ตอนที่แล้วตอนที่ 106 : แชมป์ ! โลกวิเศษ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 108 : ช่องว่างมิติเวลา ? แผนของหลินลั่ว !

ตอนที่ 107 : ความลับของโลกวิเศษ


ตอนที่ 107 : ความลับของโลกวิเศษ

หลินลั่วที่เพิ่งจะอาบน้ำนั่งพักอยู่ที่โซฟา

ที่โต๊ะกาแฟตรงหน้าเขา มันมีรางวัลสำหรับแชมป์ในการสอบเข้ามหา’ลัยวางเอาไว้ โลกวิเศษ !

“โลกวิเศษคืออะไร ? มันคือสิ่งมีชีวิต ?”

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเปิดกล่องออก  มันมี ‘ของ’ โปร่งใส่เหมือนกับเยลลี่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา

“มัน....คือโลกวิเศษจริง ๆ เหรอ ? ไม่ใช่เยลลี่แน่นะ ?”

โลกวิเศษตรงหน้าเขาคล้ายกับมอนสเตอร์ในโลกนี้ !

มองได้ไม่นาน ค่าสเตตัสของมันก็ปรากฏขึ้นในสายตาของหลินลั่ว

[ ชื่อ – โลกวิเศษ

เผ่า – สิ่งมีชีวิตมโนภาพ

คุณสมบัติ – กฎโลกที่ผสมกัน

สถานะ - บาดเจ็บหนัก

คำอธิบาย – ของสิ่งนี้คือสิ่งมีชีวิตประหลาดที่กำเนิดขึ้นหลังจากที่กฎของสองโลกรึมากกว่านั้นหลอมรวมกัน มันมีโลกขนาดเล็กในตัวที่เติบโตได้อย่างอิสระผ่านช่องว่างของมิติเวลา ]

“โลกวิเศษ ?”

“สิ่งมีชีวิตมโนภาพ ?”

“กฎโลกที่ผสมกัน ?”

“มันคืออะไร ?” หลินลั่วสับสน “ยังมีเรื่องช่องว่างมิติกับเวลาอีก หมายความว่ายังไง ?”

“หือ ?” ด้านหลังหูเขามีหัวเล็ก ๆ ยื่นออกมา

เสี่ยวฉิง

เธอเหมือนจะกระโดดลงจากตัวหลินลั่วและมองไปที่โลกวิเศษในกล่อง

เธอลองยื่นมือไปแตะดู

“ระวัง ฉันไม่รู้ว่ามัน....คืออะไร”

‘สไลม์’ ในกล่องเริ่มขยับ

มันยกตัวขึ้นราวกับกำลังมองมาที่เขา

“มัน....มีชีวิต ?”

“ก๊อก ก๊อก... ”

อยู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น หลินลั่วนึกถึงคำพูดของกั้วโฉวยี่เมื่อตอนบ่ายจึงลุกขึ้นไปเปิดประตู

“รองนายก เชิญเข้ามาสิ”

คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือกั้วโฉวยี่

กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “นายอยู่คนเดียวงั้นเหรอ ? มัน...หือ ?”

เขามองไปที่ของบนโต๊ะก่อนจะยิ้มออกมา

“ถ้าคนในตระกูลอื่นรู้ว่านายโยนโลกวิเศษไว้แบบนี้ ไม่รู้เลยว่าจะมีกี่คนที่ตกใจกับเรื่องนี้....แล้วเจ้าตัวเล็กนี่ล่ะ มันคืออะไร ?”

