บทที่ 59 ร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา
บทที่ 59 ร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลี่เหิงเซิงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในความฝัน
เขากลายเป็นศิษย์สายตรงจากศิษย์รับใช้ที่ไร้ค่า จากนั้นก็เข้าใจวิธีการบ่มเพาะพลังจากภาพวาดจ้าวซานหวังเซียนอย่างไม่คาดคิด
ราวกับอยู่ในความฝันจริงๆ
วิธีการบ่มเพาะพลังที่เซียนสอน ทำให้หลี่เหิงเซิงเห็นว่าท้องฟ้านั้นกว้างใหญ่เพียงใด
"ร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา"
นี่คือวิธีการบ่มเพาะพลังที่หลี่เหิงเซิงเข้าใจจากภาพวาดจ้าวซานหวังเซียน
มันเป็นวิธีการบ่มเพาะพลังที่ฝึกฝนร่างกายล้วนๆ หลี่เหิงเซิงเองก็ไม่รู้ว่ามันทรงพลังแค่ไหน?
เมื่อหลี่เหิงเซิงเดินออกจากหอคัมภีร์ฝูถู สายตานับไม่ถ้วนก็มองมาที่หลี่เหิงเซิง
สายตาที่จ้องมอมา ทำให้หลี่เหิงเซิงรู้สึกถึงการเป็นจุดสนใจเป็นครั้งแรก
“ศิษย์น้องสี่ เจ้าออกมาแล้ว” โจวจวินที่นั่งอยู่บนพื้น กระโดดขึ้นมาทันที เดินมาหาหลี่เหิงเซิงด้วยความประหลาดใจ
“ศิษย์พี่สาม ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่?” หลี่เหิงเซิงเห็นโจวจวินก็ประหลาดใจเช่นกัน
“ฮ่าๆ พูดแบบนี้ได้อย่างไร ศิษย์ของยอดเขามู่ไห่ของพวกเราเข้าใจวิธีการบ่มเพาะพลังใหม่ ในฐานะศิษย์พี่ แน่นอนว่าข้าต้องมาปกป้องเจ้า!” สายตาของโจวจวินกวาดไปทั่วศิษย์ทั้งหมด พูดเสียงดัง “เพื่อไม่ให้ศิษย์ที่ไม่รู้เรื่องมาหาเรื่องเจ้า คิดว่าศิษย์ของยอดเขามู่ไห่ของพวกเราไม่มีความสามารถ”
เสียงดังก้อง เกือบทุกคนที่อยู่ในที่นี่ได้ยิน
ศิษย์จำนวนมากที่อยู่ในที่นี้ ย่อมไม่กล้าพูดอะไร
อย่างแรกคือ พวกเขายั่วยุโจวจวินไม่ได้ อย่างที่สองคือ หลี่เหิงเซิงเพิ่งเข้าไปในหอคัมภีร์ฝูถู ก็เข้าใจวิธีการบ่มเพาะพลังใหม่แล้ว ว่ากันว่าเป็นวิธีการบ่มเพาะพลังที่ทรงพลังมาก
เพียงแค่ความเข้าใจนี้ ย่อมทำให้พวกเขาพูดจาท้าทายไม่ได้จริงๆ
เพราะพวกเขาด้อยกว่า…
“ขอบคุณศิษย์พี่สาม” หลี่เหิงเซิงรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ ที่โจวจวินมาช่วยเขา
“หลี่เหิงเซิง”
ในเวลานี้ จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูก็เดินออกมา
“ท่านจ้าวหอ” ทั้งสองรีบคารวะ
สายตาของจ้าวหอคัมภีร์ฝูถูจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลี่เหิงเซิงตลอดเวลา พูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าทำได้ดีมาก กลับไปฝึกฝนให้ดี จำสิ่งที่ข้าบอกเจ้าข้างในได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลี่เหิงเซิงก็เคร่งขรึม
เมื่อเขาออกจากการฝึกฝน จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูก็เรียกเขาไปคุยเป็นการส่วนตัว
บอกเขาว่าอย่าบอกใครเรื่องที่เขาเข้าใจภาพวาดจ้าวซานหวังเซียน
มิฉะนั้น จะก่อให้เกิดปัญหาได้ง่าย
