ตอนที่แล้วบทที่ 76 น้ำแข็งและไฟ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 78 ตกตะลึง

บทที่ 77 โจมตีเต่าด้วยน้ำแข็งและไฟ


ขณะที่ชูเหลียงกำลังคุยกับผู้ดูแลซุย ชายสูงอายุคนหนึ่งก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาในลานบ้านอย่างช้าๆ

ชายชรานุ่งผ้าทอดิบเนื้อหยาบ หลังค่อมโค้ง และมีผมสีขาวบางๆ บนศีรษะ เขาดูแก่ชรามาก เขาก้าวเดินช้าจนน่าหงุดหงิด แต่ทว่าทุกย่างก้าวกลับเปล่งพลังที่ไม่คาดคิดออกมา ซึ่งย้อนแย้งกับความอ่อนแอที่มักจะมาพร้อมกับวัยชรา

ชายชราที่ดูเหมือนขอทานผู้นี้ไม่มีเหตุผลใดที่จะอยู่ในลานบ้านของตระกูลหลี่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเข้ามาในนี้ได้อย่างไร

ผู้ที่ทำงานอยู่ที่ลานบ้านนี้ควรจะพบว่าการปรากฏตัวของชายชรานั้นเป็นเรื่องแปลก แต่ทว่ามีเฉพาะหลิวเสี่ยวยู่เอ๋อเท่านั้นที่ดูจะรับรู้การปรากฏของชายชรา

หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อมองชายชราหน้าตาประหลาดอย่างจดจ่อ นางกะพริบตาสองสามครั้งก่อนถามว่า "ท่านนำอาหารมาให้ข้าหรือ"

"ฮึฮึ.." ชายชราหัวเราะร่าและค่อยๆ เงยหน้าขึ้น "ใช่แล้วสาวน้อย แต่ข้าเดินไม่ไหวแล้ว ช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่"

หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อเดินเข้าไปโดยไม่สงสัยอะไรในใจ และอาสารับช่วยโดยจับข้อศอกชายชรา

ทว่ามือข้างหนึ่งของชายชราก็ยื่นออกอย่างรวดเร็วฉวยคว้าไปที่แขนของหลิวเสี่ยวยู่เอ๋อได้อย่างคล่องแคล่ว

เขาจ้องมองด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายแล้วประกาศ "ในที่สุดข้าก็จับเจ้าได้แล้ว"

“หือ!!”

หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อเงยหน้ามองอย่างสับสน อย่างไรก็ตามเธอยังคงงพยายามพยุงชายแก่เดิน แต่หลังจากพยายามอยู่สักพัก เธอก็สังเกตว่าเขายังคงนิ่งไม่ไหวติง

"ทะ..ท่าน ไม่เดินหรือ" หญิงสาวกล่าวด้วยความงุนงงอย่างมาก

"จำข้ามิได้งั้นหรือ"

ชายชราแสยะยิ้มและในทันใดเขาก็เปลี่ยนร่าง ใบหน้าอันแก่ชราของเขาขยายและยืดออก คอของเขายื่นยาวออกมาเกินหนึ่งฟุต ผันเปลี่ยนเป็นหัวที่เกลี้ยงเกลาน่าเกลียดน่าชังและมีเขี้ยวงอกออกมา

มันคือหัวของเต่า!

ในความประหลาดใจ หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อจ้องมองไปที่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด ทันใดนั้นเธอก็จำร่างแท้จริงของสิ่งมีชีวิตนี้ได้

"เจ้า.. คือเจ้าเต่าปีศาจ!"

"หึหึหึ..." เต่าแก่หัวเราะ "พวกเจ้าพวกปลาคาร์ฟน้อยทั้งสอง กินสมบัติล้ำค่าที่ข้าดูแลอย่างยากลำบากมาหลายปี คิดว่าจะหนีไปได้รึ เวลาที่ข้าใช้ไปกับการเลี้ยงดูองุ่นอำพันสีแดงกับวิญญาณปลาบินก็จะต้องไม่สูญเปล่า”

ขณะที่มันพูด มันก็อ้ากรามอันน่ากลัวออกพร้อมที่จะกลืนหลิวเสี่ยวยู่เอ๋อทั้งตัว

"กรี๊ดดด.." หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อกรีดร้อง แม้ว่านางจะมีวิญญาณปลานักบิน แต่อย่างไรก็ตามนางถูกจับตัวไว้อย่างเต็มแรงและไม่สามารถหลุดออกมาได้

ในช่วงเวลาแห่งวิกฤต มีเสียงตะโกนสั่งการดังขึ้น "หยุด!"

