ตอนที่ 108 : ช่องว่างมิติเวลา ? แผนของหลินลั่ว !
ตอนที่ 108 : ช่องว่างมิติเวลา ? แผนของหลินลั่ว !
กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมา “โลกวิเศษนั้นเป็นการรวมกันของกฎ ถ้าต้องการจะฟื้นฟูมัน แน่นอนว่ามันต้องกลืนกินบางอย่างเข้าไป”
“ช่องว่างมิติเวลาคือเศษซากของกฎ”
“คือ....ช่วยพูดให้เจาะจงกว่านี้ได้มั้ย ?”
กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “ถ้าจะพูดให้เจาะจง งั้นนายเคยได้ยินเรื่องแกนอาณาเขตรึเปล่า ?”
“แกนอาณาเขต ?”
หลินลั่วเบิกตากว้าง “กลับเป็นมันนี่เอง !”
“ถูกต้อง” กั้วโฉวยี่พยักหน้าและพูดขึ้น “มันคือสสารในช่องว่างมิติเวลา ของทั่ว ๆ ไปที่มันจะสร้างขึ้นมาคือแกนอาณาเขต !”
“ตราบใดที่นายมีแกนอาณาเขตมากพอให้โลกวิเศษได้กลืนกิน งั้นอีกไม่นานโลกวิเศษก็จะกลับไปอยู่ในสภาพเดิมของมัน รึอาจจะแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ”
“น่าเสียดาย...ถ้านายต้องการจะฟื้นฟูโลกวิเศษให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิมแล้วล่ะก็ คุณภาพและปริมาณของแกนอาณาเขตที่ต้องให้มันกลืนกินนั้นต้องสูงมาก แม้ด้วยเงินทุนของตระกูลใหญ่ ๆ ก็ยังยากที่จะทำได้ !”
แกนอาณาเขต !
พูดให้ถูกต้อง มันคือจุดเกิดของมอนสเตอร์
มันมักจะมีอยู่ในจุดที่มอนสเตอร์รวมตัวกัน มันจะมีบอสคอยคุ้มกัน
ถ้าต้องการแกนอาณาเขตในจุดที่มอนสเตอร์รวมตัวกัน งั้นก็ต้องกำจัดมอนสเตอร์ในพื้นที่ให้หมดและฆ่าบอสเพื่อชิงแกนอาณาเขตมา
ประเด็นหลักคือมอนสเตอร์ที่เฝ้าแกนอาณาเขตนั้นไม่ใช่มอนสเตอร์ทั่วไป
มันมีสติปัญญา, มีจำนวนมาก รึอาจจะเป็นมอนสเตอร์ที่มีอารยธรรม ไม่ต่างจากมนุษย์ที่คอยเฝ้าแกนอาณาเขตอยู่
ในอีกความหมายคืออาจจะมีค่าย, หมู่บ้าน รึเมืองที่มีฝูงมอนสเตอร์เฝ้าเอาไว้เท่านั้นที่จะมีแกนอาณาเขต !
ไม่แปลกเลยที่ทำไมกั้วโฉวยี่ถึงได้บอกว่าถึงแม้จะเป็นตระกูลใหญ่ แต่การที่คิดจะซ่อมโลกวิเศษนั้นก็ยังเป็นเรื่องยาก
มันเกี่ยวกับการโจมตีอาณาเขตภายนอกรึเมืองอื่น !
“มัน...” หลินลั่วทุบโต๊ะพร้อมแผนที่ปรากฏขึ้นมาในใจ แกนอาณาเขต แน่นอนว่าเขามีทางที่จะซ่อมมันได้
มันยังเหลืออีก 2 เดือนก่อนที่เขาจะได้เข้ามหา’ลัย เขาจะใช้เวลานี้เพื่อไปเก็บเลเวล
“ใช่สิ คุณกั้ว แล้วผู้สนับสนุนจะได้แผนที่ที่มีแกนอาณาเขตมารึเปล่า ?”
“แผนที่ที่มีแกนอาณาเขต ?” กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “ในเรื่องสถานที่ที่มีแกนอาณาเขต แน่นอนว่ามันต้องเป็นโลกภายนอก ,โลกใต้ดิน และทะเลดวงดาว !”