เขาจะปล่อยข่าวออกไปข้างนอก บอกว่าหลี่เหิงเซิงเพียงแค่เข้าใจภาพวาดว่านชิงเฟิงหว่านถู แม้ว่าจะเป็นภาพวาดที่ทรงพลัง และวาดโดยจิตรกรศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน
แต่วิธีการบ่มเพาะพลังที่เข้าใจได้จากภาพวาดผืนนี้ ส่วนใหญ่เป็นวิธีการบ่มเพาะพลังที่สงบสติอารมณ์ และไม่เป็นภัยคุกคาม
มันจะไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่น
“ศิษย์จดจำไว้แล้ว” หลี่เหิงเซิงพยักหน้า
“หากมีสิ่งใดไม่เข้าใจในอนาคต เจ้าสามารถมาหาข้าได้ตลอดเวลา ข้าอยู่ที่นี่เสมอ” จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูมองหลี่เหิงเซิง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม
พรสวรรค์ช่างโดดเด่นยิ่งนัก
ในสายตาของจ้าวหอคัมภีร์ฝูถู แม้ว่ารากฐานของหลี่เหิงเซิงจะไม่ดี แต่ความสามารถในการเข้าใจภาพวาดของเขานั้นเป็นพรสวรรค์ที่โดดเด่นจริงๆ
เหนือกว่าเขามาก!
“ขอบคุณท่านจ้าวหอ” หลี่เหิงเซิงขอบคุณอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้ศิษย์จำนวนมากที่อยู่ในที่นี้ต้องตกใจ จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาดีมากนัก
ในอดีต สำนักเคยต้องการให้จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูรับศิษย์ แต่จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูปฏิเสธทั้งหมด
ไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดแบบนี้ในวันนี้…
“ไปเถอะ” จ้าวหอคัมภีร์ฝูถูโบกมือไล่
“ศิษย์ขอตัวลา” หลี่เหิงเซิงก็รีบกลับไปในเวลานี้ เขาต้องการเข้าใจ "ร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา" อย่างละเอียด
“ศิษย์พี่สาม พวกเราไปกันเถอะ” หลี่เหิงเซิงพูดกับโจวจวิน
“ไปกันเถอะ น่าเสียดายที่ท่านอาจารย์ไม่อยู่ มิฉะนั้น ท่านอาจารย์คงจะมาด้วยตัวเอง” โจวจวินพูดด้วยรอยยิ้ม “หากศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่หญิงรองรู้ พวกเขาคงจะตกใจมาก”
หลังจากพาหลี่เหิงเซิงออกจากหอคัมภีร์ฝูถูและกลับไปที่ยอดเขาชิงอวี่ หลี่เหิงเซิงก็เชิญโจวจวินเข้ามาดื่มชา
แต่โจวจวินปฏิเสธ
“เจ้าเพิ่งเข้าใจวิธีการบ่มเพาะพลังใหม่ รีบฝึกฝนตอนนี้ ผลลัพธ์จะดีที่สุด ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว ไว้ข้าค่อยมาใหม่!” หลังจากพูดจบ โจวจวินก็จากไป
หลี่เหิงเซิงไม่ได้รั้งเขาไว้ และรีบไปฝึกฝนทันที
“นายน้อย ท่านกลับมาแล้ว” สวี่ขุยรออยู่ที่ประตูมานานแล้ว
“ลุงสวี่ ข้าจะฝึกฝน หากท่านอาจารย์มาหาข้า ท่านก็เรียกข้าได้เลย” หลี่เหิงเซิงสั่ง
“ตกลง” สายตาที่สวี่ขุยมองหลี่เหิงเซิงในเวลานี้แตกต่างออกไป
เรื่องข้างนอกนั้นโด่งดัง สวี่ขุยจะไม่รู้ได้อย่างไร
เข้าใจวิธีการบ่มเพาะพลังใหม่ทันทีที่เข้าไปในหอคัมภีร์ฝูถูเป็นครั้งแรก และยังเป็นภาพวาดของจิตรกรศักดิ์สิทธิ์ พรสวรรค์และความเข้าใจเช่นนี้ หาได้ยากยิ่ง!
ไม่แปลกใจเลยที่ซวีมู่ไห่จะรับเป็นศิษย์
ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ
“ข้ายังห่างไกลจากนายท่านซวีมากจริงๆ” สวี่ขุยมองดูแผ่นหลังของหลี่เหิงเซิงที่จากไป และถอนหายใจเบาๆ
ในห้องฝึกฝน
หลี่เหิงเซิงนั่งขัดสมาธิ และเริ่มลองใช้วิธีการบ่มเพาะพลังนี้ตามวิธีการที่เขาเข้าใจ
ร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา…
มันเป็นการฝึกฝนร่างกายของตนเองให้เป็นร่างกายเซียนปีศาจ ตามวิถีการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
มันเป็นวิธีการฝึกฝนร่างกายที่ทรงพลังมาก
แต่หลี่เหิงเซิงก็ค้นพบข้อเสียของวิธีการบ่มเพาะพลังนี้ทันทีที่เขาเริ่มฝึกฝน!
นั่นคือ มันยากเกินไป!
แม้ว่ามันจะทรงพลัง แต่มันต้องการพลังงานมากเกินไป ด้วยพรสวรรค์ของเขา การฝึกฝนจนถึงขั้นเริ่มต้นก็ยากมากแล้ว
หลังจากฝึกฝนมาครึ่งวัน หลี่เหิงเซิงก็พบว่า ตอนนี้เขาไม่สามารถบรรลุสุริยันจันทราขั้นปรากฎที่ง่ายที่สุดได้
หลี่เหิงเซิงกัดฟัน หยิบโอสถขอบเขตทองคำออกมา กินสองเม็ดรวด!
ฤทธิ์ยาอันทรงพลังของโอสถขอบเขตทองคำไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา หากเป็นปกติ โอสถขอบเขตทองคำสองเม็ดก็เพียงพอที่จะทำให้หลี่เหิงเซิงทนไม่ไหว แม้กระทั่งทานทนได้ยาก
แต่โอสถขอบเขตทองคำสองเม็ดนี้ที่เข้าไปในร่างกายของเขา ทันทีที่หลี่เหิงเซิงใช้วิธีการบ่มเพาะพลังร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทรา พลังฤทธิ์ยาอันยิ่งใหญ่ของโอสถขอบเขตทองคำสองเม็ดนั้นก็ถูกใช้ไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“ใช้เร็วเกินไปแล้ว!” หลี่เหิงเซิงตกตะลึง
ยังไม่ถึงขั้นเริ่มต้น มันก็ใช้เร็วมากขนาดนี้ หากเขาต้องการฝึกฝนจนถึงขั้นสำเร็จเล็กน้อยหรือขั้นสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต เขาจะไม่หมดตัวไปเลยหรือไง?
เดิมทีเขาคิดว่า โอสถขอบเขตทองคำที่ซวีมู่ไห่มอบให้นั้น ย่อมเพียงพอสำหรับเขาในการบ่มเพาะจนถึงขอบเขตทุยฟ่านขั้นเก้า
ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่เพียงพอ!
แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องฝึกฝนร่างกายเซียนปีศาจสุริยันจันทราจนถึงขั้นเริ่มต้นให้ได้ก่อน
ดังนั้น หลี่เหิงเซิงจึงไม่ประหยัดโอสถขอบเขตทองคำที่เหลือ กินทีละสองเม็ดโดยตรงทันที
เขาไม่ประหยัดอีกแล้ว!
แน่นอน ผลลัพธ์ย่อมดีเกินคาด
หลี่เหิงเซิงเริ่มมาถึงขั้นสุริยันจันทราปรากฏบ้างแล้ว
เห็นเพียงภาพลวงตาของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อย่างเลือนรางอยู่ด้านหลัง และระหว่างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์นั้น มีร่างหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่เช่นกัน
ร่างนั้นยังคงพร่ามัว
เมื่อการฝึกฝนดำเนินไป เส้นเลือดก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของร่างนั้น
เส้นเลือดนั้นบางมาก
แต่หลี่เหิงเซิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อเส้นเลือดเส้นแรกนี้ปรากฏขึ้น
ร่างกายของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่