ตอนที่ 29 แสงสว่างท่ามกลางซากปรักหักพัง
เบื้องหน้า เทือกเขาแห้งแล้งสีเทาหม่นทอดยาวสุดสายตา
บนผืนดินราบเรียบแห้งใกล้ๆ บ้านเรือนในเมืองที่พังทลายยังคงถล่มลงมาไม่หยุด ฝุ่นควันสีเหลืองหม่นลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ปะปนกับควันดำจากการระเบิดของอาวุธหนักก่อนหน้านี้
ขบวนรถที่แล่นออกจากตัวเมือง ทิ้งรอยล้อยาวเป็นทางบนพื้นทราย
กองทัพอเมริกาถอยร่นออกมาสี่ถึงห้ากิโลเมตร จึงค่อยหยุด
"ท่านผู้บัญชาการ จะล่อสัตว์ประหลาดตัวนั้นออกมาสู้รบต่อไหมครับ" รองผู้บัญชาการถาม
ผู้บัญชาการมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "มีแค่อาวุธหนักเท่านั้นแหละ ถึงจะทำอะไรมันได้ แล้วเรายังจะสู้ต่ออีกหรือ? กำลังพลของเรามีไม่พอหรอก"
"ติดต่อขอความช่วยเหลือ รอคำสั่งโจมตีทางอากาศ จากนั้นค่อยล่อมันออกมา ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งดูสถานการณ์ไปก่อน"
รองผู้บัญชาการมองเมืองลูลาที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน ด้วยแววตาเห็นใจ "แบบนี้มันโหดร้ายเกินไปนะครับ"
"โหดร้ายงั้นเหรอ?"
ผู้บัญชาการแค่นเสียงเย็นชา "งั้นคุณก็อยากให้ทหารของเราต้องเผชิญชะตากรรมโหดร้ายแทนอย่างนั้นสิ"
"ปล่อยให้พวกเขาเอาเลือดเนื้อไปหยุดสัตว์ประหลาดที่ทำลายไม่ได้ เพื่อปกป้องพลเมืองของซีเรียที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับประเทศของเราเลยอย่างนั้นเหรอ? แล้วคุณจะส่งจดหมายแจ้งข่าวตายไปให้ครอบครัวของพวกเขาหรือไง? คุณจะไปเผชิญหน้ากับปืนลูกซองของพ่อแม่พวกเขาอย่างนั้นเหรอ?"
รองผู้บัญชาการรีบปิดปากเงียบ แต่ในใจกลับโกรธจนแทบระเบิด
ตั้งแต่ที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ ผู้บัญชาการเลือดเย็นและโง่เขลานี่ ก็เอาแต่ใช้ชาวเมืองเป็นเหยื่อล่อ
ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าคือเบื้องบนก็เห็นด้วย
มันช่างน่าโมโหจริงๆ!
ไม่นาน ทหารก็รายงานสถานการณ์ใหม่
ผู้บัญชาการหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาดู เห็นกลุ่มคนวิ่งออกมาจากอีกฟากหนึ่งของเมือง
...
เควินและอีกสองคน พาผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งออกมาได้
"คุณหมอ ได้โปรดเถอะค่ะ สามีของฉันยังติดอยู่ข้างใน" หญิงคนหนึ่งคั้นคลานเข้ามาอ้อนวอน
เควินกัดฟัน ก่อนจะพูดกับแฮร์รี่และเชลซี "พวกนายพาคนอื่นๆ ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะย้อนกลับไป"
พูดจบ เขาก็วิ่งกลับไปที่เมือง
"เควิน! เควิน!"
เชลซีผมสีแดงยืนชะงัก ก่อนจะหันหลังวิ่งตามเควินไป ทิ้งแฮร์รี่ที่ยืนงงอยู่คนเดียว
เขามองดูฝูงชน สลับกับมองดูสองคนที่วิ่งจากไป สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ ทุบมือดังปัง แล้ววิ่งตามทั้งสองไปพลางตะโกน
"ถ้าพวกแกยังมาแสดงความรักต่อหน้าฉันอีก ฉันสาบานเลยว่าจะตามไปหลอกหลอนพวกแกไปจนตาย! บัดซบ! บัดซบ! บัดซบ!"
เควินที่วิ่งกลับมาถึงตัวเมือง หันกลับมามองทั้งสองคนที่วิ่งตามมาอย่างงุนงง ก่อนจะตะโกนด้วยความโกรธ "พวกนายจะตามมาทำไม! ไม่ได้บอกให้พาคนอื่นไปก่อนเหรอ! มันอันตรายนะ! รีบกลับไป!"
เชลซีจ้องมองเขา นิ่งเงียบ
แฮร์รี่เม้มปากอย่างจนใจ เอามือตบบ่าเควิน "มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะพูดอะไรอีก รีบไปช่วยคนกันเถอะ!"
เควินขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ ก่อนจะถอนหายใจ "ไป!"