“หึ...” เสี่ยวฉิงเหมือนจะไม่พอใจเพราะกั้วโฉวยี่เรียกเขาว่า ‘มัน’ เธอยกมือขึ้นเท้าสะเอวรอฟังคำขอโทษ

“หึหึ เหมือนว่าฉันทำตัวน่ารำคาญสินะ....” กั้วโฉวยี่ดึงมือกลับมาล้วงเอาของบางอย่างขนาดเท่ากับเมล็ดแตงโมออกมาส่งให้กับเสี่ยวฉิง

“เจ้าตัวน้อย ถือว่าเป็นคำขอโทษของฉันก็แล้วกัน”

เสี่ยวฉิงเอียงหัวมองไปที่ ‘เมล็ดแตงโม’ ตรงหน้า เธอลองไปดมกลิ่นดูก่อนจะรีบหยิบมันไปกิน

หลินลั่วพูดขึ้นมาด้วยท่าทีอาย “เธอเพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน เลยยังไม่รู้จักมารยาทเท่าไหร่ อย่าถือสาเลย”

กั้วโฉวยี่แสดงสายตาแปลกใจออกมา สายตาเขาแฝงไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาพูดขึ้น “ไม่เลย ฉันไม่ถือสาหรอก เด็กจะซนก็เป็นเรื่องธรรมดา !”

เขาไปนั่งที่โซฟาและละสายตาจากเสี่ยวฉิงมาที่หลินลั่ว “หลินลั่ว ฉันอยากชวนเธอเข้าร่วม ในฐานะผู้พิทักษ์....”

หลินลั่วพูดขึ้น “คุณกั้ว ผมบอกไปชัดเจนแล้ว ผมไม่ต้องการที่จะ...”

กั้วโฉวยี่ขัดขึ้นมา “หลินลั่ว ฉันอยากชวนนายมาเป็นผู้สนับสนุนของกลุ่มผู้พิทักษ์”

“ผู้สนับสนุน ?”

“ถูกต้อง” กั้วโฉวยี่พูดขึ้น “ฉันรู้ว่าผู้ปลุกพลังหลายคนน่ะให้ความสำคัญกับอิสระและไม่อยากผูกมัดกับใคร ฉันเองก็ไม่อยากจะบังคับนายเหมือนกัน”

“มันเลยมีตำแหน่งผู้สนับสนุนขึ้นมา”

“ผู้สนับสนุนที่ว่าคือตำแหน่งที่มอบให้กับผู้พิทักษ์ที่มีพรสวรรค์พิเศษ โดยผิวเผินแล้วเป็นผู้พิทักษ์ก็จริง ทว่าก็ยังถือว่าเป็นคนนอก”

“นายไม่ต้องทำงานให้เรา นายไม่ต้องเปิดเผยตัวเอง ในเวลาเดียวกันผู้สนับสนุนจะได้รับผลประโยชน์จากเราทุกเดือน”

หลินลั่วคิ้วขมวดและพูดขึ้น “แล้วตำแหน่งนี้จำเป็นต้องทำอะไร ?”

เขาไม่เชื่อว่าตำแหน่งผู้สนับสนุนจะได้มาฟรี ๆ

กั้วโฉวยี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน ผู้สนับสนุนก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ”

“เมื่อมีปัญหาที่เราจัดการไม่ได้ ทางกลุ่มผู้พิทักษ์ก็จะขอให้ผู้สนับสนุนช่วย ทุกครั้งที่ช่วยจัดการกับปัญหา เราก็จะมีรางวัลตอบแทนให้ ทว่านายจะปฏิเสธภารกิจนั้น ๆ ก็ได้ !”

“ไม่มีข้อผูกมัด !”

“นายว่ายังไง ? ฉันยื่นข้อเสนอให้นายจากใจจริง”

หลินลั่วครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วพูดขึ้น “คุณกั้ว ผมอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นผม ?”

กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมา “ทำไมต้องเป็นนาย....งั้นฉันจะพูดตรง ๆ ก็แล้วกัน ฉันให้ค่ากับพรสวรรค์ และหวังว่านายจะช่วยเหลือกลุ่มของเราได้ ตราบใดที่นายตกลง ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับกลุ่มผู้พิทักษ์ก็จะถือว่าเป็นการร่วมมือกัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเจ้านายกับลูกน้อง !”

“โลกนี้กว้างใหญ่ นายจะไปที่ไหนก็ได้ตามใจต้องการ นายไม่ได้ผูกมัดกับเรา ในทางกลับกันแล้ว นายสามารถใช้ตัวตนของผู้สนับสนุนเพื่อสั่งการผู้พิทักษ์ได้ !”

หลินลั่วมองไปที่กั้วโฉวยี่และถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “งั้นก็ได้ ! ผมตกลง !”

“ดีเลย !” กั้วโฉวยี่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “หลินลั่ว นี่เหรียญของนาย !”

ตอนที่พูดนั้นเขาก็เอาเหรียญปริซึมสีทองออกมา

“ด้วยเหรียญนี่ นายสามารถสั่งการผู้พิทักษ์ระดับทองลงไปในเมืองปิ้นไห่ได้ทั้งหมด ผู้พิทักษ์ของเมืองอื่นอาจจะฟังคำสั่งนายรึอาจจะไม่ฟังก็ได้”

หลินลั่วรับเหรียญมาและโยนมันเก็บเข้าไปในช่องเก็บของ

“และ....” กั้วโฉวยี่เอาเข็มกลัดกลม ๆ ออกมาส่งให้กับหลินลั่ว

“นี่คือตราจำศีลของนายสำหรับค่าจ้าง 1 ปี”

“ตราจำศีล ? มันคืออะไร ?” หลินลั่วมองไปที่ตรานี้ด้วยสีหน้าแปลก ๆ และพูดขึ้น

ตรานี่มีขนาดเท่ากับฝาขวด ผิวของมันมีภาพลมและหิมะสลักเอาไว้

“นายถือว่ามันเป็นมิติที่ไว้เก็บสัตว์เลี้ยง เพื่อที่มันจะได้จำศีลอยู่ด้านใน”

“มิติของสัตว์เลี้ยง...” หลินลั่วอึ้ง เขาคิดถึงเห่ยหลงขึ้นมาทันที

ผู้พิทักษ์ยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อที่จะดึงเขาเข้าเป็นพวก แต่หากเทียบกับคนอื่น ๆ แล้ว กั้วโฉวยี่นั้นดูใจกว้างกว่าเยอะ

ถ้าก่อนหน้านี้เอาตรานี่มาเสนอเขา เขาอาจจะลังเลอยู่บ้าง

แต่ครั้งนี้มาพร้อมข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ให้เขา รวมถึงให้ตราจำศีลกับเขาด้วย มันเข้าทางเขาทั้งหมด !

เขายิ้มออกมา “ผมจะใช้มันอย่างดีเลย !”

กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “หลินลั่ว นายอยากรู้มั้ยว่าโลกวิเศษคืออะไร ?”

หลินลั่วพูดขึ้น “หวังว่าคุณกั้วจะชี้แนะผมได้”

หลายตระกูลใหญ่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงโลกวิเศษมา มันต้องมีความลับที่เขายังไม่รู้อยู่แน่

กั้วโฉวยี่เอนตัวไปพิงโซฟาและพูดขึ้น “นายคงเห็นค่าสเตตัสของมันไปแล้ว นายรู้ว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่กฎของสองโลกรวมตัวกัน กฎที่แตกต่างกัน มันมีโลกขนาดเล็กอยู่ด้านใน !”

“อันที่จริงบทบาทของมันคือสมบัติที่ทำให้ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคก้าวขึ้นไประดับตำนานได้ ! มันคือสิ่งที่ผู้ปลุกพลังระดับตำนานต้องใช้ในการก้าวขึ้นไประดับเทพ”

“ของที่ต้องมีสำหรับการก้าวขึ้นไประดับเทพ ?” หลินลั่วลืมหายใจ เขาเดาว่าบทบาทของโลกวิเศษนั้นมีความหมาย ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผู้ปลุกพลังระดับเทพ ?

ผู้ปลุกพลังระดับเทพ !

นี่คือคนที่อยู่จุดสูงสุดของโลก จุดสูงสุดของมนุษย์ !

นี่คือผู้นำของเหล่ามนุษย์ในการต้านทานพวกที่มาจากโลกอื่น

ถ้าเทียบกันแล้ว มันแทบจะเท่ากับ....พระเจ้าของโลกนี้ก็ว่าได้ !

“ถูกต้อง” กั้วโฉวยี่พูดขึ้น “นายยังอยู่ห่างจากระดับเทพ ทว่านายจำเป็นต้องรู้เรื่องทั่วไปที่มีแต่พวกผู้ปลุกพลังระดับสูงเท่านั้นที่จะรู้”

“ถ้าผู้ปลุกพลังต้องการก้าวขึ้นไประดับอีปิค พวกเขาต้องเข้าใจพลังของกฎ ถ้านายต้องการก้าวไประดับตำนาน งั้นนายก็ต้องเปิด ‘จักรวาล’ ในร่างกายตัวเอง !”

“จักรวาลภายใน ?”

กั้วโฉวยี่พูดขึ้นต่อ “สิ่งที่เรียกว่าจักรวาลภายในคือพลังของกฎที่ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคเชี่ยวชาญ มันคือโลกขนาดเล็กที่สร้างขึ้นด้วยพลังกฎ ด้วยพลังนี้ พวกเขาก็สามารถอาศัยพลังกฎในการสร้างพลังในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาได้”

“มันยากที่ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคทั่วไปจะสร้างจักรวาลภายในขึ้นมาได้ ตอนนี้ผู้อาวุโสหลายตระกูลในเมืองปิ้นไห่ต่างก็ติดอยู่ที่ส่วนนี้ !”

“โลกวิเศษคือสมบัติที่จะช่วยให้ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคเปิดจักรวาลภายในขึ้นมาได้ !”

“ดังนั้นเมื่อโลกวิเศษปรากฏขึ้นมา ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคจำนวนมากก็จะเข้ามาแย่งชิงมัน !”

“โลกวิเศษนี้ถูกชิงมาจากมอนสเตอร์ใต้ทะเลลึกโดยผู้อาวุโสกว่าสิบคนของเมืองปิ้นไห่ !”

“น่าเสียดายที่โลกวิเศษนี้ได้รับความเสียหายจากการต่อสู้ มันไม่เหลือพลังแม้แต่น้อย มีผู้ปลุกพลังระดับอีปิคหลายคนที่อยากได้มัน ทว่าพวกเขาก็ถูกคัดค้าน มันเป็นเหตุผลที่ทำให้โลกวิเศษถูกนำมาใช้เป็นของรางวัลในการสอบเข้ามหา’ลัย !”

“ถ้าลูกหลานของพวกเขาได้แชมป์ในการสอบเข้ามหา’ลัย ตระกูลของเด็กคนนั่นก็จะได้โลกวิเศษไป !”

“ฉันไม่รู้เลยว่าพวกนั้นจะโกรธกันแค่ไหน ฮ่าฮ่า...”

“เข้าใจแล้ว...” หลินลั่วมองเข้าไปในตาอีกฝ่ายแล้วพูดขึ้น “แล้วคุณส่งใครไป ?”

กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมาและพยักหน้าให้กับหลินลั่ว “นายนี่หัวเร็วจริง ๆ ช่างเถอะ ฉันจะบอกความจริงกับนายก็แล้วกัน หยางเฉินหลี่ เขามีสกิลที่พิเศษ เขาถูกรับเข้าเป็นผู้พิทักษ์ตั้งแต่ช่วงแรก”

“กลับเป็นเขานี่เอง...” หลินลั่วจำชายหนุ่มในชุดเขียวที่ถือหนังสือติดตัวตลอดได้

ไม่คิดเลยว่าหยางเฉินหลี่จะเป็นผู้พิทักษ์ !

น่าเสียดายที่หยางเฉินหลี่ตกรอบเร็วเกินไป !

“ใช่สิ คุณกั้ว ผมมีคำถามสุดท้าย !” หลินลั่วพูดขึ้น “ช่องว่างมิติเวลาคืออะไร ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด