บทที่ 51 ศิษย์สายตรงคนที่สี่
บทที่ 51 ศิษย์สายตรงคนที่สี่
เมื่อเทียบกับความเจริญรุ่งเรืองที่เชิงเขา ที่นี่ดูเรียบง่ายกว่ามาก
“ท่านอาจารย์ไม่ชอบความฟุ่มเฟือย ดังนั้นที่นี่จึงเรียบง่ายไปหน่อย” โจวจวินแนะนำหลี่เหิงเซิง
บนยอดเขานี้ มีเพียงตำหนักดูธรรมดาๆ หลังหนึ่ง
หยุดอยู่หน้าประตู โจวจวินพาหลี่เหิงเซิงเดินเข้าไปในประตูโดยตรง มองเห็นซวีมู่ไห่กำลังต้มอะไรบางอย่างในหม้อใบใหญ่จากระยะไกล
กลิ่นหอมของเนื้อลอยออกมา
“ท่านอาจารย์ ข้ากลับมาแล้ว” โจวจวินตะโกนจากระยะไกล
“ได้ยินแล้ว ได้ยินแล้ว เจ้าจะตะโกนหาอะไร!” ซวีมู่ไห่ไม่แม้แต่จะมอง จ้องมองไก่ในหม้ออย่างตั้งใจว่าสุกหรือยัง?
มองอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นหลี่เหิงเซิงมา ซวีมู่ไห่วางตะเกียบลง เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “เหิงเซิง เจ้าคงรู้จุดประสงค์ที่ข้าเรียกเจ้ามาแล้ว เจ้าเต็มใจจะเป็นศิษย์สายตรงของข้า… ซวีมู่ไห่ หรือไม่?”
“มันเป็นเรื่องจริง!” แม้ว่าหลี่เหิงเซิงจะพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อเห็นฉากนี้เป็นจริง โจวจวินก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ
ซวีมู่ไห่ ผู้มีมาตรฐานการรับศิษย์สูงเช่นนี้ กลับรับหลี่เหิงเซิงเป็นศิษย์สายตรงจริงๆ!
โจวจวินคิดไม่ตก!
พรสวรรค์ของหลี่เหิงเซิงนั้นธรรมดามากๆ
มันเป็นไปได้อย่างไร?
หรือว่า...
โจวจวินคิดอย่างตกใจ หรือว่าหลี่เหิงเซิงเป็นลูกนอกสมรสที่ซวีมู่ไห่เคยมีกับผู้หญิงคนหนึ่งข้างนอก?
มันเป็นไปได้!
เพราะนอกจากความเป็นไปได้นี้ โจวจวินก็นึกถึงคำอธิบายอื่นไม่ออกจริงๆ
“ศิษย์เต็มใจ” ในที่สุดหลี่เหิงเซิงก็สงบลง
“ศิษย์คารวะท่านอาจารย์” หลี่เหิงเซิงทำพิธีคารวะอาจารย์ต่อซวีมู่ไห่โดยตรง
“ดีมาก” ซวีมู่ไห่พูดด้วยรอยยิ้ม “ลุกขึ้นเถอะ ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของข้าแล้ว ต่อไปนี้ก็จงฝึกฝนอย่างหนักบนยอดเขามู่ไห่ หากมีสิ่งใดไม่เข้าใจ เจ้าสามารถถามข้าหรือถามศิษย์พี่ของเจ้าได้ตลอดเวลา”
“โจวจวิน ต่อไปนี้หากเหิงเซิงมีเรื่องอะไร เจ้าต้องช่วยเหลือเขาให้มาก รู้ไหม?” ซวีมู่ไห่มองไปที่โจวจวิน
“ศิษย์จดจำไว้แล้ว” โจวจวินประสานมือคารวะ
“ตามกฎของศิษย์สายตรง เจ้าต้องสอนเหิงเซิงให้ดี” ซวีมู่ไห่มองไปที่โจวจวิน “นอกจากนี้ เจ้าจัดการให้เหิงเซิงไปอยู่ที่ภุขาชิงอวี่ ให้ที่นั่นเป็นสถานที่ฝึกฝนของเขา หาคนไปทำความสะอาด และให้สวี่ขุยติดตามเขาไปด้วย”
“ยอดเขาชิงอวี่?” (ภูเขาฟ้าคราม)
“ยังให้สวี่ขุยติดตามเขาไปอีก?”
โจวจวินแทบจะร้องไห้ ตอนที่เขาเป็นศิษย์สายตรง เขาต้องการให้ยอดเขาชิงอวี่เป็นสถานที่ฝึกฝนของเขา แต่ซวีมู่ไห่ไม่เห็นด้วย
ตอนนั้นยังบอกว่ายอดเขาชิงอวี่มีประโยชน์อย่างมาก
ที่แท้ก็เก็บไว้ให้บุตรชายตัวเองสินะ?
“ฮือๆ ตกลง!”
โจวจวินร้องไห้ออกมาแล้ววิ่งหนีไป
“ทำไมศิษย์พี่สามถึงดูตื่นเต้นขนาดนั้นด้วยล่ะ?” หลี่เหิงเซิงมองไม่เข้าใจเล็กน้อย
“ใครจะไปรู้ บางทีอาจจะคิดถึงบ้านก็ได้” ซวีมู่ไห่มองไปที่แผ่นหลังของโจวจวินที่จากไป จากนั้นก็โบกมือ ประตูทางเข้าลานก็ปิดลงโดยตรง
“เหิงเซิง” ในเวลานี้ ซวีมู่ไห่หยิบของออกมาหลายอย่าง
หนึ่งในนั้นคือขวดหยก มอบให้หลี่เหิงเซิงแล้วพูดว่า “ข้างในคือโอสถขอบเขตทองคำ มันใช้สำหรับการบ่มเพาะพลังของเจ้า พรสวรรค์ของเจ้าธรรมดา แต่โอสถขอบเขตทองคำเหล่านี้ น่าจะเพียงพอสำหรับเจ้าในการบ่มเพาะจนถึงขอบเขตทุยฟ่านขั้นเก้า”
“โอสถขอบเขตทองคำ?” ดวงตาของหลี่เหิงเซิงเป็นประกาย
โอสถขอบเขตทองคำเป็นยาเม็ดล้ำค่า แม้ว่าหลี่ฉางชิงจะส่งเงินมาให้มากมายก่อนหน้านี้ แต่โอสถขอบเขตทองคำหนึ่งเม็ดก็มีราคาหนึ่งพันตำลึงเงิน หลี่เหิงเซิงไม่กล้าซื้อเลย
“ตอนนี้เจ้ายังอยู่ในขอบเขตทุยฟ่านขั้นที่สี่ ยังไม่ได้เข้าใจวิธีการฝึกฝนร่างกายจากภาพวาด ดังนั้นข้าจึงยังไม่รู้ว่าจะให้อาวุธอะไรเจ้า”
“นี่คือเหล็กดาราหนิงกวน(ดาวประกาย) ใช้สำหรับตีอาวุธให้เจ้า เพียงแค่ผสมเหล็กดาราหนิงกวนลงไปเล็กน้อย อาวุธก็จะแข็งแกร่งจนทำลายไม่ได้” ซวีมู่ไห่หยิบเหล็กดาราหนิงกวนขนาดเท่าเล็บมือออกมา มอบให้หลี่เหิงเซิง
แท่งเหล็กเป็นสีเงินลึกลับ มีแสงดาวระยิบระยับอยู่บนนั้น
ดูมีค่ามากจริง…
หลังจากรับมันมา หลี่เหิงเซิงก็ตกใจ เหล็กดาราหนิงกวนขนาดเท่าเล็บมือนี้กลับมีน้ำหนักมากกว่าสิบจิน
หลี่เหิงเซิงรู้จักสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ดี มีแร่ล้ำค่ามากมายที่ใช้ในการตีอาวุธ เหล็กดาราหนิงกวนนี้ถือเป็นหนึ่งในนั้น
มันเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับการตีอาวุธระดับแนวหน้า ว่ากันว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตเสียนเทียนก็ยังต้องการมัน
หลี่เหิงเซิงไม่ได้คาดหวังเลยว่า ซวีมู่ไห่จะมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้เขา
สวัสดิการของยอดเขามู่ไห่ดีขนาดนี้เชียวหรือ?
หากโจวจวินรู้ โจวจวินคงจะเชื่อมั่นเต็มสิบส่วนว่า หลี่เหิงเซิงต้องเป็นลูกนอกสมรสของซวีมู่ไห่อย่างแน่นอน!
เหล็กดาราหนิงกวนก้อนเล็กๆ เช่นนี้ ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
ไม่ต้องพูดถึงว่ามีราคาแต่ไม่มีขาย แม้ว่าจะซื้อได้ มันก็ต้องใช้ทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง!
มันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถจ่ายได้
“ยังมีสิ่งนี้อีก”
“ยังมีอีก?”
ในเวลานี้ หัวใจของหลี่เหิงเซิงสั่นสะท้าน เขาไม่เคยเห็นสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้มาก่อน
ซวีมู่ไห่หยิบกล่องไม้ออกมา และมอบให้หลี่เหิงเซิง
“นี่คือสมบัติล้ำค่าที่ข้าได้รับโดยบังเอิญ ข้าขอมอบให้เจ้า” ในเวลานี้ ซวีมู่ไห่พูดอย่างเคร่งขรึม “แต่เจ้าต้องจำสิ่งหนึ่งไว้”
“ท่านอาจารย์โปรดบอก” เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศที่เคร่งขรึมของซวีมู่ไห่ หลี่เหิงเซิงก็รีบพูด
“ไม่ว่าข้างในจะเป็นอะไร เจ้าอย่าบอกคนนอก สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ จงเก็บมันไว้ให้ดี อย่าให้คนนอกเห็น เจ้าเข้าใจใช่ไหม?” ซวีมู่ไห่พูดพลางหรี่ตา
หลี่เหิงเซิงกลืนน้ำลายลงคอ โอสถขอบเขตทองคำและเหล็กดาราหนิงกวน ซวีมู่ไห่ไม่ได้บอกว่าห้ามให้คนนอกเห็น แต่สำหรับสิ่งที่อยู่ในกล่องไม้นี้ ซวีมู่ไห่กลับระมัดระวังเช่นนี้
ข้างในคืออะไรกันแน่!
“ศิษย์จดจำไว้แล้ว” หลี่เหิงเซิงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซวีมู่ไห่ระมัดระวังเช่นนี้ แสดงว่าสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นมีค่ามาก หากให้คนนอกเห็น อาจนำหายนะมาสู่ตนเองสินะ?
หลี่เหิงเซิงจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจ
“เมื่อขอบเขตบ่มเพาะของเจ้าทะลวงขอบเขตทุยฟ่านขั้นห้าแล้ว เจ้าก็สามารถไปที่หอคัมภีร์ฝูถูเพื่อเข้าใจภาพวาด ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถเข้าใจวิธีการฝึกฝนร่างกายที่ทรงพลังได้” ซวีมู่ไห่ตบไหล่ของหลี่เหิงเซิง “พรสวรรค์เจ้าแย่ไปหน่อย ซึ่งมันไม่เป็นไร ตราบใดที่เจ้าฝึกฝนอย่างหนักและจริงจัง เส้นทางในอนาคตเจ้าก็ยังคงสดใส”
อย่างไรก็ตาม ในใจของซวีมู่ไห่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า พรสวรรค์ที่แย่แล้วไง? มีบิดาที่แข็งแกร่งเช่นนั้นปูทางให้เจ้า พรสวรรค์ก็เป็นเพียงเมฆลอยบนฟ้าเท่านั้น!
แต่เจ้าต้องฝึกฝนอย่างหนักอยู่ดี…
หากเจ้าฝึกฝนไม่ดี ในอนาคตเจ้าก็ทำได้เพียงกลับบ้านไปเป็นบุตรเศรษฐีรุ่นที่สองเท่านั้น
“ท่านอาจารย์โปรดวางใจ ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ต้องผิดหวัง!” หลี่เหิงเซิงพูดอย่างเคารพ
จากนั้น ซวีมู่ไห่ก็ให้กำลังใจอีกสองสามประโยค ทัศนคติที่อ่อนโยนนั้นแตกต่างจากข่าวลือโดยสิ้นเชิง ทำให้หลี่เหิงเซิงสงสัยว่า เขาอาจจะเป็นบุตรชายของซวีมู่ไห่จริงๆ
ในเวลานี้ เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก
“ศิษย์น้องสี่ ข้าพาเจ้าไปดูตำหนักของเจ้า” เสียงของโจวจวินดังมา
“ไปเถอะ” ซวีมู่ไห่พูดกับหลี่เหิงเซิง
“งั้นศิษย์ขอตัวก่อน” หลี่เหิงเซิงประสานมือคารวะ จากนั้นก็เก็บของที่ซวีมู่ไห่มอบให้ไว้ในห่อผ้า
“อีกสักครู่ข้าจะประกาศเรื่องที่เจ้าเป็นศิษย์สายตรงของข้าไปทั่วแดนโบราณเต๋าซาน ต่อไปนี้ ศิษย์ภายนอกและศิษย์ภายในเมื่อเห็นเจ้า ทุกคนต้องเรียกเจ้าว่าศิษย์พี่” ซวีมู่ไห่พูดอย่างแผ่วเบา
เมื่อได้ยินซวีมู่ไห่พูดเช่นนี้ หลี่เหิงเซิงก็รู้สึกกดดันอย่างมากโดยไม่รู้ตัว
พรสวรรค์ของเขาแย่ขนาดนี้ แต่กลับกลายเป็นศิษย์สายตรง ในอนาคตคงมีสายตาจำนวนมากจับจ้องมาที่เขา
เขาจะทำได้หรือเปล่านะ?
หากเขาทำให้เสียหน้า เขาก็จะทำให้ยอดเขามู่ไห่เสียหน้าไปด้วย!