ทั้งสามคนรีบวิ่งเข้าไปในเมือง
ร่างของกิ้งก่ายักษ์โผล่แวบๆ ระหว่างซากปรักหักพังของอาคาร
ทั้งสามหลบสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัว วิ่งผ่านตรอกซอกซอยที่คุ้นเคย ปีนป่ายสิ่งกีดขวางที่ถล่มทลาย
ในที่สุดพวกเขาก็พบชายคนหนึ่ง ถูกคานบ้านทับขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"ช่วยด้วย!"
พวกเขาช่วยกันยกคานบ้านอย่างยากลำบาก ก่อนจะลากชายคนนั้นออกมา
"คุณหมอเควิน ขอบคุณครับ...ขอบคุณมากครับ"
"ไม่เป็นไรครับ"
ทั้งสามคนช่วยพยุงชายคนนั้นวิ่งออกไป
พื้นดินสั่นสะเทือน
ตึกข้างๆ พังครืนลงมา ปรากฏว่าในระหว่างที่พวกเขากำลังช่วยคน กิ้งก่ายักษ์ก็เคลื่อนที่มาถึงจุดนี้แล้ว
ทั้งสี่รีบวิ่งไปหลบหลังกำแพง
ลิ้นของกิ้งก่าคว้าตัวคนที่กำลังกรีดร้องอยู่ในบ้าน ยกขึ้นสูงแล้วกลืนลงไป ก่อนจะหันไปทางอื่น
"เฮ้อ..."
ชายที่อยู่หลังกำแพงถอนหายใจด้วยความโล่งอก หัวใจเต้นรัวเร็วราวกับจะหลุดออกมานอกอก
ขณะที่เขากำลังจะออกไป ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้แว่วๆ
ทั้งสี่คนชะงัก
เควินชะโงกหน้าออกไปดู เห็นแขนเล็กๆ โผล่ออกมาจากตู้เสื้อผ้าในบ้านที่พังทลายไปก่อนหน้านี้
พ่อแม่ของเด็กถูกเขมือบไปแล้ว พวกเขาซ่อนลูกไว้ในตู้
กิ้งก่ายักษ์ที่เดินจากไปแล้ว เหมือนจะได้ยินเสียงร้อง จึงหยุดชะงัก
ใบหน้าของเควินเต็มไปด้วยความลังเล เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง ก่อนจะพูดกับคนอื่นๆ "พวกนายไปเถอะ อย่าตามฉันมา"
เขาหันหลังกลับ
แต่มีมือมาคว้าเขาไว้
เชลซีผมสีแดงจ้องมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน "ไม่ได้นะ เควิน..."
เควินรู้สึกผิด "ขอโทษนะ เชลซี ฉัน...เธอไปเถอะ"
"นายไป ฉันก็ไป" เชลซีมองเขาอย่างมุ่งมั่น
เควินรู้สึกซึ้งใจ
แฮร์รี่มองดูทั้งสองคน เม้มริมฝีปากแน่น ส่ายหน้า ก่อนจะพูดกับชายที่ได้รับความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงเบา
ชายคนนั้นพยักหน้า มองดูทั้งสามคน แล้วเดินกะโผลกกะเผลกจากไป
"ฉันกำลังชดใช้บาปที่ตัวเองก่อ แต่เชลซี เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เธอเสียเวลาที่นี่ไปตั้งสองปี เธอควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้"
เควินแกะมือของเชลซีออกอย่างยากลำบาก
"ไปซะ"
เขาพูดเสียงแหบพร่า
ทันใดนั้น แฮร์รี่ก็พุ่งตัวออกไป ทิ้งไว้เพียงเสียงตะโกน
"พวกแกสองคน รีบออกมา!"
"ฉัน แฮร์รี่ เป็นได้แค่เศษสวะในฮารับ ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีภาระผูกพันอะไร ฉันถูกกีดกันรังเกียจมาตั้งแต่เด็กเพราะเป็นลูกครึ่ง ฉันเติบโตบนท้องถนน ไม่มีใครเคยมองหน้าฉันตรงๆ"
"ตั้งแต่ได้พบกับพวกนาย ได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ ได้เป็นหมอ ฉันถึงได้รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ได้ใช้ชีวิตอย่างคนจริงๆ ไม่ใช่ขยะไร้ค่าที่ใครๆ ก็รังเกียจ!"
"ถ้าฉันตายไป ก็คงไม่มีใครเสียใจ"
"แต่พวกนายไม่เหมือนกัน! พวกนายยังมีอนาคตที่สดใส ดังนั้น...ปล่อยให้ฉันได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องสักครั้งเถอะ!"
แฮร์รี่วิ่งฝ่าซากปรักหักพังเข้าไป อุ้มเด็กทารกออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้ววิ่งหนีออกมา ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนทั้งสอง
.
.
.
---
กลุ่มที่ 1 ลดเหลือ 60 ถ้าเข้าพร้อมกลุ่ม 3 กลุ่มรวดเหลือ 250 ครับผม
ทักมาในเพจได้เลย: แมวหยิบมาแปล