แสงสีเขียวพุ่งเข้ามาหาเธอและห่อหุ้มตัวเธอไว้ทั้งตัว เธอกลายเป็นเหมือนบ๊ะจ่างขนาดยักษ์ในทันที นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่หญิงสาวถูกห่อหุ้มด้วยเครื่องมือแปลกๆ สีเขียวแบบนี้ แต่คราวนี้เธอเต็มใจ เพราะมันกำลังช่วยชีวิตเธออยู่

ปัง!

เอี๊ยด...

เต่าแก่กัดใบไม้เขียวแล้วขบฟันจนทำให้เกิดเสียงดัง

หลังจากพยายามกัดฟันอยู่พักหนึ่งโดยไร้ผลลัพธ์ เขาจึงเงยหัวเต่าขึ้นมาอย่างขัดใจ แล้วก็จ้องมองอย่างโกรธจัดไปที่คนที่เพิ่งเข้ามายุ่ง

เป็นชูเหลียงผู้ที่รีบรุดกลับมาหลังจากรับรู้เสียงเรียกของเพชฌฆาตสีชาด

สิ่งชั่วร้ายที่อยู่ตรงหน้าเขาคือต้นเหตุของความโกรธเกรี้ยวของกระบี่สีชาดของเขา เต่าแก่ตัวนี้เต็มไปด้วยชี่แห่งความชั่วร้ายที่ล้อมรอบมันเอาไว้ซึ่งแสดงถึงเรื่องชั่วร้ายที่มันได้ก่อเอาไว้มากมาย

"เด็กน้อยเอ๋ย.. เจ้าเป็นผู้บ่มเพาะ และสาวน้อยคนนี้เป็นปีศาจ เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะแทรกแซงเรื่องราวระหว่างปีศาจ" เต่าชรากล่าวอย่างแยบยล

"เธอเป็นเพียงปลาตัวเล็กๆ ที่ไร้เดียงสา และดินแดนนี้เป็นอาณาเขตของมนุษย์ ข้าไม่สามารถให้เจ้าทำอะไรตามอำเภอใจที่นี่ได้" ชูเหลียงตอบกลับอย่างหนักแน่น

"ไร้เดียงสาหรือ" เสียงของเต่าชราจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป "เจ้าเรียกเด็กคนนี้ว่าไร้เดียงสางั้นหรือ"

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าทุ่มเทไปมากเท่าใดกับการเลี้ยงดูองุ่นและวิญญาณปลาบินของข้า.. เป็นเวลากว่าร้อยปี!" เต่าแก่ร้องออกมาด้วยความหงุดหงิด "เพื่อเร่งการสุกงอม ข้าบำรุงมันด้วยเลือดของสัตว์นับไม่ถ้วน"

"ข้าควรจะได้กินองุ่นลูกใหญ่ของข้าและเพิ่มพลังของข้าไปถึงห้าร้อยปี" เต่าชราอธิบาย เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ "แล้วจากนั้นข้าก็จะค่อยๆ ใช้เวลาในการดูแลองุ่นลูกเล็กให้ดีที่สุด และด้วยการกินพวกมันทั้งสอง ข้าจะได้รับพลังเต๋าพันปี ก้าวข้ามไปสู่เต๋าและกลายเป็นมนุษย์ในที่สุด!”

ชูเหลี่ยงอดตกใจไม่ได้เมื่อได้ยินสิ่งที่เต่าชราเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ ไม่น่าแปลกใจที่สัตว์ประหลาดตัวนี้ปล่อยพลังแห่งความเคียดแค้นออกมาอย่างแรงกล้าจนดึงดูดความสนใจของเพชฌฆาตสีชาดของเขา เต่าชราใช้เลือดของสิ่งมีชีวิตบริสุทธิ์นับไม่ถ้วนเพื่อบังคับให้องุ่นของเขาสุกงอมก่อนเวลาอันควร เป็นไปได้ว่าเต่าตัวนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจมน้ำที่เกิดบ่อยครั้งในแม่น้ำเฉินหนานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้

“แต่ทว่าก่อนวันเก็บเกี่ยว กลับมีปลาชั่วสองตัวแอบเข้าไปในถ้ำได้อย่างไรก็ไม่รู้” เต่าแก่เล่าต่อ “พวกมันกินองุ่นของข้าไปตัวละหนึ่งผล พวกมันกินองุ่นอำพันของข้าไป! ข้าตั้งใจจะกินมันเสีย แต่พวกมันก็หนีไปได้ ทว่าเรื่องมันไม่จบที่องุ่นของข้า พวกมันตัวหนึ่งหนีเข้าไปในวังน้ำที่ฉันหมายตาไว้นาน”

"วิญญาณปลาบินในคฤหาสน์ใต้น้ำแห่งนั้น ข้าเลี้ยงดูมาเป็นร้อยปีแล้ว และในที่สุดก็ใกล้ถึงเวลาที่มันจะรวมร่างกับข้า แต่มันกลับไปรวมร่างกับเจ้าหัวขโมย!"

"ข้าคือปีศาจเต่า ข้าใช้เวลาหลายวันเพื่อเดินมาที่นี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันรู้สึกอย่างไร ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาข้าฝันที่จะใช้วิญญาณปลาบินเพื่อเพิ่มความเร็วของข้าแล้วก็จะกลายเป็นปีศาจที่สามารถเดินได้ตามปกติ..”

"อ้า..."

แม้ว่าเต่าชราจะนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วก็ตาม แต่อารมณ์โกรธก็ยังรู้สึกได้

เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดและหงุดหงิดของสัตว์ร้ายตัวนั้นแล้ว ชูเหลียงก็รู้สึกเห็นใจความรู้สึกของมันขึ้นมา

ความรู้สึกมันเหมือนกับตอนที่ตั้งใจร้องเพลงวันเกิดและอธิษฐานแล้วมีคนเป่าเทียนดับก่อนที่เราจะลืมตา ความผิดหวังมันติดอยู่ที่คอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความแค้นแบบนี้มันทำให้คนเสียสติได้เลยทีเดียว

และเต่าชราตัวนี้รอคอยมาเป็นร้อยๆ ปี ดังนั้นเขานึกภาพออกว่ามันคงผิดหวังเพียงใด

"ถ้าพวกเจ้าขัดขวางข้า ข้าจะกินพวกเจ้า!" เต่าชราแผดเสียงอย่างโกรธเกรี้ยว ดวงตาเต็มไปด้วยความคลั่ง "เจ้าจะปกป้องเธอพร้อมกับปกป้องตัวเองได้อย่างไรเล่า!"

เมื่อพูดจบเขาก็บุกตรงเขามาที่ชูเหลียง..

หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว สี่ก้าว...

ใช้เวลาพักใหญ่.. เขาเดินได้เพียงสิบจางเท่านั้น

"..."

ชูเหลียงแอบมีแววสงสารที่มุมสายตาของเขา และอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณลุง ด้วยความเร็วในการเดินแบบนี้ เจ้าไม่ควรขึ้นฝั่งมาสู้คนมิใช่หรือ ข้าจะวาดวงกลมไว้ตรงนี้ หากเจ้าสามารถเดินเข้ามาในวงกลมนี้ได้อืม.. ข้าจะไปกินมื้อเที่ยง หากเจ้าสามารถยืนอยู่ในวงกลมนี้เมื่อข้ากลับมา ข้ารับรองเลยว่าข้าจะไม่หนีไปไหน ถ้าหากเจ้าสามารถเดินมาถึงตรงนี้ได้ ข้าจะสู้กับเจ้าเอง”

"อ๊ากกก..."

เต่าแก่โกรธจัดจนแทบทนไม่ได้ การเย้ยหยันนี้ได้ทิ่มแทงถูกจุดอ่อนของเขาอย่างจัง เขาโกรธแค้นพลางคิดว่าถ้าเขาได้วิญญาณปลาบินมาครอบครองมันคงไม่เป็นเช่นนี้

เขาบิดตัวด้วยความโกรธกลับคือรูปร่างเดิมทันที!

โครม!

สิ้นเสียงดังสนั่นเต่าสีฟ้าขนาดยักษ์ที่สูงหลายสิบจางปรากฏร่างอยู่ในลานแทบจะเต็มพื้นที่

สำหรับปีศาจที่ทรงพลัง การเปิดเผยร่างจริงของพวกมันในดินแดนของมนุษย์ถือเป็นเรื่องหายาก เนื่องจากการทำเช่นนั้นจะเป็นการเปิดเผยพลังปีศาจของพวกมันโดยสิ้นเชิง และอาจทำให้ผู้บ่มเพาะภายในรัศมีหลายร้อยลี้สามารถตรวจจับพลังของตนได้

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สนใจเรื่องจุกจิกเช่นนี้อีกต่อไป เขามุ่งแต่จะฆ่าผู้บ่มเพาะตรงหน้าเขาให้จงได้

"งืออออ" [1]

เต่าตัวมหึมาแผดเสียงคำราม ยกคอยาวของมันขึ้นและเปล่งลำแสงสีดำออกมาจากปาก

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเหลียงจึงไม่อิดออด เขาพลิกมือเรียกนักเพชฌฆาตสีชาดออกมาจากเจดีย์ขาวทั้นที เขากระตุ้นพลังกระบี่แห่งความชอบธรรมที่เดือดพล่านด้วยความโกรธเกรี้ยว

ฟ่าวว

เพชฌฆาตสีชาดลอยขึ้นฉวัดเฉวียนในอากาศ ทิ้งไว้ภาพติดตาของแสงกระบี่ที่กลายเป็นอักขระสองตัว ด้วยกระบี่ที่แหลมคม อักขระถูกยิงออกไปพร้อมกับชี่แห่งกระบี่อันทรงพลัง

มันคือกระบี่คู่น้ำแข็งและไฟ!

ขณะที่กระบี่คู่น้ำแข็งและไฟเป็นเพียงทักษะขั้นพื้นฐานในวิถีแห่งอักขระ แต่เพชฌฆาตสีชาดสามารถเปลี่ยนรอยประทับร้อยกระบี่เป็นหมื่นกระบี่ได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่ากระบี่คู่น้ำแข็งและไฟจะไม่ใช่ทักษะระดับสูง แต่เมื่อเพชฌฆาตสีชาดใช้พลังของมัน มันจะรุนแรงขึ้นร้อยเท่าพันทวี

ครืนนน

ทันใดที่กระบี่สำแดงพลัง ท้องฟ้าก็กู่ร้องคำราม มังกรขาวน้ำแข็งและมังกรไฟทั้งสองต่างหมุนวน รวมตัวกลายเป็นเสาพลังสองสีที่หมุนวนอย่างรุนแรง มังกรทั้งสองคำรามจนพื้นรอบข้างสะเทือน

เต่ายักษ์เงยหัวขึ้นแล้วพ่นลำแสงสีดำออกมาโดยไม่ลังเล ชูเหลียงปลดปล่อยกระบี่ทวิธาตุน้ำแข็งและไฟ ลำแสงสีดำพุ่งชนกับพายุแห่งกระบี่และกระจายหายไป

ครู่ต่อมา พายุแห่งกระบี่ก็รุดหน้าอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าโจมตี เต่ายักษ์ไม่ตกใจที่ตระหนักถึงอันตราย มันหดหัวเข้าไปในกระดองพร้อมกับหดขาเข้าไปด้วย แล้วปิดตัวเองอยู่ในกระดอง

ปีศาจเต่าอาศัยกระดองนี้เดินทางไปทั่วบริเวณน้ำในแม่น้ำเฉินหนานเป็นเวลาหลายปี ไม่มีใครเคยฝ่าการป้องกันของมันได้มาก่อน

แต่บัดนี้ มันต้องเผชิญกับกระบี่เวทย์คู่ของชูเหลียงทรงอานุภาพแบบที่มันไม่เคยเจอมาก่อน

ครืนนน—

พายุกระบี่พุ่งเข้าใสกระดองเต่า พลังอันยิ่งใหญ่อันมีอยู่สองประการหมุนวนอย่างโกรธเกรี้ยวและแทรกตัวเข้าในกระดอง เสมือนมังกรผู้เย็นยะเยือกกับมังกรผู้ลุกโชติช่วงกระหึ่มคำรามและบิดเกลียวขณะฝ่าเข้าสู่กระดอง มันพุ่งทะลวงลงมาจากฟากฟ้าเสมือนการลงทัณฑ์จากเบื้องบน!

พลังแห่งน้ำแข็งและไฟสลับสับเปลี่ยนกันในการโจมตีของพวกมัน และทะลวงผ่านการป้องกันอันแข็งแกร่งของเต่าไปได้

ตูมม—

เพียงชั่วครู่เดียว พายุกระบี่ก็ทะลวงการป้องกันของกระดองเต่าไปได้และปะทะเข้ากับหัวเต่าที่หดเข้าไป

ขณะนี้มีเพียงน้ำแข็ง! ไฟ! และการระเบิดที่ไม่รู้จบ!

ไม่มีหัวเต่าใดในโลกที่จะทนต่อความหายนะดังกล่าวได้ ในพริบตากระดองและผิวหนังค่อยๆ สลาย และเลือดสีดำสนิทก็ไหลหลั่งออกมาเหมือนน้ำ ในชั่วพริบตาถัดมา มันก็ถูกแช่แข็งโดยน้ำแข็งแข็งและระเหยไปโดยเปลวไฟ เหลือเพียงโครงกระดูกที่แห้งเหี่ยวบุบสลายลงอย่างนุ่มนวล

การปะทะระหว่างชูเหลียงแต่เต่ายักษ์สิ้นสุดลงในพริบตา มีเพียงภูมิประเทศที่ว่างเปล่าหลงเหลืออยู่เท่านั้น..

1. งืออ : เสียงเต่าร้อง55 เต่ามันร้องงี้หรอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด