเจ้า”

“โปรดถาม ราชาวีรบุรุษ”

หัวใจของห่าวเจิ้นจมดิ่งลง เขาไม่รู้สึกว่ากำลังจะพบสิ่งที่ดีใดๆ คำถามนี้ต้องเป็นความพยายามในการสร้างความยากลำบากให้เขา หรือหลี่ฉิงซานอาจพยายามหาข้อมูลลับของกองกำลังพันธมิตร

“ที่ใดมีหญิงงามที่สุด ไม่ ภาคกลางมีที่ใดที่มีหญิงงามที่สุด?” หลี่ฉิงซานถาม

“อา...” ห่าวเจิ้นผงะ เขาสงสัยว่าหูของตนได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่ ราชาปีศาจฆาตกรมาหาพวกเขาเพื่อถามคำถามเช่นนี้งั้นหรือ

หลี่ฉิงซานยกมือขึ้นด้วยความใจร้อน รถม้าพุ่งออกไปชนต้นไม้และโค่นต้นไม้ขาดสองท่อน

ห่าวเจิ้นตัวสั่นและรีบป้องหมัดขึ้น “ราชาวีรบุรุษ หากท่านต้องการหาหญิงงามที่สุดในภาคกลาง มันย่อมต้องเป็นเมืองซวนอูอย่างแน่นอน!”

“เมืองซวนอูมีหญิงงามที่มีชื่อเสียงหรือไม่?”

“หอหมื่นบุปผามีท่านหญิงหูเซียนเอ๋อ นางมีเสน่ห์และศิลปะการต่อสู้ที่น่าประทับใจ นางยังได้รับฉายาว่าเทพธิดาจากสวรรค์ นางทัดเทียมกับสิบหญิงงามที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!”

“แล้วเมืองซวนอูอยู่ที่ใด?” ดวงตาของหลี่ฉิงซานส่องประกายขึ้น เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วเช่นนี้ มันช่วยประหยัดเวลาและแก้ปัญหาได้มาก

“ไปตามถนนสายนี้ เมืองซวนอูอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสองร้อยห้าสิบกิโลเมตร”

หลี่ฉิงซานจากไปทันที เขาวิ่งไปยังเมืองซวนอูโดยไม่ลังเล

ห่าวเจิ้นมองหลี่ฉิซานหายไป หลังจากชั่วครู่ เขาก็ยืนยันว่าปีศาจจากไปแล้วจริงๆ เป็นเพียงหลังจากนั้นที่เขาสามารถผ่อนคลายและเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ขณะที่ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

ทหารรับจ้างชราเดินเข้ามาหาเขา “ท่านหัวหน้า ผู้นำกองกำลังพันธมิตรจางกำลังจะจัดการประชุมที่เมืองซวนอูเพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดการกองกำลังของโลกมิใช่หรือ และหูเซียนเอ๋อก็ประกาศต่อสาธารณะว่านางจะแต่งงานกับผู้ใดก็ตามที่สามารถกำจัดหลี่ฉิงซานโดยไม่คำนึงถึงอายุและสถานะของพวกเขา”

“ฮืม นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด เพื่อล่อเขาไปที่เมืองซวนอู วีรบุรุษทั้งหมดของโลกนี้รวมตัวกันอยู่ที่นั่น ผู้นำจากหกนิกายใหญ่และสามตระกูลใหญ่ล้วนอยู่ที่นั่น หูเซียนเอ๋อก็ไม่ใช่ตัวตนธรรมดาเช่นกัน กล่าวกับว่าชายคนใดที่เห็นรูปร่างหน้าตาของนางจะเต็มใจสละชีวิตเพื่อนาง เขาจะวิ่งเข้าไปหากับดักโดยการมุ่งหน้าสู่เมืองซวนอูเพียงลำพัง!”

ทหารรับจ้างวัยเยาว์เร่งประจบประแจง “ท่านหัวหน้าช่างกล้าหาญนัก ท่านสามารถคิดเรื่องนี้ได้แม้แต่ในสถานการณ์เร่งด่วนเช่นนั้น ท่านสามารถหัวเราะเยาะข้าได้ตามต้องการแต่ก่อนหน้านี้ข้ากลัวมากจนน่องของข้ากระตุก”

ผู้ใดจะกล้าหัวเราะเยาะเขา ผู้ใดที่ไม่ตกใจจนสติแตก กระทั่งผู้นำกองกำลังพันธมิตรจางก็ยังต้องมอบตำแหน่งผู้นำให้หลี่ฉิงซานอย่างเชื่อฟัง

ทุกคนต่างชื่นชมหัวหน้าทหารรับจ้างแต่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่าห่าวเจิ้นตัวสั่นอยู่ภายใต้แสงแดด

“จงนำม้าของข้ากลับไปที่ป้อมวายุทันที ส่งนกพิราบสื่อสารไปที่เมืองซวนอูและบอกพวกเขาว่าราชาปีศาจหลี่ฉิงซานกำลังไปที่นั่น!”

ย้อนกลับไปจิตใจของห่าวเจิ้นว่างเปล่าและไม่กล้าพูดโกหกแม้แต่คำเดียวต่อหน้าหลี่ฉิงซาน ส่วนเรื่องที่เหล่าวีรบุรุษในเมืองซวนอูจะเอาชนะหลี่ฉิงซานได้หรือไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องของเขา อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนที่ต้องตาย

ในเมืองซวนอู การรวมตัวของเหล่าจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา

ก่อนหน้านี้ไม่นานชายชราที่ถูกส่งไปยังนิกายภูเขาหิมะเพื่อโน้มน้าวให้พวกเขาเข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรกลับมาหลังจากการเดินทางอันยาวนาน เขากล่าวเพียงว่า “นิกายภูเขาหิมะล่มสลายแล้ว ข้าขอลาก่อน ข้าไม่สามารถพบหน้าเขาเป็นครั้งที่สาม มิเช่นนั้นข้าจะต้องเข้าร่วมกองกำลังของโลก”

หลังจากนั้นจางอวิ๋นเทียนก็ลุกขึ้น เขาต้องการจากไปเช่นกัน เขาบอกว่าเขาไม่ใช่ผู้นำกองกำลังพันธมิตรอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจัดงานใหญ่โตเช่นนี้ได้ ในทางกลับกัน เขาจะกลับไปที่นิกายเทพวายุเพื่อบ่มเพาะอย่างสันโดษ เขายังขอให้คนที่เก่งกว่าเข้ามาแทนที่เขา