ตอนที่ 1096 คางูยะผู้แข็งแกร่ง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และสองปีก็ผ่านไปในชั่วพริบตา
ในขณะนี้ หลี่ฟานได้ออกมาจากห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลากับยาคุโมะแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลี่ฟานได้จงใจนำเซ็ตสึดำและคางูยะเข้าไปในห้องฝึกฝนลึกลับ เพื่อให้ยาคุโมะได้ลองใช้พลังของเธอเอง
“ผนึกประสาทสัมผัสทั้งห้า!”
ยาคุโมะทำการประสานอินด้วยมือทั้งสองข้าง ทันใดนั้นจักระอันทรงพลังที่ถูกกระตุ้นจากร่างเซียนก็ไหลเวียนอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็กลายเป็นพลังวิญญาณที่พุ่งตรงไปหาหลี่ฟาน
มุมปากของหลี่ฟานยกขึ้น เขายืนเฉยๆ ปล่อยให้พลังวิญญาณนี้พุ่งตรงมาที่เขาแต่โดยดี แม้กระทั่งปล่อยให้มันเข้าสู่ร่างกายของเขาด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นแบบนี้ยาคุโมะก็ดีใจมาก และกำลังจะใช้พลังของเธอเพื่อพยายามควบคุมประสาทสัมผัสทั้งห้าของหลี่ฟาน
แต่ในไม่ช้า เธอก็ค้นพบว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะปิดกั้นการมองเห็นของหลี่ฟาน
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ประสาทสัมผัสอื่นๆ เธอก็ไม่สามารถปิดได้
ยาคุโมะถอนหายใจ แต่เธอก็คาดหวังถึงสิ่งนี้เอาไว้แล้วเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่เศร้ามากเกินไป
“บางทีเธออาจจะลองกับพวกเขาได้”
หลังจากที่หลี่ฟานกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาก็ใช้ทักษะล่องหนเพื่อซ่อนร่างกายของตัวเอง ทำให้ยาคุโมะมุ่งความสนใจไปที่คางูยะและเซ็ตสึดำมากขึ้น
ยาคุโมะพยักหน้า เธอทำการประสานอินอีกครั้ง และเปลี่ยนเป้าหมายของคาถาลวงตาไปที่คางูยะและเซ็ตสึดำ
คางูยะจ้องไปที่ร่างของยาคุโมะ ทันใดนั้นเนตรสีขาวของเธอก็เปิดขึ้นทันที
ด้วยพลังของเนตรสีขาว คางูยะจึงสามารถคลายคาถาลวงตาของยาคุโมะได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับคางูยะแล้ว เซ็ตสึดำไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
ด้วยความสามารถพิเศษของเขา เซ็ตสึดำจึงสามารถต่อต้านภาพลวงตาของยาคุโมะไปได้สักระยะหนึ่ง
แต่ในไม่ช้ากำแพงวิญญาณของเขาก็พังทลาย และประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ถูกควบคุมโดยยาคุโมะแทน
เพียงแต่ยาคุโมะไม่มีความต้องการที่จะควบคุมประสาทสัมผัสทั้งห้าของเซ็ตสึดำ
หลังจากที่คาถาลวงตาทำงาน เธอก็ยกเลิกมันทันที
“แน่นอนว่าคุณคางูยะแข็งแกร่งมาก”
“ขีดจำกัดสายเลือดของฉันคงใช้ไม่ได้ผลกับคุณคางูยะ”
ยาคุโมะยิ้มแล้วดึงดาบฟันวิญญาณที่อยู่ที่เอวของเธอออกมา
“อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นพลังของซาคานาเดะล่ะ มันจะเป็นอย่างไร?”
เมื่อยาคุโมะพูดจบ แรงดันวิญญาณอันทรงพลังก็พรั่งพรูออกมาจากร่างของเธอทันที
“บังไค! ซาคาซามะ โยโกชิม่า ฮัปโป ฟุซางาริ!”
ยาคุโมะคำราม ทันใดนั้นพื้นที่รอบตัวของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างมาก
แรงดันวิญญาณอันทรงพลังแปลเปลี่ยนเป็นภาพลวงตา และพากันกรูเข้าไปหาคางูยะและเซ็ตสึดำ
พริบตาเดียว เซ็ตสึดำก็ล้มลงทันที
ในขณะที่คางูยะเบิกเนตรวงแหวนสังสาระขึ้นที่กลางหน้าผากของเธอ และใช้จักระขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างของตัวเองไว้
ด้วยเสียงคำราม เซ็ตสึดำที่ล้มลงกับพื้นก็รุกขึ้นมาพุ่งโจมตีใส่คางูยะอย่างรวดเร็ว
คางูยะเพียงแค่เหลือบมองเขาเท่านั้น แล้วทำให้ร่างของเขาหยุดอยู่กับที่
แต่เมื่อคางูยะต้องการใช้พลังของเนตรวงแหวนสังสาระเพื่อยกเลิกการควบคุมจิตใจของเซ็ตสึดำ เธอก็พบว่ามันไม่ได้ผลเลย
“นี่คือพลังของดาบเล่มนั้นอย่างงั้นเหรอ? ช่างเป็นการควบคุมที่ทรงพลังจริงๆ”
คางูยะพูดขณะมองไปที่ยาคุโมะ และใช้มือข้างหนึ่งควบคุมเซ็ตสึดำเอาไว้กลางอากาศ
“แต่ถึงอย่างนั้น บังไคของฉันก็ยังใช้ไม่ได้ผลกับคุณคางูยะอยู่ดี” ยาคุโมะส่ายหัวของเธอด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
“ความจริงแล้ว คุณคางูยะได้ปลดปล่อยการควบคุมจิตใจของเขาไปครู่หนึ่ง”
“แต่เพียงเพราะเขายังอยู่ในอาณาเขตของบังไคของฉัน ดังนั้นเขาจึงถูกควบคุมอีกครั้ง”
คางูยะพยักหน้า แน่นอนว่าเธอสามารถสัมผัสได้ถึงเรื่องนี้
เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคจักระอย่างต่อเนื่อง คางูยะจึงไม่ได้พยายามขจัดภาพลวงตาของเซ็ตสึดำอีกต่อไป
ยาคุโมะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย และยกเลิกบังไคของเธอทันที
ทางด้านข้าง หลี่ฟานได้ทำการยกเลิกสถานะล่องหนของเขา
“ยาคุโมะ ตอนนี้เธอคงจะเข้าใจในความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว”
“ในห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลา ถึงแม้ว่าคาถาลวงตาของเธอจะไม่ส่งผลกระทบต่อฉัน แต่มันก็ยังส่งผลกระทบต่อผู้อื่น”
“เซ็ตสึดำเป็นตัวอย่างที่ดี”
“อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเธอยังตามหลังคางูยะอยู่มาก”
“ดังนั้นพลังของเธอจึงไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเธอได้”
หลี่ฟานพูดพลางเดินเข้าไปหาทั้งสองคน และวางมือลงบนไหล่ของคางูยะ
…