“ทั้ง 3 ที่นี้เกิดขึ้นหลังจากโลกต่าง ๆ มารวมตัวกัน อีกที่คือโลกใต้ดิน อีกที่คือทะเลที่สร้างขึ้นโดยการเชื่อมต่อระหว่างทะเลของโลกภายนอกกับทะเลโลกของเรา”
“มีมอนสเตอร์อยู่ด้านในนับไม่ถ้วน แต่มอนสเตอร์พวกนี้น่ะเป็นสิ่งมีชีวิตจริง ๆ ไม่ใช่ภาพฉายของมอนสเตอร์ที่ส่งมายังโลกของเรา ผู้ปลุกพลังที่ไม่แข็งแกร่งจะไม่กล้าไปในที่แบบนั้น” กั้วโฉวยี่ผงะ “หลินลั่ว นายคงไม่คิดจะซ่อมมันหรอกนะ....”
“ผมก็แค่ถามดู”
กั้วโฉวยี่ถามขึ้นมา “ใช่สิ หลินลั่ว นายตัดสินใจรึยังว่าจะไปเรียนที่มหา’ลัยไหน ?”
“คุณมีที่อยากแนะนำรึเปล่า ?”
“ถ้าเป็นจากมุมมองส่วนตัวแล้ว แน่นอนว่าฉันแนะนำมหา’ลัยปิ้นไห่” กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “แต่เพื่ออนาคตของนาย ฉันแนะนำให้นายไปที่มหา’ลัยหลวงจะดีกว่า !”
“หือ ? ทำไม ?”
“ก็ง่าย ๆ มหา’ลัยหลวงน่ะรับผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศเอาไว้ การได้อยู่ด้วยกัน, ทำงานด้วยกัน, เก็บเลเวลด้วยกัน, แข่งขันกัน มันจะยิ่งทำให้นายพัฒนาได้ดีกว่าเดิม”
“ยิ่งกว่านั้นจำนวนผู้ปลุกพลังระดับตำนานที่นั่นก็มีมากที่สุดในประเทศด้วย !”
“ไม่ว่าจะเป็นเมืองปิ้นไห่, เมืองฉางอัน, เมืองจินหลิง มันก็เทียบกับเมืองหลวงไม่ได้ !”
“เข้าใจแล้ว...” หลินลั่วถามขึ้นมา “แล้วในเมืองปิ้นไห่ของเรามีผู้ปลุกพลังระดับตำนานกี่คน ?”
“5-6 คน นายถามไปทำไม ?”
“ไม่มีอะไรหรอก....” หลินลั่วส่ายหน้า “เมืองหลวงงั้นเหรอ ?”
อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงเหลียนอี้หนิง
แม้แต่จดหมายที่เหลียนอี้หนิงส่งมาก็ยังบอกว่าเธอหวังว่าเขาจะเลือกเรียนที่มหา’ลัยหลวง
กั้วโฉวยี่พูดขึ้น “โอ้ ใช่สิ เท่าที่ฉันรู้มา 1 ใน 7 จักรพรรดิ นายน้อยของเกาะเก้าอสรพิษอย่างจิ่วเฉอยี่ก็เลือกที่จะเรียนที่มหา’ลัยหลวงหลังจากที่เปลี่ยนอาชีพขั้น 2 แล้ว”
“มองจากภายนอก มันคือการเรียนรู้ ทว่าอันที่จริงคือการเข้ามาเป็นทูต”
“เป็นทูต ?” หลินลั่วอึ้ง
ในฐานะ 1 ใน 7 จักรพรรดิ สถานที่อย่างเมืองหลวงของพวกเขา มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะปล่อยให้นายน้อยของพวกเขามาเป็นทูตในที่แบบนี้ ?
“แฟนของนายน่าจะอยู่ที่เกาะเก้าอสรพิษ” กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “ไม่ต้องกังวล เธอสบายดี บนเกาะนั่น มันมีคนของฉันอยู่”
“ผมส่งจดหมายไปให้เธอได้รึเปล่า ?”
“แน่นอน” กั้วโฉวยี่ตอบกลับ “น่าจะกินเวลาสัก 1 อาทิตย์ ถึงจะได้คำตอบกลับมา”
10 นาทีต่อมา กั้วโฉวยี่ก็ได้กลับไปพร้อมกับจดหมายของหลินลั่ว
ในอีกด้าน หลินลั่วก็ได้เปิดคอมเพื่อค้นหาข้อมูลเรื่องโลกภายนอก, โลกใต้ดิน และทะเลดวงดาว
อันดับแรกที่เขาได้ตัดทิ้งไปคือทะเลดวงดาว
ถึงทะเลดวงดาวจะอยู่ใกล้กับเมืองปิ้นไห่ที่สุด ทว่ามันอยู่ในทะเล มันมีข้อจำกัดเรื่องสภาพแวดล้อม
ต้องใช้เวลากว่า 10 วัน เขาถึงจะเดินทางไปแต่ละเกาะ เขาอาจจะต้องเจอกับพายุและคลื่นลมตลอด
เขามีเวลาแค่ 2 เดือน แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกทะเลดวงดาว หลังจากที่หาข้อมูลอยู่นาน สุดท้ายเขาก็ตัดโลกใต้ดินทิ้ง
โลกใต้ดินนั้นเป็นมิติใต้ดิน มันมีมอนสเตอร์อยู่จำนวนมาก
ใต้ดินของทุก ๆ เมืองนั้นจะมีทางเข้าโลกใต้ดินอยู่
แต่สถานที่ในโลกใต้ดินนั้นซับซ้อน มันมีมอนสเตอร์อยู่เยอะ ส่วนมากแล้วเป็นธาตุความมืด, ธาตุพิษ, ธาตุไม้ และธาตุดินที่มีผิวหนังที่หนาซึ่งกำจัดได้ยาก !
ยิ่งกว่านั้นมันมีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาในโลกใต้ดินไม่มาก โอกาสที่จะได้เจอกับแกนอาณาเขตนั้นก็น้อยอย่างมาก
สุดท้ายหลินลั่วก็ได้เลือกโลกภายนอก !
ไม่เลว
เขาพร้อมจะออกเดินทางแล้วจริง ๆ !
มอนสเตอร์ในป่านั้นเป็นแค่ภาพฉายจากโลกภายนอก พวกมันไม่ได้มีค่าประสบการณ์อะไรมากนัก แถวนั้นมีผู้ปลุกพลังอยู่เยอะ มันไม่เหมาะที่เขาจะไปเก็บเลเวล
ถ้าเทียบกับป่าแล้ว มันมีมอนสเตอร์อยู่ด้านโลกภายนอกมากกว่า แผนที่ก็ใหญ่กว่า มันเหมาะกับความสามารถและการเติบโตของเห่ยหลง
อีกอย่างโลกภายนอกก็ยังเป็นแผนที่ขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลังจากที่โลกนี้หลอมรวมกับโลกภายนอก มอนสเตอร์และสิ่งมีชีวิตด้านในน่ะเป็นสิ่งมีชีวิตจริง ๆ
หลังจากที่ฆ่าพวกมันได้ พวกเขาก็จะได้ค่าประสบการณ์มากกว่าปกติ
น่าเสียดายที่หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์ที่นั่นได้ เราจะไม่ได้ไอเทมที่ดรอปลงมา เราจะได้แค่ชิ้นส่วนจากตัวพวกมัน
ชิ้นส่วนเหล่านี้นำไปใช้สร้างเกราะและอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับผู้ปลุกพลังได้โดยการอาศัยพวกช่างตีเหล็ก, ช่างทอผ้า
แต่ในทางกลับกัน เราก็สามารถชิงอุปกรณ์ของมอนสเตอร์ต่างโลกมาใช้งานได้ !
โดยทั่วไปแล้วโลกภายนอกนั้นคือสวรรค์สำหรับผู้ปลุกพลังที่แข็งแกร่ง !
ที่นั่นยังมีทรัพยากรที่สมบูรณ์รวมถึงมีสมบัติมากมายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ผู้ปลุกพลังที่แข็งแกร่งบางคนเลือกที่จะไปที่โลกภายนอกเพื่อฝึกฝนตัวเอง
“เอาตามนี้ โลกภายนอก !”
“ถ้าต้องการจะไปยังโลกภายนอกจากเมืองปิ้นไห่ งั้นก็ต้องวาร์ปไป....ด้วยการอาศัยค่ายกลเคลื่อนย้าย ก่อนอื่นต้องไปที่เมืองฉางอัน !”
“เมืองฉางอันคือเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้กับโลกภายนอกที่สุด เมืองฉินถูกสร้างขึ้นมาในส่วนลึกของภูเขาฉิน มันมีกำแพงสูงถึง 100 ม.ขวางกั้น.....พวกต่างโลกเอาไว้”
“อีกอย่างต้องซื้อไอเท็มกับอุปกรณ์สวมใส่ก่อนจะไปด้วย”
“โดยเฉพาะอาวุธ !”
“คทาที่ฉันใช้อยู่ดีก็จริง แต่ฉันเปลี่ยนอาชีพขั้น 2 แล้ว ฉันเลเวล 40 แล้วด้วย มันไม่เหมาะกับฉันอีกแล้ว”
เขาเปิดเว็บไซต์กิลด์ผู้ปลุกพลังเมืองปิ้นไห่ขึ้นมาและเลือกค้นดูในตลาด
ตอนนี้เขามีเงินกว่า 10 ล้านทอง เขาพร้อมจะเปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์ระดับสูงทั้งตัว !
เมื่อเปิดช่องค้นหาในตลาดและกรอก ‘อาชีพขั้น 2’, ‘ระดับทอง’ และ ‘อาวุธ’ ลงไป ไม่นานก็มีรายชื่อไอเท็มปรากฏขึ้นมา
น่าเสียดายที่มันมีให้เลือกแค่ไม่กี่อัน
“น้อยขนาดนี้เลยเหรอ ?” เขาตรวจสอบไอเท็มพวกนี้อยู่นาน อาวุธทั้งหมดเป็นดาบ, ธนู และขวาน มันไม่มีคทาที่เขาต้องการ !
“ผู้ปลุกพลังอาชีพขั้น 2 มีอาวุธให้เลือกใช้น้อยขนาดนี้เลยเหรอ ?” หลินลั่วส่ายหน้า เขารู้ว่าเขาคงคาดหวังเกินไป
“ผู้ปลุกพลังอาชีพขั้น 2 ส่วนมากใช้อุปกรณ์ระดับเหล็ก อุปกรณ์ระดับทองแดงก็ถือว่าดีมากแล้ว อุปกรณ์ระดับเงินไม่ต่างอะไรจากสมบัติ”
“สำหรับอุปกรณ์ระดับทอง ผู้ปลุกพลังอาชีพขั้น 2 ทั่วไปไม่กล้าคิดจะหามันมาใช้ด้วยซ้ำ !”
“ถ้าไม่มีอาวุธ งั้นก็ไปหาของอย่างอื่นแทน.... ”
เขาตรวจสอบในตลาดอยู่นาน ทว่าโชคร้ายที่มันไม่มีอะไรทำให้เขาพอใจได้
“อุปกรณ์ดี ๆ น่ะบางคนถือว่าเป็นสมบัติ พวกเขาจะเอามาขายได้ยังไง ของที่ขายเป็นแค่อุปกรณ์ธรรมดาทั่วไป ของดี ๆ น่ะไม่มีทางถูกเอามาขายหรอก....”
ตอนที่พูดอยู่นั้น อยู่ ๆ หลินลั่วก็ตาเป็นประกายขึ้นมา
“ใช่สิ ฉันลืมไปได้ยังไง ?”
แค่พลิกฝ่ามือ หน้ากากผีก็ปรากฏขึ้นมาในมือ
หน้ากากผีทำให้เขาสื่อสารกับผู้ปลุกพลังที่มีหน้ากากผีได้ มันเรียกว่าตลาดจำลอง เขาสามารถเดินดูของต่าง ๆ ในตลาดได้
เขาสวมหน้ากากและเลือกเข้าไปในตลาดจำลอง
อยู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็มีแต่หมอกปกคลุม หลังจากที่หมอกสลายไป เขาก็พบกับลานปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
มีคนหลายสิบคนเดินไปมาในตลาดแห่งนี้ มันมีร้านค้าตั้งอยู่ทั้งสองข้างทาง แต่ละร้านมีของขายอยู่หลายชิ้น
“นี่คือตลาดจำลองงั้นเหรอ ? สะดวกดีนิ !”
“ปรมาจารย์เฟยหยูนี่สุดยอดจริง ๆ เขากลับสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้ ....รึว่าของทุกอย่างจะถูกย้ายเอามาขายในนี้หมด ?”
เขาเดินออกไปโดยไม่มีใครสนใจ
“ไม่รู้ว่าตลาดจำลองนี่จะทำให้ฉันแปลกใจได้แค่ไหน ?”