ตอนที่แล้ว บทที่ 61 วิชาหอกป้าเซียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 63 การทดสอบของหลี่ฉางชิง

บทที่ 62 บุตรชายส่งจดหมายมาแล้ว


บทที่ 62 บุตรชายส่งจดหมายมาแล้ว

เขามองดูหอกเล่มนั้นอีกครั้ง

ปลายหอกมีรูปร่างเป็นฟันเลื่อย ด้ามหอกค่อนข้างยาว มีพลังล้อมรอบราวกับมังกร

ท่าทางของมัน เหมือนกับว่ามีสัตว์อสูรอันดุร้ายถูกผนึกไว้ในหอก และต้องการดิ้นรนออกมา

เพียงแค่มองแวบเดียว หลี่เหิงเซิงก็ชอบหอกเล่มนี้แล้ว

“ไม่รู้ว่าหอกเล่มนี้มีอยู่จริงไหม?” หลี่เหิงเซิงพึมพำ

เขารู้ว่าหอกเล่มนี้ต้องมีอยู่จริง มิฉะนั้น คงไม่มีใครวาดมันออกมาได้

หลี่เหิงเซิงสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ปล่อยจิตสำนึกของเขาออกไป เขาต้องการเข้าใจภาพวาดนี้!

ความรักที่เขามีต่อหอกเล่มนี้ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่อยากจะสัมผัสมัน

และเขาเองก็อยากรู้ว่า วิชาหอกป้าเซียนนี้จะน่ากลัวมากแค่ไหน?

คนที่ฝึกฝนสี่คนล้วนตาย นี่ทำให้หลี่เหิงเซิงตกใจมากจริงๆ…

ในตอนนี้ เขาจมดิ่งอยู่ในภาพหอกป้าเซียน หลี่เหิงเซิงรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถือหอก ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา

จากนั้น จู่ๆ ก็มีพลังที่น่าตกใจระเบิดออกมาจากหอกในมือ

การระเบิดของพลังอย่างกะทันหันนี้ ทำให้หลี่เหิงเซิงตกใจมาก!

ดูเหมือนเขาจะควบคุมมันไม่ได้!

ปราณเลือดลมในร่างกายพลุ่งพล่าน หอกราวกับเป็นช่องระบายขนาดใหญ่ หอกในมือของหลี่เหิงเซิงพุ่งออกไป!

มันทำลายทั้งภูเขาและแม่น้ำ!

เมื่อหอกนี้พุ่งออกไป หลี่เหิงเซิงรู้สึกว่าปราณเลือดลมทั่วร่างกายของเขากำลังเดือดพล่าน แม้กระทั่งกดมันไว้ไม่อยู่

หลี่เหิงเซิงเข้าใจทันทีว่า ทำไมถึงมีคนใช้วิชาหอกป้าเซียนนี้จนหมดแรงตาย

สิ่งนี้ใช้พลังงานมากเกินไปจริงๆ!

แม้ว่าหอกนี้จะมีการระเบิดพลังที่แข็งแกร่งมาก แต่การใช้พลังงานก็มหาศาลเช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้น การระเบิดของปราณเลิอดลมจำนวนมากในทันที แม้แต่เส้นลมปราณก็ยังทนไม่ไหว หากการบ่มเพาะร่างกายไม่แข็งแกร่งพอ ถ้าใช้หลายครั้ง เส้นลมปราณอาจแตกได้

หลี่เหิงเซิงย่อมโชคดีที่เขาฝึกฝนร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา หากเป็นขอบเขตทุยฟ่านขั้นหกทั่วไป หอกเมื่อครู่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขารู้แล้วว่า การระเบิดของดอกไม้สีแดงเป็นแบบไหน!

เพียงแค่ครึ่งชั่วยาม…

หลี่เหิงเซิงก็เข้าใจเจตจำนงที่แท้จริงของวิชาหอกป้าเซียนนี้จากภาพวาดแล้ว

ครั้งนี้หลี่เหิงเซิงมั่นใจแล้วว่า หุ่นไม้ที่ซวีมู่ไห่มอบให้เขานั้นมีประโยชน์มากจริงๆ

เขาเข้าใจวิชาหอกป้าเซียนนี้ได้ในครั้งเดียว

วิชาหอกป้าเซียนนี้เป็นวิชาการต่อสู้ที่น่ากลัวจริงๆ เคล็ดลับของมันมีคลื่นซัดสามสิบสามชั้นแฝงอยู่

หนึ่งทลายภูเขา หนึ่งทำลายทะเล หนึ่งทะลวงด่าน

คลื่นซัดสามสิบสามชั้น ทำให้สามารถใช้หอกได้สามสิบสามครั้ง

พลังของแต่ละหอกนั้นรุนแรงมาก แต่ในขณะเดียวกัน ความต้องการของร่างกายก็สูงมากยิ่งกว่า เพราะพลังของแต่ละหอกนั้นน่าตกใจ หอกที่สองยิ่งใช้พลังงานเป็นเท่าตัว

ดังนั้น จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครสามารถใช้หอกได้ครบสามสิบสามครั้งเลย

ศิษย์สี่คนที่เคยฝึกฝนวิชาหอกป้าเซียนนี้ คงใช้หอกได้ไม่กี่ครั้งสินะ?

เมื่อรู้เช่นนี้ หลี่เหิงเซิงก็รู้แล้วว่าพวกเขาตายได้อย่างไร

วิชาหอกนี้ควรเรียกว่าเป็นวิชาต้องห้ามจริงๆ

คนทั่วไปฝึกฝนไม่ได้จริงๆ มันเหมือนกับการใช้ชีวิตเพื่อใช้หอก

แต่ในเวลานี้ หลี่เหิงเซิงกลับรู้สึกว่า วิชาหอกป้าเซียนนี้ถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

วิชาหอกที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เขาสามารถลองท้าทายดูได้

ดังนั้น หลี่เหิงเซิงจึงตัดสินใจว่าเขาจะฝึกฝนวิชาหอกป้าเซียนนี้ ส่วนวิชาหอกอื่นๆ ก็ไม่ต้องพิจารณาชั่วคราว

เมื่อหลี่เหิงเซิงออกมาจากห้อง จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูก็ตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นแววตาของหลี่เหิงเซิง เขามองออกจากแววตาว่า หลี่เหิงเซิงตัดสินใจได้แล้ว

“ตัดสินใจแล้วจริงๆ หรือ?” จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูอดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อม “แม้ว่าวิชาหอกป้าเซียนจะแข็งแกร่งมาก แต่ผลข้างเคียงก็มากเช่นกัน เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหม?”

“ศิษย์คิดดีแล้วขอรับ” หลี่เหิงเซิงพูดอย่างหนักแน่น

“ดี ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าก็จะไม่พูดมาก” จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูกล่าว “พวกเราก็ถือว่ามีวาสนาต่อกัน ในชีวิตนี้ข้าได้เห็นคนที่เข้าใจภาพวาดจ้าวซานหวังเซียน ก็ไม่ง่าย ข้ามอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้เจ้า ถือว่าเป็นการสนับสนุนเจ้า”

พูดจบ จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูก็หยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากใต้โต๊ะ

“นี่คือ...” หลี่เหิงเซิงอยากรู้เล็กน้อย

“นี่คือหยวนสุ่ยหลิง(วารีวิญาณกำเนิด)” จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูกล่าว “ข้างในมีหยวนสุ่ยหลิงสามหยด ตอนที่เจ้าตีอาวุธ ให้คนใส่หยวนสุ่ยหลิงสามหยดนี้ลงไป จะสามารถเพิ่มความเหนียวของอาวุธได้”

“ความแข็งแกร่งของอาวุธเป็นสิ่งหนึ่ง หากสามารถเพิ่มความเหนียวที่ดีได้ พลังก็จะแข็งแกร่งขึ้น และไม่แตกหักง่าย” จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูกล่าว

“ขอบคุณท่านจ้าวหอ!” หลี่เหิงเซิงดีใจมาก

ด้วยเหล็กดาราหนิงกวนและหยวนสุ่ยหลิง อาวุธที่เขาตีขึ้นมาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

ตอนนี้หลี่เหิงเซิงต้องเตรียมตัว จากนั้นก็ตีหอกเล่มแรกของเขาอย่างดีให้ได้

………

เมืองฉางถิง

ช่วงนี้หลี่ฉางชิงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

สถานะของเขาในฐานะต้ากงเฟิงของตระกูลเหยียน ถูกคนของตระกูลเหยียนปฏิบัติราวกับบรรพบุรุษ

และธุรกิจของตระกูลเหยียนช่วงนี้ก็รุ่งเรืองมาก

ด้วยความช่วยเหลือของหลี่ฉางชิง ธุรกิจของตระกูลเหยียนในเมืองฉางถิง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือธุรกิจอื่นๆ ก็ดีขึ้นมาก

เดิมทีหลี่ฉางชิงรู้สึกว่าอาหารของร้านจินหงโหลวรสชาติธรรมดา แถมยังขายแพงอีกต่างหาก

ดังนั้นเขาจึงช่วยปรับปรุงเมนูของร้านอาหารตระกูลเหยียน

ไม่เพียงเท่านั้น หลี่ฉางชิงยังให้ตระกูลเหยียนเน้นธุรกิจอีกด้านหนึ่ง อาทิเช่น… อาหารเช้า

เพราะหลี่ฉางชิงพบว่าอาหารเช้าที่นี่ค่อนข้างขาดแคลน และมีไม่กี่ประเภท

ผักดอง โจ๊กขาว เต้าหู้ทอด ซาลาเปา หรือไม่ก็แป้งทอด

ดังนั้น หลี่ฉางชิงจึงเปิดตัวอาหารเช้าใหม่ ในร้านอาหารของตระกูลเหยียนโดยตรง

มีเฉิงเฝิ่น(ก๋วยเตี๋ยวหลอด) มีเร่อกานเมี่ยน(บะหมี่แห้งร้อน) มีเซียวเจี่ยว(ขนมจีบกุ้ง) และหูลาทัง(ซุปรสเผ็ด)

เขาได้เปิดตัวอาหารเช้าที่หลากหลาย

ยังมีชาที่ดื่มคู่กับอาหารเช้าอีก

นอกจากนี้ ยังจัดให้มีคนเล่านิทานในร้านอาหารเพื่อดึงดูดลูกค้า

มีคนจำนวนมากจิบชาอย่างช้าๆ ทานอาหารเช้า ฟังนักเล่านิทานเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

แน่นอนว่าเรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่หลี่ฉางชิงดัดแปลงมาจากชาติที่แล้ว อย่างเช่น โจโฉไปกระท่อมสามครั้งเพื่อเชิญอู๋หยาจื่อ(เอาเรื่องสามก๊กผสมกับชีวิตของอู๋หยาจื่อ) แปดเทพอสูรมังกรฟ้า: จิ่วม่อจื้อโต้เถียงกับพานจินเหลียน (เอาเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้ามาผสมกับนิยายซ้องกั๋ง)

อย่างไรก็ตาม โลกใบนี้ย่อมไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีผู้ใดมาบอกว่าเรื่องของเขามั่วซั่วหรือไม่…

ที่สำคัญ หลี่ฉางชิงให้อาเฟยไปจับไก่หยกม่วงที่จับยากมากในเทือกเขาใกล้เคียงมากด้วย

ไก่ชนิดนี้มีสายเลือดของสัตว์วิญญาณ มันเคลื่อนไหวว่องไว และจับยากมาก คนทั่วไปจับไม่ได้ แต่สำหรับอาเฟย มันไม่ใช่เรื่องยากเลย

ไก่หยกม่วงจะถูกประมูลทุกๆ เจ็ดวัน

ตระกูลเหยียนยังโฆษณาประโยชน์ของไก่หยกม่วงอย่างเกินจริง อาทิเช่น กินแล้วบำรุงไต

ไม่เพียงเท่านั้น มันยังบำรุงพลังหยางได้อีกด้วย

พูดง่ายๆ... กินแล้วปึ๋งปั๋งนั่นเอง!

สิ่งนี้ดึงดูดขุนนางในเมืองฉางถิงอย่างมาก ไม่เพียงเพราะประสิทธิภาพ แต่มันยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของสถานะ

เพราะเหตุนี้ ทำให้ธุรกิจร้านอาหารของตระกูลเหยียนเริ่มเฟื่องฟูในทันที

ธุรกิจร้านขายผ้าก็เช่นกัน

หลี่ฉางชิงออกแบบเสื้อผ้าสำเร็จรูปบางชุดเพื่อขายในร้าน และมอบคุณค่าของแบรนด์ให้กับเสื้อผ้า ติดต่อหญิงงามชื่อดังในหอนางโลมหลายแห่ง จากนั้นมอบเสื้อผ้าให้พวกนางใส่

ใช้พวกนางเป็นโฆษณาที่มีชีวิต…

ในขณะเดียวกัน เขาก็เพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดบางอย่างจากชาติที่แล้ว ทำให้ธุรกิจร้านขายผ้าของตระกูลเหยียนก็ดีขึ้นมากเช่นกัน

รายได้ของตระกูลเหยียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเรื่องดีสำหรับหลี่ฉางชิง

ส่วนหลี่ฉางชิงก็ยังคงอ่านตำราอยู่ในหอว่านซูของตระกูลเหยียนเช่นเดิม

เขายังอ่านตำราที่นี่ไม่จบ

“ท่านต้ากงเฟิง”

วันหนึ่ง ขณะที่หลี่ฉางชิงกำลังอ่านหนังสือ เสียงของเหยียนปั๋วเทาก็มาจากข้างนอก

ตอนนี้ เรื่องเกี่ยวกับหลี่ฉางชิงล้วนเป็นเหยียนปั๋วเทาที่รับผิดชอบด้วยตัวเอง

แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เขามีต่อหลี่ฉางชิงมาก

หลี่ฉางชิงเดินออกมาจากหอว่านซู เขาเห็นเหยียนปั๋วเทาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านต้ากงเฟิง มีจดหมายของท่านมาจากแดนโบราณเต๋าซาน”

“โอ้? บุตรชายข้าส่งจดหมายมาแล้วงั้นหรือ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด