ตอนที่แล้วตอนที่ 39: เรื่องขำขัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 41: ดันเจี้ยนระดับนรก

ตอนที่ 40: สังหารด้วยมือประคอง


ตอนที่ 40: สังหารด้วยมือประคอง [1]

“ทั้งหมดนี้คือเพื่อนเธองั้นเหรอ?”

หวังยวนมองสุ่ยหลิงหลงผู้อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตัน

หวังยวนทราบว่าเพื่อนของสุ่ยหลิงหลงล้วนถูกเรียกมาจากเมืองหลักแห่งอื่นเพื่อช่วยต่อสู้กับสมาคมมังกรดำ

ยอดฝีมือระดับนี้ไม่ใช่คนที่จะมาช่วยเหลือได้โดยง่าย แต่สุ่ยหลิงหลงกลับยื่นมือเข้าช่วยยามที่มีปัญหาเกิดขึ้น

แม้ทุกคนจะพบกันโดยบังเอิญ แต่สุ่ยหลิงหลงยังสามารถยื่นมือช่วยเหลือได้ หวังยวนจึงจดจำสิ่งนี้ไว้

"ใช่แล้ว! คนเหล่านี้ล้วนเป็นสหายของฉันที่พบกันในเกมอื่น! พวกเขาต่างเป็นคนของฉัน ดังนั้นไม่ต้องสุภาพหรอก" สุ่ยหลิงหลงเอ่ยคำอย่างใจกว้าง

“พี่หลิงพูดถูก ทุกคนต่างเป็นพี่น้องแสนดี เรื่องของพี่หลิงก็คือเรื่องของพวกฉัน มันก็แค่ดันเจี้ยนระดับนรก พวกฉันอยากลองมาพักใหญ่แล้ว” ผู้มีคุณธรรมย่อมชนะทุกสรรพสิ่งเอ่ยคำอย่างเห็นด้วย

“ถูกต้อง! นับจากนี้พี่หนิวถือเป็นพี่น้องของพวกฉัน” วีรชนเป็นหนึ่งเอ่ยคำเช่นกัน

“คือว่า... พี่หนิว คนอื่นจะมาถึงตอนไหนเหรอ?”

ความหวังเป็นคนจริงจังมากกว่าขณะเข้าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา

"คนอื่นเหรอ?"

หวังยวนตกตะลึง

“อา... เดี๋ยวนะ? คุณไม่ได้เรียกคนอื่นมาเลยเหรอ?” เทพแห่งความตายเอ่ยถามด้วยความสับสน

“เปล่าหรอก... แค่พวกเราสองสามคนก็เกินพอแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะข้อจำกัดเรื่องจำนวนคน ฉันคงลงคนเดียวไปแล้ว” คำพูดของหวังยวนค่อนข้างจริงใจ

หวังยวนไม่ได้เย่อหยิ่งอย่างไร้เหตุผล ถึงอย่างไรโครงกระดูกไม่กี่ตัวของเขาล้วนแต่เป็นหัวกะทิที่มีประสบการณ์จากวันสิ้นโลก

สำหรับพวกเขา ดันเจี้ยนระดับความยากของปราสาทเงาเป็นเพียงการทดสอบภายในอาณาจักรลับที่จัดโดนสถาบันอาชีพ ต่อให้เป็นดันเจี้ยนระดับนรก หวังยวนก็มั่นใจว่าจะสามารถผ่านได้พร้อมกับโครงกระดูกทั้งสาม

ไม่สิ เป็นเพราะโครงกระดูกทั้งสามต่างหากที่ช่วยฟันฝ่าไปได้

“อา…”

ทว่าเมื่อคำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทุกคนต่างพากันตกตะลึงขณะมองหวังยวนตรงหน้าราวกับกำลังมองมนุษย์ต่างดาว

แม้แต่สุ่ยหลิงหลงผู้คุ้นเคยกับหวังยวนมากที่สุดยังประหลาดใจขณะจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

ยอดเยี่ยมมาก ก่อนหน้านี้สุ่ยหลิงหลงเพียงคิดว่าหวังยวนคือคนที่เก่งการแสวงหาความตื่นเต้น แต่ตอนนี้เธอพบว่าตัวเองยังดูถูกชายคนนี้มากเกินไป อีกฝ่ายถึงกับคิดจะลงดันเจี้ยนระดับนรกเพียงลำพัง แบบนี้ไม่เท่ากับแสวงหาความตื่นเต้นแล้ว เขาต้องถูกกระตุ้นโดยบางสิ่งบางอย่างไม่ผิดแน่

“เดี๋ยวนะ... พี่ชาย คุณคิดจะทำอะไรน่ะ?” ยิงไปเรื่อยเปื่อยไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

ถึงอย่างไรสหายของเขาก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้ว พวกเขาดูมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่า

หากไม่ใช่เพราะดื่มเหล้าไปสองจินจนสมองพัง เกรงว่าคนส่วนใหญ่คงไม่กล้ามีความคิดเช่นนี้

“เปล่านะ ฉันไม่ได้พูดเล่น” หวังยวนส่ายหน้า

“คุณอยู่เลเวลอะไร?” ยิงไปเรื่อยเปื่อยถามอีกครั้ง

หรือหมอนี่จะเป็นสายโหดเลเวล 50 ที่อยากพาไอดีรองที่นี่ไปลงด้วย?

"เลเวล 10!" หวังยวนแสดงข้อมูลส่วนตัวของเขาให้ดู

ทุกคนเงียบอีกครั้ง

ผ่านไปพักใหญ่ ทุกคนจึงพากันยกนิ้วโป้งให้ "โคตรเจ๋ง!"

แม้เลเวลขั้นต่ำในการสำหรับปราสาทเงาเลเวล 15 จะอยู่ที่เลเวล 10 แต่ผู้เล่นทุกคนที่กล้าลงปราสาทเงาต่างเป็นยอดฝีมือเลเวล 15 ขึ้นไปที่มีอุปกรณ์สวมใส่ครบครัน

ทว่าผู้เล่นเลเวล 10 ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่เพียงแต่จะท้าทายปราสาทเงาระดับนรกเท่านั้น แต่ยังคิดที่จะลงไปโซโล่อีกด้วย

แม้เคยพบเจอคนอวดดีมาแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นใครอวดดีถึงขั้นนี้มาก่อน

คำพูดนับพันหลอมรวมได้เป็นเพียง “โคตรเจ๋ง” ในใจของทุกคน ตอนนี้พวกเขาไม่ทราบว่าจะใช้คำอะไรมาอธิบายหวังยวน

หากไม่ใช่เพราะเป็นสักขีพยานเรื่องที่หวังยวนท้าทายสมาคมมังกรดำซึ่งเป็นกิลด์ขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกสองพันคนเพียงลำพัง คนเหล่านี้จะต้องลุกขึ้นแล้วจากไปอย่างแน่นอน

ถึงอย่างไรย่อมไม่มีใครอยากเล่นกับพวกที่สมองมีปัญหา แม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นเพื่อนของสุ่ยหลิงหลงก็ตาม

“เอ๋? พี่หนิว แผนของคุณที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนระดับนรกถูกตั้งกระทู้บนเว็บบอร์ดด้วย!”

ขณะทุกคนประหลาดใจกับความคิดเกินตัวของหวังยวน วีรชนเป็นหนึ่งพลันตะโกนออกมา

“???”

"เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ "พี่หนิวแค่ติดต่อพวกเราบางส่วนไม่ใช่เหรอ?"

“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่ไปที่เว็บบอร์ดเพื่อค้นหาคำแนะนำดันเจี้ยน พอเข้าไปก็เจอกระทู้แล้ว” วีรชนเป็นหนึ่งเอ่ยคำ

คนอื่นต่างเปิดเว็บบอร์ดเช่นกัน

ดังที่คาดไว้ เว็บบอร์ดในเมืองพายุฟ้าคะนองเต็มไปด้วยกระทู้ดังกล่าว

ผู้เล่นแนวหน้าหนิวต้าลี่แห่งเมืองพายุฟ้าคะนองกำลังจะท้าทายปราสาทเงาระดับนรก ผู้เล่นแนวหน้าแห่งเมืองพายุฟ้าคะนองจะสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งได้หรือไม่?

หนิวต้าลี่ ความภาคภูมิใจของเมืองพายุฟ้าคะนอง อาจหาญที่จะท้าทายดันเจี้ยนระดับนรกซึ่งบดขยี้กิลด์ขนาดใหญ่มานักต่อนักแล้ว! ว่ากันว่าไม่เคยมีผู้ใดพิชิตได้มาก่อน

ไม่ว่ามันจะไกลสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหนหรือเป็นมังกรโผทะยานเลิศล้ำเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพี่หนิวแห่งเมืองพายุฟ้าคะนองก็เป็นเพียงน้องเล็กเท่านั้น! คุณล่ะกล้าท้าทายดันเจี้ยนระดับนรกหรือไม่?

พระเจ้าช่วย!

เมื่อเห็นกระทู้บนเว็บบอร์ด ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน

แท้กระทู้เหล่านี้ต่างโอ้อวดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของหวังยวน แต่ภาษาที่ใช้กับรุนแรงและอวดดี ไม่เพียงแต่กำหนดเป้าหมายไปยังกิลด์ขนาดใหญ่ในเมืองพายุฟ้าคะนองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกิลด์ขนาดเก่าเลื่องชื่อที่มีชื่อเสียงในแวดวงเกมออนไลน์ของเซิร์ฟเวอร์โกลบอลอีกด้วย คำพูดที่อวดดียิ่งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ

ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองออกว่านี่ไม่ใช่การประจบประแจงหวังยวน เห็นได้ชัดว่ามันคือการสร้างศัตรูให้กับหวังยวนพร้อมกับลากหวังยวนให้กลายเป็นจุดสนใจ

ตอนท้าทายดันเจี้ยนระดับนรก หากชนะก็เป็นเรื่องที่ดีหรือต่อให้แพ้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ถึงอย่างไรก็ต้องศึกษากลยุทธ์ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อลงระดับปกติ

แต่ตอนนี้เรื่องราวได้ถูกตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดเพื่อยั่วยุแบบนี้ ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างรับรู้กันถ้วนหน้า ทำให้เรื่องราวเต็มไปด้วยความซับซ้อน

หากเรื่องนี้ล้มเหลว หนิวต้าลี่ซึ่งเป็น ID ยอดนิยมในตอนนี้จะตกต่หแท่นบูชาอย่างเลี่ยงไม่ได้

กลายเป็นคนอวดดี หยิ่งผยองแต่ท่าดีทีเหลว เรื่องนี้จะกลายเป็นตราบาปของหวังยวนไปชั่วชีวิต

ได้เห็นเขาสร้างอาคารสูงตระหง่าน ได้เห็นเขาสร้างความสำราญให้กับแขกแล้วได้เห็นอาคารของเขาพังทลาย

นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นมากที่สุด

ยิ่งก่อนหน้านี้ได้รับคำเชยชมมากเท่าไหร่ แรงจากการตกลงมาเมื่อล้มเหลวก็ยิ่งมากตาม

คนผู้นี้ช่างมีจิตใจชั่วร้ายนัก

"ฮิฮิ!"

ทว่าหวังยวนกลับหัวเราะอย่างสงบเมื่อเห็นกระทู้ดังกล่าว ราวกับทุกอย่างอยู่ภายใต้การคาดเดาเอาไว้แล้ว

“ใครบางคนคิดจะเปิดโต๊ะเดิมพัน!!”

คราวนี้วีรชนเป็นหนึ่งตะโกนอีกครั้ง "ราคาเดิมพันอยู่ที่หนึ่งต่อหนึ่งร้อย แถมยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด"

“หนึ่งต่อหนึ่งร้อย …”

ทุกคนไม่แปลกใจแต่อย่างใด

อย่าว่าแต่ผู้เล่นคนอื่นเลย แม้แต่พวกเขาเองก็ยังไม่มั่นใจเช่นกัน

ทุกคนต่างรู้สึกว่าโอกาสมีน้อย

“ขอเดิมพันหนึ่งพันเหรียญทองว่าพวกเราสามารถผ่านระดับนั้นได้” หวังยวนโยนถุงเงินไปทางวีรชนเป็นหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่รู้มาก่อนว่าคุณจะร่ำรวยขนาดนี้”

สุ่ยหลิงหลงประหลาดใจ

“ฮิฮิ! มังกรดำจะต้องชดใช้” หวังยวนหัวเราะแผ่วเบา “ในเมื่อเงินได้มาง่ายก็ไม่ต้องคิดมากเวลาจับจ่าย”

ทุกคน “…”

เอาเถอะ ทุกคนต่างสงสัยว่าเหตุใดเรื่องระหว่างหวังยวนกับสมาคมมังกรดำถึงได้จบลงแบบปุบปับ กลายเป็นว่าสมาคมมังกรดำใช้หนึ่งพันเหรียญทองเพื่อซื้อความสงบสุข

“คุณเดิมพันไปหนึ่งพันแล้ว งั้นฉันเดิมพันหนึ่งหมื่นดีไหมนะ?” สุ่ยหลิงหลงโยนถุงเงินสีแดงออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจด้วยสีหน้าสงบราวกับกำลังทิ้งกองขยะ

“…”

ทุกคนยิ่งพูดไม่ออก

สองคนนี้ ต่างคนต่างเผยความน่ากลัว

“แล้วพวกคุณล่ะ? ไม่แทงตามเหรอ?” สุ่ยหลิงหลงเอ่ยถามขณะโยนเงินออกไป

"พวกฉันเหรอ?" ทุกคนตกตะลึง

“ฮ่าฮ่า ขาดความมั่นใจเหรอ?” สุ่ยหลิงหลงหัวเราะ “หรือว่าพวกคุณกลัวกันนะ?”

“เหลวไหล! เหล่าหลิง คุณกล้าดูถูกฉันงั้นเหรอ?” ยิงไปเรื่อยเปื่อยเดือดดาลเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นจึงโยสิบเหรียญทองออกไปทันทีแล้วเอ่ยคำ "ฉันเทหมดหน้าตัก!"

[1]: เป็นสำนวน หมายถึงการชมเชยมากเกินไป ทำให้หลงระเริงจนก่อความผิดพลาดในภายหลัง

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด